ตอนที่ 779 ไม่ได้ตายไม่ได้หมายความพิการไม่ได

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

เมื่อเจอสายตาเคร่งขรึมของชูฮันที่จ้องมาแม้ว่าภายในใจฟานฮงเหวียนจะมีคำพูดอีกมากมายที่อยากจะถาม แต่เขาก็ทำได้แค่เพียงเก็บมันเอาไว้ในใจต่อไป เขาไม่ได้โง่ ยิ่งได้รู้ว่าเหอซางคืออันดับที่หนึ่งของ Mensa ฟานฮงเหวียนก็เข้าใจทุกอย่างกระจ่างแจ้ง หากเขายังมีข้อสงสัยเพราะในยุคศิวิไลซ์ชูฮันไม่ได้มีโอกาสรู้จักองค์กรMensa เลยแล้วเพราะเหตุใดในยุคโลกาวินาศชูฮันถึงได้มาเกี่ยวข้องกับคนจากMensaมากมายแบบนี้
  เหอซางเองก็มีหลายอย่างที่อยากจะพูดแต่เวลาเกือบปีที่ห่างจากชูฮันมามันดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเปลี่ยแปลงไปมากเกินความคาดหมาย รูปแบบการทำงานของชูฮันที่มะทะลุยิ่งกว่าเดิม ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพราะงั้นเหอซางจึงไม่กล้าคิดจะที่แย้ง หากเหอซางก็สงสัยว่าศัตรูของพวกเขาคือใครและพวกมันมีจำนวนเท่าไหร่ ทำไมหัวหน้าชูฮันถึงดูเป็นกังวลได้มากขนาดนี้?
  ”หัวหน้า”เหอซางที่คิดทบทวนแล้วจากคำพูดมากมายหลายพันคำที่มีในหัวจบลงด้วยประโยคเพียงประโยคเดียว “ไม่ว่าจะจะมีปัญหามากมายแค่ไหน พวกเราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อช่วยหัวหน้าครับ”
  ในฐานะอัจฉริยะอันดับหนึ่งของMensaเหอซางมีระดับสติปัญญาสูงกว่าฮูเหมิงฮาว ไม่ใช่แค่ในเรื่องความฉลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรับรู้ทางอารมณืด้วย เมื่อรวมกันทั้งสองอย่าง เหอซางจึงสามารถมองทะลุความกังวลในใจของชูฮันได้
  ชูฮันเพียงส่งยิ้มบางๆอย่างขมขื่นให้เหอซางกลับมาการสื่อสารกับคนที่ฉลาดมากๆทำให้เขาไม่สามารถปกปิดอะไรได้
  ”เรา?นี่เรามีปัญหากับใครครับ?” เหมิงชีเหว่ยที่เห็นท่าทางดูจริงจังตรงหน้าก็เป็นกังวลตาม
  หลูปิงเซ่อเริ่มประหม่าเขาค่อนข้างรู้เรื่องราวมากกว่าใครเพราะเขาแทบจะอยู่ข้างกายชูฮันตลอด
  ประกายรุนแรงวาบผ่านนัยน์ตาชูฮันไป”ฉันไม่แน่ใจว่าใครคือมิตรของเขา และไม่แน่ใจว่านอกเหนือจากค่ายเขี้ยวหมาป่าของเราแล้วทุกคนคือศัตรูของเรารึเปล่า ฉันบอกได้แค่ว่าสถานการณ์มันซับซ้อนมาก เราแค่จะต้องแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ จะต้องกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อที่ใครจะได้ไม่ทำอะไรเราได้”
  ตระกูลป่าย?ราชานักล่า? ซอมบี้มากกว่าพันล้านตัว? หรือมนุษย์ด้วยกันจากค่ายทั้งหลาย?
  ตัวชูฮันเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะต้องเผชิญกับฝ่ายไหนก่อนในอนาคตแต่อย่างน้อยเขาก็มั่นใจได้ว่ากองกำลังของเขาแข็งแกร่งและจงรักภักดีต่อเขา เขามีรากฐานที่มั่นคง!
  ”ถึงฉันจะไม่เข้าใจแต่ฉันจะทำหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุด” เสียงของฟานเจี้ยนแสดงออกถึงความเจ็บปวดชัดเจน “นายบอกว่าสถาบันวิจัยของค่ายเขี้ยวหมาป่า? อยู่ที่ไหนล่ะ? แล้วนายจะให้ฉันรับผิดชอบเรื่องวิจัยด้านชีววิทยาทางไหน?”
  ”ใช่มันมีงานวิจัยที่ยังทำค้างไว้ที่สถาบันวิจัยในค่ายของฉัน หลังจากนายไปถึง ฉันอยากให้นายรับช่วงต่องานวิจัยเรื่องคริสตัลของซอมบี้” ชูฮันไม่พูดอะไรมาก จากนั้นเขาก็หันหน้าไปทางเหอซาง “หลูฮงเชิงและซูชิงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ที่พวกเขาถนัดแล้วที่ค่ายของฉัน สำหรับนาย ฉันจะให้อำนาจนายมากที่สุด นายอยากจะประดิษฐ์อะไรก็ได้ ส่วนวัสดุต่างๆก็ถามคนที่ค่ายได้เลย”
  หัวใจของเหอซางแทบหยุดเต้นตามมาด้วยความเศร้าในอก เขามีความกังวลว่าชูฮันอาจจะไม่เข้าใจสิ่งประดิษญ์ที่เขาจะสร้างขึ้นมา.novel-lucky.
  ”ส่วนเหมิงชีเหว่ย”ชูฮันถอนหายใจ “ช่วยจัดการพาเหล่าอัจฉริยะพวกนี้ออกจากค่ายหนานตู้ไปถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าให้ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีใครรู้ ฉันขอมอบหน้าที่นี้ให้นาย”
  จู่ๆชูฮันก็ยิ้มมุมปากทำให้ทุกคนหัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นอำนาจของกองกำลังใต้ดินช่างน่ากลัวเหลือเกิน พวกเขาอยากจะรู้นักว่าตอนนี้มีคนของค่ายหนานตู้กี่คนที่เข้าร่วมด้วย?
  ขณะที่ตอนนี้ค่ายหนานตู้ประกาศใช้กฏอัยการศึกเพราะเกิดเหตุฉุกเฉินแต่พวกเขากลับยังมารวมตัวกันที่นี่ได้อย่างสบายๆ และไม่ถูกทหารค้นพบมาเป็นเวลาเกินกว่าชั่วโมงแล้ว ความสามารถของคนพวกนี้เหนือชั้นจริงๆ!
  ในเวลาเดียวกันเหมิงชีเหว่ยก็มีความกังวลอีกอย่างขึ้นในใจ การจะพาทั้งคู่ออกไปจากค่ายหนานตู้เงียบๆโดยไม่ให้ใครรู้มันไม่ใช่ปัญหาเลย แต่การจะนำส่งทั้งสองคนจากค่ายหนานตู้ไปถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าเงียบๆโดยไม่ให้ใครรู้นั้น?…
  มันเป็นไปไม่ได้!
  เหอซางนั้นมีข้อเสียเปรียบในทุกประการทั้งพละกำลังการต่อสู้ที่อ่อนแอ การจะพาเดินถนนปกติแล้วเสี่ยงเจอซอมบี้ระหว่างจึงเป็นไปไม่ได้เลย มันไม่ต่างอะไรกับส่งไปตายเลย?
  ยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังใต้ดินของเหมิงชีเหว่ยก็สามารถเป็นประโยชน์แค่สำหรับการดำเนินการภายในค่ายหนานตู้เท่านั้น แต่ถ้าพ้นจากค่ายหนานตู้ไปแล้ว เหมิงชีเหว่ยไม่มีอำนาจอะไรเลย คนด้านนอกและซอมบี้ทั้งหลายหรือแม้แต่ลูกผสมจะตามหลังพวกเขามาติดๆ
  ขณะที่เหมิงชีเหว่ยกำลังเป็นกังวลอยู่นั้นชูฮันก็พูดบางอย่างที่ทำให้เหมิงชีเหว่ยอึ้ง
  ”ทำตามนี้อันดับแรกให้ฟานฮงเหวียนพักฟื้นอีกสองวันก่อนไม่อย่างนั้นฉันกลัวว่านายจะตายระหว่างทางเอา” ชูฮันยิ้มและพูดต่อ “พวกนายจะออกจากเมืองนี้ไปหลังจากนี้อีกสองคืน ฉันจะให้ทีมกุ้งเสือคุ้มกันพวกนายกลับไปยังค่ายเขี้ยวหมาป่า”
  ”ให้ทั้งทีมกุ้งเสือดำคุ้มกันทั้งทีมเลยเหรอครับ?”หลูปิงเซ่อโพล่งถามออกมาอย่างประหลาดใจ “หัวหน้า ถ้าอย่างนั้นแล้วหัวหน้าพาทั้งทีมกุ้งเสือมาที่นี้ทำไมตั้งแต่แรกล่ะครับ หรือหัวหน้าคิดแผนนี้ไว้แล้วตั้งแต่แรก?”
  ทุกคนในห้องตกใจกันหมดโดยเฉพาะเหมิงชีเหว่ย ในตอนแรกเขาคิดไม่ออกว่าชูฮันพาทั้งทีมกุ้งเสือดำมาที่ค่ายหนานตู้ทำไม แต่ตอนนี้ชูฮันได้บอกเจตนาที่แท้จริงออกมาแล้ว เพราะชูฮันตั้งใจจะให้ทีมกุ้งเสือดำคุ้มกันอัจฉริยะอย่างเหอซางกลับไปยังค่ายเขี้ยวหมาป่าตั้งแต่แรกสินะ?
  กลายเป็นว่าเมื่อได้รับการคุ้มกันจากทีมที่แข็งแกร่งเช่นนี้แน่นอนว่าเหอซางก็จะไม่ต้องเสี่ยงอันตรายด้านนอกแล้ว และเช้าวันพรุ่งนี้หลังจากข่าวลือเรื่องการปะทะระหว่างทหารของฉางกวนหลงและทีมกุ้งเสือดำออกไป ทุกคนจะได้รู้ว่าทีมกุ้งเสือน่ากลัวมากแค่ไหน? และทีมกุ้งเสือดำจะกลายเป็นที่รู้จัก!
  ”ไม่เกี่ยว”ชูฮันส่ายหัวปฏิเสธ เขายิ้มบางๆออกมากับความเข้าใจผิดของทุกคน “ฉันเดาว่าฟานฮงเหวียนน่าจะอยู่ที่นี่รวมถึงพ่อของฉันด้วย และเมื่อพิจารณาจากที่ฉันยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องทำด้วยตัวเองโดยไม่สามารถพาใครติดตามไปได้ เพราะงั้นการให้ทีมกุ้งเสือดำที่มีความสามารถด้านการปิดบังตัวตนและแข็งแกร่งที่สุดมาทำภารกิจนี้ก็เหมาะสมที่สุดแล้ว ส่วนสำหรับเหอซาง กวงโถวและเสี่ยติง ที่จริงฉันไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำว่าจะมาเจอกับพวกนายที่นี่”
  ”หัวหน้าสุดยอดจริงๆ!”หลูปิงเซ่อรู้สึกชื่นชมชูฮันเหลือเกิน “หัวหน้าปรับแผนการได้ท่ามกลางสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นเกียรติของผมที่ได้รับใช้หัวหน้า คงยากที่หาใครในโลกที่เหนือกว่าหัวหน้าได้”
  ”ประจบให้มันน้อยๆหน่อย!”ชูฮันหรี่ตามองหลูปิงเซ่อ จากนั้นก็หันหาสบตาเหมิงชีเหว่ย “แล้วนายคิดว่ายังไงเรื่องจงไค? ในเมื่อตอนนี้เขาอยู่ที่ค่ายหนานตู้แล้ว เราจะปล่อยโอกาสนี้ไปไม่ได้”
  เหมิงชีเหว่ยประหลาดใจ”หัวหน้า? เขาไม่ใช่คนประเภทที่เราจะฆ่าที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้นะครับ ไม่ได้ครับหัวหน้า แม้ว่าตัวผมจะไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา แต่ผมเป็นคนที่รู้ถึงสถานการณ์ทุกอย่างในตอนนี้และรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่ดีที่เราจะไปจัดการเขา”
  เหมิงชีเหว่ยที่เป็นหัวหน้าของหน่วยข่าวกรองใต้กินแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าเกิดความกังวลขึ้นในใจไม่ใช่ว่าเขาใจอ่อนและรับไม่ได้กับการฆ่าคนหรือมีคนตาย แต่มันเป็นเพราะว่าถ้าเกิดจงไคตายขึ้นมาตอนนี้มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่และทั้งค่ายหนานตู้อาจจะกลายเละเป็นตมโคลนเพราะสงครามที่จะตามมา
  ด้วยเหตุนี้ชูฮันจึงเลิกคิ้วขึ้น “ฉันไม่ได้บอกว่าจะฆ่าเขา นายกังวลอะไร?”
  เป็นอีกครั้งที่ประโยคต่อมาของชูฮันทำให้หัวใจของเหมิงชีเหว่ยเกือบหยุดเต้นเพราะช็อค”ตอนนี้มันจะยังตายไม่ได้ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่ามันจะพิการไม่ได้!”