ตอนที่ 625 การกระตุ้นต่างๆ / ตอนที่ 626 ดอกซูกวนเหอติ่ง

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 625 การกระตุ้นต่างๆ

 

 

เซ่าหมิงฟ่านกินข้าวเช้าอยู่กับสวีอันหราน เมื่อคืนพวกเขานอนดูดาวกันทั้งคืน เช้านี้เลยนั่งขอบตาดำมองหน้ากันเองอยู่โดยไม่มีใครพูดจา

 

 

“เข้ามา” ได้ยินเสียงเคาะประตูเซ่าหมิงฟ่านเลยเอ่ยอนุญาตออกไป จากนั้นก็ลุกขึ้นไปหยิบน้ำมาดื่ม

 

 

เหยียนเค่อซ่อนซย่าเสี่ยวมั่วไปทางด้านหลังตนจากนั้นก็เดินเข้ามา แต่ด้วยขนาดตัวของซย่าเสี่ยวมั่วที่ก็ไม่ได้เล็กทำให้ซ่อนไว้ไม่มิด สวีอันหรานกวาดสายตามองไปเห็นชายเสื้อคลุมที่โผล่ออกมา จึงเอ่ยเตือนเสียงนิ่งๆ “ถ้านายแอบนอกใจซย่าเสี่ยวมั่วไปหาผู้หญิงคนอื่น สวีรั่วชีไม่ปล่อยนายไว้แน่”

 

 

เซ่าหมินฟ่านที่หันหลังให้คนทั้งคู่ ได้ยินสวีอันหรานพูดแบบนี้รีบหันกลับมามอง พอหันมามองตรงๆ ก็เห็นได้ว่าข้างหลังของเพื่อนมีคนอยู่ จึงเอ่ยแซวขึ้น “นายกลายเป็นเด็กแบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย แต่ถ้าไม่ใช่สวีอิ๋งอิ๋งฉันก็ยอมรับได้หมดแหล่ะ ยังไงซะฉันก็เข้าใจความรู้สึกนายที่ผ่านมานานขนาดนี้แล้วยังมัดใจซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้อีก”

 

 

“ไปไกลๆ เลย” ยิ่งพูดยิ่งไม่น่าเชื่อถือ เหยียนเค่ออยากจับคนทั้งคู่โยนออกไปด้านนอกเสียจริงๆ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วได้ยินพวกเขาพูดกันว่าเหยียนเค่อมีใจให้เธอมานานตั้งนานแล้ว จึงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

 

 

เหยียนเค่อหันกลับไปมองหล่อน จากนั้นก็จูงมือหล่อนให้เดินออกมาด้านหน้า

 

 

“ฉันคือซย่าเสี่ยวมั่ว” ซย่าเสี่ยวมั่วอยากสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของเหยียนเค่อ แต่ลองหลายรอบก็ไม่เคยได้ผลสักที

 

 

สวีอันหรานวางตะเกียบลงในกล่องข้าว เซ่าหมิงฟ่านยืนถือแก้วน้ำกำลังจะหันกลับมาแต่ก็ต้องชะงักอยู่อย่างนั้น ราวกับว่าไม่เคยรู้จักซย่าเสี่ยวมั่วอย่างนั้น

 

 

“เหยียนเค่อไม่ได้บังคับเธอใช่ไหม” เซ่าหมิงฟ่านเอ่ยถามอยากลำบากใจ

 

 

“มันใช้วิธีการฆ่าตัวตายมาบีบเธอหรือว่ามันขโมยหมาเธอไปเธอถึงยอมตกลงน่ะ” สวีอันหรานไม่อยากจะเชื่อว่าสองคนนี้จะตกลงปลงใจคบกันได้โดยไม่มีความช่วยเหลือจากพวกเขา

 

 

เหยียนเค่อกลอกตามองเพื่อนสองคนที่กำลังอิจฉาตนเองอยู่ “อย่าเอาวิธีการสารภาพรักของแกมาโยนให้ฉันนะ”

 

 

เซ่าหมิงฟ่านกับสวีอันหรานรู้สึกประหลาดใจมากที่ทั้งคู่ตกลงคบกันแล้ว ล้อมหน้าล้อมหลังซย่าเสี่ยวมั่วเพื่อขอคำอธิบาย ผู้ชายอย่างรักหน้าตาอย่างเหยียนเค่อไม่มีทางเล่าเรื่องแบบนี้ให้พวกตนฟังอย่างเด็ดขาด

 

 

“ใครจีบใครก่อน” สวีอันหรานลอบมองไปที่เหยียนเค่อ ถ้าเขาเดาไม่ผิดเหยียนเค่อต้องเป็นคนเริ่มจีบซย่าเสี่ยวมั่วก่อนแน่ๆ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วคิดอย่างลำบากใจ แล้วส่ายหน้า

 

 

เหยียนเค่อที่กำลังจัดการงานอยู่เอ่ยแทรกขึ้นมา “พวกฉันอยู่ด้วยกันก่อนแล้วค่อยจีบ มีปัญหาอะไรไหม”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ไม่เอ่ยแสดงความเห็น

 

 

อึก โดนโจมตี สวีอันหรานกระอักเลือดออกมา จากนั้นก็ฝากความหวังไปที่เซ่าหมิงฟ่าน “เรื่องรักใคร่ๆ แบบนี้ทำเอาฉันตั้งตัวไม่ทันจริงๆ ”

 

 

เซ่าหมิงฟ่านผลักสวีอันหรานที่ไร้ความสามารถออกไป ยิ้มจนตาหรี่แล้วเอ่ยถาม “พวกนายใครสารภาพรักก่อนกัน”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วยังคงทำท่าทางลำบากใจ ลอบมองไปที่เหยียนเค่อ ด้วยนิสัยอย่างเหยียนเค่อหากบอกว่าเป็นเขา เดี๋ยวเขาต้องมาคิดบัญชีกับเธอแน่ๆ “ฉันแล้วกัน”

 

 

“ฉัน” เหยียนเค่ออยากได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้

 

 

เขาเป็นคนสารภาพรักและก็เป็นคนเริ่มต้นจีบหล่อนก่อน พูดไปแบบนี้ต่อไปถ้าเขาอยากได้อะไรพิเศษๆ สามารถเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างได้ เหยียนเค่อวางแผนไว้ในใจอย่างมีความสุข เขาไม่ได้ทำเพื่อหวังผลแค่ตอนนี้เสียหน่อย

 

 

ให้เกียรติเธอแบบนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัว ซย่าเสี่ยวมั่วเอามือกุมหน้าผาก

 

 

เซ่าหมิงฟ่านก็รู้สึกว่าแปลก คนที่ห่วงภาพพจน์ตัวเองจะตายอย่างเหยียนเค่อยอมรับง่ายๆ ขนาดนี้เลยเหรอ

 

 

“อย่างนั้นเล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อยสิ” สวีอันหรานเอนตัวไปทางเซ่าหมิงฟ่านเอ่ยถามอย่างสนใจ

 

 

“นายออกไปห่างๆ ฉันหน่อย” เซ่าหมิงฟ่านไม่ปกปิดความรังเกียจของตนเอง เขาไม่ได้ลืมนะว่าในที่นี้มีเขาเป็นคนโสดอยู่คนเดียว

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าอะไรก็ได้ สวีอันหรานมองตาสายตาของหล่อนมองไปที่เหยียนเค่อ “มันไม่สนใจหรอก ถึงตอนนี้เธอไม่พูดเดี๋ยวมันก็ต้องมาเล่าให้พวกเราฟังอยู่ดี”

 

 

“อือ” ซย่าเสี่ยวมั่วโดนล้วงความลับ จึงเอ่ยเล่าแค่เฉพาะประเด็นสำคัญๆ ให้สวีอันหรานกับเซ่าหมิงฟ่านฟัง

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 626 ดอกซูกวนเหอติ่ง

 

 

สวีอันหรานฟังอย่างออกรส พอซย่าเสี่ยวมั่วพูดจบถึงได้รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เซ่าหมิงฟ่านลูบคางแล้วเอ่ยถามแทนซย่าเสี่ยวมั่ว “นายไปหาซย่าเสี่ยวมั่วทำไม”

 

 

คำถามนี้ทำให้เหยียนเค่อชะงักไป แต่ว่าเหยียนเค่อเป็นใครล่ะ หาเหตุผลแถได้ตลอดอยู่แล้ว “ฉันเอาอาหารหมาไปให้”

 

 

ในหัวของซย่าเสี่ยวมั่วปรากฏภาพบางอย่างขึ้น ถึงแม้ตอนนั้นเธอจะตกใจมากไปหน่อยแต่ว่าเธอเหมือนจะเห็นเหยียนเค่ออุ้มกระถางดอกไม้เอาไว้ด้วยนะ

 

 

“เขา” ซย่าเสี่ยวมั่วเอามือจับที่ปากอย่างไม่แน่ใจ แล้วชี้ไปที่เหยียนเค่ออย่างลังเล “รู้สึกว่าจะถือกระถางดอกไม้เอาไว้ด้วย”

 

 

“แหม เอาดอกไม้ไปสารภาพรัก”

 

 

เหยียนเค่อหน้าคล้ำ แล้วจะทำไมล่ะ ดอกไม้กระถางนั้นแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้เฒ่าเหยียนเลยนะ

 

 

“จากนั้นล่ะ”

 

 

“ตกแตกไปแล้ว ฉันให้ผู้ช่วยหวังมาเก็บไปแล้ว”

 

 

ตอนที่ผู้ช่วยหวังมาเก็บแล้วเอากลับไปคือผู้เฒ่าเหยียนชายหนุ่มแทบจะโดนผู้เฒ่าเหยียนไล่ตีออกมา

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยออกมาอย่างลังเล “รู้สึกว่ามันคือดอกซูกวนเหอติ่ง[1]…”

 

 

สวีอันหรานกับเซ่าหมิงฟ่านสบตากัน จากนั้นก็นิ่งเงียบ

 

 

ดอกซูกวนเหอติ่งของตระกูลเหยียนเค่อราคาเป็นล้าน เงินถือเป็นเรื่องเล็ก แต่ว่าดอกไม้กระถางนั้นเป็นแก้วตาดวงใจของผู้เฒ่าเหยียน ปกติก็ดูแลด้วยตัวเองอยู่ตลอด แต่ว่ากลับถูกเหยียนเค่อทำตกแตก

 

 

“สีหน้านายสองคนดูเครียดๆ นะ” ซย่าเสี่ยวมั่วมองคนทั้งคู่อย่างไม่เข้าใจ

 

 

สวีอันหรานโบกมือ “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่ทำรถซุปเปอร์คาร์พังไปคันหนึ่งเท่านั้น”

 

 

“อือ…เอารถไปชนยังไม่เคยแพงเท่านี้มาก่อนเลย” เซ่าหมิงฟ่านเอ่ยเสริมขึ้นเบาๆ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองไปที่เหยียนเค่ออย่างไม่เข้าใจ เธอรู้ว่าดอกซูกวนเหอติ่งมันแพงมาก แต่ก็ไม่น่าจะถึงขนาดให้พวกเขาทำท่าทางแบบนี้ออกมาหนิ

 

 

เหยียนเค่อส่งสายตาบอกว่าไม่เป็นไรให้ซย่าเสี่ยวมั่ว เอ่ยเตือนเพื่อนทั้งคู่ที่ดูจะเล่นเกินไป “พอได้แล้ว จะกลับก็รีบกลับไป อย่ามาอยู่กวนฉัน”

 

 

“ชิ มั่วมั่วกลับไปกับพวกเราไหม ระวังพี่เหยียนอาละวาดขึ้นมา แล้วทำอะไรไม่ดีในที่ทำงานนะ”

 

 

สวีอันหรานยิ้มตาหรี่จะเอาตัวซย่าเสี่ยวมั่วไปด้วย

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วทำหน้างงไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เหยียนเค่อกวาดสายตามองมา “รีบไสหัวไปเลย ขัดหูขัดตาจริงๆ ”

 

 

“พวกเราขัดหูขัดตา” เซ่าหมิงฟ่านทำราวกับว่าได้ยินเรื่องตลก

 

 

สวีอันหรานพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็ไม่รู้ว่าช่วงหลายวันมานี้ใครช่วยทำงานจนเหนื่อยจะตายอยู่แบบนี้”

 

 

“หืม?”

 

 

สวีอันหรานรู้สึกได้ว่าเหยียนเค่อเริ่มหงุดหงิดแล้วจึงไม่กล้าเล่นต่อ ยังไงซะช่วงหลายวันมานี้ตอนกลางคืนเขาก็มัวแต่ดูดาวอยู่กับเซ่าหมิงฟ่าน งานเอกสารทั้งหมดก็โยนให้เหยียนเค่อไป แต่ก่อนออกไปเขาก็มีเรื่องขอร้องซย่าเสี่ยวมั่ว

 

 

“น้องสะใภ้ ถ้าเธอว่างช่วงพาเสี่ยวชีไปตรวจครรภ์หน่อยสิ ช่วงนี้เธอไม่ค่อยอยากเจอหน้าฉัน…”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ชินกับคำเรียกแบบนี้เป็นอย่างมาก แต่ว่าเธอเป็นห่วงสวีรั่วชีมากกว่า “อย่างนั้นนายกับเสี่ยวชี…”

 

 

“ไม่มีอะไรหรอก แค่ช่วงนี้เธอไม่อยากเห็นหน้าฉันเฉยๆ ฉันเลยอยู่แต่ที่บริษัท”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วพยักหน้า รับปากเรื่องนี้

 

 

หลังจากที่คนทั้งสองกลับไปแล้ว เหยียนเค่อก็กวักมือเรียกซย่าเสี่ยวมั่ว “มานี่”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกสั่น นึกถึงคำพูดที่สวีอันหรานพูด จากนั้นส่ายหน้า “ฉันนั่งตรงนี้ดีกว่า”

 

 

“คิดอะไรอยู่ เดินมาให้ฉันเห็นหน้าใกล้ๆ ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วยังไม่คุ้นชินกับการเปลี่ยนแปลงที่เหยียนเค่อไม่รังเกียจตนแล้ว…แล้วยังเอ่ยเรียกเธอด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแบบนี้อีก

 

 

สุดท้ายซย่าเสี่ยวมั่วก็ขัดไม่ได้ นั่งดูหนังอยู่บนตักของเหยียนเค่อ เหยียนเค่อนั่งกอดซย่าเสี่ยวมั่วแล้วทำงานอย่างตั้งใจ

 

 

คนทั้งสองที่แนบชิดกันอยู่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือเขินอายอะไรทั้งสิ้น ราวกับว่ามันควรจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ดังนั้นทุกอย่างเลยเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าถ้าเธอเขินอายเหยียนเค่อเท่ากับว่าเธอแพ้ ดังนั้นเธอเลยต้องปล่อยเลยตามเลย

 

 

ทั้งคู่ผ่านช่วงเวลาทุกข์ทรมานมาแล้ว ช่วงเวลาสงบนิ่งเกิดขึ้นพร้อมกับช่วงเวลากำลังมีความรัก ดังนั้นการที่สัมผัสกันแบบนี้ก็ไม่มีอะไรน่าอาย

 

 

 

 

——

 

 

[1] ซูกวนเหอติ่ง เป็นดอกไม้ล้ำค่าที่ขึ้นที่เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนาน ลักษณะมีสีขาว ด้านในมีหนึ่งดอก สามกลีบ คล้ายดอกบัว มีราคาสูงมาก