มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 502
เหว้ยห้าวหรานเดิมทีอยากจะพูดว่าเอายาระดับสูงแปดส่วน แต่มาคิดอีกที ต่อให้เป็นฝานไท่เต๋อในตอนนั้นยังไม่สามารถกลั่นยาแปดส่วนระดับสูงออกมาได้ อย่างมากที่คุณบางครั้งอาจจะสามารถกลั่นยาเจ็ดส่วนระดับกลางออกมาได้สักเม็ดสองเม็ด ดังนั้นจึงตอบว่า “ยาระดับกลางเป็นเช่นไร?”

หลัวซิวได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาบาง ๆ “ตามที่ท่านปรารถนา”

หลังจากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรอีกต่อไป มือหนึ่งยกขึ้น เปิดใช้งานเตากลั่นยา ฝาเตาลอยขึ้น ควบคู่ไปกับเสียงคำรามอย่างแผ่วเบาของมังกร

หลัวซิวก็ไม่ได้ใช้ภูตอัคคีกลืนกิน พลังจิตแท้สองระดับความเป็นตายผสานเป็นพลังแห่งชีวิต กลายเป็นเปลวเพลิงสีขาวบริสุทธิ์ ใส่เข้าไปในเตากลั่นยา

หลังจากนั้น หลัวซิวก็ยกมือขึ้นอีกครั้ง ภายใต้การควบคุมของพลังจิตแท้ ยาวิเศษจำนวนหนึ่งลอยขึ้นและตกลงไปในเตากลั่นยา ตลอดทั้งกระบวนการกลั่นยา ไหลลื่นราวกับเมฆเคลื่อนน้ำไหล ทำให้คนมองรู้สึกถึงความรื่นรมย์

หนานเหมินโต้วและเหล่าผู้อาวุโสแก๊งนักกลั่นยา มองการกระทำของหลัวซิวเป็นตาเดียว แต่ก็พบว่าตนนั้นไม่เข้าใจการสำแดงวิชายาของหลัวซิวเลย

วิชายาว่าด้วยการกลั่นยารวมจิตเรืองอร่าม พวกเขาต่างก็เลยเห็นฝานไท่เต๋อสำแดงมาแล้ว ทั้งสองกลั่นยาชนิดเดียวกัน แต่วิชายาที่สำแดงนั้น แต่ดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ตอนที่ฝานไท่เต๋อกลั่น ประมาณสามหรือสี่อึดใจก็จะต้องปล่อยวิชายานับสิบออกมา แต่หลัวซิวในช่วงเวลาหนึ่งส่วนสี่ของชั่วโมง ก็ปล่อยวิชายาออกมาเพียงสี่ครั้ง ดูเหมือนว่าทุกวิชายาจะมีความลึกลับไม่รู้จบรวมอยู่ ประกอบด้วยแก้นแท้ของวิชายานับสิบ

ในช่วงเวลาสั้น ๆ หลัวซิวก็ปล่อยวิชายาครั้งสุดท้าย “เก็บ!”

เห็นเพียงเขาอ้าปาก เมื่อสูดลมหายใจเข้า เปลวเพลิงสีขาวบริสุทธิ์ในเตากลั่นยาก็ลอยเข้าไปในปากเขา หลังจากนั้นยาเม็ดกลมสีใสลูกแล้วลูกเล่าก็ลอยตามกันออกมา และถูกเขาเก็บลงไปในขวดหยก

“เท่านี้ก็เสร็จแล้วหรือ?” หนานเหมินโต้วดวงตาเบิกกว้าง การกลั่นยาอันอัศจรรย์เช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาเคยพบเห็น

ไม่นับส่วนที่ล้มเหลว ก็ยังต้องใช้เวลาเป็นวัน แต่หลัวซิวกลับใช้เพียงหนึ่งเค่อกว่า ๆ เท่านั้น ความแตกต่างของเวลานั้น เป็นเพียงแค่ความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่ตอนที่หลัวซิวเก็บยา นั่นเห็นได้ชัดว่ากลั่นยาสำเร็จแล้ว กลิ่นหอมของยาที่เข้มข้นนั้นไม่สามารถปลอมแปลงได้

ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ ก็สามารถกลั่นได้สำเร็จได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ นี่เป็นสิ่งที่ปรมาจารย์กลั่นยาระดับหกที่ไหนสามารถทำได้กันล่ะ?

หนานเหมินโต้วก้มศีรษะลง ไม่มีคำใดถูกเอ่ยออกมา เพียงแค่ยืนขึ้นและโค้งคำนับไปที่หลัวซิวอย่างสุดซึ้ง

เขามั่นใจอย่างถึงที่สุด พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

นี่สิ ถึงจะเรียกว่าเป็นผู้ที่สามารถทำให้คนยอมจำนนได้โดยไม่มีข้อกังขา สำหรับนักกลั่นยาหนึ่งคน ไม่มีสิ่งใดน่าเชื่อถือไปมากกว่าสิ่งนี้อีกแล้ว

“อาจารย์เหว้ย นี่คือยาของท่าน”

หลัวซิวยกมือขึ้น ขวดหยกลอยออกไปทางเหว้ยห้าวหราน

เหว้ยห้าวหรานรีบเอื้อมมือไปรับไว้ และรีบตรวจสอบดูยาในทันที มันใดนั้นสีหน้าของเขาก็ชะงักไปทันที ยาหนึ่งเตาแปดเม็ด ทุกเม็ดต่างก็เป็นยาระดับกลางเจ็ดส่วนจริง ๆ ด้วย

สิ่งนี้ทำให้เหว้ยห้าวหรานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจในภายหลัง เมื่อเห็นหลัวซิวกลั่นออกมาอย่างง่ายดายเช่นนี้ บอกว่าเอายาระดับกลางก็ได้ยาระดับกลาง หากเขาบอกว่าเอายาระดับสูง เช่นนั้นก็จะสามารถกลั่นออกมาได้งั้นหรือ?

“อย่างไรเล่า? อาจารย์เหว้ยไม่พอใจยาที่ข้ากลั่นหรือ?” หลัวซิวพูดพร้อมรอยยิ้ม

“พอใจ ต้องพอใจอยู่แล้ว!” เหว้ยห้าวหรานเรียกคืนสติได้ รอยยิ้มที่ระบายอยู่บนหน้านั้นมันกว้างเสียจนแทบจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว

ยาวิเศษหนึ่งชุดสามารถแลกมาได้หนึ่งเตา เขาต้องดีใจและพอใจมากอยู่แล้ว

“ฮ่า ๆ เจ้าสำนักหลัวเปิดหูเปิดตาให้พวกเราจริง ๆ!”

ฉีฝ่าเทียนหัวเราะเสียงดัง “เช่นนี้ เหล่าผู้อาวุโสแก๊งนักกลั่นยา ยังมีใครไม่ยอมรับอีกหรือไม่?”

“คารวะท่านประธานแก๊ง!”

ด้วยการนำของหนานเหมินโต้ว ผู้อาวุโสแก๊งนักกลั่นยาทั้งหมดหกคน พวกเขาทั้งหมดยืนขึ้นด้วยความเคารพและโค้งคำนับหลัวซิวอย่างสุดซึ้ง

ฉีฝ่าเทียนยิ้มพร้อมกับหยิบตราประทับของปรมาจารย์กลั่นยาระดับหกออกมาอันหนึ่ง มันแตกต่างจากตราประทับของนักกลั่นยาทั่วไป ตราประทับนี้เป็นสีทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถานะประธานแก๊งแห่งภูมิภาคหนึ่ง

เมื่อมีตราประทับนี้ หลัวซิวก็จะได้รับสมญานามว่าเป็นประธานแก๊งแห่งแก๊งนักกลั่นยา ของดินแดนของประเทศเทียนหวูที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้!