เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 574
อะไร?
เมื่อได้ยินคำพูดนี้!
เย่ชิวและคนอื่นๆ ก็มีสีหน้าประหลาดใจ
ต้องรู้ก่อนว่า เหลิงฉานเป็นถึงผู้คุมกฎใหญ่ของศูนย์พันธมิตรบู๊
ความแข็งแกร่งเป็นรองแค่เจ้าพันธมิตร เริ่นเทียนสิง
ด้วยพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฟิงอีกหรือ?
พวกเขาไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่!
เมื่อเห็นสายตาของทุกคน
ผู้คุมกฎสิบไม่ได้อธิบายอะไร
เพราะเขาเคยต่อสู้กับหยางเฟิงมาก่อน
ขนาดเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฟิง
แล้วกะอีแค่เหลิงฉาน จะเป็นคู่ต่อสู้ของหยางเฟิงได้อย่างไร?
เกรงว่าต่อให้มีเหลิงฉานสิบคน ก็ไม่พอที่จะสู้หยางเฟิงได้!
ในเวลาเดียวกัน
หยางเฟิงใบหน้าไร้อารมณ์
เหลิงฉานถือว่าค่อนข้างแข็งแกร่งก็จริง
แต่แล้วยังไงล่ะ?
สุดท้ายแล้ว……
ก็แค่มดเท่านั้น!
เมื่อเห็นว่าหยางเฟิงนิ่งเฉย
รอยยิ้มบนใบหน้าขอเหลิงฉาน ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นในลูกตาดำของหยางเฟิง
เหลิงฉานรู้สึกเหมือนว่า ได้เห็นฉากที่ตนเองใช้ดาบตัดหัวของหยางเฟิงขาดแล้ว
“ผู้คุมกฎใหญ่ เกรียงไกร!”
ณ ตอนนี้
หลี่ซู่ตะโกน
เขาเกลียดหยางเฟิงเข้ากระดูกดำ
หวังให้เหลิงฉานฆ่าหยางเฟิงทิ้งซะ
“ผู้คุมกฎใหญ่เกรียงไกร!”
“ผู้คุมกฎใหญ่เกรียงไกร!”
“ผู้คุมกฎใหญ่เกรียงไกร!”
ในขณะเดียวกัน.
นักบู๊คนอื่นๆ นับพันคนของศูนย์พันธมิตรบู๊ก็ตะโกนขึ้นมา เพื่อให้กำลังใจเหลิงฉาน
“ตายซะ!”
ด้วยเสียงที่เยือกเย็น
เหลิงฉานฟันลงไปหนึ่งดาบอย่างรุนแรง
ดาบนี้
รวบรวมพลังทั้งหมดของเขาไว้
แม้ว่าเหลิงฉานจะเห็นหยางเฟิงอยู่ในสายตา
แต่เขาไม่ใช่คนโง่
หยางเฟิงสามารถเอาชนะหลี่ซู่ได้ เท่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหยางเฟิงนั้นแข็งแกร่งมาก!
แล็วก็ตอนนี้ มีคนโลกบู๊หลายหมื่นคนกำลังดูอยู่
เขาจำเป็นต้องโจมตีสุดกำลัง ให้หยางเฟิงสังเวยแก่ดาบของเขา สั่นสะเทือนโลกบู๊!
สีหน้าของเหลิงฉานดูดุร้ายน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ!
มุมปากของหยางเฟิง จู่ๆ ก็ปรากฏรอยยิ้มอย่างประหลาด
ในเวลาถัดมา
เหลิงฉานแทงหยางเฟิงเข้าไปในดาบเดียว
ใบหน้าของทุกคนล้วนประหลาดใจเช่นกัน
หรือหยางเฟิงถูกเหลิงฉานฆ่าตายแล้วง่ายๆ แบบนี้?
หรือว่าแท้จริงแล้วหยางเฟิงนั้นอ่อนแอมาก?
ที่แท้หยางเฟิงที่มีท่าทีหยิ่งผยองขนาดนั้น มันก็แค่ท่าดีทีเหลว!
เย่ชิว หลี่ซู่และคนอื่นๆ ต่างก็มีใบหน้าที่ยินดีดีใจ
มีเพียงผู้คุมกฎสิบเท่านั้นที่หน้าไร้ความรู้สึก
แววตาปรากฏความตื่นตระหนกที่พยายามเก็บซ่อนไว้
กึก
กึก
กึก
ทันใดนั้น
หยางเฟิงก็แตกสลายเป็นเศษเสี้ยวต่อหน้าเหลิงฉาน
เหมือนกับหน้าที่แตกเป็นเสี่ยงๆ
“ไม่ดีแล้ว เงาลวงตา!”
เหลิงฉานตกตะลึงตาค้าง ใบหน้าซีดเผือด
นี่เป็นการโจมตีที่เขารวบแรงทั้งหมดไว้แล้วจึงโจมตีออกไป คิดไม่ถึงว่าตัวเขาเองกลับไม่รู้แม้กระทั่งว่าหยางเฟิงหายไปตอนไหน
เขาไม่คาดคิดว่า หยางเฟิงจะมีความแข็งแกร่งที่ผิดมนุษย์เช่นนี้
เกรงว่าจะฝึกยุทธจนถึงขั้นที่เหนือกว่าปรมาจารย์ใหญ่ขึ้นไป คือก้าวที่สองที่ลึกล้ำและลี้ลับนั้น!
จากที่ได้ยินมา การฝึกยุทธนั้น จากนักบู๊ ไปเป็นปรมาจารย์ และไปถึงระดับปรมาจารย์ใหญ่ ทั้งหมดเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น คือการฝึกฝนความแข็งแกร่งของร่างกาย
ส่วนก้าวที่สองคือ สภาวะสูงสุดที่ลึกลับและไม่อาจคาดเดาได้
เพียงแต่สิ่งที่เรียกว่าก้าวที่สองนั้น สำหรับเหลิงฉานแล้ว ช่างอยู่ไกลแสนไกลเหลือเกิน
แม้ว่าเขาจะค้นหนังสือและอ่านบันทึกโบราณทั้งหมดในโลก ก็ยังยากที่เข้าใจได้!
“เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ?”
ในเวลาเดียวกัน
ก็มีเสียงหยอกล้อดังขึ้นข้างหูของเหลิงฉาน
พริบตาเดียว
เหลิงฉานก็ขนลุกขึ้นมาทั้งตัว
เขาไม่กล้าที่จะลังเลใดๆ เขาตั้งใจกัดฟัน และหันตัวกลับไปแทง!
“ได้ผลมั้ย?” เสียงเยาะเย้ยของหยางเฟิงลอยมา: “ตั้งแต่วินาทีแรกที่เจ้าลงมือ เจ้าก็ตายไปแล้ว!”
ตูม!
เห็นเพียงหยางเฟิงเหวี่ยงหมัดมาหนึ่งที
ก็เห็นอากาศจมลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ใบหน้าของเหลิงฉานตกตะลึง
เขาต้องการที่จะป้องกัน
แต่ก็พบว่า ตัวเขาไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลย
ด้วยความงุนงง เขารู้สึกเหมือนมีมือที่ไร้รูปร่างคู่หนึ่ง กำลังจับคอเขาไว้แน่น!
เขาทำได้เพียงมองอยู่อย่างเดียว
หมัดของหยางเฟิงดูเหมือนจะช้า แต่จริงๆ แล้วเร็วปานสายฟ้าต่อยไปที่ท้องของเขา