เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 573
เขาเพียงแค่จงใจถาม!

เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางเฟิงพูด

ความเยือกเย็นบนใบหน้าของเหลิงฉานก็เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น

ในเวลาเดียวกัน

นักบู๊คนอื่นๆ ก็มองไปที่หยางเฟิงด้วยสีหน้ายินดีปรีดาในความโชคร้ายของหยางเฟิง

พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าเหลิงฉานเป็นผู้คุมกฎใหญ่ของศูนย์พันธมิตรบู๊

แล้วก็รู้ดีว่าศูนย์พันธมิตรบู๊ต้องการจะรวมโลกบู๊ในต้าเซี่ยทั้งหมดเข้าด้วยกัน

แล้วศูนย์พันธมิตรบู๊ จะยอมปล่อยให้ผู้นำจอมปลอมที่สถาปนาตัวเองเป็นเจ้าพันธมิตรอย่างหยางเฟิงปรากฏตัวได้อย่างไร?

ถ้าวันนี้หยางเฟิงประกาศตัวว่าเจ้าพันธมิตรบู๊ใต้

พรุ่งนี้ก็จะต้องมีคนที่อ้างตนว่าเจ้าพันธมิตรบู๊เหนืออีก

เช่นนั้น โลกบู๊ทั่วทั้งต้าเซี่ยไม่เละเทะไปหมดเหรอ?

ถึงเวลานั้น ศูนย์พันธมิตรบู๊ยังจะมีความน่าเกรงขามหลงเหลืออยู่ไหม?

“หยางเฟิง ในฐานะผู้คุมกฎใหญ่ของศูนย์พันธมิตรบู๊ ข้าจำเป็นต้องฆ่าเจ้า!”

เหลิงฉานหัวเราะเยาะ และไม่ได้พูดอะไร

แต่เจตนาฆ่าที่เยือกเย็นนั้น ทำให้ผู้คนต่างตกใจเป็นอย่างมาก!

นี่……

นี่คือความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ใหญ่ที่อยู่ในจุดสูงสุด!

“โย่วเฮ้!”

หยางเฟิงกรีดร้องอย่างจงใจ: “ที่แท้เจ้าคือผู้คุมกฎใหญ่ของศูนย์พันธมิตรบู๊! ข้าตกใจแทบแย่! ข้ากลัวมากเลยอ่ะ…”

“ถุย!”

พูดอยู่ดีๆ

หยางเฟิงก็ถ่มน้ำลายลงบนพื้น และพูดด้วยท่าทางรังเกียจ: “ศูนย์พันธมิตรบู๊อะไร? ข้าเป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ใต้ ยังต้องได้รับการแต่งตั้งจากพวกเจ้าอีกหรือ? พวกเจ้ามันก็เป็นแค่ตดเท่านั้นแหละ!”

“ข้าบอกให้เจ้ารู้ไว้ หากวันใดทำให้ข้าโกรธขึ้นมา! ฉันจะบุกไปถึงศูนย์พันธมิตรบู๊ อัดเจ้าคนที่พวกเจ้าเรียกว่า ท่านเจ้าพันธมิตร ให้ฟันร่วงเต็มพื้น ทำให้เขารู้ว่า ข้าเก่งกาจแค่ไหน!”

เมื่อได้ยินคำพูดหยาบคายของหยางเฟิง

ใบหน้าของเหลิงฉานก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันใด

“แม่งเอ๊ย! นี่มันคนมุทะลุจากไหน ถึงได้กล้าปีกกล้าขาแข็งกับเหลิงฉานขนาดนี้!”

“หยางเฟิง? ข้าหมือนจะเคยได้ยินชื่อของเขา … ”

“คนที่ก่อเรื่องทางตอนใต้ของต้าเซี่ยเมื่อเร็วๆ นี้ ก็คือเขา!”

“ข้าก็รู้ ได้ยินมาว่าเขาทำลายแก๊งเขียวจากหู้ไห่และแก๊งฟ้าดินจากจินหลิง! ทางตอนใต้ของต้าเซี่ย เขาเรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเลยล่ะ!”

เมื่อเห็นว่าหยางเฟิงไม่ได้เห็นเหลิงฉานอยู่ในสายตา

ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กัน

ในคนกลุ่มนั้น มีบางคนที่รู้ถึงตัวตนของหยางเฟิง จึงพูดออกมาในทันที

เงียบฉี่……

พริบตาเดียว

สายตาของทุกคนที่มีต่อหยางเฟิงก็เปลี่ยนไป

ไม่ว่าจะเป็นแก๊งเขียวหรือว่าแก๊งฟ้าดิน พวกเขาถือเป็นกองกำลังชั้นแนวหน้าในภาคใต้

หยางเฟิงสามารถล้างบางแก๊งเขียวและแก๊งฟ้าดินได้

ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า

ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถดูแคลนได้!

ในชั่วพริบตา

ทุกคนมองไปที่เหลิงฉานด้วยรอยยิ้มครึ่งๆ กลางๆ

ทุกคนอยากเห็นว่า

เหลิงฉานจะโต้ตอบกับการยั่วยุของหยางเฟิงอย่างไร!

ถ้าวันนี้เหลิงฉานไม่สามารถยับยั้งหยางเฟิงไว้ได้

ศูนย์พันธมิตรบู๊ก็จะต้องอับอายขายหน้า!

วันรุ่งขึ้น สภาพการณ์รวมโลกบู๊เป็นหนึ่งที่พวกเขาพยายามสร้างมาหลายปี ก็จะพังทลายลงทันที!

“หยางเฟิง ข้าต้องยอมรับว่าเจ้าปากคอเราะราย! แต่ข้าก็หวังว่า กระดูกของเจ้าจะแข็งแกร่งพอๆ กับปากของเจ้า!”

เหลิงฉานหัวเราะเยาะเย้ย

พอพูดจบ

ตึง!

เสียงดังฟังชัด

เหลิงฉานชักดาบที่ทั้งยาวและแหลมคมออกมาจากเอวของเขา

“วันนี้ ข้าจะใช้หัวของเจ้าบอกให้โลกรู้ว่า ศูนย์พันธมิตรบู๊หยามไม่ได้!”

“ฆ่า!!!”

เสียงคำรามด้วยความโมโหดังขึ้น

เหลิงฉาน ถือดาบยาวในมือและพุ่งตรงไปฆ่าหยางเฟิง

แสงจากกระบี่ปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง

เหลิงฉานก็มาอยู่ที่ด้านหน้าของหยางเฟิงแล้ว

กำลังอันแข็งแกร่ง น่าเกรงขามไร้ขอบเขต

ความเร็วที่ปราดเปรียว ผู้คนล้วนตกตะลึง

เงียบฉี่……

พอเห็นสภาพการณ์เช่นนี้

ทุกคนต่างก็ตกใจ

ไม่มีใครคาดคิดว่า

เหลิงฉานจะแข็งแกร่งขนาดนี้

ณ ตอนนี้

คนโลกบู๊นับหมื่นมองไปที่หยางเฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร

ดูเหมือนว่า

ไอ้คนที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้ ต้องตายแน่ๆ!

เย่ชิว

เหอเซิ่งหง

หลี่ซู่

ล้วนมองทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา!

ทุกคนหวังว่า เหลิงฉานจะฆ่าหยางเฟิงได้ในดาบเดียว!

ทันใดนั้น ผู้คุมกฎสิบก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ แล้วพูดว่า “เหลิงฉานถึงจุดพลิกผันแล้ว…”