ตอนที่ 71 ณ บ่อน้ำกลางแจ้ง

ซ่อนรักเคียงบัลลังก์

“ไม่รู้ว่าชายาจะมาที่นี่”

 

 

น้ำเสียงต่ำอันมั่นคงราวกับผู้สุขุมเหนือโลกทั้งหล้า น้ำเสียงที่ได้ยินอยู่ตลอดเวลาแต่กลับไม่รู้สึกคุ้นชินขึ้นแม้แต่น้อย เป็นเสียงที่ไม่ได้ยินอีกเลยหลังจากมาถึงที่ตำหนักกงรีมก

 

 

กโยซึลเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหว

 

 

“ฝ่าพระบาท”

 

 

ฝ่าพระบาท ฮวางแทจา เขาคือบีพาอัน

 

 

บีพาอันอยู่ที่นี่ เหนือไอน้ำหนาแน่น เงาร่างมัวๆ จางๆ นั้นคือเขา ทว่าที่เหนือความคาดหมายก็คือบีพาอันนั้นเข้ามาหากโยซึลก่อน ไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่เขาเข้ามาหานางก่อน เป็นช่วงเวลาที่กโยซึลไม่เคยนึกฝัน เสียงแหวกน้ำพร้อมกับน้ำร้อนที่สั่นกระเพื่อม คลื่นน้ำค่อยๆ ขยายยาวมาจนกระทบผิวของกโยซึล ทั้งรู้สึกจั๊กจี้ ทั้งยิ่งรู้สึกขนลุก เป็นความรู้สึกขนลุกแบบแปลกๆ ที่แตกต่างจากในยามหวาดกลัว

 

 

“แม่นมบอกกับหม่อมฉันว่าที่นี่มีบ่อน้ำกลางแจ้ง วันนี้หม่อมฉันได้แช่น้ำร้อนแค่ตอนกลางวันเท่านั้น ก่อนนอนก็เลยอยากจะแช่อีกสักรอบ…”

 

 

ไม่รู้เพราะตื่นเต้นหรืออย่างไร กโยซึลถึงได้พูดไม่หยุด มีแต่คำแก้ตัวออกมาเรื่อยๆ

 

 

ฉวัก เสียงแหวกน้ำดังขึ้นอีกครั้ง กโยซึลหันซ้ายหันขวามองรอบด้าน ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรสุดท้ายนางมองลงข้างล่าง แล้วก็ได้พบกับผิวขาวใต้น้ำร้อนที่ทะลุออกมาจากชุดชั้นในเปียกบาง ใต้ชั้นในกึ่งโปร่งแสงนั้นคือผิวขาวราวกับเปลือกไข่แสนเย้ายวน เผยให้เห็นภาพที่ยั่วยวนเสียยิ่งกว่าร่างเปลือยเปล่าด้วยซ้ำ

 

 

ทั้งที่คิดว่านางเป็นแค่เด็กน้อยแท้ๆ ความจริงแล้วนางก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง

 

 

ที่บ่อน้ำกลางแจ้ง ลมเย็นพัดโชยมาพร้อมกับกลิ่นเนื้ออ่อนของสตรี ฉวัก บีพาอันเดินเข้าไปใกล้อีกก้าว ไอน้ำมลายหายไป ร่างกำยำของชายชาตรีค่อยๆ โผล่ขึ้นตรงหน้า เสื้อที่บางเห็นเนื้อในทำเอา

 

 

กโยซึลอับอายจนต้องยกมือขึ้นปิดบังสาบเสื้อตรงหน้า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบบนี้จะเรียกว่ายังใส่เสื้อได้อยู่หรือไม่ ยิ่งเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายกำลังมองอยู่ กโยซึลก็แหงนหน้าขึ้นทั้งใจที่เขินอาย

 

 

พรึ่บ รู้ตัวอีกทีบีพาอันก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว กโยซึลเบิกตากว้าง ตากลมโตนั้นมองไปที่บีพาอันที่ไม่ได้มีท่าทีหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

 

 

“คือ…หม่อมฉัน” กโยซึลพูดตะกุกตะกัก รู้อย่างนี้ก้มหน้าไว้ดีกว่า

 

 

บีพาอันอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า แม้จะมีผ้าพันปิดอยู่บ้างตรงช่วงเอว แต่ท่อนบนกลับไร้ซึ่งอาภรณ์เผยให้เห็นกล้ามเนื้ออกแกร่งแน่น บนศีรษะประดับไว้เพียงซังทูกวัน เส้นผมเปียกปอนสีน้ำเงินไหลไปตามเรือนร่าง

 

 

เป็นครั้งแรกที่กโยซึลได้เห็นบุรุษถอดเสื้อ

 

 

กโยซึลไม่รู้ว่าควรจะวางตาไว้ตรงไหน จึงได้แต่กลอกตาหลุกหลิกไปมา แต่ถึงอย่างนั้นหางตาก็ยังมักจะเหลือบไปมองทางนั้นเสมอ เหลือบไปมองใบหน้าเรียบตึงของบีพาอันหนึ่งครั้ง เหลือบไปเห็นลูกกระเดือกที่นูนออกมา และกายกับไหล่กำยำหนึ่งครั้ง เหลือบไปเห็นอกแกร่งกับกล้ามเนื้อเรียงตัวเป็นก้อนสวยพอดิบพอดีนั้นอีกครั้ง

 

 

ทั้งที่ใบหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงและสายตาเริ่มหลุกหลิกมากขึ้นเรื่อยๆ แต่กโยซึลก็ยังแอบมองเรือนร่างของบีพาอันไม่หยุด

 

 

“ข ขออภัยเพคะ หม่อมฉันไม่ทราบว่าพระองค์อยู่…”

 

 

กโยซึลก้มหน้าตอบกลับอย่างลุกลี้ลุกลน นางดึงเสื้อสาบเสื้อขึ้นปิดบังร่างกาย รีบกล่าวทักทายแล้วถอยหลังไปอย่างรีบร้อน สติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวจนสุดท้ายก็พลาดลื่นล้ม

 

 

ตูม! มือตะกุยตะกายทำให้น้ำกระจายออกมา นางทรงตัวไม่ได้ หลับตาแน่นเพราะคิดว่าสุดท้ายตัวเองจะต้องจมลงไปในน้ำแน่ๆ ทว่าแทนที่จะต้องจมไปในบ่อน้ำร้อน กลับมีมือแกร่งเข้ามาจับข้อมือเปียกของนางไว้

 

 

“ระวังด้วย แม้จะมีข้ารับใช้คอยดูแลทำความสะอาดอยู่ตลอด แต่ถึงอย่างนั้นในน้ำก็ยังลื่นอยู่ดี”

 

 

เสียงทุ่มต่ำดังขึ้นที่ข้างหู กโยซึลตาโตหันกลับไปอย่างใจหายใจคว่ำ ที่เธอเห็นคือหน้าของบีพาอันที่อยู่ใกล้จนปลายจมูกแทบชนกัน กโยซึลสูดลมหายใจเข้าลึก ขาเริ่มอ่อนแรงแต่ครั้งนี้ก็มือมืออุ่นมาประคองที่เอวไว้

 

 

“เราบอกให้ระวัง” บีพาอันโอบเอวกโยซึลเอาไว้พลางพูดเตือนนางเป็นครั้งที่สอง

 

 

กโยซึลตั้งสติไม่ได้เลย ข้อมือขวาของนางอยู่ในกำมือของบีพาอัน ทางซ้ายของเอวก็ถูกแขนของบีอาอันโอบรัดเอาไว้ แผ่นหลังของนางชนติดอยู่กับอกแกร่งของเขาราวกับมีแรงดึงไป นางกลั้นลมไว้ราวกับจะหายใจตามใจตัวเองก็ยังไม่ได้ ทั้งที่ปลายนิ้วก็ยังสั่นโดยไม่รู้ตัว

 

 

เสื้อของกโยซึลแสนจะบาง ตัวของบีพาอันก็เปลือยเปล่า ยามขยับแต่ละทีให้ความรู้สึกไม่ต่างกับเนื้อหนังถูไถกัน แม้จะเข้าพิธีอภิเษกกันมานานแล้วแต่เรื่องถึงเนื้อถึงตัวกับบีพาอันนั้นไม่เคยมีมาก่อน ยิ่งในร่างที่เปลือยเปล่าเช่นนี้แล้ว ให้ตายก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น ทั้งแปลกและไม่คุ้นชิน แถมยังรู้สึกหวาดกลัวเสียด้วยซ้ำ

 

 

บีพาอันหยุดอยู่ในท่านั้นโดยที่ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ส่วนกโยซึลที่อยู่ในอ้อมกอดแกร่งของบีพาอันก็ห่อไหล่หดตัวลง ริมฝีปากสั่นเทาไปหมด

 

 

ติ๋ง ติ๋ง กโยซึลที่ก่อนหน้านี้ลนลานเอาเท้าเตะน้ำ ทำเอาทั้งสองร่างเปียกชุ่มด้วยกันทั้งคู่ หยดน้ำจากปลายเส้นผมไหลผ่านคางลงไปถึงปลายนิ้วมือ และสุดท้ายก็ตกลงน้ำในที่สุด หยดน้ำที่เย็นเฉียบลงเพราะอากาศ ไหลหล่นไปตามร่างกาย ทำเอาทั้งเนื้อทั้งตัวสั่น

 

 

เวลาล่วงเลยไปโดยไร้คำพูดใด มีเพียงเสียงน้ำไหลหยดเป็นระยะ

 

 

ติ๋ง ติ๋ง หยดน้ำใสๆ ทำเอาลมหายคนฟังรู้สึกติดขัด แม้กระทั่งเสียงหายใจก็ยังทำให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดในตอนนี้ ยามที่ติดอยู่ในความตื่นเต้นของบรรยากาศที่เงียบงัน แม้ตัวจะแช่อยู่ในน้ำร้อนก็ยังทำให้ทั้งร่างรู้สึกหนาวเย็นได้

 

 

บีพาอันเป็นฝ่าเริ่มขยับก่อน เขาค่อยๆ วางมือของกโยซึลลงแล้วปล่อยมือออกจากเอวของนางช้าๆ  มือของเขายังรู้สึกร้อนเสียยิ่งกว่าน้ำในบ่อ ในจุดที่เคยมีมือของบีพาอันสัมผัสนั้นกลับกลายเป็นเยือกเย็นอย่างน่าประหลาดทันที

 

 

“ข ขอบพระทัยเพคะ”

 

 

เสียงของกโยซึลยังคงสั่นอยู่ตลอด นางลูบไล้ข้อมือตัวเองพร้อมเดินออกห่างอย่างระมัดระวังไม่ให้ลื่นล้มจนต้องให้บีพาอันเข้ามาประคองอีก

 

 

ทำไมกัน

 

 

หัวใจเต้นตึกตักพร้อมทั้งเกิดคำถาม แม้การจับกโยซึลที่กำลังจะลื่นล้มจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การที่เขาเอาแต่ค้างไว้อยู่ท่านั้นช่างเป็นเรื่องที่กวนใจนัก เหตุใดบีพาอันต้องทำอย่างนั้น ผู้ที่นอกจากเพื่อสืบทอดราชบัลลังก์แล้วก็ไม่มีเหตุผลอื่นที่จะเข้าใกล้กโยซึลอีกเลย เหตุใดถึงต้องกอดนางไว้นานเพียงนั้น

 

 

ในหัวของกโยซึลวุ่นวายไปหมด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกอะไร แต่ตอนนี้นางกลับมองไปที่บีพาอันแล้วใจเต้น ทุกความรู้สึกถาโถมเข้าใส่กโยซึลในช่วงเวลาสั้นๆ

 

 

ฝ่าพระบาทเองก็ทรงจะรู้สึกอายเหมือนกันไหมนะ

 

 

กโยซึลเริ่มคิดเองเออเอง หัวใจที่เต้นรัวเพราะความเขินอาย ทำให้นางคิดไปว่าบีพาอันที่ทั้งตัวเปลือยเปล่าก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกัน

 

 

คงจะเขินเหมือนกับเรานั่นแหละ

 

 

นางไม่ได้อับอายอยู่คนเดียว พอคิดได้แบบนั้นกโยซึลก็ยิ้มวางใจลง คนเย็นชาไร้หัวใจอย่างบีพาอันกำลังเขินอาย แม้จะเป็นเรื่องที่คิดไปเอง แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้นางกลั้นยิ้มได้ นางก้มหน้าแล้วกล่าวคำอำลา

 

 

“ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อนเพคะ”

 

 

“ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะเข้ามาแช่เมื่อครู่หรอกหรือ”

 

 

แน่นอนว่ากโยซึลที่กำลังจะหันกลับต้องหยุดชะงักเพราะคำถามของบีพาอัน นางเอามือปิดบังตัวอย่างเหนียมอายก่อนจะตอบคำถาม

 

 

“เพคะ”

 

 

“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงจะไปแล้วล่ะ”

 

 

“นั่นก็เพราะฝ่าพระบาททรงมาแช่อยู่ก่อนแล้วอย่างไรเล่าเพคะ” กโยซึลทำตากระปริบๆ นี่เขาไม่รู้จริงๆ หรือรู้อยู่แล้วแต่แค่อยากถามไปอย่างนั้น

 

 

“อืม” ทว่าบีพาอันกลับเอียงคอ พลางมีสีหน้าบ่งบอกว่าไม่เข้าใจจริงๆ

 

 

“บ่อน้ำกลางแจ้งแห่งนี้เป็นที่ที่สามารถเพลิดเพลินได้ร่วมกัน ทรงอย่าเกรงใจไปเลย”

 

 

อย่างนั้นหรือเพคะ แต่ว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น

 

 

คำตอบที่แสนจะเรียบง่ายของบีพาอันทำเอากโยซึลได้แต่ตะโกนในใจ ไม่สิ สำหรับบีพาอันแล้วสถานการณ์นี้ไม่ทำให้เขาอึดอัดสักนิดเลยหรือ กโยซึลอัดอั้นเมื่อได้รู้ว่ามีแต่นางที่ประหม่าลนลานอยู่คนเดียว

 

 

“ไม่ใช่อย่างนั้นเพคะ ความจริงหม่อมฉันไม่รู้มาก่อนว่าพระองค์อยู่ที่นี่…แถมอาภรณ์ก็มาอยู่ในสภาพนี้”

 

 

“อาภรณ์?”

 

 

พอบอกความจริงไปบีพาอันก็ทวนคำแล้วมองพินิจยันร่างกายของกโยซึล รู้สึกเหมือนทุกจุดของร่างกายจะละลายเมื่อสายตาของเขาพาดผ่าน กโยซึลสะดุ้งรีบใช้มือดึงเสื้อให้กระชับพยายามปกปิดทุกส่วนของร่างกาย

 

 

เมื่อได้มองดูกโยซึลแล้ว บีพาอันก็ถึงนึกถึงการแต่งตัวของตัวเองขึ้นมาได้

 

 

“เป็นเพราะตอนแรกเราอยู่คนเดียวก็เลยแต่งตัวสบายๆ สำหรับชายาแล้วคงจะรู้สึกอึดอัด”

 

 

อยู่ๆ บีพาอันก็ดึงผ้าที่พันรอบเอวออกอย่างไร้ซึ่งสัญญาณบอกล่วงหน้า

 

 

“ว้าย” กโยซึลตกใจกรีดร้องพลางเอาสองมือปิดตา หัวใจเต้นรัวจนสูญสิ้นจังหวะ

 

 

ทั้งที่เห็นกโยซึลกรีดร้องอย่างนั้นแต่บีพาอันก็ยังคงนิ่งเงียบ นางหยุดความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่ได้ สุดท้ายก็แอบมองผ่านช่องหว่างมือ ทว่าบีพาอันในตอนนี้ได้สวมเสื้อตัวนอกอย่างลวกๆ ไว้แล้ว

 

 

“อา”

 

 

กโยซึลถอนหายใจสั้นๆ แล้วเอามือลง ดูเหมือนว่าเมื่อครู่เขาจะแค่ถอดเสื้อตัวนอกที่เคยใช้คาดรอบเอวนั้น เปลี่ยนเป็นสวมใส่บนกายดีๆ เพราะเห็นว่าพันรอบเอวอยู่เลยนึกว่าเป็นผ้าธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นก็นึกว่าเขาจะถอดจนเปลือยทั้งหมด ทำเอาหัวใจกโยซึลร่วงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

 

 

แต่ไม่ว่าอย่างไร บีพาอันก็ยังคงทำทั้งหมดนั่นด้วยท่าทางนิ่งขรึมเช่นเคย

 

 

“ระหว่างสามีภรรยามีอะไรให้น่าอายกัน ชายาแช่น้ำให้สบายเถิด”

 

 

สามีภรรยา

 

 

กโยซึลติดใจที่บีพาอันพูดคำนั้น แค่ได้รู้ว่าบีพาอันมองว่าพวกเขาทั้งสองคือสามีภรรยาก็เป็นเรื่องน่าตกใจมากพอแล้ว

 

 

ถึงอย่างไร สามีภรรยาก็คือสามีภรรยาสินะ

 

 

รอยยิ้มขมขื่นถูกเผยออกมา

 

 

“…เพคะ”

 

 

อึกอัดเหลือเกิน แช่น้ำอยู่ข้างๆ บีพาอันไม่มีทางที่จะรู้สึกสบายได้แน่ นางรู้สึกไม่สบายตั้งแต่วินาทีที่จำต้องพยักหน้าตอบรับเขาแล้ว

 

 

ซ่า น้ำในบ่อกระเพื่อมไหว

 

 

“ถึงน้ำจะอุ่นแต่อากาศข้างนอกหนาว หากมัวแต่ยืนอยู่ตรงนั้นชายาจะไม่สบายได้”

 

 

“ออ เพคะ”

 

 

กโยซึลนั่งลงเงียบๆ ตามบีพาอัน นางแช่ตัวลงน้ำจนปิดมิดหัวไหล่จากนั้นก็แวบไปมองข้างๆ ถึงบ่อน้ำกลางแจ้งจะใหญ่แต่บีพาอันกลับเลือกที่จะนั่งติดกัน พอเขามานั่งแช่น้ำอย่างเพลิดเพลินอยู่ข้างๆ แบบนี้ กโยซึลจะขยับหนีก็ดูกระไรอยู่

 

 

คุณพระช่วย

 

 

ในหัวนางคลุมเครือไปหมด รู้สึกราวกับความร้อนของน้ำไหลผ่านขึ้นมาถึงศีรษะ ไม่สิ ที่ทำให้

 

 

กโยซึลรู้สึกร้อนไม่ได้มีเพียงน้ำร้อนเท่านั้น

 

 

เรา อาบน้ำ กับบุรุษ กับฝ่าพระบาทอย่างนั้นหรือ

 

 

เป็นระยะที่ใกล้ถึงขนาดเอื้อมมือไปก็สามารถสัมผัสกายของบุรุษเพศได้แล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีทางที่จะแช่น้ำร้อนอย่างผ่อนคลายได้ง่ายๆ แม้จะแช่ทั้งตัวไปในน้ำร้อนแต่ร่างกายกลับเหมือนกำลังเยือกแข็ง ยิ่งรู้สึกอายนางก็ยิ่งถลาตัวลงน้ำลึกลงไปอีก

 

 

ปุดๆ กโยซึลย่อตัวลงไปจนปากแช่ในน้ำ ยามหายใจทีก็ก่อให้เกิดเป็นฟองอากาศขึ้นมา ทั้งน้ำร้อนและความประหม่าทำเอาใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดง ไอความร้อนทำให้นางหัวหมุน

 

 

“จริงสิ”

 

 

เพียงคำสั้นๆ ที่ดังมาจากด้านข้างก็ทำกโยซึลสะดุ้งโหยง

 

 

ซ่า เสียงน้ำดังพร้อมกับบีพาอันที่ลุกขึ้น เขาเดินมาอยู่ข้างหน้ากโยซึลแล้วมองลงไปที่นาง ส่วน

 

 

กโยซึลเองก็แหงนหน้ามองบีพาอันอย่างตกใจ

 

 

“ชายาช่างมาได้จังหวะ เรามีเรื่องจะพูดด้วยพอดี”

 

 

ผิวขาวของบุรุษร่างกำยำถูกฉายสะท้อนด้วยแสงจันทร์