ตอนที่ 400 เล่นบทคู่รักหวานแหววกันอีกแล้ว

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ทุกคนที่โต๊ะหันไปมองเฉียวเหลียงเป็นตาเดียว ทุกคนรู้ดีว่าเฉียวเหลียงเคยเป็นคนรักของถังซี เฉียวเหลียงแทบเป็นบ้าคลั่งไปในช่วงห้าปีที่ผ่านมา หลังจากที่ถังซีเลิกกับเขา และเขาก็วิตกกังวลมากกว่าใครทั้งหมด เมื่อมีข่าวว่าถังซีประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงขนาดไปตามหาเธอด้วยตัวเองที่มหาสมุทรแปซิฟิก 

 

 

เป็นที่รู้กันแน่ชัดว่าถังซีมีความสำคัญมากสำหรับเฉียวเหลียง ทำไมเซียวโหรวถึงกล้าเชิญให้ถังซีมาเป็นนางแบบให้แบรนด์เธอ หรือเธออยากท้าทายเจ้าหญิงแห่งเอ็มไพร์กรุปผู้โด่งดัง 

 

 

แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าพูดออกมาดังๆ ได้แต่จ้องมองเฉียวเหลียง รอดูปฏิกิริยาตอบสนอง เฉียวเหลียงหันมามองถังซีซึ่งแสดงท่าทีทองไม่รู้ร้อน เขาอดแอบถอนใจอยู่เงียบๆ ไม่ได้ ถังซีเล่นซนอีกแล้ว! เขาเอื้อมมือไปลูบผมเธอ และกล่าวยิ้มๆ “ยังไงก็ได้ แล้วแต่ว่าโหรวโหรวชอบอะไร อยากทำอะไร” 

 

 

คนอื่นๆ ต่างอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ มีแต่เซียวจิ่งซึ่งรู้อยู่แก่ใจว่าเซียวโหรวก็คือถังซี ที่มองคนทั้งสองอย่างเบื่อหน่าย หางตาเขาหรี่ลง สองคนนี่เล่นแต่งคอสเพลย์กันหรือยังไง คนหนึ่งแต่งตัวเป็นบอดีการ์ด อีกคนแต่งเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ เอาเถอะ ยังไงก็ได้ ขอให้เซียวโหรวมีความสุขก็แล้วกัน… 

 

 

“เซียวจิ่ง ทำไมมองพวกเขาแบบนั้นล่ะ” เฮ่อหว่านอีซึ่งนั่งอยู่ตรงกันข้ามเซียวจิ่ง เผอิญเห็นสายตาประหลาดที่เขามองดูคนทั้งคู่เข้าพอดี  

 

 

เซียวจิ่งรีบฉีกยิ้มให้เธอ ทำปากยื่นแล้วบอกว่า “ก็สองคนนี้เล่นบทคู่รักหวานแหววอีกแล้วน่ะสิ ฉันจะไม่ทนแล้ว” 

 

 

เฮ่อหว่านโจวหัวเราะ ส่งเมนูคืนให้กับพนักงานเสิร์ฟแล้วกล่าวว่า “ที่ฉันเป็นห่วงก็คือ เซียวโหรวจะเกลี้ยกล่อมให้ถังซียอมรับเชิญมาเป็นแบบให้หรือเปล่ามากกว่า ถังซีเป็นถึงทายาทเอ็มไพร์กรุป แล้วยังเป็นแขกวีไอพีของแบรนด์หรูระดับโลกตั้งหลายแบรนด์ ฉันจำได้ว่าเธอได้รับความสนใจอย่างมากที่งานโชว์ของชาแนลเมื่อสองสามวันก่อน เธอสวยหยาดเยิ้มจริงๆ เมื่อสวมชุดนั้น” จบประโยคเฮ่อหว่านโจวก็หันไปหาเฉียวเหลียง หน้านิ่วคิ้วขมวดกล่าวกับเขาว่า “เป็นเพราะอย่างนี้เลยทำให้คุณลืมเธอไม่ได้ใช่ไหม เธอสวยมากขนาดนั้น…” 

 

 

หนิงเหยี่ยนกระแอม รีบรินน้ำชาให้เฮ่อหว่านโจวด้วยท่าทางอึดอัด พร้อมกับกล่าวว่า “เอ้า ดื่มน้ำชากันดีกว่า ฮ่าๆ นี่นายยังไม่หายเมาเครื่องบินอีกหรือ” 

 

 

เฮ่อหว่านหนิงหันมาอธิบายให้ถังซีฟังด้วยท่าทางขวยเขิน “พี่ชายผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอไม่พอใจหรอกนะ เขาแค่หลงเสน่ห์ความสวยของคุณถังน่ะ อย่าคิดมากนะครับ”  

 

 

ถังซียักไหล่ ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ฉันไม่ถือหรอกค่ะ ถังซีเธอสวยเลิศจริงๆ นี่คะ ไม่น่าแปลกใจที่พี่ชายคุณจะหลงใหลเธอ ถ้าเธอไม่สวยงามเลิศหรูขนาดนั้น ฉันก็คงไม่คิดเชิญเธอมาเป็นนางแบบให้เดอะควีนหรอกค่ะ” 

 

 

“โอ้ จริงหรือ” เฮ่อหว่านโจวมองถังซีด้วยความสนใจ เขาถามด้วยรอยยิ้มบางๆ ว่า “น้องโหรวโหรว เธอคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ อย่าโกหกนะ” 

 

 

ถังซียิ้ม ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์นิดๆ เธอมองเฮ่อหว่านโจวแล้วตอบเขาด้วยรอยยิ้ม “จริงสิค่ะ ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ เธอมีพรสวรรค์มากในการทำงานออกแบบ พี่เฮ่อไม่เห็นโพสต์ในไมโครบล็อกหรือคะ ที่ฉินซินหยิ่งขโมยงานออกแบบของเธอ…” เธอกล่าวพลางพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ไม่แปลกใจเลยที่ฉันมักจะคิดว่าเธอมีรสนิยมที่ดีมากในเรื่องแฟชั่น เธอแต่งตัวดีและทันสมัยกว่าสุภาพสตรีสาวที่ร่ำรวยทั้งหลาย เพราะเธอเองก็เป็นดีไซเนอร์นี่เอง” 

 

 

เฮ่อหว่านโจวพยักหน้าเห็นด้วย เขากล่าวว่า “เห็นด้วยที่สุด ยังมีอะไรอีกไหมที่น้องชอบเกี่ยวกับคุณถัง” 

 

 

“มีค่ะ” ถังซีพยักหน้ายิ้มๆ “เธอเป็นคนสวยมากด้วย ไม่ว่าจะแต่งตัวดีแค่ไหน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่สวย และไม่มีรูปร่างที่สมส่วน เธอก็จะไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ แต่ถังซีทั้งสวยและแต่งตัวงดงามทันสมัย เธอจึงเป็นควีนที่แท้จริง”  

 

 

หนิงเหยี่ยนผิวปาก หันไปมองเฉียวเหลียงแล้วยกนิ้วโป้งให้ทั้งสองข้าง พร้อมกับกล่าวว่า “คุณแน่มาก! ฉันแปลกใจจริงๆ ที่เห็นแฟนคนปัจจุบันของคุณชื่นชมแฟนเก่าคุณขนาดนี้! ทำได้ยังไงเนี่ย สอนให้หน่อยสิ!” 

 

 

เฉียวเหลียงชำเลืองมองแฟนสาวซึ่งกำลังชื่นชมตัวเองอย่างมีความสุข เขายิ้มแล้วเอื้อมมือไปขยี้ผมเธอเบาๆ กล่าวว่า “ผมไม่ต้องทำอะไรเลย เธอเป็นคนดีน่ารักอย่างนี้เสมอ” 

 

 

เซียวจิ่งเกือบสำลักน้ำ เมื่อได้ฟังคำพูดของถังซี เขารีบวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ พระเจ้า สาวน้อยคนนี้กลายเป็นคนหน้าไม่อายขนาดนี้ไปตั้งแต่เมื่อไร ทำไมถึงกล้าชมตัวเองเลิศลอยขนาดนั้น 

 

 

เฮ่อหว่านอีเองก็ยังจ้องมองถังซีด้วยความประหลาดใจ “เธอคิดว่าถังซีดีเลิศขนาดนั้นเชียวหรือ” 

 

 

ถังซีพยักหน้า “ใช่ค่ะ เธอมีพื้นฐานการศึกษาที่ดีมาก บุคลิกดีมีเสน่ห์ มีทั้งไอคิวและอีคิวสูงปรี๊ด เธอจึงเป็นคนที่เกือบจะสมบูรณ์แบบทุกอย่างในสายตาฉัน” 

 

 

“แค่ก…แค่ก…” น้ำที่เซียวจิ่งเพิ่งดื่มเข้าไปพุ่งพรวดออกมาจากปากเขา 

 

 

ทุกคนหันมามองเขา เฮ่อหว่านอีล้อว่า “คุณเป็นอะไรไป เป็นหวัดเหรอ” 

 

 

เซียวจิ่งจ้องมองถังซีและเฉียวเหลียงเป็นเชิงกล่าวโทษ ตอบเคืองๆ ว่า “รู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องสาวฉันจะชื่นชมคนรักเก่าของแฟนตัวเองเสียเลิศลอยขนาดนี้!” 

 

 

คนอื่นๆ ต่างพากันหัวเราะ เฮ่อหว่านโจวซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ตบไหล่เขา กล่าวว่า “เฮ้ น้องสาวนายไม่ได้คิดว่าถังซีเป็นศัตรู นายก็ไม่ต้องไปห่วงเธอหรอก ถ้าเฉียวเหลียงทิ้งน้องสาวนายกลับไปหาถังซี พวกเราจะช่วยนายรุมซ้อมเขาเอง” แล้วเขาก็หันกลับไปมองถังซี บอกเธอว่า “น้องโหรวโหรว คิดว่ายังไง เห็นด้วยกับที่พี่พูดไหม” 

 

 

ถังซีพยักหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้ม “เห็นด้วยที่สุดเลยค่ะ” 

 

 

เซียวจิ่งถอนหายใจ “ไม่ นายไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันหรอก” 

 

 

สองคนนี้กำลังเล่นละครให้คนอื่นดู มีแต่เขาที่รู้ความจริง ให้ตายสิ! เขาไม่ได้อยากรู้ความจริงนี้เลย! นี่ถ้าเขาไม่ได้มาปารีสด้วยก็คงจะดี! 

 

 

ขณะนั้นนั่นเองโทรศัพท์ของถังซีก็ดังขึ้น เธอมองดูชื่อผู้โทร ขมวดคิ้ว แล้วลุกเดินออกไปรับโทรศัพท์ที่มุมหนึ่ง… 

 

 

เมื่อเห็นอย่างนั้นเฮ่อหว่านอีก็เลิกคิ้ว แล้วมองหน้าเฉียวเหลียง ถามว่า “มีอะไรยุ่งยากที่สถานที่จัดงานหรือเปล่า เธอดูไม่ค่อยสบายใจ” 

 

 

เฉียวเหลียงเองก็เหลือบเห็นชื่อผู้โทร เขาขยับยิ้มมุมปากเล็กน้อย เมื่อตอบว่า “เธอจัดการเองได้ ไม่ต้องห่วง” 

 

 

“ดูเหมือนคุณจะไม่เป็นห่วงคนรักเลยนะ” หนิงเหยี่ยนจ้องหน้าเฉียวเหลียงด้วยสายตามีความหมายบางอย่าง “ไม่ไปถามเธอหน่อยหรือว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า หรือว่ามัวแต่คิดถึงแฟนเก่า” 

 

 

เฉียวเหลียงเลิกคิ้วมองหนิงเหยี่ยน แล้วตอบว่า “ผมบอกแล้วไงว่าเธอจัดการเองได้ เรื่องของเธอ ผมไม่เข้าไปวุ่นวายหรอก” 

 

 

“จริงเหรอ” หนิงเหยี่ยนถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ฉันเห็นโพสต์พวกนั้นในไมโครบล็อก ฉันว่า…” 

 

 

“นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าความจริงคืออะไร” เฉียวเหลียงมองหนิงเหยี่ยนด้วยสีหน้าไม่บ่งบอกความรู้สึก ถังซีเดินกลับเข้ามา เฉียวเหลียงมองถังซีแล้วถามว่า “มีอะไรหรือเปล่า” 

 

 

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ แค่มีใครบางคนอยากเจอฉันจนแทบทนไม่ไหว”