เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 572
พ่อของหนิงชิงเฉิง เป็นผู้นำตระกูลตระกูลหนิง ได้สั่งการให้เธอไปแย่งชิงชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกร

เดิมที

หนิงชิงเฉิงไม่สนใจการต่อสู้กันไปมาในยุทธภพ

แม้จะเป็นสมบัติล้ำค่าในตำนานของโลกบู๊อย่างภาพมกุฎมังกรเธอก็ไม่ได้สนใจเลย

ในใจของเธอ หยางเฟิงคือทุกสิ่งทุกอย่าง

ทุกอย่างที่เธอทำล้วนเพื่อหวังว่า หยางเฟิงจะเปลี่ยนใจและกลับมาอยู่เคียงข้างเธออีกครั้ง

หลังจากที่เธอรู้ว่า หยางเฟิงก็มาที่หมู่บ้านตระกูลเย่ด้วยเช่นกัน

เธอก็นำคนมาทันทีโดยไม่ลังเล

เธอมาเพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น

ก็คือเพื่อมาเจอหยางเฟิง!

ต่อให้หยางเฟิงจะไม่ชอบเธอ!

หรือเอือมระอาเธอก็ตาม!

ตราบใดที่ได้เจอหยางเฟิง

เท่านั้นมันก็คุ้มแล้ว …

“เจ้าพันธมิตรบู๊ใต้ของต้าเซีย หยางเฟิงมาถึงแล้ว!”

ในขณะที่หนิงชิงเฉิงกำลังครุ่นคิดอยู่

ก็มีเสียงตะโกนดังลอยมา

เธอรีบหันหน้าไปมอง

ในเวลาเดียวกัน

ซ่วบ!

นักบู๊นับหมื่นคน ก็หันหน้าไปอย่างพร้อมเพรียงเช่นกัน

พวกเหลิงฉานจากศูนย์พันธมิตรบู๊ มองไป!

คนจากกุ่ยเหมินก็มองไปเช่นกัน!

เห็นเพียงที่ตรงขอบฟ้าไม่ไกลมากนัก มีร่างของกลุ่มคนกำลังบินใกล้เข้ามา

เพียงครู่เดียว

หยางเฟิงก็มายืนอยู่บนภูเขาเล็กๆ แล้ว

ทันใดนั้น

ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่หยางเฟิง

ทุกคนกำลังมองดูว่า

ใครมันรนหาที่ตายขนาดนี้!

นักบู๊นับหมื่นคนอยู่ที่นี่

และยังมีคนจากตระกูลหนิง ตระกูลผู้มั่งคั่งจากจงโจว

นอกจากนี้ยังมีศูนย์พันธมิตรบู๊อยู่ด้วยอีก

กล้าอ้างตนว่าเป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ใต้ ไม่ใช่ว่ารนหาที่ตายหรือ?

ต่อหน้าผู้คนมากมาย

หยางเฟิงสงบนิ่ง ไม่สะทกสะท้าน

แต่จางเทียนเซานและไป๋หลิงหลงที่อยู่ด้านข้าง กลับไม่ได้สงบเท่าไหร่!

โดยเฉพาะจางเทียนซาน

เสียงตะโกนก่อนหน้านี้

““เจ้าพันธมิตรบู๊ใต้ของต้าเซีย หยางเฟิงมาถึงแล้ว!” !”

ก็คือเสียงของเขา

ตอนนิ้อยู่ต่อหน้าสายตาของผู้คนนับหมื่น

แม้ว่าจางเทียนซาน จะประสบกับคลื่นลมมาไม่น้อย

แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว!

แล้วเขาก็ไม่มีทางอื่น!

เพราะนี่คือสิ่งที่หยางเฟิงสั่งให้เขาทำ

เขาไม่กล้าไม่ตะโกน!

เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของจางเทียนซาน ไป๋หลิงหลงก็อดไม่ได้ที่จะอยากหัวเราะ

นี่น่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของจางเทียนซานที่แสดงออกหน้าออกตาขนาดนี้

หยางเฟิงโบกมือให้ทุกคนและพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีทุกคน ข้าคือหยางเฟิง เจ้าพันธมิตรบู๊ใต้ของต้าเซี่ย ยินดีต้อนรับทุกคนเข้ามาในถิ่นของข้า!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น

มุมปากของทุกคนก็กระตุกขึ้น

ต้องหน้าหนาขนาดไหน ถึงกล้าพูดจาไร้ยางอายได้ขนาดนี้

อะไรคือการมาบอกว่า มาเป็นแขกในถิ่นของมัน?

นี่มันเป็นใครมาจากไหน?

“ไอ้คนนี้มันเป็นใคร? เจ้าพันธมิตรบู๊ใต้อะไร ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน!”

“ตำแหน่งเจ้าพันธมิตรบู๊ใต้นี่ คงไม่ใช่ว่าศูนย์พันธมิตรบู๊แต่งตั้งให้หรอกนะ?”

“ไม่รู้ว่าเป็นตลกมาจากไหน? เขาไม่รู้เหรอว่าทุกคนที่นี่ล้วนเป็นคนมีหน้ามีตาในยุทธภพทั้งนั้น?”

ไม่นานนัก

นักบู๊ทั้งหลายก็ถกเถียงกัน

เรื่องที่หยางเฟิงเป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ใต้

น้อยคนนักที่จะรู้

ในตอนที่หยางเฟิงสถาปนาตนเองเป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ใต้นั้น

นอกจากสำนักมังกรพยัคฆ์และอื่นๆ อีกเล็กน้อยแล้ว

สำนักพรรคใหญ่อื่นๆ ไม่ได้เข้าร่วมด้วย!

ท่าทีที่ทุกคนมีต่อคำพูดอวดดีของหยางเฟิง

คือสีหน้าเหยียดหยามและไม่ให้ค่า

บางคนถึงขั้นรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่น!

ต้องรู้ว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของโลกบู๊ในต้าเซี่ยมารวมตัวกันอยู่ที่นี่

กล้าทำมาเป็นอวดดีที่นี่ คงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมัง?

หลี่ซู่มองไปที่หยางเฟิงด้วยความสายตาที่เต็มไปความอาฆาต

คือไอ้สารเลวนี่ที่ตัดแขนของข้าไปข้างหนึ่ง

“เจ้าก็คือหยางเฟิง?”

ณ เวลานี้

จู่ๆ เหลิงฉานก็เอ่ยปากขึ้นมา

หยางเฟิงยิ้มให้เหลิงฉานและพูดว่า “ใช่แล้ว ข้าน้อยก็คือหยางเฟิง เจ้าพันธมิตรบู๊ใต้ของต้าเซีย ข้าน้อยขอเสียมารยาทถาม ท่านเป็นใคร?”

หลังจากเห็นหลี่ซู่ที่อยู่ข้างๆ เหลิงฉาน

หยางเฟิงก็รู้ได้ทันทีถึงตัวตนของเหลิงฉาน