จักรพรรดิเทพมังกร – บทที่ 903 : นักมายากลที่เก่งที่สุด!
  “ห๊ะ..นี่พี่พูดจริงเหรอ!”
  ถังเมิ่งได้ฟังถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเท้าของเขากระทืบเบรกทันที และหันหลังไปมองหลิงหยุนที่ยังคงนั่งยิ้มอยู่เบาะหลังด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ..
  “ใครบอกนายล่ะว่าฉันจะแค่สร้างค่ายกลแล้วนั่งรอศัตรูให้บุกมาถึงที่บ้านเพื่อฆ่าตัวเองเท่านั้น”
  “ธุรกิจกับบ้านของฉันไม่สามารถโยกย้ายได้ก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าตัวฉันจะไปใหนไม่ได้นี่นา”
  ดวงตาของหลิงหยุนเป็นประกายพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางทิศตะวันตก แล้วพูดขึ้นว่า
  “เอาล่ะ..ฉันจะบอกความจริงกับนาย! ฉันได้เตรียมสนามต่อสู้ไว้แล้ว ไม่ใช่ในตัวเมืองจิงฉู แต่เป็นยอดเขาสูงที่อยู่ทางทิศตะวันตกโน่น!”
  “แล้วพี่จะไปทำอะไรที่สนามต่อสู้!”
  พูดจบ..ถังเมิ่งก็ทำหน้าตกใจจนแทบช็อค และในที่สุดก็ร้องตะโกนออกมา
  “พี่หยุน..อย่าบอกนะว่าพี่จะเอาตัวเองเป็นเป้าล่อศัตรู แล้วให้ศัตรูเป็นคนไล่ล่าพี่เหมือนในหนัง!”
  หลิงหยุนถึงกับพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “ถังเมิ่ง.. ฉันว่านายหุบปากไปจะดีกว่า! ถ้าพวกมันกล้าไล่ล่าฉันแบบที่นายพูดแล้วล่ะก็ การตายของพวกมันจะนับว่าเป็นโทษสถานเบาที่สุดแล้ว!”
  “แต่ความจริงจะพูดว่าไล่ล่าก็ไม่ผิดนัก..แต่เปลี่ยนจากที่ฉันเป็นผู้ถูกล่า มาเป็นคนสังหารพวกมันมากกว่า!”
  หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้น“เอาล่ะ.. รีบไปได้แล้ว! นายเบรกกะทันหันกลางถนนแบบนี้ คนอื่นคงด่าบุพการีนายกันหมดแล้ว!”
  ……
  ที่ห้องอัดรายการหมายเลขหนึ่งของสถานีโทรทัศน์เจียงหนาน..
  นักข่าวสาวที่โด่งดังของสถานีโทรศัน์เจียงหนานกำลังนั่งให้ช่างแต่งหน้าให้ และในขณะเดียวกันก็รอคอยหลิงหยุนด้วยความรู้สึกมากมายปนเปกันไปหมด..
  ซูหลิงเฟยไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งหลิงหยุนจะเป็นฝ่ายติดต่อขอมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษของเธอด้วยตัวเองเช่นนี้..
  และสำหรับการออกอากาศครั้งนี้หลิงหยุนได้ใช้เงินไปเป็นจำนวนถึงห้าล้านหยวน เพื่อให้ถังเมิ่งจองช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของทางสถานีถึงสองช่วง และให้เทปของเขาได้ออกอากาศพร้อมๆ กันในช่องของจิงฉูถึงห้าช่องด้วย!
  ซูหลิงเฟยรอโอกาสนี้มานานมากแล้วเธอเคยคิดที่ติดต่อขอสัมภาษณ์หลิงหยุน แต่ก็ต้องล้มเลิกความคิดนี้ไป!
  แต่หลังจากที่เธอได้ตัดใจและคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเชิญหลิงหยุนมาเป็นแขกรับเชิญนั้น จู่ๆ โอกาสพิเศษก็เป็นฝ่ายวิ่งเข้ามาหาเธอเอง ซูหลิงเฟยไม่ได้เตรียมใจมาก่อน จึงได้แต่รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
  ซูหลิงเฟยและหลิงหยุนนั้น ต่างก็ได้พบเจอหน้ากันมามากกว่าหนึ่งครั้ง..
  ครั้งแรกเธอพบกับหลิงหยุนที่หมู่บ้านหลินเจียง..ครั้งนั้นหลิงหยุนได้ลงมือทุบบ้านของเถียนป๋อเตาสองหลังด้วยมือเปล่า และยืนชี้หน้าหลัวจ้งอย่างโอหัง แต่คลิปที่เธอได้สัมภาษณ์หลิงหยุนในครั้งนั้น กลับถูกคำสั่งจากผู้บริหารระดับสูงของทางสถานี ให้จัดการทำลายภาพและเสียงทั้งหมดทิ้ง และไม่อนุญาตให้นำมาออกอากาศ..
  ครั้งที่สองเธอพบกับหลิงหยุนในงานเปิดคลินิกสามัญชนของเขาซูหลิงเฟยก็ไปร่วมแสดงความยินดีด้วย เธอสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่หลิงหยุนกำลังทำการรักษาคนไข้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ปรากฏว่าเมื่อนำมาเปิดดูอีกครั้ง คลิปทั้งหมดที่เธอบันทึกไว้ กลับไม่สามารถใช้งานได้เลยแม้แต่คลิปเดียว..
  ทั้งสองครั้งที่ซูหลิงเฟยได้พบกับหลิงหยุนนั้นเธอล้วนแล้วแต่ได้พบภาพเหตุการณ์ที่น่าตระหนกตกใจ และอัศจรรย์ใจเกินกว่าที่คนธรรมดาจะทำได้!
  ที่หมู่บ้านหลินเจียงนั้นหลิงหยุนได้แสดงความแข็งแกร่งเยี่ยงชายชาตรีผ่านการกระทำที่ไม่เกรงกลัวผู้ใด ส่วนที่คลินิกสามัญชนนั้น หลิงหยุนได้แสดงทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศของตนเองในฐานะหมออมตะ..
  ในฐานะหญิงสาวที่เกิดในครอบครัวที่ดีคนหนึ่งและมีสายตาที่กว้างไกล ซูหลิงเฟยจึงรู้สึกว่าหลิงหยุนนั้นเป็นเด็กหนุ่มที่มีทั้งความโอหัง และความเก่งอยู่ในตัวเอง และที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดก็คือ.. หลิงหยุนเป็นคนลึกลับมาก!
  และความลึกลับน่าค้นหานี้เองที่ดึงดูดให้ซูหลิงเฟยอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับตัวตนของหลิงหยุนมากขึ้น..
  เธออยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับหลิงหยุนให้มากขึ้นและต้องการที่จะสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวของหลิงหยุนอย่างมาก ถึงแม้ว่าสัมภาษณ์ไปแล้วจะไม่ได้ออกอากาศก็ตาม เธอก็ยินดีที่จะทำอย่างยิ่ง..
  แต่เพราะซูหลิงเฟยมีงานรัดตัวอยู่ตลอดเวลาเธอต้องอ่านข่าวทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์ จึงไม่มีเวลาว่างที่จะไปตามขอสัมภาษณ์หลิงหยุน..
  แต่เมื่อจู่ๆโอกาสที่ดีก็เข้ามาเช่นนี้ มีหรือที่ซูหลิงเฟยจะไม่ตื่นเต้น เธอแทบจะทนรอคอยการมาถึงของหลิงหยุนไม่ได้!
  “ช่างกล้องมาหรือยัง”
  “ช่างไฟล่ะ”
  “คุณช่วยเติมแป้งให้ฉันเพิ่มด้วยค่ะ!”
  “แล้วคอสตูมล่ะคะ..เตรียมชุดพร้อมหรือยัง”
  “เอาล่ะ..ทุกคนเร่งมือหน่อย!”
  “ทำไมวันนี้ถึงได้มีผู้เข้าชมมากมายแบบนี้ล่ะ!ผู้ช่วยหวัง.. คุณช่วยไปดูให้หน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น?”
  ภายในห้องอัดรายการหมายเลขหนึ่ง..ระหว่างที่ซูหลิงเฟยพิธีกร และนักข่าวคนสวยกำลังตรวจสอบความเรียบร้อยภายในห้องอัดอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นเสียงเพลงเรียกเข้าที่กำลังโด่งดัง ซูหลิงเฟยจึงรีบกดรับทันที..
  “คุณซูครับ..พวกเรามาถึงแล้ว ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ใหน” ถังเมิ่งร้องถามขึ้นมาทันที..
  ซูหลิงเฟยยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า“จะอยู่ที่ใหนได้ล่ะ ก็ห้องอัดรายการหมายเลขหนึ่งน่ะสิ! คุณต้องการให้ฉันออกไปรับมั๊ยคะ?”
  ถังเมิ่งตอบกลับมายิ้มๆ“ไม่เป็นไรครับ! ผมมาที่นี่หลายครั้งแล้ว.. หลับตาเดินได้สบาย!”
  หลังจากที่จอดรถเรียบร้อยแล้วถังเมิ่งและหลิงหยุนก็เดินตรงไปยังห้องอัดรายการทันที และเมื่อไปถังเมิ่งก็เป็นฝ่ายเอ่ยทักทายซูหลิงเฟย
  “สวัสดีครับคุณซู..ผมพาพี่หยุนมาส่งให้แล้ว!”
  “พี่หยุน..นี่นักข่าว และพิธีกรที่สวยเป็นอันดับหนึ่งแห่งสถานีโทรทัศน์เจียงหนาน ชื่อว่าซูหลิงเฟย!”
  ถังเมิ่งแกล้งทำเป็นแนะนำไปอย่างนั้นเองเขาเพียงแค่อาศัยโอกาสนี้ทำให้ซูหลิงเฟยดีใจกับคำชมเท่านั้นเอง..
  “สวัสดีครับ..ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง!”
  หลิงหยุนเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายซูหลิงเฟยก่อนเขาส่งรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองให้กับเธอ พร้อมกับยื่นมือออกไปจับมือบอบบางของซูหลิงเฟยเป็นการทักทาย สายตาของหลิงหยุนจ้องมองซูหลิงเฟยด้วยความชื่นชม
  ซูหลิงเฟย..หญิงสาวในวัยยี่สิบเจ็ดปี อยู่ในลุคส์ผมสั้นเข้ากับใบหน้านวลเนียนงดงามนั้น เธอสวมเสื้อสูทเข้ารูปของแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ส่วนเสื้อข้างในนั้นเป็นรูปคอวีที่เผยให้เห็นเนินอกขาวนวลเพียงเล็กน้อย โดยรวมแล้วสวยงาม ทะมัดทะแมง และน่าดึงดูด..
  ด้านล่างเป็นกระโปรงสีดำแต่ก็สวมถุงน่องสีสดใสปกปิดเรียวขางดงามคู่นั้นไว้พร้อมกับสวมรองเท้าส้นสูง แม้ว่ารูปร่างของเธอจะไม่เซ็กซี่เย้ายวนเท่าเหลียงเฟิงอี้ แต่ก็นับว่าสวยโดดเด่น และสง่างามไม่น้อย..
  “หลิงหยุน..ฉันได้ยินมาว่าคุณไปปักกิ่งไม่ใช่เหรอ ไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วแบบนี้..”
  ซูหลิงเฟยเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัยแก้มทั้งสองข้างบุ๋มเป็นลักยิ้มที่ไม่ลึกมาก พร้อมกับฟันขาวเรียงรายงดงาม ราวกับจะประกาศให้คนฟังเห็นถึงความเฉลียวฉลาด และคารมคมคายของตนเอง
  “นี่คุณ..”
  แต่จู่ๆซูหลิงเฟยก็เหลือบไปเห็นนิ้วมือของหลิงหยุน และถึงกับร้องอุทานออกมาก่อนจะพูดต่อว่า
  “ทำไมคุณถึงได้สวมแหวนมากมายขนาดนี้ล่ะนี่คุณเปลี่ยนมาเปิดร้านจิวเวลรี่แล้วหรือยังไง?!”
  ซูหลิงเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย..เธอไม่ต้องการให้หลิงหยุนกลายเป็นตัวตลกระหว่างที่อัดรายการ และหลังจากที่เทปถูกเผยแพร่..
  “อ่อ..นี่น่ะเหรอ ก็ผมจะมาแสดงมายากลนี่นา ก็ต้องสวมแหวนมากมายแบบนี้เพื่อตบตาคนดูไงล่ะ..”
  นี่ไม่ใช่มายากล..แต่ที่หลิงหยุนต้องสวมแหวนมากมายขนาดนี้ ก็เพราะไม่ต้องการให้ผู้คนคาดเดากันว่า ของทุกอย่างที่หลิงหยุนนำออกมานั้น ล้วนออกมาจากแหวนพื้นที่ในนิ้วกลางข้างซ้ายของเขา เขาจึงต้องสวมแหวนมากมายเช่นนี้เพื่อเป็นการดึงความสนใจของผู้ชมไปที่นิ้วอื่นๆด้วย..
  “ห๊ะ..อะไรนะ! อย่าบอกนะว่า.. ที่คุณยอมจ่ายเงินมากมายก็แค่จะมาเล่นมายากลออกอากาศงั้นเหรอ?”
  ซูหลิงเฟยร้องอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อพร้อมกับมองไปทางถังเมิ่ง..
  “ถูกต้อง..ผมจะมาโชว์มายากล!”
  หลิงหยุนพูดพร้อมกับ..เรียกขวดน้ำแร่ออกมาถือไว้ที่มือข้างซ้ายของตนเองทันที..
  “นี่..”ซูหลิงเฟยถึงกับอึ้งไปในทันที
  นี่คือการแสดงมายากลจริงๆน่ะหรือ
  หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับเปิดขวดน้ำแร่ส่งให้ซูหลิงเฟยแล้วพูดขึ้นว่า “คุณซู.. คุณพร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว.. เราจะเริ่มบันทึกเทปกันได้หรือยังครับ?”
  “เอ่อ..”
  ซูหลิงเฟยรู้สึกผิดหวัง..ความจริงแล้วเธอต้องการที่จะสัมภาษณ์หลิงหยุน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะมาแสดงมายากลเช่นนี้!
  แต่ถึงแม้จะรู้สึกผิดหวัง..ในเมื่อหลิงหยุนจ่ายเงินก้อนโตมาแล้ว ไม่ว่าหลิงหยุนจะทำอะไร เธอก็คงต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด..
  “หลิงหยุน..ไม่ทราบว่าคุณต้องการผู้ร่วมแสดงมั๊ย หรือต้องการให้ทางเราจัดเตรียมพร็อพอะไรให้บ้าง?”
  หลิงหยุนหัวเราะหึหึ“ไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งนั้น แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้ร่วมแสดง! ผมขอแค่โต๊ะธรรมดาๆ หนึ่งตัวสำหรับวางของเท่านั้นก็พอ..”
  จากนั้น..ก็เริ่มทำการบันทึกเทป!
  เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว..หลิงหยุนก็ขึ้นไปยืนอยู่กลางเวทีซึ่งมีโต๊ะอยู่เพียงหนึ่งตัว เขายิ้มให้กล้องพร้อมกับพูดขึ้นว่า
  “สวัสดีครับทุกคน..ผมชื่อหลิงหยุน! วันนี้ผมจะมาแสดงมายากลให้ทุกคนชม มายากลชุดนี้มีชื่อว่า – สร้างสิ่งของจากความว่างเปล่า!”
  “เอาล่ะ..ความมหัศจรรย์กำลังจะบังเกิดขึ้นแล้ว..”
  จากนั้น..หลิงหยุนก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นตรงหน้า และกางนิ้วทั้งสิบนิ้วออก เพื่อให้ผู้ชมเห็นว่ามือของเขานั้นว่างเปล่า จากนั้นเพียงแค่วินาทีเดียว ขวดน้ำแร่ก็ปรากฏขึ้นในมือของหลิงหยุน!
  “พระเจ้า..ออกมาอีกขวดแล้วเหรอ!”
  ซูหลิงเฟยถึงกับร้องอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเธอรู้ว่าหลิงหยุนไม่ได้ถืออะไรขึ้นไปบนเวทีด้วยเลยแม้แต่อย่างเดียว
  หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับวางขวดน้ำแร่ลงบนโต๊ะและเพียงแค่สะบัดมือ ขวดเบียร์ก็ปรากฏขึ้น และตามมาด้วยขวดน้ำอัดลม…
  และเวลานี้..ทุกคนที่อยู่ในห้องอัดรายการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชม หรือทีมงานทั้งหมด ยกเว้นถังเมิ่ง.. ทุกคนต่างก็อยู่ในอาการตกใจสุดขีด!
  แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น..หลิงหยุนยังแสดงมายากลที่น่าทึ่งกว่านั้น ด้วยการเรียกอุปกรณ์ทำครัวเช่นหม้อ กระทะ น้ำส้มสายชู น้ำมัน เกลือ ซอสต่างๆ และแม้กระทั่งถังแก๊สด้วย!
  “ว้าว!!”
  ระหว่างที่บนเวทีกำลังทำการแสดงอยู่นั้นเสียงร้องอุทานก็ดังไปทั่วทั้งห้องอัด เมื่อในมือของหลิงหยุนมีธนบัตรสีแดงปรากฏขึ้นมาหลายปึก!
  เวลานี้ภายในห้องอัดมีแต่เสียงร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นและประหลาดใจอยู่ไม่หยุด สายตาทุกคู่ตางก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของหลิงหยุนบนเวทีอย่างตกตะลึง!
  “เป็นไปไม่ได้..เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”
  ซูหลิงเฟยจ้องมองฝ่ามือทั้งสองของหลิงหยุนแล้วก็เอาแต่พูดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะนี่เป็นการสร้างสิ่งของจากความว่างเปล่าอย่างแท้จริง.. ต่อให้เป็นนักมายากลระดับปรมาจารย์ก็ไม่มีทางที่จะทำเช่นนี้ได้..
  เมื่อโต๊ะที่อยู่ตรงหน้ามีของวางเต็มไปหมดจนไม่สามารถวางได้อีกแล้วหลิงหยุนจึงหยุดเรียกของออกมาจากแหวนพื้นที่ จากนั้นจึงส่งสัญญาณให้ทุกคนในห้องอัดอยู่ในความสงบ แล้วจึงยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า
  “เมื่อครู่เป็นมายากลเล็กๆน้อยๆเพื่อเรียกน้ำย่อยเท่านั้นจากนี้ไปจะเป็นมายากลที่แท้จริง ทุกคนจับตาดูให้ดี การแสดงชุดนี้มีชื่อว่า – เล่นกับไฟ และลูกบอลน้ำ!”
  ระหว่างนั้น..หลิงหยุนก็แอบเรียกยันต์อัคนี และยันต์ธาราออกมาถือไว้ในมือ
  สิ้นเสียงร้องตะโกนของหลิงหยุน..ลูกไฟประหลาดก็ปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือซ้ายของหลิงหยุน ในขณะที่ลูกบอลน้ำสีฟ้าปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือขวา!
จักรพรรดิเทพมังกร – บทที่ 904 : รูปสลักน้ำแข็ง!
  “ว้าว!นั่นมันไฟจริงรึเปล่า!”
  “พระเจ้า!ขนาดฉันอยู่ตรงนี้ยังสัมผัสได้ถึงไอร้อนของเปลวไฟเลย แล้วมือเขาจะไม่พองเหรอ”
  ระหว่างนั้นผู้ชมรายการต่างก็ตื่นเต้นกันใหญ่และพากันลุกขึ้นยืน โดยเฉพาะผู้ชมที่นั่งอยู่แถวหน้า หลายคนถึงกับวิ่งขึ้นไปร่วมสนุกกับหลิงหยุนที่หน้าเวทีอย่างลืมตัว..
  หลิงหยุนที่ยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะก้าวเท้ามาด้านหน้าเวทีสองสามก้าว เพื่อให้ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างเห็นได้ชัดยิ่งขึ้น
  หลิงหยุนใช้ยันต์อัคนีระดับสองเท่านั้นความร้อนและพลังเผาผลาญจึงไม่ได้รุนแรงนัก แต่ถึงกระนั้น ขนาดของลูกไฟยังใหญ่เท่ากับลูกบาสเก็ตบอล และกำลังลุกโชติช่วงไปทั้งห้องอัดรายการ..
  “ลูกไฟนั่นไม่เท่าไหร่..แต่น้ำสีฟ้าขนาดใหญ่เท่าลูกบอลนั่นน่ะสิ! นี่เขาควบคุมน้ำให้อยู่ในมือได้ยังไง”
  “เหลือเชื่อมาก!ทำไมน้ำนั่นไม่ไหลลงพื้น มันเป็นลูกบอลกลมแบบนั้นได้ยังไง!”
  ผู้คนที่ชอบจับผิดการแสดงมายากลต่างก็แสดงความคิดเห็นออกมาต่างๆนานา..
  น้ำที่ได้จากยันต์ธารานั้นมีขนาดเท่ากับลูกบาสเก็ตบอลเช่นกันมันก้อนน้ำกลมดิกแล้วก็โปร่งใส และเป็นประกายระยิบระยับอยู่ในฝ่ามือของหลิงหยุนเมื่อสะท้อนกับแสงไฟในห้องอัด!
  ความจริงหลิงหยุนก็ไม่ได้มีความสามารถที่จะสร้างสิ่งของจากความว่างเปล่าได้อย่างที่พูดและลูกบอลน้ำของหลิงหยุนนั้น ก็จะคงรูปอยู่เช่นนั้นได้เพี่ยงสี่สิบถึงห้าสิบวินาทีเท่านั้น จากนั้นน้ำทั้งหมดก็จะกระจายลงสู่พื้น..
  แต่ระดับหลิงหยุนแล้ว..เขาจะปล่อยให้น้ำไหลกระจายลงสู่พื้นได้อย่างไรกัน
  หลังจากที่เปลวไฟในมือซ้ายค่อยๆดับลงไปแล้ว หลิงหยุนก็เดินพลังลับหยิน-หยาง และปล่อยให้พลังหยินที่เยือกเย็นนั้นเคลื่อนผ่านเส้นลมปราณเยิ่นไปที่ฝ่ามือขวา ทันทีที่พลังหยินเคลื่อนไปที่ฝ่ามือขวา ลูกบอลน้ำในมือหลิงหยุนก็กลายเป็นน้ำแข็งทันที!
  “กลชุดนี้มีชื่อว่า..ลูกบอลน้ำแข็ง!”
  ยังไม่ทันที่หลิงหยุนจะพูดจบดี..ผู้ชมในห้องต่างก็พากันร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อลูกบอลน้ำในฝ่ามือของหลิงหยุนได้กลายเป็นน้ำแข็ง!
  “ว้าว.. กลายเป็นน้ำแข็งจริงๆด้วย! เจ๋งมาก!”
  “เป็นไปได้ยังไงกัน!”
  ผู้ชมในห้องได้เห็นทุกอย่างกับตาตัวเองเช่นนั้นต่างก็พากันตกใจจนแทบช็อค แม้กระทั่งถังเมิ่งที่อยู่กับหลิงหยุนมานาน ก็ถึงกับอึ้งไปเช่นกัน! เขาไม่คิดว่าหลิงหยุนจะใช้วิธีนี้..
  “นี่มัน..”
  ซูหลิงเฟยถึงกับตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกริมฝีปากของเธออ้ากว้างค้างอยู่อย่างนั้น เธอแทบไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เธอเห็นอยู่นั้นไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือเรื่องจริง..
  ระหว่างนั้น..หลิงหยุนก็เรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมาถือไว้ในมือซ้าย แล้วจัดการใช้ปลายกระบี่ที่คมกริบนั้นกรีดลงไปบนก้อนน้ำแข็งซึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศ..
  ชัวะ..ชัวะ.. ชัวะ..
  และเพียงแค่หลิงหยุนบิดข้อมือเล็กน้อยปลายกระบี่ก็ตัดเข้ากับลูกบอลน้ำแข็ง เศษน้ำแข็งแตกกระจายเต็มพื้นไปหมด แต่ละท่วงท่าที่หลิงหยุนเคลื่อนไหวนั้นก็ช่างงดงามชวนมองยิ่งนัก!
  ระหว่างที่เกล็ดน้ำแข็งที่แตกกระจายลงบนพื้นนั้นผู้ชมต่างก็พากันแปลกใจเมื่อเห็นลูกบอลน้ำแข็งใสโปร่งแสงนั้น ค่อยๆ เล็กลงอย่างรวดเร็ว และเริ่มเป็นรูปเป็นร่างคล้ายคนกำลังถือไมโครโฟนไว้ที่มือขวา!
  หลังจากเสร็จสิ้น..หลิงหยุนจึงเก็บกระบี่เข้าฝัก จากนั้นจึงยกรูปปั้นน้ำแข็งขึ้นอวดต่อสายตาของผู้ชม และมันก็คือรูปปั้นน้ำแข็งขนาดเล็กซึ่งหลิงหยุนแกะสลักเป็นรูปผู้ประกาศข่าวสาวคนสวย – ซูหลิงเฟยนั่นเอง!
  “โอ้โห..นั่นมันซูหลิงเฟยนี่!”
  “เหมือนมากจริงๆอะเมสซิ่งมาก!”
  หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับถือรูปสลักน้ำแข็งเล็กๆไว้ในมือขวา จากนั้นจึงเดินลงมาจากเวที พร้อมกับส่งน้ำแข็งแกะสลักรูปซูหลิงเฟยให้กับซูหลิงเฟยตัวจริง..
  “คุณซู..ขอบคุณที่มอบโอกาสให้ผมได้ทำการแสดงในครั้งนี้ และนี่คือของขวัญสำหรับคุณ รูปสลักน้ำแข็งอาจจะไม่สวยงามนัก อย่าตำหนิกันล่ะ!”
  ซูหลิงเฟยที่ยังอยู่ในอาการตกใจยื่นมือออกไปรับน้ำแข็งแกะสลักรูปตัวเองอย่างงงๆ แต่ความตื่นเต้นในใจนั้นไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
  “หลิงหยุน..นี่.. นี่คุณให้ฉันจริงๆน่ะเหรอ!” ซูหลิงเฟยร้องถามออกมาอย่างตื่นเต้น
  หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้ซูหลิงเฟย..
  ซูหลิงเฟยจ้องมองรูปสลักน้ำแข็งในมือพร้อมกับร้องอุทานออกมา..
  “โอ้โห..เย็นมากเลย!”
  แต่ซูหลิงเฟยก็ไม่สนใจ..เธอยังคงสังเกตรูปปั้นอย่างละเอียด และถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นว่าหลิงหยุนสามารถแกะสลักได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเส้นผม เสื้อผ้า แม้กระทั่งรองเท้า..
  ระหว่างนั้น..หลิงหยุนก็เดินกลับขึ้นไปบนกลางเวที เขายิ้มพร้อมกับโค้งคำนับให้ผู้ชมในห้อง แล้วจึงพูดขึ้นว่า
  “ผมได้จัดการแกะสลักน้ำแข็งและมอบให้กับผู้ประกาศข่าวสาวที่สวยที่สุดในเจียงหนาน – ซูหลิงเฟยแล้ว! การแสดงก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านนะครับ!”
  เสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งห้องอัดรายการและค่อยๆ เบาลงหลังจากผ่านไปหนึ่งนาที..
  “ผมมีเรื่องจะประกาศให้ทุกคนได้ทราบในรายการนี้..ระหว่างปิดเทอมภาคเรียนนี้ ผมจะเดินทางไปยังเทือกเขาเซียนเหลินหลิง และตั้งใจจะไปแกะสลักพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ผมจะเดินทางไปค้นหาหินสำหรับแกะสลักที่ยอดเขาเทียนเหมาเฟิงในเทือกเขาแห่งนี้ ขอให้ทุกคนอดใจรอดูพระพุทธรูปที่ผมจะแกะสลักนะครับ..”
  “คัท!”
  ทันทีที่ผู้กำกับสั่งคัท..ก็เป็นอันว่าการบันทึกเทปได้เสร็จสิ้นลงแล้ว!
  หลังจากการบันทึกเทปเสร็จสิ้นลงแล้วผู้กำกับที่รับผิดชอบในครั้งนี้ ก็วิ่งตรงไปหาหลิงหยุนด้วยสีหน้าตื่นเต้น เมื่อไปถึงเขาก็รีบจับมือหลิงหยุนเขย่าพร้อมกับพูดขึ้นว่า
  “มันวิเศษแล้วก็มหัศจรรย์มาก! หลิงหยุน.. ผมเชื่อว่าถ้าเทปนี้ออกอากาศไปเมื่อไหร่ คุณจะต้องโด่งดังเป็นพลุแตกแน่.. ไม่ทราบว่าคุณสนใจที่จะมาทำรายการบ้างมั๊ย?”
  หลิงหยุนถึงกับกระอักกระอ่วน“เอ่อ..”
  หลิงหยุนไม่ต้องการเข้าสู่วงการโทรทัศน์ในขณะที่ถังเมิ่งนั้นหูผึ่งขึ้นมาทันที และดูเหมือนว่าสมองของเขากำลังคำนวณ และครุ่นคิดถึงวิธีหาเงินก้อนใหญ่อยู่..
  เวลาเดียวกันนั้นเอง..ทั้งช่างไฟ ช่างภาพ คอสตูม เจ้าหน้าที่จัดหาพร็อพ หรือแม้แต่ผู้ชมในห้องอัด ต่างก็วิ่งเข้ามารายล้อมหลิงหยุนไว้ และยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปหลิงหยุนไม่หยุด!
  “หลิงหยุน..ฉันรักเธอ!”
  นักเรียนหญิงบางคนที่สมัครมานั่งเป็นคนดูในรายการถึงกับร้องตะโกนบอกความรู้สึกของตนเองให้หลิงหยุนรู้หลังสิ้นสุดการแสดงมายากลที่น่าตื่นเต้น!
  “เฮ้อ..คิดแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้!”
  ถังเมิ่งพึมพำออกมาระหว่างที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองดูเด็กสาวที่วิ่งเข้าไปหาหลิงหยุน และได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา..
  ทางด้านซูหลิงเฟยที่ไม่สนใจกับความเย็นบนฝ่ามือเธอถือของขวัญที่หลิงหยุนมอบให้ด้วยความรู้สึกสับสนอย่างที่สุด
  “มิน่า..เฟิงอี้ถึงได้เอาแต่พูดเรื่องหลิงหยุนทั้งวัน! เด็กคนนี้.. ไม่น่าเชื่อจริงๆ!”
  ทันใดนั้นหยดน้ำเย็นก็หยดจากฝ่ามือของซูหลิงเฟยลงไปที่พื้นซูหลิงเฟยเห็นว่ารูปสลักน้ำแข็งของตนเองเริ่มละลาย จึงรีบวางไมโครโฟนในมือลง และวิ่งไปที่ตู้เย็นทันที
  เธอไม่มีความสามารถเช่นเดียวกับหลิงหยุนและหนทางเดียวที่จะรักษารูปสลักน้ำแข็งไว้ได้ก็คือต้องแช่รูปปั้นไว้ในช่องฟรีซ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะช่วยให้ไม่ละลายได้หรือไม่..!
  หลิงหยุนที่ถูกรุมล้อมอยู่หลายชั้นก็สังเกตเห็นภาพนั้นพอดี จึงได้แต่เผลอยิ้มออกมา..
  ผู้คนที่รุมล้อมหลิงหยุนต่างก็พากันตั้งคำถามมากมายและล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับมายากลที่เขาแสดงไปเมื่อครู่ทั้งสิ้น
  หลิงหยุนเพียงแค่หัวเราะและไม่ตอบอะไร แต่ก็มีบางคนที่สอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะไปหาหินแกะสลักพระพุทธรูปที่ยอดเขาเทียนเหมาเฟิง เทือกเขาเซียนเหลินหลิง..
  “ยอดเขาเทียนเหมาเฟิงกว้างใหญ่มากไว้สัปดาห์หน้าผมจะบอกตำแหน่งที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่รับรองว่ารูปพระพุทธรูปแกะสลักจะต้องเสร็จก่อนเปิดภาคเรียนอย่างแน่นอน!”
  หลิงหยุนไม่ลืมที่จะย้ำถึงจุดประสงค์ที่เขามาอัดรายการในวันนี้หลังจากสิ้นสุดการแสดง เขาก็ได้ย้ำเรื่องยอดเขาเทียนเหมาเฟิงในเทือกเขาเซียนเหลินหลิง..
  หลิงหยุนเชื่อมั่ว่า..ทันทีที่รายการนี้ออกอากาศไป ศัตรูที่จ้องจะเล่นงานเขาอยู่นั้น จะต้องได้ข่าวคราวอย่างแน่นอน..
  “หลิงหยุน..คุณจะทำยังไงกับของที่นำมาเข้าฉาก”
  ซูหลิงเฟยมองของที่วางอยู่เต็มโต๊ะพร้อมกับร้องถามออกมาเพราะของทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นของจริงทั้งสิ้น และจนถึงตอนนี้เธอเองก็คิดไม่ออกว่าหลิงหยุนเอาของพวกนี้ออกมาได้อย่างไร!
  “ผมไม่จำเป็นต้องใช้แล้วคุณจัดการยังไงก็เชิญเลย!” หลิงหยุนตอบยิ้มๆ
  หลิงหยุนตั้งใจเอาขยะออกจากแหวนพื้นที่ของเขาอยู่แล้วเขาจึงไม่ต้องการนำมันกลับเข้าไปอีก..
  ซูหลิงเฟยได้แต่ยิ้มพร้อมกับร้องเตือนว่า“ของพวกนั้นที่คุณว่ารวมเงินสดมูลค่าแสนหยวนเชียวนะ!”
  หลิงหยุนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“เงินสดหนึ่งแสนนั้น ถือว่าเป็นการเลี้ยงอาหารคุณกับทีมงานหนึ่งมื้อก็แล้วกัน!”