บทที่293

ผู้แปล : N.

ลูชินยังเดินไม่ถึงพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของบริษัทตัวเอง แต่เขาก็สามารถเห็นได้ว่าตอนนี้บูธของเขานั้นเต็มไปดูผู้ชมที่เข้ารวมงานนี้ และพวกเขาต่างก็จับกลุ่มกันอยู่รอบๆคนหนึ่งก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปถ่ายรูปหรือไม่ก็ขอลายเซ็น

เขาที่เห็นแบบนั้นก็แสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมา ขาของเขาก็เดินเข้าไปเองก่อนที่สมองจะสั่งด้วยซ้ำ: “ทำไมบูธของฉันถึงมีคนมารอมากขนาดนี้? นี้ยังไม่ใช้เวลาเปิดตัวเกมนี่น่า? “

เขาที่คิดได้แบบนั้นก็เดินผ่านฝูงชนเข้าไป และพบว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาเพราะเรื่องของเกม แต่พวกเขามาเพราะผู้หญิงที่แต่งตัวคอสเพลย์เป็นตัวละครหนึ่งในเกมของเขา

เธอเป็นผู้หญิงที่มีผิวที่ขาวอย่างมาก มันจึงทำให้การที่เธอใช้ชุดสีแดงครั้งนี้เป็นกลายเป็นจุดเด่นในบูธนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็ไม่คิดที่จะสนใจก่อนที่เขากำลังเตรียมที่จะหลบออกไป เขาก็พบว่าผู้หญิงที่แต่งชุดคอสเพลย์และกำลังยืนประชาสัมพันธ์อยู่นั้นเป็นซูเสี่ยวน้องสาวของแฟนของเขา! ทำไมเขาถึงไม่ได้รับรายงานจากคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้เลยละ!

และครั้งนี้ซู่เสี่ยวเธอยังได้แต่งด้วยชุดโบราณสีแดง ที่มีขอบของกระโปรงยาวถึงข้อเท้าและตัวกระโปรงเองก็ถูกแบ่งออกเป็นชิ้นๆจำนวนสีชิ้น มันได้เผยให้เห็นต้นขาที่ขาวน่ามองอย่างบอกไม่ถูก

ไม่รู้ทำไมลูชินถึงรู้สึกว่าการแต่งตัวแบบนี้ของเธอมันได้เข้ากับผมที่ยาวสวยอยู่ด้านหลังของเธอเหลือเกิน แค่นั้นยังไม่พอ บนศีรษะของเธอยังได้ประดับไว้ด้วยมงกุฎมุกขนาดเล็กที่ดูน่ารัก มันเข้าได้กับคิ้วที่คล้ายวิลโลว์ของเธอ

ลูชินมองไปครั้งแรกเขาเกือบจะไม่สามารถจำได้ว่านั้นคือซู่เสี่ยว!

ทำไมซู่เสี่ยวถึงมาทำหน้าที่เป็นพิธีกรแบบนี้! ระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่นั้นจำนวนผู้เข้าชมบูธของเขาก็เพิ่มขึ้น เขาไม่ต้องถามก็รู้ว่าจุดประสงค์ของคนพวกนั้นคืออะไร จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเข้ามาถ่ายรูปกับซู่เสี่ยว

สิ่งที่ทำให้เธอได้รับความสนใจจากทุกคนนั้น คือการแต่งหน้าที่ดีและการเลือกชุดที่เข้ากับตัวเธอ แค่สองอย่างนี้มันก็ทำให้เธอดูเหมือคุณหนูในสมัยโบราณ แล้วแบบนี้มันจะไม่ทำให้พวกโอตาคุคลั่งได้ยังไง

ลูชินได้แอบถ่ายภาพและส่งไปที่ซู่จิงอย่างรวดเร็ว “ดูสิ! ตอนนี้น้องสาวของเธอกำลังโด่งดังแล้ว!”

ซู่จิงที่เห็นแบบนั้นก็รีบตอบกลับมาอย่างเร็ว: “ซู่ซู่นะเหรอ! เธอก็เป็นแบบนี้แหละ เธอเป็นคนที่ชอบการแสดงและการเป็นจุดเด่น ดังนั้นฉันจึงไม่แปลกใจเลยที่เธออยากไปทำงานแบบนี้!”

เธอไม่แปลกใจกับเรื่องนี้เลยเมื่อแฟนของเธอส่งรูปน้องสาวของเธอมา มันไม่ใช้ครั้งแรกที่น้องสาวของเธอทำแบบนี้ เมื่อเธออยู่ในโรงเรียนมัธยมซู่เสี่ยวเองก็ได้เข้าชมรมการแสดงและการแต่งคอสเพลย์ เธอมักจะชวนพวกเพื่อนๆของเธอถ่ายวิดีโอระหว่างการเต้น หรือไม่ก็เธอจะไลน์สดกับพวกเพื่อนๆของเธอขณะที่พวกเธอแต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครต่างๆ

“โปรดเข้าคิว! และพวกคุณอย่าลืมสแกนรหัส QR ที่นี่ก่อนเริ่มดาวน์โหลดแพลตฟอร์มเกมของเรานะค่ะ! และที่สำคัญที่สุดช่วงบ่ายพวกคุณอย่าลืมให้ความสนใจกับหมายเลขที่พวกคุณจับได้! เพราะนั้นจะเป็นหมายเลขที่พวกคุณจะสามารถเข้าไปทดสอบตัวเกมของทางเราได้นั้นเอง!” ซู่เสี่ยวพูดเสร็จก็มีคนเดินเข้ามาเพื่อขอถ่ายรูปกับเธอทันที

ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกสนใจขึ้นมา เขาจึงคิดจะลองเล่นแบบนี้ดูบ้าง เขาจึงมีความกระตือรือร้นที่จะเดินไปเข้าแถวและรอถ่ายรูปกับเธอ

ทางด้านหน้าของเขามีชายสองคนกำลังพูดกันด้วยความตื่นเต้น“ ฉันไม่คิดว่าจะได้เห็นเทพธิดาซู่ที่นี่! วันนี้ถือว่าเป็นวันที่โชคดีจริง!”

“เทพธิดาซู่ช่างงดงามจริงๆ! ฉันเพียงแค่เคยเห็นรูปที่เธอถ่ายลงบนเวยเป๋อเท่านั้น ฉันไม่คิดเลยว่าตัวจริงของเธอนั้นสวยกว่าในรูปภาพเสียอีก!”

“เออ! ฉันขอถามหน่อยได้ไหม? ทำไม่พวกคุณถึงพูดแบบนั้น?” ลูชินถามออกมาอย่างสงสัย

“นี่คุณไม่รู้จริงเหรอ?!” ชายข้างหน้ารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้พูดเรื่องของเทพธิดาซู่ให้ลูชินฟัง “คุณต้องรู้ว่าเทพธิดาซู่นั้นมีแฟนๆจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ต เมื่อเธอไลน์สดเมื่อไหร่จะต้องมีผู้ชมมากกว่า 100,000 คนเสมอ!”

“ถ่ายทอดสดหรือ? เธอทำแบบนั้นด้วย” หลังจากที่ลูชินเผลอพูดประโยคนี้ออกไป เขาก็พบว่าเขาไม่ได้สังเกตเรื่องของซู่เสี่ยวเป็นเวลาครึ่งปีแล้ว

“ใช้! เทพธิดาซู่ของเรานั้นชอบที่จะเเล่นเกมหรือไม่ร้องเพลง!” ชายคนนั้นพูดต่อว่า “แต่มันก็ช่างน่าเสียดายที่เทพธิดาซู่ของเรานั้นไม่ค่อยได้ถ่ายทอดสดเนื่องจากเธอมีภารกิจในการเรียน ไม่อย่างนั้นเธอคงจะมีแฟนคลับเยอะกว่านี้อย่างแน่นอน! “

“ใช้! ดังนั้นวันนี้ฉันต้องเข้าไปขอถ่ายรูปกับเธอพร้อมกับของลายเซ็นเทพธิดาซู่ให้ได้เลย! ฮ่าฮ่า แล้วฉันอาจจะนำลายเซ็นของเทพธิดาซู่ไปขายให้กับคนที่ไม่มางานนี้ ฉันต้องรวยอย่างแน่นอน ฮาฮาฮา!”

“ไม่ใช้ว่าพวกคุณพูดเกินไปหรอกเหรอ?” ลูชินพูดต่อว่า “แล้วทำไม่ลายเซ็นของเธอถึงทำให้พวกคุณรวยได้กันละ?”

“ฮะ! นี้คุณไม่รู้เหรอว่าตอนนี้ใครๆต่างก็อยากได้ลายเซ็นของเทพธิดาซู่กันทั้งนั้น!” ชายคนนั้นพูด “พี่ชาย! ถ้าคุณไม่ต้องการก็สามารถขายให้ฉันได้! ฉันรับลองว่าจะจ่ายเงินให้พี่ชายอย่างงามเลยที่เดียว”

“ โอ้! งั้นฉันจะขายลายเซ็นนั้นกับพวกคุณทีหลังละกัน!” ลูชินตอบกลับไป

ชายทั้งสองที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกว่าชายที่พวกเขาคุยด้วยนั้นไม่เชื่อคำที่พวกเขาพูดออกมาเลย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สนใจชายคนนั้นอีก

หลังจากเข้าแถวมานานกว่าสิบนาที ก็ถึงคิวของผู้ชายทั้งสองคน พวกเขาดูตื่นเต้นที่จะได้ถ่ายภาพกับเทพธิดาซู่ของตัวเอง และหลังจากที่พวกเขาถ่ายรูดเสร็จแล้วนั้นก็ยังไม่ได้ไปไหนแต่กับเลือกที่จะอยู่เพื่อที่จะขอลายเซ็นจากเทพธิดาของพวกเขา

ซู่เสี่ยวที่เห็นแบบนั้นไม่ได้ปฏิเสธอะไร เธอได้เซ็นชื่อของพวกเขาลงในเสื้อที่พวกเขาใส่มาด้วยความเต็มใจอย่างมาก

หลังจากที่พวกนั้นได้ลายเซ็นไปแล้วก็แสดงสีหน้ามีความสุขอย่างมาก ก่อนที่พวกเขาจะเดินออกไปก็ยังไม่ลืมให้กำลังใจซู่เสี่ยวและพูดว่าพวกเขาจะเป็นแฟนคลับเดนตายของเธอตลอดไป

เมื่อมาถึงคิดวของลูชิน เขาก็เดินเขาไปและพูดว่า: “ฉันขอถ่ายรูปกับคุณได้ไหม?”

ซู่เสี่ยวที่เห็นว่าใครเป็นคนพูดกก็ได้แสดงรอยยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ : “ใช่สิค่ะ!”

เธอที่พูดจบก็เดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆกับลูชินก่อนที่เธอจะโพสท่าต่าง

“ถ้าเธอรู้สึกเหนื่อยก็สามารถออกไปพักได้ ไม่จำเป็นต้องมายืนอยู่แบบนี้” ลูชินที่สังเกตเห็นว่าตอนนี้ใบหน้าของซู่เสี่ยวนั้นเริ่มมีเม็ดเหงื่อปรากฏขึ้นมาแล้ว

ระหว่างที่เขาพูดกับซู่เสี่ยวอยู่นั้น ผู้ชายที่รออยู่ข้างหลังไม่สามารถรอได้ เขาจึงตะโกนว่า: “พี่ชาย! คุณช่วยเร็วหน่อยได้ไหม? ไม่ใช้มีแค่คุณนะที่อยากจะเจอกับเทพธิดาซู่นะ! “

เมื่อทุกคนเริ่มที่จะแสดงอาการไม่พอใจออกมาแล้ว ซู่เสี่ยวก็ได้ยิ้มหวานๆออกมาก่อนที่จะพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้นฉันจะอยู่ถ่ายกับพวกคุณทุกคนเลยดีไหม? แต่ฉันหวังว่าพวกคุณจะไม่รังแกฉันนะ!”

“ว้าว! เป็นอะไรที่น่ารักมาก!” โอตาคุที่อยู่ด้านหลังต่างก็เห็นรอยยิ้มหวานของซู่เสี่ยวต่างก็รู้สึกว่ามันคุ่มอย่างมากที่พวกเขามางานนี้

“พระเจ้า! พี่ชาย! นายช่วยหลบออกไปได้ไหม? ตอนนี้มันถึงคิวของฉันถ่ายรูปแล้ว!”

อย่างไรก็ตามซู่เสี่ยวได้พูดกับคนที่เข้าคิวรอถ่ายรูปกับเธอว่า : “ทุกคนค่ะ! ฉันต้องขอโทษพวกคุณด้วยที่ไม่สามารถอยู่ถ่ายรูปกับพวกคุณได้อีกแล้ว แต่ฉันสัญญาว่าวันพรุ่งนี้พวกเราจะได้พบกันอีกอย่างแน่นอน!”

เธอที่พูดจบก็รีบวิ่งไปด้านหลังลูชินเหมือนเด็กๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินหายเข้าไปยังด้านหลังของบูธจัดงาน นั้นจึงทำให้คนที่เข้าคิวต่างก็แสดงอาการงงงวยออกมา

“สถานการณ์นี้คืออะไรกัน? “

“เทพธิดาซู่!, เธอไปกับผู้ชายคนนั้น! “

“ผู้ชายคนนั้นคือใคร? ทำไมเทพธิดาของเราถึงต้องตามมันไปด้วย?”

“นั้นคงไม่ใช้แฟนของเทพธิดาซู่ใช้ไหม!”

อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะตะโกนเรียกซู่เสี่ยวเสียงดังยังไงก็ตาม พวกเขาก็ไม่เห็นว่าเทพธิดาของพวกเขาจะกลับมา แต่กลับมีผู้หญิงอีกคนที่แต่งตัวเป็นตัวละครนักรบหญิงเดินออกมาแทนที่ของเธอ

“พี่ชาย! พวกแฟนคลับของหนูได้กลับไปหมดยัง?” ซู่เซียนกระซิบถามลูชินเสียงเบา

“โอเค! ไม่มีใครแล้วละ” ลูชินได้ดึงเธอไปที่หลังเวทีก่อนที่จะพูดต่อว่า “ทำไมเธอถึงไม่บอกฉันก่อนเมื่อเธอจะเล่นอะไรแบบนี้!”

“เฮ้!” ซู่เสี่ยวยิ้มแบบเก้ๆกังๆออกมาสองสามครั้งแล้วพูดว่า: “นี่ไม่ใช่ความผิดของหนูนะ แต่เป็นบริษัทของพี่เขยตั้งหากที่เชิญหนูมา!”

“และหนูจะบอกความลับอะไรให้ ที่จริงแล้วบริษัทเกมแพนกวินเองก็ได้เชิญหนูไปเป็นพรีเซนเตอร์ของพวกเขาเหมือนกันและทางนั้นยังให้ค่าตัวที่สูงอีกด้วย แต่หนูก็ตอบปฏิเสธพวกเขาไปแล้วเลือกมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับบริษัทของพี่เขยแทน พี่เขยไม่คิดเหรอว่าหนูต้องยอมขาดทุนขนาดไหน? “

“ฮาฮาฮา! ที่เธอพูดมาขนาดนี้ต้องการอะไรกันแน่?!” ลูชินถามออกไปอย่างรู้ทัน

“หนูรู้ว่าพี่เขยต้องใจดีกับหนู ที่จริงแล้วหนูต้องการเชิญกลุ่มแฟนคลับของหนูมาทานอาหารค่ำได้ไหม?!”

“อะไรนะ?!” ลูชินพูดออกมาอย่างแปลกใจ “ฉันไม่คิดเลยว่าสองพี่น้องคู่นี้จะแตกต่างกันแบบนี้!”

“มันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะหนูคือซู่เสี่ยว เป็นซู่เสี่ยวหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้ยังไงละ!” เธอพูดอย่างภูมิใจ “และแฟนๆของหนูก็มีความสำคัญกับหนูอย่างมาก!”

“โอเค! แล้วตอนนี้เธอจะทำอะไรต่อ?” ลูชินถามออกมา

“หนูอยากจะพักซักหน่อย” หลังจากนั้นซู่เสี่ยวก็พูดด้วยท่าทางสบายๆว่า “และหนูก็เบื่อที่จะเดินออกไปข้างนอกตอนนี้อย่างมาก!”

“ ดังนั้นจะเป็นอะไรไหมถ้าพี่เขยจะให้เครื่องเล่นเกมสามมิติกับฉันก่อนเป็นคนแรก?”

“ เฮ้อ! ก็ได้”