CLS ตอนที่ 608: หินยักษ์
การลงมือของอี้เทียนหยุนทําให้อีกฝ่ายถูกสังหารในทันที ซึ่งตอนนี้ในที่สุดก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขา หกคนที่พามาด้วย ตอนนี้เหลือแต่พวกเขาที่ยังยืนอยู่ได้ ขาทั้งสองข้างของพวกเขาสั่นเทา พร้อมกับหันหลังเพื่อวิ่งหนี พร้อมกับเขาไปประคองสหายที่ถูกซัดปลิวนั้นขึ้น แต่ทันใดนั้น เขาก็ได้แสดงสีหน้าแตกตื่นออกมา
“ตาย ตายแล้ว…”
ศิษย์ของวังโหมวเทียนหวาดกลัว พวกเขาคิดว่าแค่ถูกซัดปลิวเท่านั้น แต่ใครจะคิดเล่าว่าจะถูกฆ่าในพริบตา นี่มันจะดุร้ายเกินไปแล้ว
จากนั้น พวกเขาก็พากันรีบวิ่งไปทางหยวนหลงในทันที พร้อมกับมองมาที่อี้เทียนหยุนด้วยกลัวว่าอี้เทียนหยุนจะโจมตีเข้ามาอีก แต่ความจริงแล้วเป็นพวกเขาพากันคิดมากไปเอง อี้เทียนหยุนไม่ได้สนใจที่จะลงมืออะไรกับพวกเขา ตราบเท่าที่ไม่หาเรื่องเขา เขาก็คร้านที่จะสนใจอีกฝ่าย
ที่เขาโจมตีก็มีแต่คนที่เข้ามาล้อมเขาเท่านั้น ส่วนที่เหลือเขาต้องเหลือไว้เพื่อสอบถามสถานการณ์จากพวกเขาก่อน
“เจ้าสังหารคนของวังโหมวเทียนเรา เจ้าตายแน่!” หยวนหลงขยับไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ทิ้งความอวดดี นอกจากจะพึ่งความเป็นขุมอํานาจขั้น 3 ชั้นยอมแล้ว พวกเขายังคิดว่าวังโหมวเทียนของพวกเขามีสัมพันธ์อันดีกับอาณาจักรเทียนหยุนด้วย ดังนั้นจึงไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
ต่อให้เป็นเทียนหยุนที่เหมือนจะทรงพลังนิดหน่อย แต่ในสายตาของพวกเขายังไงก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไสหัวไปซะ แล้วอย่าลืมเอาคําพูดของข้าไปบอกกับประมุขทั้งโหมวเทียนของเจ้าด้วยว่าให้มันมาพบข้าด้วยตัวเอง!” เทียนหยุนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “หากว่าให้ข้าไปวังโหมวเทียนด้วยตัวเอง อย่างนั้นเรื่องคงไม่จบง่ายๆ แน่….”
“ดีมาก! เจ้าเตรียมตัวตายอย่างน่าสมเพชได้เลย ข้าจะไปรายงานเรื่องนี้กับอาณาจักรเทียนหยุน รายงานเรื่องนี้ให้มหาจักรพรรดิเทียนหยุนฟัง! นายน้อยฉีกับมหาจักรพรรดิเทียนหยุนเป็นสหายกัน เจ้ายังกล้าที่จะปลอมตัวเป็นมหาจักรพรรดิ์เทียนหยุนอีก… วังไป๋เหลียนกับเจ้า จบสิ้นแน่!”
หยวนหลงพูดจบก็สะบัดไหลไปอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อ เพราะกลัวว่าหากอยู่ที่นี่ต่อ อี้เทียนหยุนอาจจะลงมืออีก แม้ว่าสํานักจะล้างแค้นให้พวกเขา แต่พวกเขาก็ได้กลายเป็นคนตายไปแล้ว ต่อให้ล้างแค้นไปก็เปล่าประโยชน์
หลังจากพวกเขาจากไป จ้าวอวี่ก็ถลึงตาใส่อี้เทียนหยุนแล้วพูดออกมาว่า “ครั้งนี้พวกเราจบสิ้นแน่ เจ้าไปหาเรื่องวังโหมวเทียน แล้วยังไปหาเรื่องอาณาจักรเทียนหยุนอีก วังไป๋เหลียนของพวกเราก็ต้องมาถูกเจ้าลากไปด้วย….”
ในใจของเธอรู้สึกหวาดกลัว เธอไม่เชื่อว่าเทียนหยุนจะเป็นมหาจักรพรรดิเทียนหยุน ในสายตาพวกเธอ อี้เทียนหยุนไม่ได้ดูเหมือนระดับมหาจักรพรรดิแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่ระดับมหาจักรพรรดิเลย แม้แต่ระดับประมุขก็ยังมีหลายคนที่เหนือกว่าเขา
“อวี่เอ๋อ!” อวี่ชีเชี่ยนตวาดบอกให้หยุดพูด จ้าวอวี่ก็หุบปากอย่างเชื่อฟัง พร้อมกับเลือกที่จะยืนอยู่ข้างหลัง และไม่พูดอะไรอีก จากนั้น เธอก็หันมาพูดกับเขาด้วยความรู้สึกขอโทษ “คุณชาย นี่ช่างน่าละอายจริงๆ อวี่เอ๋อเธอเป็นพวกไม่สนใจอะไร ทั้งยังมีนิสัยใจร้อน ต้องขอบคุณคุณชายที่ลงมือช่วยเหลือ หากคุณชายไม่ลงมือ เมื่อกี้นี้พวกเราคงถูกคร่าตัวไปแล้ว… ตอนนี้ท่านรีบหนีไปเถอะ การหาเรื่องกับวังโหมวเทียนยากที่จะหนีพ้นบทลงโทษ ยิ่งกว่านั้น เบื้องหลังพวกเขายังมีอาณาจักรเทียนหยุนอีก”
เทียนหยุนหรี่ตามองไปที่พวกเธอ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าก็ไม่เชื่อว่าข้าเป็นมหาจักรพรรดิเทียนหยุนอย่างงั้นเหรอ?”
“ข้าเชื่อว่าเจ้าเป็นผีน่ะสิ!” จ้าวอวี่เท้าเอวพร้อมกับพูดอย่างหัวร้อน “หากเจ้าเป็นมหาจักรพรรดิเทียนหยุน งั้นข้าก็เป็นจักรพรรดินีแล้ว! เสี่ยวอวี่ พวกเราจะให้เขาจากไปอย่างนี้จริงๆ เหรอ? แบบนี้ไม่ใช่ว่าพวกเราต้องแบกหม้อก้นดํานี้ไว้หรือไง?”
“เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเรา ดังนั้นเราต้องรับผิดชอบ…” อวี่ชีเชี่ยนถอนหายใจ คิ้วที่น่าดึงดูดดั่งใบหลิวย่นเข้าหากันเล็กน้อย ดูแล้วน่าสงสารอยู่บ้าง
“เสี่ยวอวี่…” จ้าวอวี่กัดริมฝีปากแน่น แต่เมื่อคิดดีๆ แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา “หากประมุขต้องการส่งพวกเราไป พวกเราก็คงต้องไป ใครใช้ให้เราไปหาเรื่องคนที่ไม่สามารถหาเรื่องได้ล่ะ”
“ไปกันเถอะ” เทียนหยุนพูดขึ้น
“ไป? จะให้ไปที่ไหน?” จ้าวอวี่ถามอย่างสงสัย
“ก็ไปที่วังไป๋เหลียนยังไงล่ะ เจ้าคิดว่าที่ข้าพูดเมื่อกี้นี้เป็นเรื่องล้อเล่นหรือไง?” เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าจะไปวังไป๋เหลียน เพื่อรอเจอกับคนของวังโหมวเทียน เรื่องนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเอง”
“ดี นี่เป็นเจ้าพูดเองนะ!” ในใจจ้าวอวี่รู้สึกยินดีขึ้นมา เธอกังวลจริงๆ ว่าเทียนหยุนจะหนีไป เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาคงต้องแบกรับหม้อก้นดํานี้เอาไว้อย่างเต็มที่ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาอย่างมาก
อรี่ชีเชียนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าเทียนหยุนมีท่าที่ไม่ได้สนใจอะไรก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ในเมื่อฝั่งตรงข้ามได้ตัดสินใจแล้ว งั้นก็คงได้แต่ทําตาม
แต่ถึงอย่างนั้น ในใจของเธอก็ยังรู้สึกเช่นเดียวกันกับจ้าวอวี่ ไม่เชื่อว่าอี้เทียนหยุนจะเป็นมหาจักรพรรดิจริงๆ!
เทียนหยุนไม่สนว่าพวกเธอจะเชื่อหรือไม่ เพราะถึงยังไงเมื่อถึงเวลา พวกเธอก็จะรู้เอง
ภายใต้การนําของพวกอวี่ชีเชี่ยน พวกเขาก็พากันขี่รถบินไปยังวังไป๋เหลียน พวกเธอพากันออกมาหาสมุนไพรวิญญาณ แต่ใครจะคิดว่าจะมาเจอกับผู้ฝึกตนของวังโหมวเทียนเข้า
เทียนหยุนเอนตัวอยู่ในรถบิน พร้อมกับจิบชาหอมกรุ่นอย่างเกียจคร้าน ดูแล้วใจเย็นอย่างมาก
อวี่ชีเชี่ยนกับพวกรู้สึกตกใจอย่างมากกับท่าทางของอี้เทียนหยุน แท้จริงแล้วอี้เทียนหยุนมีพื้นหลังยังไงกันแน่ หรือว่าไม่มีอะไรเลย? มันเหมือนกับก่อนหน้านี้ที่พวกเธอพากันคิดว่าอี้เทียนหยุนเป็นเหมือนกับหุ่นเชิด ที่ออกมาเรื่องอาณาจักรใต้พิภพ ซึ่งไม่ใช่ว่าได้ตายไปแล้วหรอกเหรอ?
แต่ว่าเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งระดับของเขาก็ได้เพิ่มขึ้นมาก ดูท่า เขาคงต้องมีใครสักคนหนุนหลังอยู่แน่
“คุณชายอี้ หรือว่าท่านก็รู้จักกับคนของอาณาจักรเทียนหยุนด้วย?” อวี่ชีเชี่ยนคิดพร้อมกับถามออกมา
เมื่อคิดดูแล้ว การที่ไม่กังวลถึงผู้หนุนหลังของวังโหมวเทียน ก็คงมีเพียงแต่ความคิดนี้เท่านั้น
“ทําไมต้องรู้จักด้วย ข้านี่แหละมหาจักรพรรดิเทียนหยุน ยังมีใครที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าข้าอีก?” เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ยังจะโม้อีก เสี่ยวอวี่ ไม่ต้องไปถามเขาแล้ว ท่าเป็นลึกลับ ไม่ว่าอะไรไม่พูด ในเมื่อเขาบอกว่าจะจัดการเอง งั้นก็ให้เขาจัดการไป!” จ้าวอวี่แค่นเสียงออกมา คร้านที่จะสนใจอีก
จากนั้น ในรถก็กลายเป็นเงียบ เสียงที่ดังก็มีแต่เสียงจิบชาอย่างช้าๆ ของอี้เทียนหยุนเท่านั้น พวกเธอต่างก็พากันมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก
อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็กลับมาถึงวังไป๋เหลียน เมื่อรถบินลงจอด พวกเขาก็พากันเดินออกมา
“นี่มัน…”
อี้เทียนหยุนสายตาเย็นชา พร้อมกับสีหน้าที่กลายเป็นเหมือนกับน้ําแข็ง เพิ่งจะมาถึงที่นี่ เขาก็ทําการสํารวจด้านล่างของวังไป๋เหลียนแล้ว จากนั้นก็พบสิ่งที่ไม่ธรรมดาอยู่!
ตลอดทางที่มาเขาก็ไม่ได้อยู่เฉย แต่ทําการสํารวจรอบๆ ทุกที่ที่ผ่าน และเมื่อมาถึงที่นี่ เขาก็พลันตรวจพบว่าที่วังไป๋เหลียนแห่งนี้มีสมบัติพิเศษอยู่!
สมบัติชิ้นนี้ถูกฝังเอาไว้ลึกที่ด้านล่างของวังไป๋เหลียน ทั้งยังถูกผนึกไว้ด้วยค่ายกลนับไม่ถ้วน เหมือนกับว่ามีหินยักษ์ก้อนหนึ่งถูกฝังอยู่ด้านใน ด้วยดวงตาประเมินในตอนนี้ ไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ต้องรู้ว่าแม้จะสามารถเข้าใจค่ายกลระดับผู้สร้างได้อย่างง่ายดาย แต่จริงๆ แล้วไม่มีทางที่จะวิเคราะห์ออกมาได้
การดูจากตรงนี้ ยังไม่สามารถที่จะบอกอีกหลายสิ่งออกมาได้ นอกจากว่าจะเพิ่มระดับให้กับดวงตาประเมินหรือไม่ก็เข้าไปตรวจดูใกล้ๆ หากให้ดูจากตรงนี้ ไม่มีทางที่ได้ข้อมูลอย่างละเอียดอย่างแน่นอน
“น่าสนใจนี่ หรือว่าสมบัติล้ําค่าของราชาศักดิ์สิทธิ์จะถูกฝังไว้ใต้วังไป๋เหลียนแห่งนี้?”
อี้เทียนหยุนไม่รู้ว่าสมบัติล้ําค่าของราชาศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นอะไร แต่ด้วยดวงตาประเมินของเขาในขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะวิเคราะห์มันออกมาได้อย่างง่ายๆ จําเป็นต้องตรวจดูอย่างละเอียดจากที่ดวงตาประเมินวิเคราะห์ได้ ทําให้เขาพบว่ามีหินยักษ์ก้อนหนึ่งถูกฝังอยู่ลึกมาก และไม่มีช่องทางไหนที่จะเชื่อมต่อเพื่อลงไปที่นั่น
ซึ่งนี่ทําให้เห็นว่าแม้แต่วังไป๋เหลียนเองก็ไม่รู้ว่าด้านล่างของตนนั้นมีของบางอย่างฝังอยู่ หรือไม่ก็เลือกที่จะสร้างวังขึ้นมาเพื่อสะกดหินยักษ์นี้ไว้!