“อาจารย์ มีสิ่งไหนที่สามารถทำได้บ้าง?” จางเจิ้งเฉียงถาม

ร่างกายที่หยาบกร้านของคอนราดหยิบค้อนขึ้นมาทุบอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าไม่มีอะไรที่สามารถมาหยุดยั้งมือของเขาได้เลย เขาทุบลงไปอย่างหนักหน่วง กระแทกหอกเงาของเย่ฉางจนแตกออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไป และคว้าคริสตัลสีดำจากภายในนั้นขึ้นมา “อ่า สิ่งนี่คือแก่นแท้วิญญาณเงา ไม่มีสมบัติชิ้นใดจะสามารถเทียบเท่ามันได้ พวกนายทั้งสองคนมีสิ่งที่ดีเลยทีเดียว”

“ส่วนชิ้นส่วนของไม้เท้าอันนี้ ถูกทำขึ้นมาจากต้นไม้คริสตัลในทะเลลึกที่ไม่เคยถูกแตะต้องมาก่อน การใช้มันมาทำเป็นไม้เท้าแบบนี้ มันช่างเป็นการกระทำที่เสียของจริงๆ ไม้เท้าอันนี้เป็นเพียงแค่ชื้นส่วนของสมบัติล้ำค่าที่ซ้อนทับกันอยู่เท่านั้น” คอนราดหยิบไม้เท้าขึ้นมาและถอนหายใจ เย่ฉางเฝ้ามองขณะที่เขาใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ในการถอดเหล็กโกลาหล, หินเมฆา และหยกสายฟ้าออกมา จากนั้นเขาก็เริ่มจัดการกับวัสดุเหล่านี้

เย่ฉางได้นำเอาแร่หายากแต่ละชนิดที่ขุดออกจากสถานที่ต่างๆออกมา คอนราดมองไปที่พวกเขาด้วยความรู้สึกแปลกใจ ถึงแม้ว่าจะมีสิทธิในการครอบครองเหมืองแร่ แต่จำนวนของแร่ที่หายากหลากหลายชนิดมากมายขนาดนี้ ก็ทำให้เขาแปลกใจมากเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น หินเลือดอำพันเป็นสื่อกลางที่ดีที่สุดในการหลอมรวมแร่ชนิดต่างๆเข้าด้วยกัน ทำให้หินชนิดนี้มีมูลค่าเป็นอย่างมาก แต่ก้อนที่อยู่ข้างหน้าของเขาก็มีขนาดเทียบเท่าได้กับลูกฟักทองเลยทีเดียว เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ตัดมันออกเป็นชิ้นๆ? นั่นอาจเป็นความผิดพลาดที่โง่เขลามากเกินไป! เขาจะทำลายสมบัติของสวรรค์ได้อย่างไรกัน เขาเลือกชิ้นส่วนเล็กๆของหินเลือดอำพันออกมา “หินเลือดอำพันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการหลอมรวมวัสดุเวทมนตร์เข้าด้วยกัน ด้วยการหลอมรวมระหว่างวัสดุเหล่านี้ มันจะใช้เวลาเพียงครึ่งเดียวในการหลอมรวม แต่จะได้รับเอฟเฟคเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า”

จางเจิ้งเฉียงคอยเรียนรู้อย่างรอบคอบ คอนราดมองผ่านกองแร่ของเย่ฉาง และหยิบแร่เงินเวทมนตร์สีดำออกมา “แร่เงินเวทมนตร์สีดำและหินเลือดอำพันเพื่อสร้างลักษณะปลายโค้ง ชิ้นส่วนของเหล็กโกลาหล, ต้นไม้คริสตัลในทะเลลึก และแก่นแท้วิญญาณเงาออกมาวางไว้ด้านข้าง ที่เหลือนอกจากนี้ ไม่มีวัสดุที่เหมาะสมอีกแล้ว การฝืนหลอมรวมแร่อื่นๆเข้าไปด้วย จะเป็นการเสียของไปเปล่าๆ”

คอนราดละลายแร่เงินเวทมนตร์สีดำและหินเลือดอำพัน จากนั้นก็หลอมรวมพวกมันด้วยเหล็กโกลาหล, หินเมฆา, หยกสายฟ้า และแก่นแท้วิญญาณเงา เขาส่งไม้เท้าคืนให้กับเย่ฉาง แล้วเอื้อมมือออกไปคว้าหินสีฟ้าที่อยู่ในกองแร่ “นี่เป็นค่าตอบแทนของฉัน ฉันจะเอาหินโมราสีฟ้าครามก้อนนี้ไปก็แล้วกัน”

“หินโมราสีฟ้าครามใช้สำหรับอะไรครับ?” จางเจิ้งเฉียงถามออกมา

“การทำสมาธิเพื่อไปยังประตูสู่พระเจ้า นี่เป็นเครื่องมือสำหรับนักบวช และเป็นวัสดุที่ดีที่สุดสำหรับเหล่านักบวช ฉันบังเอิญต้องการหินโมราสีฟ้าครามอันนี้พอดี” คอนราดตอบกลับไป

“ขอบคุณมากครับ บิชอปคอนราด” เย่ฉางแสดงความขอบคุณ คอนราดโบกมือให้ และเดินจากไป

“เพื่อน ขอฉันดูค่าสถานะของไม้เท้าอันใหม่หน่อยสิ” จางเจิ้งเฉียงพูดอย่างจริงจัง

เย่ฉางแชร์ค่าสถานะของไม้เท้าให้จางเจิ้งเฉียงดู

Alabachia’s Light (Unique – Shaman – ??? – Quest Item)

ประเภท: ไม้เท้า

ความต้องการ: ชนเผ่ามนุษย์ปลาอลาบาเชีย หรือชาแมน

พลังโจมตี: 49 – 61

+60 ทุกค่าสถานะ

+10% ทุกค่าสถานะ

+15% Intelligence

+15% Dexterity

+20% Mana

+98 เวทมนตร์ธาตุน้ำ

+94 เวทมนตร์ธาตุสายฟ้า

+100 เวทมนตร์ธาตุความมืด

ลดความเสียหายจากธาตุน้ำ, ธาตุสายฟ้า และธาตุความมืดลง 50%

เวทมนตร์ธาตุน้ำ, ธาตุสายฟ้า และธาตุความมืดเพิ่มขึ้น 25%

Shadow Edge: ในรูปแบบดาบแห่งความมืดจะมีระยะโจมตีเพิ่มขึ้น +3 เมตร

ไม้เท้าอันนี้สามารถเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบคือ หอกน้ำ / หอกสายฟ้า / ดาบแห่งความมืด

Water Spear: เปลี่ยนเป็นรูปแบบหอกน้ำ ทุกครั้งที่ทำการโจมตีในระยะประชิด จะสร้างความเสียหายจากธาตุน้ำเพิ่มขึ้น 28%

Lightning Lance: เปลี่ยนเป็นรูปแบบหอกสายฟ้า ทุกครั้งที่ทำการโจมตีในระยะประชิด จะสร้างความเสียหายจากธาตุสายฟ้าเพิ่มขึ้น 25%

Dark Blade: เปลี่ยนเป็นรูปแบบดาบแห่งความมืด ทุกครั้งที่ทำการโจมตีในระยะประชิด จะสร้างความเสียหายจากธาตุความมืดเพิ่มขึ้น 30%

Water Spear – Geyser: ซัมมอนธาตุน้ำที่เกรี้ยวกราดโจมตีไปยังพื้นที่เป้าหมาย สร้างความเสียหายเป็นธาตุน้ำ 130 หน่วย และมีโอกาสที่จะทำให้เป้าหมายลอยขึ้นและกระเด็นถอยหลัง คูลดาวน์ 30 นาที

Lightning Lance – Electric Flash: ยิงหอกสายฟ้าเจาะไปยังเป้าหมาย และระเบิดออกมาทันที สร้างความเสียหาย 130 หน่วย และมีโอกาสทำให้เป้าหมายเป็นอัมพาต คูลดาวน์ 30 นาที

Dark Blade – Shadow Assault: กลายร่างเป็นร่างเงา 5 ร่างพุ่งโจมตีไปยังเป้าหมาย โดยร่างหลักของคุณสามารถสลับไปมาระหว่างร่างเงาทั้งหมดได้ สร้างความเสียหายเป็นธาตุมืด 185% และมีโอกาสลดเกราะของเป้าหมาย คูลดาวน์ 15 นาที

เย่ฉางเปลี่ยนไม้เท้าของเขาเป็นรูปแบบดาบแห่งความมืด และด้านบนของไม้เท้าก็กลายเป็นดาบที่มีความยาว 120 เซนติเมตร เขาทดลองเหวี่ยงดาบไปมาไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ไม่เลวเลยทีเดียว มันมีประโยชน์มาก”

จางเจิ้งเฉียงเห็นว่าพลังโจมตีสูงสุดของไม้เท้าคือ 61 หน่วย ส่วนอาวุธของเขามีพลังโจมตีอยู่ที่ 42 หน่วย เขารู้ดีว่าความเสียหายที่เกิดจากอาวุธเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่แค่เพียงความเสียหายโดยรวมเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะทำให้อาวุธใหม่ให้กับตัวเอง ในขณะที่เขาอยู่ในโรงตีเหล็ก เขาก็ตัดสินใจที่จะทำอาวุธใหม่ให้กับหลินหลี่ด้วยเช่นกัน ตอนนี้ทุกอย่างเพียงแค่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

เย่ฉางเดินออกจากโรงตีเหล็กของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ เขาเห็นจีน่ายืนอายอยู่ที่มุมหนึ่ง เขาจึงเดินเข้าไปลูบหัวจีน่าอย่างคุ้นเคย “โย่ว! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะจีน่า…”

“อื้อ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เอิร์ล PaleSnow” จีน่าพูดด้วยใบหน้าที่เขินอาย เสียงของเธอเบาลง และค่อยๆเบาลง

บรรยากาศรอบๆกลายเป็นดูแปลกไปเล็กน้อย จีน่ารู้สึกอายมากจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี มือที่บอบบางของเธอคว้าจับกระโปรงไว้อย่างเหนียวแน่น และเธอก็เงยหน้าของเธอเพื่อมองดูเย่ฉาง เย่ฉางยิ้มอย่างสงบภายใต้หัวฮู๊ดหมาป่าของเขา หัวใจของเธอเต้นอย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง และเธอก็ลดหัวลงด้วยความเขินอาย

“ผมขาว อะไรนำพาให้นายไปที่โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์กัน?” ครอสมาร์ส่งเสียงพูดออกมาโดยไม่ดูสถานการณ์

เย่ฉางหันไปและยักไหล่ “แค่ธุรกิจบางอย่างหนะ โชคดีที่บิชอปคอนราดอยู่ที่นี่ด้วย ไม่อย่างนั้นฉันก็คงไม่สามารถทำมันได้”

ครอสมาร์พยักหน้า คอนราดเป็นตำนานของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ระดับช่างตีเหล็กของเขาเป็นหนึ่งในคนที่โดดเด่นที่สุดในคริสตจักร และองค์ความรู้ที่แสนกว้างใหญ่ของเขาก็มีประโยชน์ต่อลูกศิษย์ของเขามาก สำหรับ HeavenShakingMight ที่มีโอกาสในการเรียนรู้จากเขา นั่นหมายความว่า เขามีโอกาสที่จะกลายเป็นสุดยอดช่างตีเหล็ก

“ฉัน … ฉันกลับบ้านก่อนนะ” จีน่าเดินจากไปด้วยความกระวนกระวาย ครอสมาร์เฝ้าดูจีน่าเดินจากไปด้วยความขบขัน ‘หญิงสาวและรักครั้งแรกของเธอ…’

เย่ฉางก็หันกลับไปมองจีน่า จากนั้นก็บุ้ยปากออกมา “ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเธอดูโง่เล็กน้อย”

ครอสมาร์หลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมาทันที ‘เฮ้ นายพูดจริงหรือนายแค่แกล้งเล่นเนี่ย? นั่นคือความรู้สึกของเด็กสาวที่ชอบนายนะ’ แต่ครอสมาร์ก็ไม่แสดงให้เย่ฉางรับรู้ว่า จีน่าแอบชอบเขาอยู่ ทั้งสองคุยกันสักพักก่อนที่จะบอกลากัน เย่ฉางออกจากโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ และเดินไปที่หุบเขาเทพธิดา เขาโดยสารรถสาธารณะจากเมืองแบล็กร็อคเพื่อไปที่หมู่บ้านบาล และได้เห็นใบประกาศที่เวที ขณะนี้มีการจัดตั้งรถบัสขึ้นมาที่ท่าเรือใต้ดิน แม้ว่าจะสามารถขึ้นรถบัสได้เพียงแค่ 50 คนเท่านั้น แต่เย่ฉางก็เห็นว่าด้านในเบียดเสียดกันแน่นมาก ในทุกๆหน้าต่างรถ มีคนครึ่งหนึ่งห้อยออกมานอกหน้าต่างรถ เนื่องจากไม่มีที่ว่างมากพอสำหรับพวกเขา เมื่อได้ยินคำพูดเหลวไหลในรถบัส เขาคาดว่ามีผู้คนอย่างน้อยในรถบัสคนนี้ถึง 100 คน เขาจึงเลือกที่จะเดินไปแทน

ณ.วิหารเทพธิดาในหุบเขาเทพธิดา

เย่ฉางได้เรียกสามเทพธิดาออกมา และพูดคุยเกี่ยวกับผลงานแสดงในอีกสองวัน เขาจะใช้สิ่งนี้ในการเปิดตัววิหารเทพธิดา

ไม่นานนัก เย่ฉางก็ส่งเสื้อผ้าและสิ่งต่างๆให้กับเทพธิดาทั้งสามสวมใส่เพื่อทำการฝึกซ้อม เขายังคงให้คำแนะนำแก่พวกเธอเกี่ยวกับวิธีการดึงดูดผู้คนให้มากยิ่งขึ้น และเทพธิดาทั้งสามก็ได้เรียนรู้ถึงท่าที, วิธีการ และความรู้ที่เย่ฉางรวบรวมมาจากนิตยสารแฟชั่น และนิตยสารโป๊ เทพธิดาทั้งสามรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้รับคำแนะนำจากเย่ฉาง