แดนนิรมิตเทพ บทที่ 823
หยุนเหล่ยรู้สึกตกใจ มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และถามว่า “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

สีหน้าของเฉินโม่เปลี่ยนเป็นเย็นชา มองหยุนเหล่ยและกล่าวว่า “หยุนเทียนหลิงยั่วยุฉันหลายครั้ง วันนี้ฉันจะหักขาของเขาเป็นการลงโทษ!”

หยุนเทียนหลิงรู้สึกตกใจ จ้องเฉินโม่ด้วยความโกรธ “แกกล้าเหรอ?”

“ถ้าแกกล้าทำร้ายฉัน ตระกูลหยุนจะไม่ปล่อยแกไปแน่นอน!”

ถึงแม้ว่าต่อไปเฉินโม่จะมีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้บรรลุดึงแดนเทพ ถ้ารวบรวมพลังอำนาจทั้งหมดของตระกูลหยุนแล้ว อาจจะไม่ต้องเกรงกลัวเขา

หยุนเหล่ยแสดงสีหน้าโกรธเช่นกัน และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ถึงแม้ว่าพลังความแข็งแกร่งของท่านจะไม่ธรรมดา แต่คำขอนี้มันมากเกินไป”

“มากเกินไปเหรอ?” เฉินโม่เอามือไพล่หลัง มองหยุนเหล่ยอย่างแผ่วเบา “เมื่อสักครู่ตอนที่พวกแกบอกว่าจะสั่งสอนฉัน แล้วทำไมพวกแกไม่คิดว่ามันมากเกินไปล่ะ?”

“พวกแกอย่าคิดว่าตระกูลหยุนเก่งที่สุดแล้ว ในโลกนี้ยังมีคนที่พวกแกไม่สามารถยั่วยุได้อีกมากมาย”

“วันนี้ ถือเสียว่าฉันสอนบทเรียนให้พวกแกก็แล้วกัน”

หลังจากเฉินโม่กล่าวจบ เขาชี้ไปที่หยุนเทียนหลิง

ฉึก ๆ!

เสียงกระสุนสองนัดกระทบเนื้อ หยุนเทียนหลิงร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วล้มอยู่บนพื้น รูเล็กสองรูปรากฏขึ้นที่หัวเข่าทั้งสองข้าง และมีเลือดไหลออกมา

มองหยุนเทียนหลิงกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด หยุนเหล่ยรีบวิ่งเข้าไป แล้วใช้ชี่แท้ผนึกจุดฝังเข็มบนขาของหยุนเทียนหลิงเพื่อหยุดเลือด

“เจ้าหนู ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นเทียนหลิงกับแกจะเกิดความไม่พอใจเล็กน้อย แต่อย่างไรเสียพวกคุณก็เป็นเพื่อนร่วมชั้น นึกไม่ถึงว่าแกจะลงมือได้โหดเหี้ยมขนาดนี้!” หยุนเหล่ยด่าด้วยความโกรธ

“ไม่พอใจหรือ?” เฉินโม่รู้สึกอึ้ง “ตระกูลหยุนแค่รู้สึกไม่พอใจ ก็ถึงขั้นฆ่าคนแล้ว?”

“ตระกูลยูหยุนช่างน่าเกรงขามจริง ๆ!” เจตนาฆ่าประกายอยู่ในดวงตาของเฉินโม่

หยุนเหล่ยพยุงหยุนเทียนหลิงยืนขึ้น มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าโมโห “ความแค้นนี้ตระกูลหยุนจะมาทวงคืนอย่างแน่นอน”

เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “วางใจเถอะ ถึงแม้ว่าตระกูลหยุนจะไม่มาหาฉัน ฉันก็จะไปหาพวกแกเอง”

หยุนเทียนหลิงรู้สึกเจ็บปวดมาก คำรามด้วยความดุดันว่า “เฉินโม่ ฉันจะฆ่าแก ฉันจะต้องฆ่าแกอย่างแน่นอน!”

สีหน้าของเฉินโม่เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ถ้าแกยังพูดไร้สาระอีก ฉันจะทำให้แกไม่สามารถพูดได้ตลอดไป!”

สีหน้าของพวกเขาสองคนเปลี่ยนไปทันที ตอนนี้พวกเขาถึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เฉินโม่เป็นฝ่ายชนะ เพราะความโกรธทำให้สมองของพวกเขาเลอะเลือนไปแล้ว

“ไปกันเถอะ!” หยุนเหล่ยพยุงหยุนเทียนหลิง แล้วออกไปจากลานบ้าน

เฉินโม่มองทิศทางที่พวกเขาสองคนจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ตอนนี้ตระกูลหยุน ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่อีกต่อไปแล้ว”

จงไห่ คฤหาสน์ตระกูลหยุน

หยุนซาน ผู้นำตระกูลหยุน มองหยุนเทียนหลิงที่นอนอยู่บนเตียง และกล่าวด้วยสีหน้าโมโหว่า “ใครเป็นคนที่ลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้?”

“เป็นนักศึกษาคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยหัวหนาน อายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้น แต่เขาแข็งแกร่งมาก และผมไม่สามารถต้านรับหมัดของเขาได้แม้แต่หมัดเดียว!” หยุนเหล่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

หยุนซานรู้สึกตกใจ “สามารถชนะนายด้วยหมัดเดียว! และอายุเพียงแค่สิบแปดปีเท่านั้น เป็นอัจฉริยะจากตระกูลไหน?!”

หยุนเทียนหลิงที่นอนอยู่บนเตียงกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่า “เขาไม่ใช่อัจฉริยะจากตระกูลใหญ่ แต่เป็นลูกนักธุรกิจของเมืองอู่โจวเท่านั้น คุณพ่อต้องฆ่าเขาแทนผมด้วย!”

“ไม่รู้ว่าเขาใช้กลอุบายแปลกประหลาดอะไร ทำให้ขาของผมไม่สามารถหายเป็นปกติได้ ผมกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิตแล้ว คุณพ่อต้องแก้แค้นแทนผมด้วย!”

สีหน้าของหยุนซานเคร่งขรึม “วางใจเถอะ ถึงแม้ว่าเขาจะมีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด แต่ตอนนี้เขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลหยุน พ่อต้องล้างแค้นให้ลูกอย่างแน่นอน!”

หยุนเทียนหลิงคำรามต่อไปว่า “แล้วยังมีผู้หญิงสารเลวของตระกูลเล่คนนั้นด้วย เป็นเพราะเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเล่นหูเล่นตากับเจ้าหมอนั้น ผมก็จะไม่มีจุดจบแบบนี้หรอก!”