บทที่ 1466 อ่อนแอเล็กน้อย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

“โฮก…”

 

เสียงคำรามดังขึ้นรอบๆกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน

 

ในเวลาเดียวกัน ศีรษะมังกรขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขา

 

กลิ่นอายที่ทรงพลังและกระแสลมที่กรรโชกแรงทำให้ทุกคนสูญเสียความมั่นใจ

 

“จบแล้ว!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนสามคนรู้สึกสิ้นหวัง หนึ่งในนั้นนอนอยู่บนพื้น

 

เมื่อพวกเขารู้สึกว่ากำลังจะตาย เสียงที่เย็นชาก็ดังขึ้น “ไร้ประโยชน์”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสามดีใจมากแม้พวกเขาจะถูกดูแคลน พวกเขาตะโกน “เราอยู่ที่นี่ เทพธิดาหนิงปิง ช่วยเราด้วย!”

 

ในช่วงเวลาคับขัน ร่างสีขาวบินเข้ามาหาพวกเขา มันคือเทพธิดามังกรไป่หนิงปิง

 

นางก่นเสียงเย็นและยกมือขึ้น

 

“ครืน…”

 

กำแพงน้ำแข็งปรากฏขึ้นด้านหน้าผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสาม

 

“บึม!”

 

แต่มันก็พังทลายลงอย่างรวดเร็วด้วยการพุ่งชนของศีรษะมังกร

 

กำแพงน้ำแข็งแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

อย่างไรก็ตามไป่หนิงปิงและผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสามล่าถอยออกไปแล้ว

 

ไป่หนิงปิงมองศีรษะมังกรและสร้างชั้นน้ำแข็งขึ้นบนชั้นผิวหนังของมัน นี่ทำให้ความเร็วของมันลดลงอย่างมาก

 

ไป่หนิงปิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

นางอนุมานแล้วว่าศีรษะมังกรมีความแข็งแกร่งระดับเจ็ดเท่านั้น ด้วยพลังการต่อสู้ของนาง นางสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดาย

 

แต่…

 

‘สัตว์อสูรแรกกำเนิดมังกรหมื่นเศียรมีศีรษะมากมาย ข้าพึ่งจัดการไปเพียงหนึ่ง มันยังไม่ถือเป็นสิ่งใด หากศีรษะมังกรอื่นๆเข้าสู่การต่อสู้ ข้าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ สองหมัดไม่สามารถแข่งขันกับสี่ฝ่ามือ’

 

ไป่หนิงปิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและขมวดคิ้ว

 

ที่นี่ไม่ใช่ไท่ชิวทั่วไป มันเป็นค่ายกลวิญญาณ

 

มังกรหมื่นเศียรเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดบนเส้นทางแห่งค่ายกล มันสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณได้เช่นเดียวกับความสามารถทะลวงมิติของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด มันเป็นพรสวรรค์ตั้งแต่กำเนิดของสัตว์อสูรแรกกำเนิด

 

‘ข้าต้องออกจากที่นี่และกลับสู่โลกภายนอก’

 

‘ข้าหวังว่าอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆจะสามารถอดทน!’

 

ในเวลาเดียวกัน ด้านนอกค่ายกลวิญญาณ

 

กลุ่มของไห่ลั่วหลันบินอยู่บนท้องฟ้าและกำลังเผชิญหน้ากับศีรษะมังกรนับร้อยที่อยู่บนพื้น

 

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดและสร้างเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่

 

ภายในทุ่งหญ้าที่สูงเท่ากับต้นไม้ มังกรหลายร้อยตัวมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน บางตัวมีเกล็ดสีทอง บางตัวมีเขาอยู่กลางหน้าผาก บางตัวมีดวงตาสามดวง

 

แต่ทั้งหมดมีเพียงศีรษะมังกร พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของมังกรหมื่นเศียร ร่างกายของพวกมันอยู่ลึกลงไปใต้ดิน ศีรษะมังกรนับหมื่นมีต้นกำเนิดเดียวกัน

 

ไห่ลั่วหลันบินเป็นวงกลมและใช้ท่าไม้ตายของนางออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

เสียงคำรามของมังกรดังขึ้น พวกมันไม่หลบเลี่ยงแต่ตอบโต้โดยตรง ส่วนใหญ่ส่งลมหายใจมังกรออกมา บางส่วนพ่นพิษ ขณะที่บางส่วนยิงลำแสงออกจากดวงตา

 

“โดยไม่สนใจศีรษะมังกรที่ไปจัดการไป่หนิงปิง มีศีรษะมังกรระดับเจ็ดจำนวนสามเศียร ที่เหลือเป็นระดับหก”

 

“เรายังไม่พบวิญญาณอมตะป่าใดๆ แต่ก็ต้องระวังให้ดี”

 

“อย่าเข้าไปใกล้ มิฉะนั้นพวกเจ้าจะถูกลากเข้าไปในค่ายกลวิญญาณ!”

 

ไห่ลั่วหลัน อิงอู๋เซี่ย และคนอื่นๆพูดคุยขณะต่อสู้

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขอความช่วยเหลือจากฟางหยวน เขาต้องยอมรับคำขอนี้ ประการแรก ภารกิจกู้ภัยมีรางวัลตอบแทนมากมาย มันน่าดึงดูดใจ ประการที่สอง ฟางหยวนเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหลางหยา เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งนี้ มิฉะนั้นมันจะเป็นการละเมิดข้อตกลงพันธมิตร

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงสั่งให้กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยช่วยถ่วงเวลาเอาไว้ขณะที่เขากำลังเดินทางไปที่นั่น

 

แต่กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยยังรู้สึกกดดันมาก

 

“โอ้ ไม่ มันมีมากขึ้นเรื่อยๆ!”

 

“หากยังเป็นเช่นนี้ มังกรหมื่นเศียรจะตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ นอกจากเราจะล้มเหลวในภารกิจช่วยชีวิตแต่เรายังจะเสียชีวิตที่นี่!”

 

“เมื่อใดท่านผู้นำจะมาถึง?”

 

“เราอยู่ในส่วนลึกของไท่ชิว ค่ายกลวิญญาณขนส่งอยู่ห่างไกล เขาต้องการเวลา ระวัง!”

 

ขณะสนทนา ศีรษะมังกรระดับเจ็ดก็ปรากฏขึ้นจากใต้ดินและส่งลมหายใจมังกรออกมา

 

ไห่ลั่วหลันหลบเลี่ยงได้อย่างฉิวเฉียดขณะที่อิงอู๋เซี่ยไตร่ตรองและกล่าวกับเทพธิดากระต่ายขาวรวมถึงเซี่ยเอ๋อ “ถอยไปด้านหลังและช่วยเราจากระยะไกล”

 

เซี่ยเอ๋อเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก นางหวาดกลัวมากและไม่มีความคิดที่จะต่อสู้แม้แต่น้อย

 

แม้นางจะเป็นอัจฉริยะของเผ่ามนุษย์หิมะ แต่นางไม่สามารถเปรียบเทียบกับไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆ นางไม่พยายามเข้าร่วมและเร่งล่าถอยออกไปพร้อมกับเทพธิดากระต่ายขาวทันที

 

หลังจากนั้นศีรษะมังกรก็เข้าสู่การต่อสู้มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ร่างมังกรหมื่นเศียรเริ่มเคลื่อนไหว ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆถูกปราบปรามอย่างมาก

 

โชคดีที่มังกรหมื่นเศียรเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อมันถือกำเนิดขึ้น มันจะไม่สามารถเคลื่อนที่ แม้มันจะมีศีรษะมังกรจำนวนมาก พวกมันก็ทำได้เพียงปกป้องและขับไล่ศัตรูออกจากอาณาเขตของมันเท่านั้น

 

แต่ถึงกระนั้นลมหายใจมังกรของมันก็ทรงพลังมาก ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆแทบไม่สามารถต่อต้าน

 

“สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ”

 

“ไป่หนิงปิงยังไม่ออกมา ข้าเกรงว่านางจะไม่สามารถหลบหนีจากกับดักของศัตรู!”

 

ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆพูดถูก ไป่หนิงปิงกำลังต่อสู้อย่างสิ้นหวังอยู่ภายในค่ายกลวิญญาณเพื่อปกป้องผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสาม

 

แต่ในเวลานี้กลิ่นอายที่ลึกลับกลับแพร่กระจายไปทั่ว

 

ศีรษะมังกรที่ใหญ่โตกว่าศีรษะอื่นๆโผล่ขึ้นมาอย่างช้าๆ

 

มังกรหมื่นเศียรตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว!

 

มันสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับกลุ่มผู้อมตะ

 

“บัดซบ!”

 

“เราควรทำอย่างไร?”

 

ขณะที่กลุ่มผู้อมตะลังเล อิงอู๋เซี่ยออกคำสั่ง “เราจะถอย”

 

พวกเขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ด แล้วพวกเขาจะต่อต้านพลังการต่อสู้ระดับแปดได้อย่างไร? พวกเขาสามารถเพียงหลบหนีและละทิ้งไป่หนิงปิงรวมถึงผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสาม

 

แต่ในจังหวะนี้ศีรษะมังกรแรกกำเนิดกลับอ้าปากและดูดพวกเขาเข้าไป

 

อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆถูกลากเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ

 

“ศีรษะมังกรแรกกำเนิด!” หัวใจของไป่หนิงปิงสั่นไหว นางมองไปที่กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยและถาม “ฟางหยวนอยู่ที่ใด?”

 

อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆเผยรอยยิ้มขมขื่น

 

โชคดีที่ศีรษะมังกรแรกกำเนิดดูดพวกเขาเข้ามาในค่ายกลวิญญาณเท่านั้นและไม่ได้โจมตี

 

มันมีพลังการต่อสู้ระดับแปด จากมุมมองของมัน ผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ดไม่มีนัยสำคัญ มันไม่จำเป็นต้องต่อสู้

 

มันปล่อยให้ศีรษะอื่นๆจัดการคนเหล่านี้

 

ดังนั้นกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยจึงถูกบังคับให้เข้าสู่การต่อสู้ที่ยากลำบาก

 

ตอนนี้แตกต่างจากก่อนหน้า ภายในค่ายกลวิญญาณ ศีรษะมังกรสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดาย พวกมันสามารถปรากฏตัวและหายไปได้ทันที

 

กลุ่มผู้อมตะไม่สามารถออกจากค่ายกลวิญญาณและทำได้เพียงรวมตัวกันต่อสู้อย่างสิ้นหวัง

 

ในการต่อสู้ ผู้อมตะทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ สามผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน เซี่ยเอ๋อ และเทพธิดากระต่ายขาวแทบไม่สามารถรักษาชีวิต

 

กลุ่มผู้อมตะของนิกายเงาเริ่มไม่สนใจผู้อ่อนแออีกต่อไป

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนหนึ่งเป็นคนแรกที่ตาย

 

เซี่ยเอ๋ออ้าปากค้างขณะที่นางไม่สามารถหลบหนี นางถูกปิดล้อมโดยศีรษะมังกรจำนวนมาก

 

“ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะมาตายที่นี่!” เซี่ยเอ๋อไม่สามารถต่อต้านศัตรู นางทำได้เพียงปิดเปลือกตาลงและรอรับความตายเท่านั้น อย่างไรก็ตามร่างหนึ่งบินเข้ามาและลากนางออกไป

 

“พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใด? เหตุใดต้องให้ข้าออกมากอบกู้สถานการณ์!” ท่ามกลางแรงกดดัน เทพธิดากระต่ายขาวกลายเป็นนางเสือดำอีกครั้ง นางเป็นคนช่วยชีวิตเซี่ยเอ๋อ

 

เซี่ยเอ๋อมึนงง “เจ้าคือกระต่ายขาวงั้นหรือ?”

 

“ข้าไม่ได้อ่อนแอเช่นนั้น” นางเสือดำเผยรอยยิ้มเย็นชาและมองเซี่ยเอ๋อด้วยสายตาดูแคลน

 

เซี่ยเอ๋อรู้สึกพูดไม่ออก

 

ในที่สุดนางก็เข้าใจ สมาชิกนิกายเงาล้วนเป็นสัตว์ประหลาด หากเปรียบเทียบ นางอ่อนแอที่สุด

 

ด้วยความช่วยเหลือจากนางเสือดำ สถานการณ์เริ่มเกิดเสถียรภาพ

 

แต่ช่วงเวลาที่ดีมักอยู่ไม่นาน ศีรษะมังกรเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

กลุ่มผู้อมตะทำได้เพียงป้องกันตัวแต่ไม่สามารถหลบหนี

 

ความหวังเดียวของพวกเขาอยู่ที่ฟางหยวน

 

แต่ฟางหยวนจะมาถึงเมื่อใด?

 

หลังจากต่อสู้มาเป็นเวลานาน พวกเขาคิดว่าฟางหยวนควรจะมาถึงแล้ว แต่ในไม่ช้ากลุ่มผู้อมตะของนิกายเงาก็ตระหนักว่าค่ายกลวิญญาณนี้เกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งกาลเวลา เวลาของที่นี่แตกต่างจากโลกภายนอก

 

แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าศีรษะมังกรเริ่มลดลง

 

พวกเขาเริ่มสามารถรักษาเสถียรภาพได้อีกครั้ง

 

“ฟางหยวนต้องมาถึงแล้ว!” หลังจากตระหนักถึงสิ่งนี้ ขวัญกำลังใจของพวกเขาก็พุ่งสูงขึ้น

 

แต่เซี่ยเอ๋อยังกังวล ‘ข้าสงสัยว่าการต่อสู้ด้านนอกจะเป็นอย่างไร? แม้ฟางหยวนจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่เขาจะสามารถต่อต้านศีรษะมังกรจำนวนมากได้หรือไม่?’

 

ขณะที่นางกำลังคิดเรื่องนี้ ค่ายกลวิญญาณก็แตกออก ทุกคนกลับสู่โลกภายนอก

 

“อา…” เมื่อเห็นทิวทัศน์ของโลกภายนอก ช่วยไม่ได้ที่เซี่ยเอ๋อจะอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

 

สนามรบเต็มไปด้วยเลือดและกองซากศพ

 

รวมถึงฟางหยวนจำนวนนับไม่ถ้วน

 

“ร่างแยกความคิด” อิงอู๋เซี่ยพึมพำเมื่อตระหนักถึงท่าไม้ตายอมตะของฟางหยวน

 

ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ในร่างแยกจำนวนนับไม่ถ้วน ศีรษะมังกรแรกกำเนิดไม่รู้ว่าร่างจริงของฟางหยวนอยู่ที่ใด

 

ความคิดอุกกาบาตเพลิง!

 

อุกกาบาตเพลิงจำนวนมากพุ่งเข้าปะทะศีรษะมังกรทำให้พวกมันล้มลงบนพื้น

 

พวกมันคิดที่จะลุกขึ้นแต่ความคิดของพวกมันก็หยุดลงด้วยเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ขึ้นในใจ

 

ความคิดดอกไม้เบ่งบาน!

 

ดอกไม้จำนวนนับไม่ถ้วนเบ่งบานขึ้นบนศีรษะมังกร

 

ดอกไม้เหล่านี้เป็นเชื้อเพลิงให้กับเปลวไฟที่ลุกไหม้ขึ้นในใจของพวกมัน

 

การโจมตีเหล่านี้สามารถกำหราบศีรษะมังกรระดับหกและระดับเจ็ดได้ทันที พวกมันนอนอยู่บนพื้นราวกับไส้เดือนตัวใหญ่

 

มีเพียงศีรษะมังกรแรกกำเนิดเท่านั้นที่ยังอยู่ แต่เนื่องจากมันไม่สามารถค้นหาร่างจริงของฟางหยวน ดังนั้นแม้มันจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปด มันก็ยังไร้ประโยชน์

 

‘นี่คือพลังอำนาจที่แท้จริงของท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา’ ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

เมื่อศีรษะมังกรแรกกำเนิดเห็นกลุ่มของอิงอู๋เซี่ย มันเร่งเปลี่ยนเป้าหมาย

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่เหลือสองคนกรีดร้อง

 

ร่างหลักของฟางหยวนโผล่ออกมาและปกป้องพวกเขา

 

“ระวัง!” เซี่ยเอ๋อตะโกนเมื่อนางเห็นศีรษะมังกรแรกกำเนิดพุ่งชนฟางหยวน

 

ฟางหยวนบินออกไปแต่เขายังสามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

 

ในทางตรงข้ามศีรษะมังกรแรกกำเนิดกลับปกคลุมไปด้วยเลือด มันอยู่ในสภาพที่น่าสมเพช

 

เกราะหวนคืน!

 

สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องตลก

 

ด้วยการฉวยโอกาสนี้ กลุ่มผู้อมตะของนิกายเงาสามารถหลบหนีออกไปในระยะที่ปลอดภัย

 

“แข็งแกร่งมาก!” เซี่ยเอ๋อมึนงงเมื่อเห็นการต่อสู้ของฟางหยวน

 

ฟางหยวนเป็นฝ่ายได้เปรียบและสามารถกำจัดศีรษะมังกรแรกกำเนิดได้ในที่สุด

 

“สัตว์อสูรแรกกำเนิดตัวนี้อ่อนแอไปเล็กน้อย” เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ฟางหยวนกวาดตามองศีรษะมังกรแรกกำเนิดที่ถูกตัดออกจากร่างรวมถึงศีรษะมังกรอีกนับไม่ถ้วนที่นอนอยู่บนพื้นและถอนหายใจ