1788-2 vs 1788-3 vs 1788-4 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1788-2

วันนั้นเธอจึงเศร้าซึมมากเป็นพิเศษ เพราะเธอและเขาทะเลาะจะเลิกคบกัน ตอนนั้นป๋อจิ่วก็คิดว่าถ้าได้จากกันดีๆ บางทีพวกเธออาจจะติดต่อสื่อสารกันต่อไป ต่อมาเธอแอบกลับมาดูก็พบว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว

สภาพในความฝันทำให้ป๋อจิ่วกำมือฉินมั่วแน่นอย่างอัตโนมัติ ทำให้ฉินมั่วที่มองดูอยู่ถึงกับนัยน์ตาหนักอึ้ง เจ้านี่ฝันถึงอะไร? น่าเศร้ามากเลยหรือ?

ฉินมั่วยื่นมือเชยคางอีกฝ่าย ก่อนจะนวดเบาๆ แล้วโน้มตัวจูบที่เรียวปากเธอ ก็ยังจอมเจ้าชู้ชอบแบบนี้

แต่เธอยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ชายหนุ่มมองดูอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่เหมือนถูกก้อนหินถ่วงอกจนหงุดหงิดอย่างน่าประหลาด

พอเถอะ เธอก็เป็นแค่เหยื่อ นายจะทุ่มเทความสนใจให้มากไปทำไม พอได้แล้ว

แม้จะคิดอย่างนี้ แต่กับรั้งร่างอีกฝ่ายมาไว้ในอ้อมกอด จูบด้วยแรงที่หนักขึ้น เพื่อจะปลุกเธอให้ตื่น

ซึ่งป๋อจิ่วก็ตื่นจริงๆ หลังจากที่รู้ตัวว่าโดนเขาจูบ เธอก็ชะงัก คิดจะเอาคืน

ฉินมั่วกลับยื่นมือห้ามไว้ “บอกมาก่อนว่าเมื่อกี้เธอฝันว่าอะไร”

“ตอนที่อยู่ที่อเมริกา พวกเรายังเด็กมาก แถมทะเลาะแล้วแยกจากกัน จากนั้นฉันก็แอบกลับมาหาพี่ แต่น่าเสียดายที่พี่กลับจีนไปแล้ว” ป๋อจิ่วนึกถึงเรื่องนี้ ก็เม้มปาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหน้าเธอทั้งเรียวเล็กและใสกระจ่างมากหรือเปล่า ทำให้คนอย่างฉินมั่วยังพลอยปลอบโยนไปด้วย “ก็แค่ฝัน”

“ไม่ใช่ฝัน แต่เป็นความจริง” ป๋อจิ่วมองตาเขา “มันเกิดขึ้นจริงๆ ฉะนั้นพี่มั่ว พี่ต้องรับปากฉัน อย่าไปจากฉัน พี่ดูสิ ฉันหน้าตาดี แถมยังรวยมาก แล้วยังช่วยแก้แค้นในเกมให้พี่อีก พี่จะไปหาสายเปย์ที่ดีขนาดนี้จากที่ไหนได้?”

ฉินมั่วเอ่ยช้าๆ “ข้อดีที่เธอพูดมา ไปหาจากที่ไหนก็ได้ แต่หนังหน้าที่หนาอย่างนี้ หายากจริงๆ”

ป๋อจิ่ว…นึกว่าอุตส่าห์เป็นคนจูบเธอก่อนแล้วจะอ่อนโยนขึ้น เฮ้อ คำว่าอ่อนโยน ไม่ควรใช้กับท่านเทพจริงๆ

“ฉันถึงไม่อยากเรื่องมากไง” ฉินมั่วบีบหน้าเธอ “แล้วก็ชอบหนาๆ พอดี”

ป๋อจิ่วยิ้ม ยื่นมือไปโอบเอวอีกฝ่าย เธออยากบอกว่า ถึงจำไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไร แค่อยู่กับเธอเป็นพอ แต่เกรงว่า จากนิสัยของท่านเทพในตอนนี้ เดาว่าคงไม่อยากจะฟื้นความทรงจำหรอก แต่ก็ช่างเถอะ อยู่ด้วยกันอย่างดีก็ดีจะตาย

เธอไม่ฝันร้ายอีกแล้ว เขาโอบเธอไว้ ดันศีรษะเธอไว้ซบไหล่เขาอย่างไม่คิดจะปล่อยมือ ด้วยทั้งสองหน้าตาดีอยู่เป็นเดิมทุน แถมท่าทางในเวลานี้ รวมถึงแสงอ่อนยามเช้าที่ส่องเข้ามา ทำให้ดูงดงามมาก

เขาสวมสเวตเตอร์สีขาว เธอแนบตัวติดกับเขา เสี้ยวหน้าของทั้งสอง โชว์แค่หนึ่งในนั้นก็เรียกเสียงกรีดร้องได้เลยทีเดียว แต่ดูเหมือนพวกเขาจะให้ความรู้สึกว่า ทั้งสองเป็นแค่ของกันและกันเท่านั้น

วันต่อมา แสงอาทิตย์กำลังดี ส่วนเรื่องฉินมั่วจะร่วมแข่งได้หรือไม่ ยังคงรอผลอยู่ ซึ่งไม่มีใครเดาได้ แต่เฟิงอี้ยังอยากพยายามอีกสักหน่อย ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้นอนเลย นอกจากร่างหนึ่งที่ตามหลังเขามา หากเป็นเวลาปกติ เฟิงอี้อาจจะสังเกตเห็นร่างที่ว่า แต่เวลานี้เขาคิดแค่ว่าจะบอกสถานการณ์จริงต่อคณะกรรมการและพวกแฟนคลับที่ไม่เชื่อใจฉินมั่วอย่างไรดี

เขาอยากบอกคนเหล่านี้ว่า แม้ชายหนุ่มจะเสียความทรงจำไป แต่ความสามารถยังคงเหมือนเดิม เขาถือเป็นเสาหลักที่สำคัญกว่าทีมเสียยิ่งกว่าใคร ดังนั้นเฟิงอี้ต้องใช้เวลาเตรียมข้อมูลอย่างละเอียดถึงสามชั่วโมง ไม่ได้โอดครวญเกินจริง เพียงเสนอบันทึกผลคะแนนของฉินมั่วในวันที่ผ่านมา

หลังจากที่เตรียมเสร็จ เขาก็ติดต่อนักข่าวโดยไม่หยุดพักสักนิด จนเมื่อขับรถไปรับเซวียเหยาเย่าที่อพาทเมนต์ของแบล็กพีช

ฝานเจียก็รู้ทันทีว่า โอกาสมาถึงมือเธอแล้ว

———————————–

ตอนที่ 1788-3

ไม่ผิดหรอก เธอจับตาความเคลื่อนไหวของเฟิงอี้มาตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อจะหาว่าฉินมั่วอยู่ที่ไหนกันแน่ เธอวิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่เธอลงเครื่องมาเมื่อตอนบ่ายของวันนั้น สมาชิกทั้งหมดของทีมไดมอนด์ก็ออกจากคลับ แต่ไม่รู้ว่าไปที่ไหน

การแข่งระดับเอเชียกระชั้นเข้ามาแล้ว พวกเขาไม่มีวันออกไปเที่ยวเล่นในเวลาอย่างนี้แน่ แถมยังออกไปเป็นทีมอีก นอกเสียจากจะไปพบคนสำคัญมากๆ นั่นก็น่าจะเป็นฉินมั่ว แต่น่าเสียดายที่เธอพลาดโอกาสไล่ตามในครั้งแรก ซึ่งหลังจากที่พลาดในครั้งนั้น เธอก็จับตามองเฟิงอี้มาโดยตลอด แต่ผู้ชายคนนี้ฉลาดเกินไป ฉลาดจนเธอเกือบพลาดเผยโฉมหน้าถึงสองครั้ง ยังดีที่ช่วงนี้เขายุ่งมากจนหัวหมุน แถมเธอยังก่อเรื่องนั้นขึ้นมา ทำให้เขาไม่แกร่งเมื่อเดิม เธอติดตามเขามาตั้งนาน กว่าจะสบโอกาสในวันนี้

ฝานเจียยืนอยู่ใต้ตึก เหยียดยิ้มที่มุมปาก มองดูตัวเลขชั้นที่ลิฟต์ขึ้นไปถึง แล้วจดจำมันไว้ด้วยแววตาตึงเครียด ก่อนจะซ่อนตัวไว้

ไม่ว่าเธอคิดจะทำอะไร จะต้องไม่ให้ใครเห็นเธอเด็ดขาด อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้

ฝานเจียกดปีกหมวกให้ต่ำลงแล้วยิ้มขึ้น ในที่สุดเธอก็หาเจอแล้ว ขอแค่แย่งผู้ชายคนนั้นให้กลับมาอยู่ข้างตัวเธอ เธอก็จะไม่เป็นแบบนี้อีกต่อไป

เธอควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้า ด้วยชุดที่สวมอยู่เริ่มเหม็นบูดเปรี้ยว จากนั้นก็แต่งหน้า ยังอีกนานกว่าฟ้าจะมืด เธอมีเวลามากพอ

ในหัวใจของฝานเจีย เธอไม่รู้สึกการทำลายสิทธิ์เข้าแข่งขันของฉินมั่วเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง คนแบบนั้นเหมาะที่จะทำเรื่องใหญ่กว่านี้ เธอทำเช่นนี้เพราะเธอชอบเขา เขาไม่มีวันโทษเธอหรอก

ทว่าฝานเจียไม่คิดมาก่อนว่า การทำลายสิ่งสำคัญที่สุดของเขา มันไม่คู่ควรกับคำว่า ‘ชอบ’ เลยสักนิด?

ชั้นบน เฟิงอี้มองดูหลายๆ คนที่ขยี้ตา จากนั้นก็ยิ้ม “ทำไมตื่นเช้ากันจัง?”

“เพิ่งนอนต่างหาก” พูดจบ เหราหรงก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกผิด จึงเอ่ยเพิ่ม “พวกเราเล่นไพ่กันจนถึงตีสี่ ส่วนสองคนนั้นอยู่ชั้นสอง คงยังไม่ตื่น หลินเฟิงนอนหลับจนถีบหมอนตกข้างเตียงไปแล้ว”

เฟิงอี้เงยหน้าดูนาฬิกา “เรื่องที่พวกนายเป็นห่วง จะรู้ผลก็ตอนบ่าย ตอนนี้ฉันมารับเหยาเย่าไปสัมภาษณ์ก่อน”

“อ้อ” เหราหรงอ้าปากราวกับอยากพูดขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ยิ้มแค่ “สู้ๆ นะ”

เฟิงอี้เกี่ยวเสื้อสูท “แน่อยู่แล้ว” ดูจากการที่เฟิงอี้มารับด้วยตัวเองย่อมรู้ดีว่าการสัมภาษณ์ในครั้งนี้สำคัญแค่ไหน ซึ่งแต่ละคนต่างรู้ดีแก่ใจ ทีมไดมอนด์ถูกไล่บี้จนตกต่ำ

เมื่อมีเสียงสนับสนุนในโลกออนไลน์ ก็ย่อมมีเสียงต่อต้าน แต่ในเวลานี้ แค่เสียงสนับสนุนมีเพิ่ม โอกาสชนะก็สูงขึ้น

ฝ่ายคณะกรรมการจะทำการตัดสินในตอนบ่ายนี้ เฟิงอี้ใช้สายสัมพันธ์ทั้งหมดที่สั่งสมในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อแลกกับการที่ให้พวกเขาได้พูดในสิ่งที่อยากพูดก่อนวันแข่งหนึ่งวัน โดยไม่ให้โอกาสให้ใครมาก่อความวุ่นวาย ซึ่งมันยากมาก ยิ่งคนที่อยู่ในวงการนี้มานาน ย่อมรู้ซึ้งว่ามันหมายถึงอะไร

 ——————————–

ตอนที่ 1788-4

วันนี้เซวียเหยาเย่าก็เปลี่ยนไป คนเรียบง่ายอย่างเธอก็หันมาแต่งหน้า ทั้งยังตัดผมปะบ่า เธอสวมชุดทีมที่ป๋อจิ่วให้เธอในวันนั้น ทั้งยังเขียนคำว่า “ฝ่าบาทจิ่ว” และสัญลักษณ์แฟนคลับไว้บนนั้นอย่างเด่นหลา

เธอในรูปแบบนี้ ต้องการจะบอกทุกคนว่า ทีมไดมอนด์ไม่มีวันล้ม! ส่งผลให้เฟิงอี้ตะลึงในทันทีที่เห็นเซวียเหยาเย่า จากนั้นก็ยื่นมือมาลูบศีรษะเธอ “เด็กดี”

เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลข 8 คุณตาพ่อบ้านที่รักษามารยาทมาอย่างดีเยี่ยมก็ไม่ได้รั้งทั้งสองไว้ทางข้าวเช้า เพราะรู้ดีว่า พวกเขามีเรื่องสำคัญยิ่งที่ต้องไปจัดการ

เก้าโมงครึ่ง

ห้องสัมภาษณ์ของแพลตฟอร์มไลฟ์สดแห่งหนึ่งถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย หลังจากที่เชิญเซวียเหยาเย่าเข้าไปนั่ง พิธีกรก็เอ่ยขึ้น “ทางเราได้ชมการแข่งเดี่ยวของคุณแล้ว มันส์มากเลยทีเดียว”

“ขอบคุณค่ะ” เซวียเหยาเย่ารู้ดีว่าพิธีกรต้องเริ่มพูดเป็นพิธี

พิธีกรหัวเราะ “พอจะบอกได้ว่าไหมว่าทำไมคุณถึงมาถึงจุดๆ นี้ได้ ? พัฒนาการของคุณทำให้หลายๆ คนถึงกับช็อกเลยทีเดียว”

“หนึ่งเป็นเพราะความชอบค่ะ สองเป็นเพราะมีเพื่อนร่วมทีมของฉันอยู่ด้วยกัน” เซวียเหยาเย่าไม่ได้บอกหมด “พวกเขาช่วยฉันไว้เยอะมากเลยล่ะค่ะ”

ผู้สัมภาษณ์ฟังจบก็เปลี่ยนเรื่องมาพูดถึงประเด็นที่ถกเถียงกันร้อนแรงที่สุดในวันนี้ “ช่วงนี้ทีมไดมอนด์เกิดปัญหาที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายโลกออนไลน์อีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ต่างไปจากครั้งที่แล้ว ครั้งที่แล้วเป็นประเด็นจากตัวรองหัวหน้าทีม แบล็กพีช Z แต่ตอนนี้กลับมาเป็นหัวหน้าทีม ฉินมั่ว ไม่ทราบว่าคุณรู้สึกสับสนเหรือเปล่า?”

เซวียเหยาเย่าได้ยินชื่นดังกล่าวก็เชิดหน้า มองตรงไปที่กล้อง “ก็สับสนอยู่มากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือรองหัวหน้า ถ้าไม่มีเขาสองคน ทีมไดมอนด์ก็คงมาไม่ถึงก้าวนี้ ฉันเห็นโพสต์หลายๆ โพสต์ ทราบว่าคนบางกลุ่มอยากให้สองคนนี้ออกจากทีม ฉันขอไม่พูดถึงเรื่องของการแข่งก่อนนะคะ แค่อยากจะพูดบ้างว่า คนๆ หนึ่งที่เจ็บมือก็ยังพาทีมบุกสู้วงล้อมคู่แข่ง สู้แต่ละสนามก็แสดงฝีมือจนน่าตะลึง แล้วก็ยังมีคนๆ หนึ่งที่เขาทุ่มสุดตัวเพื่อจะให้ทีมไดมอนด์ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้ไม่มีค่าพอที่จะให้พวกเขาอยู่ในทีมต่อไปงั้นเหรอคะ? ก่อนหน้านี้พี่หลินเคยพูดไว้ว้า ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าคนที่อยู่ข้างเราในสภาวะที่เรากำลังลำบากที่สุด จนคิดว่าจะไม่รอดหรอกค่ะ เพราะพวกเราเคยล้มมาก่อน ถึงได้รู้ซึ้งว่าใคร ตอนที่ใครๆ ก็บอกว่าทีมไดมอนด์อาจไปต่อไม่ไหวแล้ว กลุ่มคนที่เป็นห่วงผลคะแนนของทีมไดมอนด์ยิ่งกว่าเรา กลุ่มคนที่แม้จะต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อจะได้ดูเราแข่งขัน กลุ่มคนที่ยอมทุ่มเงินค่าขนมทั้งหมดเพื่อซื้อตั๋วสักใบ พวกเขาเหล่านั้นบอกพวกเราว่า แม้ทีมไดมอนด์จะไม่ได้ชนะคู่แข่งจนราบคาบเหมือนเมื่อก่อน พวกเขาก็ไม่มีวันหนีจากเราไปไหน ขอบคุณพวกคุณ ฉันก็เหมือนกับพวกคุณนั่นแหละค่ะที่คิดว่า ทีมไดมอนด์จะขาดใครไปไม่ได้ทั้งนั้น ตอนนี้ทีมเราต้องการพวกคุณ และฉันหวังว่าพวกคุณยังคงลุกขึ้นพูดเพื่อพวกเราเหมือนเมื่อก่อนนะคะ”

 ———————————-