มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 501
“ในเมื่อเจ้าบอกว่าข้าไม่ใช่ปรมาจารย์กลั่นยาระดับหก เช่นนั้นข้าจะกลั่นยาระดับหกให้เจ้าดูหนึ่งครั้งในตอนนี้”

หลัวซิวยิ้มบาง ๆ “แต่หากใครก็สามารถสงสัยในตัวข้าได้ ต่อให้ข้าได้นั่งตำแหน่งประธานแก๊ง เกรงว่าจะไม่สามารถเป็นได้อย่างสมศักดิ์ศรี เจ้าต้องการให้ข้าพิสูจน์ทักษะระดับหกก็ย่อมได้ แต่ข้าต้องการแลกเปลี่ยนข้อตกลงหนึ่งข้อ เจ้ากล้ารับปากหรือไม่?”

“ข้อตกลงใด?” หนานเหมินโต้วนัยน์ตาเต็มไปด้วยความสงสัย

“หากข้าสามารถกลั่นยาระดับหกออกมาได้ในตอนนี้ ต่อไปเมื่อข้าได้เป็นประธานแก๊งนักกลั่นยา เจ้าจำเป็นต้องฟังคำสั่งของข้าอย่างเคร่งครัด โดยไม่สามารถต่อต้านได้ ข้ารู้ดีว่าเรื่องของฝานไท่เต๋อที่ผ่านมานั้นมันทำให้เกิดประเด็นในใจเจ้า แต่ทำสิ่งที่อยู่ภายใต้อำนาจของข้า ข้าคาดหวังว่าจะไม่มีใครมาคอยฉุดรั้ง”

“ดังนั้นข้าจึงขอกล่าวคำที่ไม่น่าฟังเช่นนี้เอาไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้ หากใครไม่จำใส่ใจ ถึงเวลานั้นอย่าหาว่าข้าหลัวซิวคนนี้ไม่ไว้หน้า!”

หลัวซิวพูดคำพวกนี้ออกมา ไม่เพียงแค่ต้องการพูดให้หนานเหมินโต้วฟังคนเดียว แต่มันรวมถึงการบอกกล่าวกับผู้อาวุโสแก๊งนักกลั่นยาที่อยู่ที่นี่ด้วยเช่นเดียวกัน

เขารู้ดีว่า หากตนต้องการมีที่ยืนในแก๊งนักกลั่นยา ก็จำเป็นต้องสร้างอำนาจ และหนานเหมินโต้วคนนี้ก็วิ่งเข้ามาในมือเขาพอดี มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้เขาได้สร้างอำนาจ

หลังจากสิ้นเสียงลง ด้วยการสะบัดนิ้วของหลัวซิว สำแสงสีเขียวก็พุ่งออกมาจากแหวนเก็บของ ตกลงไปเหนือพื้นดินสามฟุต

แสงสีเขียงยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง แค่เพียงพริบตาก็กลายเป็นเตากลั่นยาเตาหนึ่ง มีสองหัวสามขา เป็นสีเขียวทั้งตัวโดยมีมังกรคู่พันล้อมรอบ

เตากลั่นยานี้ คือเตากลั่นยาโบราณที่หลัวซิวได้รับมาจากเมืองร้างในตอนแรก ซึ่งนั่นก็คือเตาทยานนภามังกรคู่!

ต่อให้ในสมัยโบราณ เตาทยานนภามังกรคู่ก็เป็นหนึ่งในเตากลั่นยาขั้นดินที่ถือได้ว่าเป็นสมบัติขั้นสูง

เมื่อเตาทยานนภามังกรคู่ปรากฏขึ้น มีความแปรปรวนของวิถีเต๋าโบราณไหลออกมา ถึงแม้จะไม่รู้เรื่องการกลั่นยาอย่างฉีฝ่าเทียนและจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง ต่างก็สามารถรับรู้ได้ว่า เตากลั่นยานี้ไม่ใช่ธรรมดา

แต่พวกนักกลั่นยาของหนานเหมินโต้ว กลับยังเห็นโลกไม่กว้างพอ ไม่สามารถรู้ถึงที่มาของเตากลั่นยานี้ได้

เพื่อสังเวยเตาทยานนภามังกรคู่ สายตาของหลัวซิวมองไปที่กลุ่มคนที่มุงอยู่ “ทุกท่านมีใครมียาวิเศษหรือไม่ ข้าสามารถกลั่นยาหนึ่งเตาในตอนนี้ให้ได้โดยไม่คิดค่าตอบแทน”

“ข้ามี!”

เหว้ยห้าวหรานเป็นคนแรกที่เอ่ยปาก หยิบยาวิเศษจำนวนหนึ่งออกมาโดยไม่พูดอะไร พอดีกับยาวิเศษที่จะกลั่นเตานี้คือยารวมจิตเรืองอร่าม

ยารวมจิตเรืองอร่าม เป็นยาชนิดหนึ่งที่สามารถชุบเทพจิต ยาระดับหกที่ช่วยเพิ่มตัวสำนึก ถือเป็นยาระดับหกที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง โดยทั่วไปนักกลั่นยาระดับหกนั้นมีอัตราความสำเร็จไม่มากนัก

“ไม่รู้ว่าอัตราความสำเร็จของเจ้าสำนักหลัวมีเท่าไรหรือ?” เหว้ยห้าวหรานเอ่ยปากถาม

ก่อนหน้านี้เขาก็เคยไปหาฝานไท่เต๋อกลั่นให้กลั่นยาประเภทนี้ แต่อัตราความสำเร็จของฝานไท่เต๋อมีอยู่ไม่ถึงห้าส่วนด้วยซ้ำไป โดยปกติต้องใช้ยาวิเศษหกถึงเจ็ดชุด ถึงจะสามารถกลั่นได้สักหนึ่งเตา และนั่นเป็นเพียงผลสำเร็จของยาวิเศษ ยังไม่รวมถึงค่าตอบแทนสำหรับการกลั่นยาของฝานไท่เต๋อ

ได้ยินเช่นนี้ หลัวซิวก็หัวเราะดังลั่น “อาจารย์เหว้ยไม่มั่นใจในตัวข้าหรือ? เช่นนั้นท่านเอายาวิเศษออกมา ไม่กลัวข้ากลั่นขยะออกมาให้ท่านหรืออย่างไร?”

“ไม่ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” เหว้ยห้าวหรานหน้าแดงขึ้นมา คำถามของเขาเมื่อครู่มันฟังดูหยาบคายเกินไปจริง ๆ

หลัวซิวกลับไม่ได้ใส่ใจอะไร ถึงอย่างไรวัตถุดิบของยารวมจิตเรืองอร่ามหนึ่งชุด สำหรับเหว้ยห้าวหรานที่เป็นถึงจักรพรรดิยุทธ์แล้ว มันเป็นแค่เพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น

“ไม่รู้ว่าอาจารย์เหว้ยอยากได้ยากี่ส่วนหรือ?” หลัวซิวถามกลับ

เมื่อถามประโยคนี้ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตกตะลึง มีนักกลั่นยาที่ไหนถามอีกฝ่ายว่าอยากได้ส่วนยาเท่าไรกัน?

หรือหากข้าอยากได้ยาบริสุทธิ์ เจ้าก็สามารถกลั่นออกมาได้งั้นหรือ?

ไม่มีใครอยากได้ยาบริสุทธิ์สิบส่วน แต่ไม่ว่าใครก็รู้ดี ทั่วทั้งอาณาจักรใต้ ยังไม่เห็นนักกลั่นยาคนใดที่สามารถกลั่นยาบริสุทธิ์ออกมาได้

นักกลั่นยาในโลกปัจจุบันมีการแบ่งลำดับมาตรฐาน คือหกส่วนจะเป็นยาระดับล่าง เจ็ดส่วนเป็นยาระดับกลาง แปดส่วนคือยาระดับสูง เก้าส่วนเป็นยาชั้นพิเศษ

แต่ในสมัยโบราณ ต้องเป็นยาบริสุทธิ์สิบส่วนเท่านั้น จึงจะสามารถมีคุณสมบัติเรียกว่าเป็นยาชั้นพิเศษได้