บทที่ 731 หลักฐาน

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 731 หลักฐาน

อะไรนะ?

หวังเหล่าหู่?

ทันทีที่ได้ยินชื่อที่คุ้นเคยแต่รู้สึกแปลกหน้า ทุกคนต่างก็ตะลึงงุนงงกันไปหมด

โดยเฉพาะหยางต้าว เว่ยเทียนเหอ และจ้าวคง

หวังเหล่าหู่เขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ? เจ้าอ้วนหมีเล่อลูกน้องมือหนึ่งของหยางต้าวเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง ช่วงเวลาสุดท้าย หวังเหล่าหู่ยังยอมพลีชีพด้วยการระเบิดตัวเอง และตายไปพร้อมกับเจ้าอ้วนหมีเล่ออย่างไม่คิดเสียดายชีวิต

เขาอยู่ท่ามกลางกองเพลิง และกลายเป็นเถ้าถ่านไปนานแล้วนะ

เรื่องนี้ ไม่เพียงแค่ชิงเฉินเป็นคนรายงานเองเท่านั้น แต่หยางต้าวยังได้รับการยืนยันจากว่านเป่าหัวหน้าใหญ่ของมังกรซ่อนรูปอีกด้วย

หยางต้าวยังจ่ายเงินรางวัลให้ว่านเป่า ไปอีกห้าสิบล้านเพื่อเป็นการอุดปากของว่านเป่า

แล้วตอนนี้ ทำไมจู่ๆเถียโถวถึงได้เอ่ยชื่อหวังเหล่าหู่ขึ้นมาอีกหล่ะ?

“คนแซ่หยาง ความตายมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ยังไม่ยอมรับผิดอีกหรือ!”

“ไอ้สารเลว วันนี้พวกแกไม่ว่าใครก็อย่าคิดที่จะหนีไปได้เลย!”

เสียงคำรามด้วยความโกรธ ดังมาจากบ้านไม้หลังหนึ่ง

กลุ่มคนที่นำโดยฉีลิ่วและโหวชง ต่างวิ่งกรูกันออกมา

ชายรูปร่างใหญ่คนหนึ่งในกลุ่มของพวกเขา นั่นก็คือหวังเหล่าหู่นั่นเอง

“เฮียหู่? เฮียหู่จริงๆ !”

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ตามรายงานบอกว่า เฮียหู่เสียชีวิตในอุบัติเหตุไฟไหม้ที่บ้านพักคนชราไปแล้วไม่ใช่หรือ?”

“เฮียหู่ยังไม่ตาย ช่างเป็นเรื่องที่ดีเสียจริง!”

“ไม่สิ ทำไมเฮียหู่ถึงอยู่กับพวกเขาหล่ะ?”

สถานการณ์เกิดความโกลาหลขึ้นมาทันที

จะว่าไป จักรพรรดิใต้ดินในฮั่นจงอย่างหวังเหล่าหู่ ก็เป็นคนที่มีความสามารถ แถมยังถือว่าเป็นคนที่มีคุณธรรมอีกด้วย เถ้าแก่หลายคนในที่นี้ ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับเขาอยู่ไม่น้อย

ไม่กี่วันมานี้ พวกเขาก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก เมื่อได้ทราบข่าวว่าหวังเหล่าหู่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตในบ้านพักคนชรา

มีคนวิ่งเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้น จนกระทั่งเห็นสีหน้าของ หวังเหล่าหู่ ที่ผิดปกติไป เขาจึงหยุดชะงักลงด้วยความตกใจ และไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อดี

สีหน้าของหวังเหล่าหู่ดูหม่นหมอง แววตาสีแดงเลือดทั้งคู่จ้องมองไปทางหยางต้าว

“เจ้าบ้านหยาง ยิ่งปืนนัดเดียวได้นกสองตัวช่างเป็นแผนการที่ดีเสียจริง”

“ว่ากันว่าหากไม่ยอมเสียลูก ย่อมไม่ได้หมาป่ามา แต่ลูกคนนั้นคือลูกของฉันเลยนะ!”

“ถ้าแกจะให้ฉันจัดการกับฉินเทียน บอกกันตรงๆ ก็ได้หนิ! ทำไมต้องทำร้ายลูกของฉันด้วย!”

สีหน้าของหยางต้าว ดูแย่จนดูไม่ได้เลย!

จนถึงตอนนี้ เขาก็รู้แล้วว่ากำลังถูกหลอก ความโกรธที่หาทางระบายไม่ได้ เขามองไปยังชิงเฉินที่อยู่ด้านหลังของจ้าวคง เขากัดฟันและพูดว่า “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

“แกเห็นเองกับตาว่าเขาตายแล้วไม่ใช่หรือ?”

จ้าวคงมีท่าทีรีบร้อนและตอบกลับไปว่า “ชิงเฉิน นี่มันเรื่องอะไรกันหน่ะ?”

“ทำไมข้อมูลของแกถึงได้ผิดพลาดแบบนี้?”

สายตาของผู้คน ต่างจับจ้องไปที่ใบหน้าของชิงเฉิน

ชิงเฉินเดินออกมาจากฝูงชนโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ เขาเดินมุ่งไปทางเบื้องหน้าของฉินเทียน คุกเข่าลงและพูดเสียงดังว่า “รายงานปฏิบัติการภารกิจลุล่วงแล้วครับ!”

ฉินเทียนยิ้มและตอบกลับไปว่า “ขอบคุณที่ทำงานด้วยความลำบาก กลับเข้าประจำทีมได้”

“รับทราบ!”

ชิงเฉินยืนขึ้นแต่ไม่ได้กลับเข้าทีมทันที เขาตะโกนขึ้นว่า “ตอนนี้ ฉันขอเปิดโปงความชั่วร้ายของจ้าวคง!”

“เมื่อสามปีก่อน เขากับเว่ยเทียนเหอและหยางต้าว ได้ร่วมมือกันลอบวางเพลิงและคร่าชีวิตคนตระกูลหูแบบยกครัว!”

อะไรนะ?

ราวกับลูกระเบิดขนาดใหญ่ ได้ระเบิดตู้มขึ้นแล้วทันที

“ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบ!”

“อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของเขา!”

“ชิงเฉิน แกมันไอ้คนสารเลว เสียแรงที่ฉันพาแกกลับมาจากต่างประเทศและชุบเลี้ยงแกมานานหลายปี คิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายแกกลับมาแว้งกัดเจ้าของแบบนี้ได้!”

“แกบอกมาสิว่า ฉินเทียนพวกเขาให้แกไปเท่าไร แกถึงได้กล้าปั้นเรื่องใส่ร้ายฉันอย่างนี้!”

“แกมีหลักฐานอะไร?”

ชิงเฉินกัดฟันไม่โต้ตอบ เพราะเขาเองก็ไม่มีหลักฐานจริงๆ

ฉินเทียนโบกมือ ให้ชิงเฉินถอยไป เขาพูดอย่างเย้ยหยันว่า “จะเอาหลักฐานใช่ไหม?”

“เฮียหู่ นายเล่าออกมาที”

เมื่อเห็น หวังเหล่าหู่ แล้ว หยางต้าวและคนอื่นๆ ก็เริ่มประหม่าขึ้นมาอีกครั้ง

สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวมากที่สุด ก็คือมีดในมือของหวังเหล่าหู่ เล่มนั้น

หวังเหล่าหู่โกรธจนยับยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ได้ยินและได้เห็นในค่ำคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนออกมาอย่างเสียงดัง

แทงใจทุกคำพูดจริงๆ!

เมื่อฟังจนจบแล้ว ทุกคนในที่นี้ต่างพากันตกตะลึงกันไปหมด

ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ทั้งสามคนหยางต้าว เว่ยเทียนเหอ จ้าวคง ก็คงเป็นคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีที่ไม่ต่างอะไรกับหมูกับหมาแน่นอน!

พวกเขามองไปยังสามคนนั้น ด้วยความรู้สึกที่ราวกับคนแปลกหน้า

เมื่อต้องเผชิญกับสายตาเช่นนี้แล้ว หัวใจของเว่ยเทียนเหอและจ้าวคง ก็เต้นแรงจนหน้าแดงไปหมด

พวกเขาถามอย่างร้อนใจว่า “เจ้าบ้านหยาง เอายังไงต่อดี?”

“แกก็รีบเบี่ยงเบนความสนใจสิ”

“ไม่งั้นก็ให้คนของแกฆ่าพวกมันซะ พอเรื่องใหญ่สิ้นสุดลง ปัญหาอื่นๆ ก็จะพลอยจบตามลงไปด้วย!”

อย่างน้อยตอนนี้พวกเขายังได้เปรียบในเรื่องของจำนวนคนอยู่ ตราบใดที่ออกคำสั่ง เชื่อว่าฉินเทียนและคนอื่นๆ คงยากที่จะรับมือ

ฆ่าพวกเขาซะ คนตายไม่สามารถให้การได้อยู่แล้วนี่!

ตรงกันข้าม หยางต้าวกลับเงียบสงบลง เขามองไปยัง หวังเหล่าหู่และพูดอย่างเย้ยหยันว่า “นี่มันก็แค่เรื่องไร้สาระ!”

“หวังเหล่าหู่ แกโกรธพวกเราที่ลูกชายของแกเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เลยสร้างเรื่องโกหกใส่ร้ายพวกเราอย่างนั้นหรือ?”

“ไหนหล่ะหลักฐาน?”

“เรื่องโกหกใครๆก็พูดได้ ถ้าไม่มีหลักฐาน มันก็แค่เรื่องผายลมเท่านั้น!”

“แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ ถ้าวันนี้แกหาหลักฐานมาแสดงไม่ได้หล่ะก็ ฉันจะถามแกกลับบ้าง โทษฐานที่แกสมรู้ร่วมคิดกับคนภายนอก สร้างความวุ่นวายในฮั่นจง!”

“เพื่อความมั่นคงและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของฮั่นจง อย่าหาว่าฉันโหดเหี้ยมอำมหิตก็แล้วกัน!”

หลังจากพูดจบ รัศมีบนตัวของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

รัศมีการสังหารอย่างบ้าคลั่ง ดุเดือดพลุกพล่าน

ราวกับปีศาจสิงร่างอย่างไรอย่างนั้น

ตอนนี้ เขาต้องการลงมือฆ่าคนแล้วจริงๆ!

เพื่อบรรลุเป้าหมาย เขาไม่ลังเลเลยที่จะฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ ในขณะเดียวกัน เขาเองก็เชื่อว่าเขาทำแบบนั้นได้จริงๆ

นานแล้วที่ไม่ได้ลงมือแบบนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย ราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยกลิ่นอายของคาวเลือด

หวังเหล่าหู่อดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ แววตาของเขาปรากฏความตื่นตระหนกขึ้น

พูดตามตรง เขาเองก็รู้สึกกลัวหยางต้าวอยู่บ้างเหมือนกัน

“คุณฉิน นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

“ยังไม่ได้ของมาอีกหรือ?” เขาถามด้วยความกังวล

ฉินเทียนขมวดคิ้ว

ก่อนหน้านั้นเขากับเถียโถวและคนอื่นๆ รออยู่ในบ้านไม้ โดยตั้งใจให้หูรั่วหลันลงมือเสียก่อน จุดประสงค์ก็เพื่อยื้อเวลาออกไปก่อน

เนื่องจากเหลิ่งหยุนเดินทางไปหาคนรักของหวังเหล่าหู่ทางตอนเหนือเพื่อนำหลักฐานไฟล์เสียงกลับมา แต่จนบัดนี้เขายังกลับมาไม่ถึงเลย

ก่อนหน้านี้ฉินเทียนโทรศัพท์หาเหลิ่งหยุน เธอบอกว่าเขาได้ไฟล์เสียงแล้ว และกำลังรีบกลับมา แต่เมื่อครู่ฉินเทียนโทรศัพท์ไปหาเหลิ่งหยุนอีกครั้ง ปรากฏว่ามือถือของเขาปิดเครื่องไปแล้ว

ฉินเทียนรู้ดีว่า ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ

แต่เขาก็ยังเชื่อว่า ด้วยความสามารถของเหลิ่งหยุน เธอจะต้องนำหลักฐานกลับมาสำเร็จได้อย่างแน่นอน

ตอนนี้ เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น

ตอนนี้ยังหาหลักฐานมายืนยันไม่ได้ อาศัยแค่คำสารภาพของหวังเหล่าหู่ พวกเขาก็คงยังทำให้คนอื่นๆเชื่อใจไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น หยางต้าวยังแว้งกัดเรื่องที่หวังเหล่าหู่สมรู้ร่วมคิดกับคนภายนอก จงใจใส่ร้ายพวกเขา เพื่อแก้แค้นให้กับลูกชายของตน

ช่างแยกแยะถูกผิดไม่ได้เอาเสียจริง

“ไม่มีหลักฐานใช่ไหมหล่ะ?”

“ทุกท่าน เห็นกันแล้วใช่ไหม? พวกเขาร่วมมือกัน จงใจก่อกวน มีเจตนาร้ายแอบแฝง!”

“พี่น้องทั้งหลาย ฟังคำสั่งของฉัน!”

“เพื่อฮั่นจง ฆ่าพวกเขาให้หมดซะ!”

บรรดาอันธพาลมากกว่าร้อยคนต่างตะโกนว่า “เพื่อฮั่นจง ฆ่าพวกเขาให้หมดซะ!”

“ฆ่า!!!”

พวกเขาชักมีดออกมา ตะโกนอย่างพร้อมเพรียง และกรูกันไปข้างหน้า

สีหน้าของชิงเฉินเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เขารีบชักมีดออกมา เตรียมที่จะต่อสู้

เขารู้ถึงความน่ากลัวของคนเหล่านี้ดี คนเหล่านี้เป็นทหารกล้าตายที่ทางหยางต้าวซุ่มฝึกฝนมาอย่างลับลับ ร้อยกว่าคนต่างกรูกันเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต ไม่ว่าฝีมือของเขาจะเก่งกาจสักแค่ไหน ก็คงยากที่จะรอดออกมาได้

ดูแล้ว ความชุลมุนยิ่งใกล้เข้ามาทุกที!

ช่วงเวลาที่สำคัญ ปัง!

ปังปังปัง!

จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัดมาจากลานด้านนอก

ทุกคนต่างพากันตกใจ และหันหน้าไปมองด้วยความหวาดกลัว

“มังกรซ่อนรูปอยู่ที่นี่ ใครกล้าลงมือ!”

“ยังไม่รีบวางอาวุธลงอีก!”

หัวหน้าหนุ่มคนหนึ่ง เป็นผู้นำเดินเข้ามา