ตอนที่ 1795 อาการกำเริบ (2)
ผู้อาวุโสเยว่มองไปรอบๆและเห็นผู้รักษาทุกคนก้มหน้าลงไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง จากนั้นเขาก็เดินไปยังมุมที่เยว่เย่ยืนอยู่โดยไม่ได้ดึงดูดความสนใจใดๆ
เยว่เย่เห็นผู้อาวุโสเยว่เดินตรงมาหานางหน้าซีดและรีบก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว
“ทำไมจู่ๆท่านประมุขถึงอาการกำเริบขึ้นมาได้?”ผู้อาวุโสเยว่ถามเสียงกระซิบ
“ข้า……ข้าไม่รู้……ตอนแรกท่านประมุขก็สบายดีข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆท่านก็……” เยว่เย่กัดริมฝีปาก ร่างเล็กของนางสั่นด้วยความกลัว
“ตอนนั้นนอกจากเจ้ากับท่านประมุข มีใครอยู่ในห้องนอนอีกรึเปล่า?” ผู้อาวุโสเยว่มองเยว่เย่ ตั้งแต่ตอนที่เขาส่งเยว่เย่มาที่วังของประมุขวิหารเงาจันทรา เยว่เย่ยังไม่ได้ออกจากที่นี่
เยว่เย่ส่ายหน้า
“ก่อนอาการกำเริบท่านประมุขกินอะไรรึเปล่า?”ผู้อาวุโสเยว่ถามต่อ
เยว่เย่ส่ายหน้า
“เอาล่ะที่นี่ไม่มีอะไรที่เจ้าทำได้แล้ว กลับไปก่อนเถอะ อย่าบอกพี่ชายเจ้าว่าเจ้ามาที่ห้องนอนของท่านประมุข เข้าใจไหม?”
เสียงของผู้อาวุโสเยว่แฝงความเย็นชาเล็กน้อย
เยว่เย่พยักหน้าอย่างเชื่อฟังนางถอยออกจากห้องนอนของประมุขวิหารเงาจันทราอย่างเงียบๆตามคำสั่งของผู้อาวุโสเยว่
ตลอดทางที่เยว่เย่เดินออกจากห้องนอนของประมุขวิหารเงาจันทรานางเอาแต่ก้มหน้า ไม่เงยขึ้นมาเลย
ศิษย์วิหารเงาจันทราที่เดินผ่านไปมาแอบมองเยว่เย่ขณะที่นางเดินผ่านพวกเขาไปด้วยสายตาซับซ้อน
“เย่เอ๋อร์ทำไมเจ้า……อยู่ที่นี่?” เยว่อี้ที่เพิ่งเอากล่องไม้กลับไปเก็บที่ห้องหนังสือของผู้อาวุโสเยว่ไม่คิดว่าเขาจะบังเอิญเจอน้องสาวของตนระหว่างทางกลับ
เยว่เย่สะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ
“ท่านพี่”เยว่เย่เรียกเสียงเบา
“ทำไม?เจ้าไม่สบายหรือ? สีหน้าไม่ดีเลย” เยว่อี้สังเกตเห็นว่าน้องสาวของตนหน้าซีด จึงอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
เยว่เย่ส่ายหน้า
“ไม่มีอะไรข้าแค่คิดว่าจะขอเมล็ดพันธุ์บางอย่างจากคนสวน เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าเพิ่งปรับพื้นที่เล็กน้อย กำลังคิดว่าจะปลูกอะไรดี” เยว่เย่ยิ้มหวานจนเยว่อี้แทบจะใจละลาย
เยว่อี้รู้ว่าน้องสาวของตนชอบดอกไม้ต้นไม้พวกนี้จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แค่พูดอย่างตามใจว่า “ถ้าอยากได้เมล็ดอะไรก็บอกข้านะ ข้าจะช่วยหามาให้ ร่างกายของเจ้าอ่อนแอ อย่าไปไหนมาไหนมากนัก”
สายตาของเยว่อี้เต็มไปด้วยความรักและใส่ใจแต่เป็นความรักและใส่ใจที่แฝงไว้ด้วยความกังวล
เยว่เย่โตขึ้นเรื่อยๆแม้ว่าจะยังไม่สาวสะพรั่ง ก็มีแววเล็กๆแล้วว่านางจะกลายเป็นสาวงามล่มเมือง วิหารเงาจันทราเป็นสถานที่แบบไหนนั้น เยว่อี้รู้ดีกว่าใคร ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสเยว่เท่านั้น แต่ศิษย์วิหารเงาจันทราจำนวนมากก็ไม่ได้ดีอะไรเลย เยว่เย่ยังเด็กมาก ถ้านางถูกพวกเขารังแก นางก็ไม่สามารถต่อต้านพวกเขาได้
เยว่อี้ทนไม่ได้ที่น้องสาวของตนจะต้องทนทุกข์เยว่อี้จึงเป็นห่วงกังวลอยู่ตลอดเวลา
“อื้ม!ท่านพี่เพิ่งกลับมาจากวิหารจิงหง ก็ต้องพักผ่อนให้ดีๆเหมือนกันนะ อย่าหักโหมเกินไป เย่เอ๋อร์เป็นห่วง” เยว่เย่เงยหน้าขึ้นมองพี่ชายซึ่งเป็นคนที่พวกเขาจะพึ่งพากันและกันไปตลอดชีวิต
เยว่อี้พยักหน้ามีน้องสาวเช่นนี้ เขาจะไม่อยากดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีกว่าของพวกเขาสองคนได้อย่างไร? เขารู้สึกโชคดีมากที่ได้พบกับจวินอู๋เสีย เพราะจวินอู๋เสียคือคนที่ทำให้เขาได้สติ ทำให้เขาไม่หมดอาลัยตายอยากในชีวิต
เขายังมีคนที่อยากปกป้องเขาต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างเข้มแข็ง!
สองพี่น้องคุยกันอีกสองสามคำจากนั้นก็แยกย้ายกันไป
หลังจากเยว่เย่เดินห่างออกมาแล้วนางก็หันกลับไปมองด้านหลังของเยว่อี้ ดวงตาใสกระจ่างของนางฉายแววแปลกๆขึ้นมาแวบหนึ่ง
ตอนที่ 1796 อาการกำเริบ (3)
คืนนั้นอาการของประมุขวิหารเงาจันทราไม่ดีขึ้นเลยผู้รักษากลุ่มใหญ่ยืนเฝ้าอยู่ในห้องนอนตลอดทั้งคืน ไม่กล้าออกห่างเลยแม้แต่ก้าวเดียว เหล่าผู้อาวุโสของวิหารเงาจันทราได้ข่าวก็พากันวิ่งเข้ามา และคอยเฝ้าดูอยู่ในห้องนอนเช่นกัน
ในคืนนั้นกลุ่มคนที่มีพลังสูงและกุมอำนาจในวิหารเงาจันทราไม่อาจนอนหลับสนิทได้เลย
ขณะเดียวกันในคุกใต้ดิน จวินอู๋เสียกำลังหลับสบาย
จนกระทั่งมีเสียงดังขึ้นเบาๆจวินอู๋เสียที่กำลังเอนหลังพิงกำแพงเพื่อพักผ่อนก็ลืมตาขึ้นภายใต้แสงเทียนสลัว
“คุณหนู”ไม่รู้ว่าเย่ฉาเข้ามาในคุกใต้ดินตั้งแต่เมื่อไร
“หืม?”จวินอู๋เสียขยับคอเล็กน้อยขณะดึงตัวขึ้นนั่ง
“ข้าเจอของที่คุณหนูสั่งให้ไปหาแล้วขอรับเชิญคุณหนูตรวจสอบ” พูดจบ เย่ฉาก็หยิบกล่องผ้าใบหนึ่งออกมาและวางลงบนมือของจวินอู๋เสีย
ก่อนหน้านี้จวินอู๋เสียได้ให้จี้หยกที่ผู้อาวุโสอิ่งมอบให้นางให้กับเย่ฉาและสั่งให้เขาไปหาเบาะแสที่เรือนของผู้อาวุโสเยว่ไม่คิดเลยว่าเย่ฉาจะเร็วขนาดนี้ หาของสิ่งนั้นเจอในเวลาแค่ครึ่งวัน
จวินอู๋เสียเปิดกล่องและพบหยกที่ไม่สมบูรณ์สองชิ้นอยู่ด้านในหยกสองชิ้นนั้นสามารถต่อกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของหยกหรือการแกะสลักและลวดลายบนหยก บ่งบอกว่าหยกสองชิ้นนั้นเดิมทีเป็นชิ้นเดียวกัน
“เจ้าเจอมันในห้องของผู้อาวุโสเยว่หรือ?”จวินอู๋เสียหยิบหยกสองชิ้นออกมาตรวจดู เป็นเพราะหยกกล่อมวิญญาณทำให้จวินอู๋เสียมีความสนใจของวิเศษที่ทำจากหยก การที่ผู้อาวุโสอิ่งให้ความสนใจหยกนี้มากทำให้นางรู้ว่ามันต้องมีเหตุผลที่พิเศษอยู่แน่ๆ
น่าเสียดายหลังจากที่ตรวจดูอยู่พักหนึ่ง นางก็ไม่พบว่ามันมีอะไรพิเศษ
หยกนี้เป็นเพียงเครื่องประดับหยกธรรมดานอกจากเรื่องที่หยกชิ้นนี้มีคุณภาพสูงมากแล้ว มันก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากหยกชิ้นอื่น
“ขอรับวันนี้ผู้อาวุโสเยว่ไม่ได้กลับเรือน ข้าเลยค้นหาได้สะดวกมาก” เย่ฉายอมรับตามตรง ที่จริงด้วยความสามารถของเขา ต่อให้ผู้อาวุโสเยว่อยู่ ก็ยากที่เขาจะสัมผัสถึงตัวตนของเย่ฉาได้ แต่การที่เขาไม่อยู่ทำให้เย่ฉาทำการค้นหาได้โดยไม่ต้องกังวล
จวินอู๋เสียพยักหน้าจากนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียงฟาง
“คุณหนูนายท่านเจว๋มีบางอย่างต้องไปจัดการ ท่านบอกข้าว่าถ้าคุณหนูต้องการพบท่านไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม ท่านจะรีบกลับมาทันที” เย่ฉากล่าว
จวินอู๋เสียถอนหายใจเบาๆจวินอู๋เหยานึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป นางเริ่มจะชินแล้ว
การที่จวินอู๋เหยาจากอาณาจักรล่างมาถึงที่นี่จวินอู๋เสียรู้ว่าเขาต้องทิ้งสิ่งสำคัญมากมายไว้เบื้องหลัง นางจะไม่ขอให้เขาอยู่เคียงข้างนางตลอดเวลา ตัวนางเองก็เช่นเดียวกัน นางมีสิ่งที่ต้องจัดการ เขาเองก็มีเหมือนกัน
“จากนี้ไปคุณหนูตั้งใจจะทำอะไรขอรับ?”เย่ฉาถาม
จวินอู๋เสียเก็บหยกเข้ากล่องมุมปากของนางโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา
“ในเมื่อตอนนี้ข้าได้ของมาแล้วข้าก็ควรนำไปมอบให้คนที่ต้องการมันซิ” นางไม่ลืมสิ่งที่ผู้อาวุโสอิ่งสัญญาไว้ นางเชื่อว่าหยกสองชิ้นนี้สามารถนำรางวัลที่ไม่คาดคิดมาให้นางได้
“คุณหนูคิดว่าผู้อาวุโสอิ่งไว้ใจได้จริงๆหรือขอรับ?”เย่ฉาถามอย่างสงสัย
“อย่าสงสัยคนที่เจ้าใช้และอย่าใช้คนที่เจ้าสงสัย” จวินอู๋เสียกล่าว
จากนั้นจวินอู๋เสียก็เดินออกไปจากคุกใต้ดินอย่างโจ่งแจ้งขณะที่เย่ฉาซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเพื่อคอยปกป้องนาง
ผู้คุมคุกใต้ดินหลับไปแล้วพวกเขานอนแผ่น้ำลายไหลอยู่ที่โต๊ะ ไม่ได้สังเกตแม้แต่น้อยว่าจวินอู๋เสียที่ถูกขังอยู่ข้างในกำลังเดินออกไปโดยไม่มีใครขัดขวาง
กลางดึกคืนนั้นผู้อาวุโสอิ่งนั่งอยู่ในห้องของเขาตามลำพัง ขณะที่ผู้อาวุโสทั้งกลุ่มไปเฝ้าดูประมุข มีเพียงเขาเท่านั้นที่เลือกไม่สนใจ