บทที่ 602 ซัพพลายเออร์ผูกขาด

 

บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงจัดโปรโมชั่นใกล้โรงเรียนในหลายพื้นที่ และฝ่ายบริหารของบริษัทแบนด์เอดก็ขำกลิ้งตกเก้าอี้กับเรื่องนี้

 

คุณคิดว่าตัวเองกำลังขายอะไรอยู่? เครื่องเขียน? ของเล่น? อาหาร? นี่มันพลาสเตอร์นะ! คนจิตปกติดีที่ไหนเขาจัดโปรโมชั่นให้กับพลาสเตอร์กัน!

 

ราคาโปรโมชั่นของพลาสเตอร์กันน้ำและมีรูระบายอากาศทั่วไปนั้นมีราคาถูกและขายในราคาแค่ 80 สตางค์ต่อชิ้นเท่านั้นและในหนึ่งซองมีทั้งหมด  5 ชิ้น พลาสเตอร์ลายการ์ตูนมีราคาแพงกว่าเล็กน้อยและราคาโปรโมชั่นอยู่ที่ 1.20 หยวนต่อชิ้น ซึ่งก็มีการขายรวมกัน 5 ชิ้นด้วย

 

เมื่อผู้บริหารของแบนด์เอดรู้ว่าโปรโมชั่นของบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงประสบความสำเร็จ พวกเขาหัวเราะขำกลิ้งมากกว่าเดิม พลาสเตอร์พวกนี้สามารถทำเงินได้เท่าไหร่กันเชียว? ราคาแพงที่สุดก็แค่ 1.20 หยวนเท่านั้น แล้วจะต้องขายกี่ชิ้นกันถึงจะคุ้มค่าแรงและค่าขนส่ง?

 

โปรโมชั่นนี้ทำให้บริษัทขาดทุนแน่นอน!

 

ใครจะซื้อสินค้าทางการแพทย์ตามท้องถนนกัน? ใครจะซื้อพลาสเตอร์ยาจากถนนหรอ? คนที่ต้องการของนี้จะต้องไปซื้อที่โรงพยาบาล คลินิกและร้านขายยา

 

แม้ว่าการโปรโมชั่นจะดึงดูดลูกค้าจำนวนมากได้ แต่แบนด์เอดก็ไม่ได้กังวลเลย พวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีใครเคยทำโปรโมชั่นการขายสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ตามถนนและยังจะขายดีได้มาก่อน!

 

แบนด์เอดยังไม่รู้ว่าพนักงานของบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงสรุปยอดขายรวมสำหรับโปรโมชั่นนี้แล้ว ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา การส่งเสริมการขายริมถนนนี้ดึงดูดฝูงชนจำนวนมากและประสบความสำเร็จในการเปิดตัวสินค้าพลาสเตอร์เภสัชกรรมเมืองปิง

 

พลาสเตอร์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือพลาสเตอร์ลายการ์ตูน เด็กหลายคนคะยั้นคะยอให้พ่อแม่ไปซื้อพลาสเตอร์พวกนั้นมาให้พวกเขา

 

เมื่อเด็กอยู่ที่โรงเรียน พวกเขามักจะเล่นแรงๆ กับเพื่อนและมักจะมีรอยแผลหรือรอยฟกช้ำ การมีพลาสเตอร์ติดบ้านไว้จะเป็นเรื่องที่ดี นี่คือข้อความโฆษณาจากบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง

 

แม้ว่าพลาสเตอร์ลายการ์ตูนจะมีราคาแพงกว่าพลาสเตอร์ทั่วไป แต่ก็ยังอยู่ในช่วงราคาที่ผู้ปกครองยอมรับได้ ที่สำคัญที่สุดคือลูกๆ ของพวกเขาจะไม่คิดว่าพลาสเตอร์นั้นน่าเกลียดและไม่อยากใช้

 

บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงขายพลาสเตอร์ได้มากกว่า 1 ล้านชิ้นในช่วง 3 วันที่ผ่านมา แม้ว่าเงินเดือนของพนักงานจะไม่น้อย แต่กำไรจากพลาสเตอร์ก็เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงไม่ได้รับผลกำไรใดๆ จากการส่งเสริมการขาย แต่ก็ไม่ได้ขาดทุนเช่นกัน พวกเขาสามารถเปิดตัวสินค้าให้กับผู้บริโภคได้และทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ของพวกเขา

 

ในอนาคต เมื่อครอบครัวต้องซื้อพลาสเตอร์ พวกเขาจะไม่เพียงแต่จำแบรนด์แบนด์เอดได้เพียงแบรนด์เดียวเท่านั้น บางครอบครัวจะพิจารณาเลือกซื้อพลาสเตอร์ของบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง

 

ในช่วงเวลานี้ พนักงานของบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงติดต่อตัวแทนจำหน่ายบางราย ซึ่งเป็นพวกที่จัดหาสินค้าให้แก่ร้านค้าขนาดเล็ก

 

เมื่อตัวแทนจำหน่ายพบกับพนักงานขายจากบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง พวกเขาก็ตกใจมาก เราเป็นตัวแทนจำหน่ายที่จัดหาสินค้าให้ร้านค้าขนาดเล็ก แต่ทำไมบริษัทเภสัชกรรมถึงมาหาเราล่ะ? คุณควรติดต่อบริษัท ขายยาพวกนั้นไม่ใช่หรอ?

 

แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงต้องการที่จะขายพลาสเตอร์ในร้านค้าขนาดเล็ก ตัวแทนจำหน่ายทุกคนก็ตื่นเต้น ร้านค้าขนาดเล็กได้รับอนุญาตให้ขายพลาสเตอร์ได้หรอ? พวกเขาได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายพลาสเตอร์ได้หรอ?

 

ตัวแทนจำหน่ายทุกคนไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้ขายสินค้านี้ในร้านค้าขนาดเล็กได้หรือไม่ แต่ก็ไม่มีกฎระเบียบที่เป็นลายลักษณ์อักษรกำหนดไว้ว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ขาย คนส่วนใหญ่รู้ว่าพลาสเตอร์ไม่ใช่ยา มันก็แค่ผ้าพันแผลขนาดเล็กที่ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

 

ในเมื่อมีการใช้พลาสเตอร์สำหรับเหตุฉุกเฉิน งั้นก็น่าจะขายในร้านค้าขายปลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้ ในประเทศจีนมีร้านขายยาไม่มากนักในยุคนี้ซึ่งแตกต่างจากยุคในอนาคตที่มีร้านขายยาอยู่ทุกซอกทุกมุม เมื่อผู้คนต้องการซื้อพลาสเตอร์ พวกเขาต้องไปที่โรงพยาบาล คลินิก หรือร้านขายยาเท่านั้น

 

บางหมู่บ้านผู้คนต้องเดินทางไปโรงพยาบาลในเมือง ไม่ใช่ทุกหมู่บ้านที่จะมีคลินิก แต่ทุกหมู่บ้านจะมีร้านค้าขนาดเล็ก! ถ้าสินค้านี้ไปวางจำหน่ายในร้านค้าพวกนั้น จะทำให้ผู้คนมีความสะดวกสบายขึ้นอย่างมากในการซื้อสินค้านี้

 

ในเมื่อจุดนี้ถือเป็นช่องโหว่ของกฎหมาย ดังนั้นตัวแทนจำหน่ายจึงไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะหาเงินแน่นอน แต่ตัวแทนจำหน่ายต้องเซ็นสัญญาผูกขาดกับบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิง พวกเขาไม่สนใจเรื่องการเซ็นสัญญานี้เนื่องจากบริษัทอนุญาตให้พวกเขาคืนสินค้าทั้งหมดได้หากผู้นำระดับสูงออกกฎห้ามมิให้ร้านค้าขนาดเล็กขายพลาสเตอร์ ถ้าตัวแทนจำหน่ายถูกปรับ บริษัทจะช่วยพวกเขาจ่ายค่าปรับด้วย

 

ทั้งหมดนี้ถูกระบุไว้ในสัญญาอย่างชัดเจน ตัวแทนจำหน่ายรีบตกลงและเซ็นสัญญาทันที จากข้อตกลงดังกล่าว ผู้ค้าปลีกทุกรายต้องวางโปสเตอร์ส่งเสริมการขายที่ร้านค้าของพวกเขาด้วย

 

เฝิงหยู่ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆในช่วงเวลานี้ เขาตรวจดูรายชื่อผู้ติดต่อของเขา เขาอยากได้การสั่งซื้อพลาสเตอร์ครั้งใหญ่!

……

 

“นายพลกานครับ ผมชื่อเฝิงหยู่จากบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงนะครับ วันนี้คุณว่างไหมครับ? ผมอยากพูดคุยหารือบางเรื่องกับคุณหน่อยครับ” เฝิงหยู่โทรหานายพลกาน เขาเป็นคนที่รับผิดชอบด้านการจัดซื้อในกองทัพ เขาน่าจะมีอำนาจในการตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์

 

“โอ้ ผู้จัดการเฝิงหรอครับ? คุณคิดที่จะเลี้ยงมื้อเย็นผมหรอ?” นายพลกานพูดติดตลก

 

“มื้อเย็นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ แต่เรื่องที่ผมอยากจะคุยกับคุณนี่สำคัญมาก ถ้าไปร้านฉวนจวี้เต๋อ คุณสะดวกมั้ยครับ? ผมจะได้จองโต๊ะสำหรับเย็นนี้ และเราจะได้คุยกันได้ในระหว่างอาหารค่ำ”

 

“ได้เลยครับ เดี๋ยวผมไปหาหลังเลิกงาน” นายพลกานอยากกินที่ร้านฉวนจวี้เต๋อมาก เจ้าหน้าที่กองทัพในยุคนี้ไม่ได้มีรายได้เยอะมากนัก แม้ว่าทหารจะใช้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับอาวุธ แต่ถ้าหัวหน้าสถาปนิกยังอยู่ ใครจะกล้ารับสินบน? แม้ว่าเขาจะเป็นนายพล แต่เขาก็ไม่สามารถขอเบิกเงินคืนได้หากเขาไปรับประทานอาหารที่ร้านฉวนจวี้เต๋อ

……

 

“คุณว่าอะไรนะ? คุณอยากให้กองทัพของเราใช้สินค้าจากบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงของคุณแบบผูกขาดงั้นหรอ?” นายพลกานรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกต่อไป

 

“ใช่แล้วครับ ยาของบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงมีหลากหลายประเภทครอบคลุมมากและก็มีชื่อเสียงด้วย นอกจากนี้ ยังมีราคาถูกและมีประสิทธิภาพอีกต่างหาก เรามีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่ร่วมงานกับเราและเรายังทำงานร่วมกับบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงในต่างประเทศ ขณะนี้เราเป็นหนึ่งในบริษัทเภสัชกรรมชั้นนำในประเทศจีน หากกองทัพมาร่วมงานกับเรา คุณจะได้ซื้อยาในอัตราที่ถูกกว่า ซึ่งจะเป็นการประหยัดเงินให้กับกองทัพด้วยนะครับ”

 

นายพลกานส่ายหน้า “ผู้จัดการเฝิง เลิกคุยเรื่องนี้เถอะครับ ผมช่วยคุณไม่ได้จริงๆ ถ้าคุณกำลังพูดถึงรถยนต์ของซงเจียงมอเตอร์ เรามีแผนที่จะจัดซื้อในปีหน้า และฉันรับปากคุณได้เลยว่าเราจะสั่งซื้อจากคุณแน่นอน แต่คุณเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไม่ใช่หรอ ทำไมคุณถึงไปลงทุนในบริษัทเภสัชกรรมล่ะ?”

 

เฝิงหยู่รู้สึกผิดหวัง ดูเหมือนว่านายพลกานจะไม่สามารถช่วยเขาได้จริงๆ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้

 

“ถ้าเป็นสินค้าอื่น หรือสินค้าเฉพาะอย่างล่ะครับ? พลาสเตอร์? ปัจจุบันในตลาดมีแค่แบรนด์แบนด์เอดเท่านั้นและแบรนด์เภสัชกรรมเมืองปิงก็ดีกว่า ทหารคงรู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่ถ้าต้องไปสั่งซื้อจากโรงงานเล็กๆ ที่อื่น จริงมั้ยครับ? นอกจากนี้ แบนด์เอดยังเป็นสินค้าจากกิจการร่วมค้ากับต่างประเทศ คงจะดีกว่าถ้าให้ชาวจีนของเราได้เงินเองแทนที่จะไปให้ชาวต่างชาติพวกนั้น ถ้าคุณสามารถอนุญาตให้เราโฆษณาว่าเราเป็นผู้ให้บริการพลาสเตอร์แก่กองทัพจีนแต่เพียงผู้เดียว ผมไม่เกี่ยงเลยที่จะส่งพลาสเตอร์ใฟ้คุณใช้ฟรีๆ” เฝิงหยู่พูด

 

“คุณวาดภาพซะสวยเชียว! เรื่องรถยนต์ตอนนั้นยังไม่พออีกหรอ คราวนี้คุณยังต้องการให้กองทัพโฆษณาพลาสเตอร์ให้คุณอีกงั้นหรอ? ไม่มีทาง แต่ก็ยังอาจจะเป็นไปได้ที่เราจะใช้พลาสเตอร์ของคุณโดยมีเงื่อนไขว่าพลาสเตอร์ของคุณจะต้องมีราคาถูก”

 

“พลาสเตอร์กันน้ำและมีรูระบายอากาศราคา 30 สตางค์ต่อชิ้นและในหนึ่งซองก็มี 5 ชิ้น ราคาขายส่งคือ 1.5 หยวนและราคาขายปลีกคือ 4.80 หยวน เราไม่ได้รับกำไรเลยนะครับถ้าขายในราคานี้”

 

“ไม่มีกำไรงั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นคุณขายทำไมล่ะ?” นายพลกานไม่เชื่อว่าจะไม่มีกำไรจริงๆ

 

“เราขายถูกเพราะคุณเป็นทหารครับ นี่ถือว่าเป็นการสนับสนุนกองทัพจีนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกคุณทุกคน” เฝิงหยู่กล่าว แม้ว่าพลาสเตอร์กันน้ำและมีรูระบายอากาศนี้จะมีต้นทุนที่สูงกว่า แต่ถ้ามีการผลิตในปริมาณมาก ต้นทุนอาจจะลดลงเหลือน้อยกว่า 20 สตางค์ บริษัทยังคงสามารถทำกำไรได้หากพวกเขาขายให้กับทหาร

 

“งั้น……โอเค ผมจะถามให้คุณล่ะกัน ถ้าพลาสเตอร์ของบริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงของคุณราคาถูกกว่าและมีประสิทธิภาพ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

 

“ขอบคุณครับ งั้นเรามาดื่มฉลองกันเถอะ!” เฝิงหยู่ยกแก้วเบียร์ที่มีอยู่ครึ่งแก้วและชนกับแก้วเบียร์เต็มของนายพลกาน นายพลกานดื่มเบียร์จนหมด เฝิงหยู่ชนแก้วกับนายพลกาน 4 ครั้งด้วยแก้วเดิมของเขา!