บทที่ 732 ผลัดแผ่นดิน

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 732 ผลัดแผ่นดิน

ผู้ที่เดินตามหลังหัวหน้าหนุ่มคนนั้นเป็นสมาชิกนักรบสามสิบคน สายตาของพวกเขาดูเฉียบคม และสีหน้าของพวกเขาช่างดูเคร่งขรึม

ในมือของพวกเขาถือปืน และมีมีดห้อยอยู่ที่เอว พวกเขาจู่โจมเข้ามาเหมือนกับเสือชีต้าฝูงหนึ่ง และต่างกระจายตัวออกไปราวกับได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี พวกเขาเข้าห้อมล้อมทหารกล้าตายนับร้อยคนของหยางต้าวเอาไว้ตรงกลาง

หน่วยกล้าตายร้อยกว่าคน ต่างพากันตกตะลึงงุนงง

ที่พวกเขาได้ชื่อว่าเป็นทหารกล้าตาย ก็แค่อาศัยพลังความกล้าหาญอย่างไม่กลัวตาย เพื่อข่มขู่อีกฝ่ายและจัดการกับคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น

ตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับสมาชิกหน่วยรบพิเศษของมังกรซ่อนรูป จะทำยังไงต่อหล่ะทีนี้?

นัยหนึ่งก็มีความเหลื่อมล้ำทางสถานภาพ พวกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ทางการ ส่วนพวกเขาเป็นเพียงอันธพาลที่ไม่อาจเผยตัวตนต่อสาธารณชนได้

อีกนัยหนึ่ง สิ่งที่เตรียมอยู่ในมือของพวกเขา แมร่งคืออาวุธปืนที่ใช้สำหรับผู้ชำนาญโดยเฉพาะ!

แมร่งพร้อมจะบดขยี้จากทุกทิศทุกทาง ถ้าแกกล้าตุกติก เขาก็กล้าที่จะยิงแกทิ้งเหมือนกัน

สีหน้าของพวกเขาต่างตื่นตระหนก และรีบวางมีดยาวในมือลงทันที

ส่วนเถ้าแก่ที่เหลือพวกนั้น ก็ตกตะลึงกันไปตามๆ กัน ทุกคนพร้อมใจกันมองไปยังหยางต้าวกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

หยางต้าว หัวเราะเสียงดัง

เขายิ้มให้กับเหล่าหัวหน้าพวกนั้น “น้องชายคนนี้หน้าตาไม่คุ้นเลย ไม่เคยทำงานที่สำนักงานใหญ่มาก่อนหรือ?”

“ไม่ทราบว่าฉันควรจะเรียกแกว่ายังไงดี?”

หัวหน้าตอบอย่างนิ่งเรียบว่า “ฉินชวน หัวหน้าเล็กแห่งมังกรซ่อนรูปทางตะวันตก”

“ที่แท้ก็คือหัวหน้าฉินนี่เอง” แค่ได้ยินว่าเป็น หัวหน้าเล็ก สีหน้าของหยางต้าว ก็มีความโอหังอวดดีขึ้นมา

ปกติเวลาที่เขาคบค้าสมาคมกับมังกรซ่อนรูป มักจะรู้จักแต่กับพวกระดับหัวหน้ารองขึ้นไป ส่วนระดับหัวหน้าเล็ก มันไม่เคยอยู่ในสายตาเขาเลยจริงๆ

“หัวหน้าฉิน แกนำบรรดาพี่น้องมามากมายขนาดนี้ จะมาเป็นหน่วยกองหน้าหรือยังไง?”

“กองกำลังใหญ่โตอย่างนี้ ดูเหมือนว่าผู้ที่มาเยือนในวันนี้ ต้องเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่มากแน่ๆ”

“ทุกท่าน เตรียมตัวให้พร้อม อีกสักครู่เรามาร่วมต้อนรับหัวหน้ามังกรซ่อนรูปไปพร้อมๆ กัน!”

ก่อนหน้านี้ เขาได้คุยกับว่านเป่าผ่านทางโทรศัพท์ ว่านเป่า เคยรับปากแล้วว่า เขาไม่เพียงแต่จะเข้าร่วมเท่านั้น แต่จะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเชิญไป๋เลี่ยนมาเข้าร่วมด้วย

ในฐานะพี่ใหญ่แห่งมังกรซ่อนรูปตะวันตก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า สถานะของไป๋เลี่ยนนั้นสูงส่งมากแค่ไหน

เมื่อหยางต้าวเห็นฉินชวนนำผู้มีฝีมือมากมายมาเช่นนี้เพื่อทำการกวาดล้าง เขาก็รู้แล้วว่า ยังไงไป๋เลี่ยนก็ต้องมาอย่างแน่นอน

เขาจะรู้สึกดีใจมาก หากคนของเขาลงมือฆ่าฉินเทียนและคนอื่นๆ ด้วยตัวเอง แต่นั่นก็จะกลายเป็นคำครหาของชาวบ้าน

แต่หากปล่อยให้มังกรซ่อนรูปลงมือเอง มันก็จะสมเหตุสมผลอย่างไม่มีที่ติ และอนาคตก็คงไม่มีใครกล้าที่จะไม่เห็นด้วยกับหยางต้าว

เขามั่นใจว่ามังกรซ่อนรูปต้องอยู่ข้างเขาอย่างแน่นอน

เพราะพวกเขามีผลประโยชน์ร่วมกัน ในอนาคตหากเขาได้รับตำแหน่งผู้นำ เขาจะระดมเงินบริจาคจากเหล่านักธุรกิจ เพื่อสนับสนุนเลี้ยงดูมังกรซ่อนรูป

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ทุกคนต่างมีปฏิกิริยา สีหน้าดูมีความสุข เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่จะได้รู้จักกับผู้นำของมังกรซ่อนรูป

พวกเขารีบไปเข้าแถวอยู่ด้านหลังของหยางต้าว และหันหน้าไปทางประตูใหญ่ด้วยใบหน้าที่แสดงความเคารพ

รถยนต์หงฉีคันหนึ่งค่อยๆ จอดตรงหน้าประตู มีชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งลงมาจากประตูฝั่งข้างคนขับ ดูเหมือนว่าเขาจะอายุไม่น้อยแล้ว แต่ลักษณะท่าทางแบบนั้น ดูแล้วยังดุดันโหดเหี้ยมมากกว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่เสียอีก

ถึงขนาดว่าคนที่ได้เห็นเขา น้อยคนมากที่จะสนใจกับอายุของเขา

สีหน้าของเขาเคร่งขรึม สายตาอันแหลมคมกวาดมองไปรอบๆ และหยุดชะงักลงที่ใบหน้าของหยางต้าว พร้อมกับรัศมีแห่งแรงอาฆาต

หัวใจของหยางต้าวเต้นเร็วจนไม่เป็นจังหวะ

ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า มังกรซ่อนรูปจะมีผู้มีฝีมือที่เก่งกาจถึงเพียงนี้ ช่วงเวลาแป๊บเดียวที่ประสานสายตากัน เขาก็รู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ เขามีความหยิ่งทะนงกับความสามารถของตัวเอง แต่ตอนนี้กลับไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยว่าจะเอาชนะชายผู้นี้ได้

ถูกต้อง เขาผู้นี้ต้องเป็นบอดี้การ์ดข้างกายของซีจุนแน่นอน และมีเพียงซีจุนเท่านั้นที่คู่ควรกับบอดี้การ์ดระดับพระกาฬนี้

เมื่อคิดได้แล้ว เขาก็รีบก้มหัวลงและพูดเสียงดังว่า “น้อมรับซีจุน!”

เฟ่ยเทียนอิงปล่อยเสียงฮึออกมาด้วยความเย็นชา จากนั้นก็เปิดประตูรถด้านหลัง

ว่านเป่าและไป๋เลี่ยนเดินลงมาจากด้านในรถ สีหน้าของพวกเขาดูซีดขาวเล็กน้อย และในแววตามีความโกรธแค้น

“ซีจุน!”

“กระผมหยางต้าว มีเรื่องสำคัญที่จะรายงาน!”

เมื่อเห็นว่าเป็นไป๋เลี่ยนจริงๆ หยางต้าวรู้สึกดีใจอย่างคาดไม่ถึง เขารีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้น

เขาแสดงความเคารพต่อหน้าของว่านเป่ากับไป๋เลี่ยนและพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “เรียนซีจุน มีนักโทษหลบหนีของมังกรซ่อนรูปอยู่ที่นี่ ชื่อว่าฉินเทียนกับ เถียโถว”

“พวกเขาแอบอ้างใช้ชื่อของวิหารเทพ และใช้ประโยชน์จากเรื่องของตระกูลหู จงใจก่อกวนสร้างความวุ่นวาย และมีเจตนาที่จะยึดครองฮั่นจง!”

“เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของฮั่นจง กระผมกำลังจะจัดการกับพวกเขา!”

“ท่านกับหัวหน้าใหญ่มาทันเวลาพอดี ได้โปรดสั่งการ ลงโทษประหารชีวิตพวกเขาด้วยเถิด!”

พูดจบเขายังกระซิบเบาๆ ต่ออีกว่า “ซีจุนกับหัวหน้าใหญ่ได้โปรดวางใจ หลังจากที่กระผมรวมฮั่นจงได้แล้ว จะปรนนิบัติพวกท่านเป็นอย่างดีแน่นอน”

ไป๋เลี่ยนตอบอย่างเย้ยหยันว่า “จริงหรือ?แกเตรียมจะปรนนิบัติพวกเรายังไงหล่ะ?”

หยางต้าว ตะลึงไปชั่วขณะ เขารู้สึกว่าสีหน้าของไป๋เลี่ยนมีบางอย่างไม่ปกติ แต่เขาก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก

“ซีจุนกับหัวหน้าใหญ่นำบรรดาพี่น้องมังกรซ่อนรูปตะวันตก ปกป้องฮั่นจง มีผลงานอันใหญ่หลวง และเพื่อเป็นการแสดงถึงความจริงใจ กระผมตัดสินใจแล้วว่าจะก่อตั้งมูลนิธิขึ้น”

“และในทุกๆปีจะมอบทรัพย์สินอย่างน้อยพันล้านให้กับทางมังกรซ่อนรูป เพื่อเป็นการตอบแทนเหล่าบรรดาพี่น้องทั้งหลาย!”

ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขายังกล้าพูดเรื่องสินบนอย่างโจ่งแจ้ง เห็นได้ชัดว่า เขาถือเอาไป๋เลี่ยนกับว่านเป่าให้เป็นคนของเขาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

ไป๋เลี่ยนมองว่านเป่าและพูดอย่างเย้ยหยันว่า “หัวหน้าใหญ่ว่าน ตลอดเวลาที่ผ่านมา แกเป็นคนติดต่อเขาเองมาโดยตลอดใช่ไหม?”

“ข้อเสนอของเขาในตอนนี้ แกคิดเห็นว่ายังไงบ้าง?”

ชายผู้นี้ จนถึงทุกวันนี้ยังคงไม่ลืมเรื่องที่ว่านเป่าหักหลังเขา แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขากลับรู้สึกว่าที่เขามีทุกวันนี้ได้ ก็เป็นเพราะว่านเป่าอีกเช่นกัน

ว่านเป่ายุยงส่งเสริมให้เขารับสินบน

ว่านเป่าหน้าแดงและเดินก้าวขึ้นไป

“หัวหน้าใหญ่ได้โปรดออกคำสั่ง!” หยางต้าวคิดในใจว่าเรื่องคงสำเร็จแล้ว เลยรีบก้มหัวลงอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น

ว่านเป่ากัดฟัน ง้างมือขึ้นและตบลงไปที่หน้าของหยางต้าวด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี

เพี๊ยะ!

ภายใต้พละกำลังมหาศาลนั้น แม้ว่าหยางต้าวจะเป็นคนน้ำนิ่งไหลลึกไม่แสดงออกใดๆ แต่รอบนี้เขาโดนตบจนโซซัดโซเซถอยออกไปเลยทีเดียว

เขาเอามือปิดหน้า และรู้สึกงุนงงไปชั่วขณะ

เสียงตบหน้าดังสนั่น สั่นสะเทือนไปทั่ว

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ทำไมจู่ๆหัวหน้าใหญ่ของมังกรซ่อนรูปถึงได้แสดงอาการโมโหแบบไม่ไว้หน้าใครเช่นนี้?

ทุกคนต่างพากันตกตะลึงงุนงงกันไปหมด

ว่านเป่าชี้ไปทางหยางต้าวและด่าอย่างสาดเสียเทเสียว่า

“คนแซ่หยาง มึงมันไม่ใช่คน กล้าดียังไงมาติดสินบนพวกเรา!”

“มึงคิดว่ามังกรซ่อนรูปของพวกกูเป็นอะไรกันแน่?”

“จะบอกอะไรให้นะ มึงมันก็แค่คนอกตัญญู สัตว์เดรัจฉานที่ไร้จิตสำนึก!”

“วันนี้กูจะลงโทษประหารชีวิตมึง!”

“เด็กๆหยางต้าว เว่ยเทียนเหอและจ้าวคง สามคนนี้ทำร้ายผู้มีพระคุณ เป็นเหตุให้ตระกูลหูต้องตายแบบยกครัว สมควรลงโทษด้วยวิธีฆ่าหั่นศพ!”

“รีบเข้ามาจัดการให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

ขณะที่เขากำลังด่ากราดอยู่นั่น เขาก็ได้แอบมองมายังฉินเทียนด้วย นัยหนึ่งเพื่อระบายความโกรธในใจ อีกนัยหนึ่งก็เพื่อแสดงให้ฉินเทียนได้เห็น

ถึงอย่างไร ในตอนนี้เขากับไป๋เลี่ยน ก็ตกเป็นเชลยของเขาไปแล้ว พวกเขาจะอยู่หรือตาย ขึ้นอยู่กับฉินเทียนเท่านั้น

“มึงพูดอะไรหน่ะ?” เมื่อหยางต้าวเห็นท่าทีของว่านเป่า จิตใจของเขาก็รู้สึกกระวนกระวาย ราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงมา

ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้แล้วว่า สถานการณ์ในตอนนี้มันไม่สู้ดีนัก

“หยางต้าว มึงมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

“เมื่อสามปีก่อนมึงทำร้ายคนตระกูลหูยังไง ยังไม่รีบพูดความจริงออกมาอีกหรือ!”

ฉินชวนโบกมือ สมาชิกจำนวนหนึ่งก็รีบเข้ามาล้อมตัวหยางต้าวเอาไว้ทันที

ผลัดแผ่นดินแล้ว!

ฮั่นจงกำลังจะผลัดแผ่นดินแล้วจริงๆ!

ทุกอย่างที่ตนทุ่มเททำด้วยความยากลำบาก สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นคนผิด

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”

“เจ้าบ้านหยาง ทำยังไงกันดีหล่ะทีนี้?” เว่ยเทียนเหอกับจ้าวคง ถามด้วยสีหน้าอันหวาดกลัว

พวกเขาอาจจะมีวิธีทางธุรกิจบางอย่าง แต่สถานการณ์ในตอนนี้ วิธีทางธุรกิจแบบนั้น มันใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ทำได้แค่อาศัยหยางต้าวและเลือกใช้วิธีแบบยุทธภพ