บทที่ 554 พุ่งฆ่าออกไปเป็นเส้นทางเลือด

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 554 พุ่งฆ่าออกไปเป็นเส้นทางเลือด
สีชิ่นเสกร่มเจ็ดสีออกมา คนที่ถูกร่มเจ็ดสีครอบคลุมล้วนสลายเป็นน้ำเลือด และไม่รู้ว่าร่มคันนั้นมีกลเม็ดอะไรกันแน่ ถึงได้มีพลานุภาพยิ่งใหญ่ขนาดนี้

สิ่งที่ยิ่งทำให้พวกเขาโมโหคือ บางเวลาที่สีชิ่นหุบร่มทำเป็นไม้และดาบอันแหลมคม ฟาด แทง สับ สะกิด ฟัน

ทุกกระบวนท่าที่ผ่านไป ล้วนมีลูกศิษย์ของเผ่าเทียนเฟิ่นตายลง

ขลุ่ยหยกขาวของเย่จิ่งหาน อานุภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าสีชิ่นและไป๋จิ่น ทุกกระบวนท่าถึงแก่ชีวิต

แม้แต่กู้ชูหน่วนที่เป็นเพียงแค่ระดับสองที่ได้รับบาดเจ็บหนัก นางอยู่ภายใต้การคุ้มกันของทุกคน บางเวลาก็จัดการคนที่เล็ดลอดผ่านเข้ามาได้ ตลอดทางที่ผ่านไป ราบรื่นไร้สิ่งกีดขวาง

เดือดดาล……

เดือดดาลเกินไปแล้ว

ตั้งแต่แรกเริ่มเผ่าเทียนเฟิ่นไม่เคยรู้สึกอัดอั้นใจเพียงนี้มาก่อน

ไม่สังหารคนพวกนี้ ตามหลักสวรรค์ก็ปล่อยไว้ไม่ได้

รองหัวหน้าเผ่าซือคงตะโกนว่า “ผู้อาวุโสสี่ตำหนักเมฆา จัดการสีชิ่นและไป๋จิ่น”

“สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ รบกวนท่านจัดการเย่จิ่งหานหรือไม่ก็จอมมาร”

ก่อนที่รองหัวหน้าเผ่าซือคงจะเอ่ยปาก สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่สะบัดแขนเสื้อ ร่างกายเปลี่ยนเป็นเงา พร้อมด้วยแรงสังหารคุกรุ่น พุ่งไปทางจอมมาร

วิทยายุทธของเย่จิ่งหานและจอมมารสูสีกัน แต่ไม่รู้ว่าเพราะเย่จิ่งหานได้รับบาดเจ็บเป็นเหตุหรือไม่ ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ วิทยายุทธของเย่จิ่งหานจึงอ่อนแอกว่าจอมมารเล็กน้อย

ด้วยเหตุนี้สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่จึงเผชิญหน้ากับจอมมารที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดโดยไม่ต้องคิด

เพียงแค่จัดการจอมมารได้ ก็สามารถจัดการคนเหล่านี้ได้ทีละคน

สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่เลือกจอมมารเป็นคู่ต่อสู้ รองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่อยากให้ลูกศิษย์ในเผ่าบาดเจ็บล้มตายโดยไร้ประโยชน์ เลือกเย่จิ่งหาน

ผู้อาวุโสอีกสองคนที่มีพลังอ่อนแอกว่าเล็กน้อย ก็เผชิญหน้ากับกู้ชูหน่วน

ราวกับว่าพวกเขาวางอุบายไว้ล่วงหน้าแล้ว บังคับให้คนทั้งห้าแยกกัน ตั้งใจตีให้พ่ายแพ้ไปทีละคน

การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่จึงได้เปิดฉากขึ้นตรงนี้

เผ่าเทียนเฟิ่นพายุลมโหมกระหน่ำ เสียงอาวุธปะทะห้ำหั่น เสียงต่อสู้ฟาดฟัน เสียงเย้ยหยันอย่างเย็นชาดังมาไม่ขาดหู

ท้องฟ้าเปลี่ยนสี ราวกับว่าทั้งท้องฟ้ากำลังจะพังทลายลงมาเช่นนั้น

แรงสังหารแผ่ซ่านไปทั่วเผ่าเทียนเฟิ่น

ลูกศิษย์ของเผ่าเทียนเฟิ่นที่อยู่ใกล้กับการต่อสู้ ล้วนโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ กลายเป็นหมอกเลือด

คนของเผ่าเทียนเฟิ่นนั้นแข็งแกร่งมาก

ระดับของสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่เทียบเท่ากับจอมมาร

ต่อสู้นับร้อยครั้ง ก็ไม่มีผู้ใดสามารถทำอะไรใครได้

เย่จิ่งหานได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของรองหัวหน้าเผ่าซือคง แต่รองหัวหน้าเผ่าซือคงพยายามคิดทุกวิถีทางที่จะจัดการเขา ก็จัดการไม่ได้

สีชิ่นและไป๋จิ่นนั้นเหนือกว่าผู้อาวุโสสี่ตำหนักเมฆาเล็กน้อย อยู่ไม่ห่างไปข้างกายของกู้ชูหน่วน คุ้มกันนางไว้ตลอดเวลา

กระบวนท่าของกู้ชูหน่วนแปลกประหลาด ร่างกายไหลลื่นดั่งปลาไหลเช่นนั้น

ทุกครั้งที่ผู้อาวุโสสองท่านเกือบจะคว้านางได้ ก็ถูกนางไถลออกไปอีก ทำให้พวกเขาโมโหจนแทบอยากจะสับสับสับกู้ชูหน่วนให้ตายไป

เผ่าเทียนเฟิ่นคนมากกองกำลังก็มาก อีกทั้งยังมีค่ายกลมาช่วยอีก

เย่จิ่งหานรู้ ยืดเยื้อต่อไป พวกเขาจะต้องสูญสิ้นกำลังภายใน ไร้เรี่ยวแรงจนตายได้

และเผ่าเทียนเฟิ่นยังมีสุดยอดผู้อาวุโสอีกไม่น้อย วิทยายุทธของแต่ละคนก็มองข้ามไม่ได้

เย่จิ่งหานตะโกนพูดว่า “ให้กู้ชูหน่วนออกไปก่อน”

“จะไปก็ไปด้วยกัน”

ฝ่ามือลมพายุสายฟ้าฟาดฝ่ามือหนึ่ง กู้ชูหน่วน สีชิ่นและไป๋จิ่นพุ่งสังหารออกไปเป็นเส้นทางเลือดเส้นหนึ่ง