1787-4 vs 1788-1 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1787-4

นับแต่ขโมยเทคนิคฉินมั่วแล้วไม่ยอมรับ จนมาถึงเจตนาร้ายในเรื่องดังกล่าว เรียกได้ว่าท้าทายขีดความอดทนของทุกคนในเวลานี้เลยทีเดียว

ชั่วเวลานั้น เฉวี่ยนโดนด่าจนไม่กล้าไลฟ์สด ตอนแรกเขายังร่ำร้องว่าตัวเองไม่ผิด อ้างว่าตัวเองแค่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีคนมาบอกก็เลยทำตาม มาคิดๆ ดูในตอนนี้ก็รู้สึกว่าถูกหลอกใช้!

คนอย่างป๋อจิ่วน่ะหรือจะหลงกล ตลกร้ายเลยล่ะ!

จริงล่ะที่ตัวการเป็นอีกคน แต่ผู้ช่วยก็ถือเป็นคนร้ายอีกประเภทหนึ่ง ก็ร่วมมือด้วยกันทั้งนั้น ยังมีหน้าบอกว่าตัวเองไม่ผิด?

เธอไม่ใช่ท่านเทพที่ต้องคำนึงอะไรหลายอย่าง เพียงแค่ ทุกคนในทีมกำลังเตรียมตัวแข่งอย่างเต็มกำลังแต่พวกนายกลับก่อนเรื่องแล้วเรื่องเล่า ยังจะมาบอกว่าตัวเองถูกใส่ร้าย เข้าใจประโยคนี้ไหม? คนก่อเรื่องถือว่าชั่ว

หลังจากที่เล่นงานเฉวี่ยนเสร็จ ป๋อจิ่วก็ไม่ได้ปิดคอมพิวเตอร์ แต่ขุดค้นต่อไป กะจะกระชากคนที่อยู่เบื้องหลังออกมา แต่เพราะเรื่องนี้มันเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว

ฝานเจียย่อมเตรียมรับมือไว้ หลังจากที่สั่งงานเฉวี่ยน เธอรีบลบร่องรอยทันที เธอใช้คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตเล็กๆ ในซอย การจะลบร่องรอยจึงเป็นเรื่องไม่ยาก

แม้ป๋อจิ่วตามหาสถานที่เจอ แต่รู้ดีว่าคอมพิวเตอร์ของฝ่ายนั้นปิดเครื่องเรียบร้อย แถมก่อนปิดเครื่องยังกำจัดร่องรอยจนไม่เหลืออะไร

คนที่เตรียมการไว้เป็นอย่างดี แถมชอบใช้วิธีนี้ก่อนจะหนีหายไปอย่างลอยนวลอีก มีเพียงคนเดียว ก็ฝานเจียไงล่ะ

ป๋อจิ่วดูหน้าจอ งอนิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ เมื่อตอนที่อยู่สามเหลี่ยมทองคำ เธอทุ่มเทความสนใจไปที่ตัวท่านเทพคนเดียว รวมถึงหาทางที่จะทำให้เขายุติความคิดที่จะเลิกเชื่อมั่นในตัวเธอและล้มเลิกความอยากฆ่าคน จนต้องทำตัวติดกัน แต่ไม่ได้สังเกตว่าคดีดังกล่าวจะดำเนินต่อไปอย่างไร เพราะยังไงเสียคิงก็ตายแล้ว ขบวนการนั่นถูกสลาย น่าจะมีหลายๆ คนถูกนำตัวกลับมาที่จีน ขนาดแหล่งเพาะปลูกฝิ่นนั่นก็ถูกไฟเผาจนเรียบไม่เหลือ เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมอีก

ฝานเจียยังไม่ถูกจับได้อีกเหรอ?

เรื่องนี้ทำให้ป๋อจิ่วย่นหัวคิ้วขึ้นเรื่อยๆ ตามมาด้วยความไม่สบายใจ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร เธอลุกขึ้นกะจะสูบบุหรี่ ไม่คิดว่ายังไม่ทันได้จับต้อง ก็มีคนผลักประตูเข้ามาเจอ

“สายเปย์ของฉันเก่งอีกแล้ว เรียนอะไรดีๆ ทั้งนั้น ริจะสูบบุหรี่?” น้ำเสียงเย็นๆ ที่แยกไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน มันช่างคุ้นเคยจนเธอชะงัก เวลานี้เธอรู้แล้วว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร อันที่จริงในโลกนี้ นอกจากเธอและเจ้าหญิงน้อยแล้ว ยังมีอะไรที่ทำให้เธอไม่สบายใจได้อีก

“เป็นอะไรไป?” ฉินมั่วรู้สึกว่าคำพูดของตัวเองไม่ได้มีอะไร แต่พอเห็นสีหน้าเธอ นิ้วมือของเขาก็ถึงกับเกร็ง

ยัยนี่ไม่แฮบปี้เหรอ? ปกติเขาพูดแรงกว่านี้อีก ก็ไม่เห็นว่าเธอจะมีสีหน้าในแบบที่ว่า เกิดอะไรขึ้น? นี่คือฉินมั่วคิดเป็นสิ่งแรก จนกระทั่งพยายามตามหาสาเหตุ

ป๋อจิ่วกลับรู้สึกได้ถึงความห่วงใยที่แฝงในคำพูดของเขา จึงแย้มยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก แค่จู่ๆ ก็อยากกินอมยิ้ม แต่หาไม่เจอเลยจะสูบบุหรี่แทน”

ฉินมั่วมองเธอ เอ่ยเสียงเรียบดังเดิม “มานี่ซิ”

“หืม?”

 ———————————-

ตอนที่ 1788-1

ป๋อจิ่วเพิ่งจะเดินไปหา กลับถูกเขาดึงตัวเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขน พอจะกลิ่นมินต์บุหรี่อ่อนๆ ราวกับแม้จะไม่ได้นอนมาทั้งคืน แต่ก็ยังสดชื่นทั้งร่างเหมือนไม่ได้มาจากโต๊ะเล่นไพ่

“ครั้งนี้ไม่มีลูกอม แต่มีเครื่องทำความร้อนจากตัวคนแทน เอาไหม?” ฉินมั่วเอ่ยเสียงเรียบมาก

ป๋อจิ่วกลับยิ้ม “แถมจูบด้วยได้ป่ะ?”

“ฝันหวานไปแล้ว” ฉินมั่วรัดร่างเธอไว้ในอ้อมแขน พอปฏิเสธก็หลุบตาลง ประทับกลีบปากไว้บนศีรษะเธอ

ป๋อจิ่วถึงกับอึ้ง ก่อนจะกอดเขาแน่น มุมปากแยกยิ้มบางๆ ราวกับอากาศที่สูดเข้าไปก็ยังหวาน

ส่วนคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะไพ่ ล้วนแต่ไม่ถามว่าหัวหน้าไปไหนอย่างเหมาะเหม็ง ตอนแรกๆ ยังคิดว่าจะมีการทะเลาะกันในโลกออนไลน์อย่างรุนแรง เรื่องนี้ยังอยู่ในใจของทุกคน แม้จะนอนก็ย่อมนอนไม่หลับ จนเกือบจะตี 4 เฟิงอี้ก็โทรเข้ามาแจ้งว่า คำวิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตเริ่มเปลี่ยนทิศทาง สั่งให้พวกเขาพักผ่อนให้เต็มที่

หลินเฟิงแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะปกติแล้ว หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงสองวัน ความรุนแรงจึงจะลดทอนลง เขาไม่คิดเลยว่าหนนี้จะเร็วมาก แถมทิศทางคำวิจารณ์ยังเปลี่ยนไปอีกต่างหาก

เฟิงอี้ไม่คิดจะปิดบังเขา “มีคนช่วยพวกเราไว้ เขาหาต้นตอโพสต์ได้ เลยรู้ว่าโพสต์ทั้งสองมาจาก IP เดียวกัน แถมคนโพสต์ก็ยังเป็นเจ้าของไลฟ์สดที่มาท้าดวลพวกนาย”

หลินเฟิงได้ยินแล้วถึงกับตาโต “ต้องบอกว่าพวกเน็ตติเซ่นเก่งมากใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ชาวเน็ต” เหราหรงที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมากะทันหัน หันไปมองชั้นบนแวบหนึ่ง ยิ้มให้เหมือนไม่ได้ยิ้ม “อาจจะเป็นแฮกเกอร์ที่ทนเห็นความไม่เป็นธรรมไม่ไหว” ซึ่งเฟิงอี้หัวเราะ “น่าจะใช่”

เมื่อได้ยินว่าคำวิจารณ์ในโลกออนไลน์เปลี่ยนทิศทาง ทุกคนต่างก็สบายใจขึ้นไม่น้อย เฟิงซ่างถามพี่ตัวเองติดๆ ขัดๆ “งะ งั้น หะ หัวหน้า จะ จะแข่งได้ใช่ไหม?”

“ตอนนี้ยังไม่รู้หรอก ต้องดูการตัดสินใจของทางคณะกรรมการ” เฟิงอี้มีเหตุผล อันเป็นผลมาจากการที่เจ้าตัวเป็นนักธุรกิจ ผลกระทบบางอย่างอาจขจัดทิ้งได้ แต่เรื่องแบบนี้ เมื่อไปถึงมือคณะกรรมการแล้วจะตัดสินใจอย่างไร เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มั่นใจได้อย่างเดียวคือ เมื่อไม่มีข่าวก็คือข่าวดีที่สุด

ทางคณะกรรมการยังพิจารณากันอยู่ โดยจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ ทีมไดมอนด์ยังคงมีโอกาส ซึ่งเฟิงอี้คิดเช่นนี้ เจ้าตัวนวดหัวคิ้ว เอ่ยต่อ “เอ้อ เหยาเย่ายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า”

“อยู่”

“ส่งโทรศัพท์ให้เขาหน่อย”

“ได้”

เหยาเย่ารับโทรศัพท์มาอย่างสงสัย

เฟิงอี้พูดกลั้วหัวเราะเบาๆ “จะแข่งแล้ว นี่เป็นการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายของทีม เป็นการสัมภาษณ์เดี่ยว เราต้องโดนถามถึงเรื่องนี้แน่ พรุ่งนี้เธอเตรียมตัวหน่อยนะ สัมภาษณ์ตอนเก้าโมงเช้า ถึงเวลานั้นฉันจะไปรับเธอเอง”

เหยาเย่างงๆ “ฉันเหรอคะ? แล้วเฮียเย่า เทพเหราก็อยู่ด้วยนี่นา เป็นฉันไปเหรอคะ?”

เธอเหมาะสมอยู่หรือ? ประสบการณ์ก็ไม่มี ฝีมือก็ไม่ได้เก่งสุดในทีม เธอ…

“นอกจากเจ้าแบล็กแล้ว เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในทีม เขาไม่สะดวกที่จะออกมา คุณชายฉินเองก็ให้สัมภาษณ์ไม่ได้” เฟิงอี้พูดแค่นี้ เขาอยู่ในชุดสูทเต็มยศ “สบายใจได้ เวลาสัมภาษณ์ ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอ”

เซวียเหยาเย่าได้ยินแล้วนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ ผู้จัดการเฟิง คุณสบายใจได้ พรุ่งนี้ฉันจะเตรียมตัวให้ดี”

ครั้งสุดท้าย เธออยากจะพูดเพื่อฝ่าบาทจิ่ว เพื่อหัวหน้าและเพื่อทีมให้เต็มที่ แต่ละคนที่นั่งบนโต๊ะไพ่ล้วนรู้แก่ใจว่า หัวหน้าอาจลงแข่งไม่ได้ เพราะเขาสูญเสียความทรงจำจริงๆ กระทั่งป๋อจิ่วยังหลับไม่สนิท แม้ฉินมั่วจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม

เธอย่นหัวคิ้วขึ้นมา ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ฝันถึงตอนที่เธอต้องจากเขาไปเมื่อตอนเป็นเด็ก เธอเกาะหน้าต่างรถ ด้วยอยากเห็นเขาเป็นครั้งสุดท้าย แต่เธอดันลืมไปว่าคืนก่อนเธอและเขาทะเลาะกันจนอารมณ์เสีย

อีกสองวันก็จะได้เวลาฉลองวันเทศกาลของจีน เขาย่อมเตรียมกลับประเทศ กำลังเก็บข้าวของอยู่ในห้อง แล้วจะรอเธอที่ลานบ้านได้อย่างไร

 ————————————-