สภาสิบแปดปีกที่ไม่อาจสั่นคลอน

จักรวรรดิรัตติกาล เมืองดาร์คไนท์ :

สถานที่พักกิลของสตาร์ลิ้งที่เดิมนั้นเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ตอนนี้มันกลับดูเงียบสงบเป็นพิเศษ

ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากของสตาร์ลิ้งนั้นยืนเฝ้าอยู่ที่ด้านนอกของกิลฮอล และมันมีแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอยู่ในหมู่ผู้เล่นเหล่านี้ด้วยซ้ำ แม้แต่สมาชิกกิลก็ยังไม่ได้รับอนุญาติให้อยู่ในกิลฮอลไม่ต้องพูดถึงคนนอกเลย มันเป็นระดับความปลอดภัยที่ไม่เคยมีมาก่อน

ขณะนี้มีเพียงสามคนเท่านั้นที่อยู่ในกิลฮอล ซึ่งก็คือลู่ชิงหลัว จักรพรรดิเก้ามังกร และผู้เล่นลึกลับคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมปิดบังตัวตนไว้ เนื่องจากคนที่สามในหมู่พวกเขานี้ซ่อนตัวตนไว้ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกได้ว่าผู้เล่นคนนี้เป็นหญิงหรือชาย

ไม่เพียงแต่จักรพรรดิเก้ามังกรจะไม่พอใจเกี่ยวกับการปกปิดตัวตนของสมาชิกคนที่สามในระหว่างการประชุมที่สำคัญแบบนี้ แต่เขาก็ยังตกตะลึงด้วยต่อวิธีที่ลู่ชิงหลัวปฎิบัติต่อสมาชิกคนที่สาม ซึ่งมันดูเต็มไปด้วยความเคารพ

ลู่ชิงหลัวนั้นเป็นหัวหน้ากิลของสตาร์ลิ้ง ซึ่งเป็นกิลที่มีอำนาจอยู่ในทวีปหลักทั้งสองด้าน และแม้ว่าสตาร์ลิ้งจะยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นซุเปอร์กิล แต่พลังโดยรวมของพวกเขานั้นก็มีมากกว่าซุเปอร์กิลทั่วไปแล้ว

แต่ตอนนี้ลู่ชิงหลัวกับปฎิบัติต่อสมาชิกคนที่สามนี้ในฐานะผู้ที่อยู่เหนือเขา นี่มันไม่น่าเชื่อเลย !!!

“ตอนนี้เราได้ข้อสรุปการพูดคุยของเราแล้ว ฝ่ายของคุณมีปัญหาใดๆหรือไม่ ?” ลู่ชิงหลัวถามจักรพรรดิเก้ามังกร

“ไม่มี ตอนนี้คนเหล่านั้นน่าจะอยู่ในเมืองป่าหินแล้ว และเมื่อกองทัพร่วมของมหาอำนาจเข้าปิดล้อมเมืองป่าหินเมื่อไหร่ พวกเขาก็จะใช้ทุกอย่างที่มีในการเข้ายึดคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง ซึ่งเมื่อพวกเขาทำงานได้สำเร็จ พันธมิตรของพวกเราจะมีความได้เปรียบในการเจรจากับมหาอำนาจต่างๆอย่างมาก” จักรพรรดิเก้ามังกรตอบอย่างมั่นใจ

ในการจะยึดเมืองป่าหิน และโค่นฟีนิกซ์เรนลงจากฐานของเธอ จักรพรรดิเก้ามังกรได้ลงทุนไปมากในปฎิบัติการที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ เขากระทั่งยอมเสนอสัมปทานให้กับกองกำลังแห่งความมืดของจักรวรรดิมังกรดำเพื่อทำการรวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเกือบหนึ่งร้อยคน

อีกทั้งเขาก็ได้ทำการตรวจสอบผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มาอย่างละเอียดแล้วเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้มีคอนเนคชั่นใดๆกับมหาอำนาจอื่นด้วย ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าสภาสิบแปดปีกจะหยุดทีมๆนี้ไว้นอกเมืองป่าหิน เพราะด้วยสถานการณ์ตอนนี้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสภาสิบแปดปีกกับมหาอำนาจต่างๆค่อนข้างตึงเครียดนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยหากกิลจะตัดสินใจที่จะปฎิเสธการเข้าสู่เมืองของสมาชิกมหาอำนาจต่างๆที่ไม่ใช่พันธมิตร

อย่างไรก็ตามสภาสิบแปดปีกจะสูญเสียความโปรดปรานจากสาธารณชน หากไม่อนุญาติให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเหล่านี้ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมหาอำนาจต่างๆเข้าเมือง ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกกล้าทำแบบนี้ พวกเขาก็จะก่อให้เกิดความไม่พอใจไปทั่วในหมู่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของกิลขนาดใหญ่ และผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอิสระ ซึ่งหากเป็นแบบนั้นสถานการณ์ของกิลก็จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น เพราะไม่เพียงแต่จะต้องเผชิญหน้ากับมหาอำนาจต่างๆเท่านั้น แต่กิลยังจะต้องกังวลเกี่ยวกับกิลขนาดใหญ่ทั่วไป และผู้เชี่ยวชาญอิสระอีกจำนวนมาก

เมื่อจักรพรรดิเก้ามังกรพูดจบ ผู้เล่นลึกลับข้างๆข้อความบางอย่าง ซึ่งจักรพรรดิเก้ามังกรก็สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าบรรยากาศรอบตัวของผู้เล่นลึกลับนั้นเปลี่ยนแปลงไปเมื่อได้อ่านข้อความ แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นรูปลักษณ์ของผู้เล่นลึกลับ แต่ในฐานะที่เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด เขาก็มีความสามารถในการจะรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเป้าหมายที่เขาสนใจ

“ปรมาจารย์ดราก้อนพาวิลเลี่ยน คุณทำงานหนักมากจริงๆเพื่อเรื่องนี้ แต่ฉันคิดว่าครั้งนี้สตาร์ลิ้งจะต้องขอถอนตัวออกจากปฎิบัติการ !!!” ผู้เล่นลึกลับกล่าว โดยเขาไม่ได้คิดจะพูดคุยใดๆเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ให้ลู่ชิงหลัวฟัง
“คุณหมายถึงอะไรกัน ?” คำพูดของผู้เล่นลึกลับทำให้จักรพรรดิเก้ามังกรสับสน “นี่คุณจะยอมแพ้เรื่องเมืองป่าหินงั้นหรอ ?”

พวกเขานั้นได้วางแผนที่จะแบ่งผลกำไรของเมืองป่าหินไว้แล้ว และพวกเขาก็รอเพียงแค่กองทัพร่วมของมหาอำนาจต่างๆเข้าล้อมเมือง แต่ทันใดนั้นผู้เล่นลึกลับคนนี้ก็ตัดสินใจว่าสตาร์ลิ้งจะไม่อยู่ในการต่อสู้นี้ นี่ผู้เล่นลึกลับคนนี้เล่นตลกกับเขารึยังไง
กัน ?

คำพูดนี้ก็ทำให้ลู่ชิงหลัวตกใจมากเช่นกัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้เล่นลึกลับคนนี้ถึงได้เลือกจะละทิ้งโอกาสที่จะได้รับเหมืองทองคำอย่างเมืองป่าหิน

“ไม่ ฉันไม่ได้คิดจะยอมแพ้ เพียงแต่ฉันคิดว่าปฎิบัติการนี้มันไม่มีโอกาสจะสำเร็จเลย” ผู้เล่นลึกลับอธิบายพลางส่ายหัว

“มันจะล้มเหลวได้ยังไงกัน ? ฉันยอมรับว่าสภาสิบแปดปีกนั้นแข็งแกร่งมากๆ แต่พวกเขาก็ไม่มีอะไรจะมาเทียบได้กับกองทัพร่วมของมหาอำนาจต่างๆ และเมื่อคนของฉันเข้ายึดคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองป่าหินได้แล้ว เมืองก็จะตกเป็นของเรา !!!” จักรพรรดิเก้ามังกรกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว “ฉันไม่รังเกียจที่จะไปหาพันธมิตรที่เป็นมหาอำนาจอื่นๆนะ หากสตาร์ลิ้งตั้งใจจะยอมแพ้ แต่คุณก็จะต้องเสียใจกับการตัดสินใจของคุณ !!”

“เสียใจ ?” ผู้เล่นลึกลับอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำนี้ “ถ้าคุณคิดว่าจะหาพัธมิตรใหม่ได้ก็อย่าลังเลที่จะทำมันเลย ปรมาจารย์ดราก้อนพาวิลเลี่ยน แต่ฉันแน่ใจว่ามันจะไม่มีมหาอำนาจใน God domain ที่อยากจะร่วมงานกับคุณแน่นอน”

“คุณ …”

ในขณะที่จักรพรรดิเก้ามังกรกำลังจะโต้แย้ง เขาก็ได้รับข้อความจากมาร์เชี่ยลดราก้อน ข้อความนั้นเรียบง่ายมาก สตับบอร์นฮาร์ทและคนอื่นๆเลือกจะละทิ้งการเป็นหุ้นส่วนแล้ว

จักรพรรดิเก้ามังกรได้แต่จ้องมองไปยังข้อความนี้ด้วยความตกตะลึง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?

ทันทีที่สตาร์ลิ้งยกเลิกการเป็นพันธมิตรกับเขา กลุ่มของสตับบอร์นฮาร์ทก็ได้ทำแบบเดียวกันในเวลาไล่เลี่ยกัน

นี่สภาสิบแปดปีกมีพลังที่ท้าทายสวรรค์ที่ถึงขนาดจ่ายให้ทั้งสองกลุ่มนี้ยอมออกจากปฎิบัติการนี้งั้นหรอ ?

จักรพรรดิเก้ามังกรไม่สามารถคิดถึงคำอธิบายอื่นให้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันได้ นี่เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการเข้ายึดเมืองป่าหิน ทำไมทุกคนถึงเลือกจะเพิกเฉยต่อการล่อลวงแบบนี้ ?

“อย่าคิดมาเกินไป เหตุผลที่เราตัดสินใจจะไม่เข้าร่วมปฎิบัติการกับคุณนั้นมันก็ง่ายมาก …” มันราวกับว่าผู้เล่นลึกลับคนนี้ได้อ่านความคิดของจักรพรรดิเก้ามังกรไว้อยู่แล้ว และเขาก็กล่าวต่ออย่างใจเย็นว่า “มันไม่มีมหาอำนาจใดใน God domain ที่สามารถจะทำอะไรกับเมืองป่าหินได้หรอก”

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?” จักรพรรดิเก้ามังกรปฎิเสธคำพูดของผู้เล่นลึกลับโดยสัญชาตญาณ “แม้ว่าแบล๊คเฟรมและศาลาลับจะคอยปกป้องเมือง แต่พวกเขาก็ไม่ควรจะสามารถหยุดผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายพันคนได้”

“อ่าาา แล้วถ้าเมืองได้รับการป้องกันโดย NPC ขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคนล่ะ ?” ผู้เล่นลึกลับถาม

NPC ขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคน ? นั่น …. เป็นไปไม่ได้ สภาสิบแปดปีกจะมี NPC ขั้นสามจำนวนมากขนาดนั้นได้ยังไงกัน ? แม้แต่เมืองหลวงของอาณาจักรก็ยังไม่ได้รับการปกป้องจาก NPC ขั้นสามจำนวนมากขนาดนั้นเลย !!!” จักรพรรดิเก้ามังกรตะโกนอย่างไม่เชื่อ ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าผู้เล่นลึกลับคนนี้จะต้องเล่นตลกบางอย่างกับเขา

“ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองดูด้วยตัวเองแล้วกัน …” ผู้เล่นลึกลับกล่าว และเขาก็ส่งวีดีโอที่ถูกบันทึกจากในเมืองป่าหินให้จักรพรรดิเก้ามังกร

เมื่อจักรพรรดิเก้ามังกรดูวีดีโอจบ เขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก

วีดีโอนั้นประกอบไปด้วยสองส่วน ส่วนแรกมันได้แสดงถึง NPC ขั้นสามจำนวนสองร้อยคนเฝ้าอยู่ที่บริเวณทางเข้าประตูเมือง ในขณะที่ส่วนหลังแสดงให้เห็นว่ามี NPC ขั้นสามจำนวนสองร้อยคนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังลาดตระเวนอยู่รอบคฤหาสลอร์ดผู้ปกครองเมือง แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยตัวเอง แต่จักรพรรดิเก้ามังกรก็สามารุสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของ NPC ขั้นสามเหล่านี้เลย และพวกเขาจะสามารถกำจัดกองทัพผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายพันคนได้อย่างง่ายดายแน่นอน

ในขณะเดียวกันข่าวเรื่องนี้ก็ไปถึงหูของมหาอำนาจต่างๆอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนที่เมืองทไวไลท์เช่นกัน

“เมืองที่ได้รับการปกป้องโดย NPC ขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคน ? นี่หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมจะไม่น่าประทับใจเกินไปหน่อยงั้นหรอ ? ตอนนี้ใครกันจะกล้าโจมตีเมืองป่าหิน …” ปากของบลูฟีนิกซ์อ้ากว้างด้วยความตกตะลึง เมื่อเธอได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอัศวิน NPC ในเมืองป่าหิน

แม้แต่กองทัพ NPC ของอาณาจักร หากไม่ใช่กองทัพหลวง ก็ยังยากจะต้านทานกองกำลัง NPC ขั้นสามจำนวนมากขนาดนี้ได้เลย

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงดูไม่ซีเรียสที่จะเปิดเผยเสาสิบธาตุออกมา … ตอนนี้มหาอำนาจต่างๆจะต้องพิจารณาการเดินหน้าต่อไปของพวกเขาอย่างรอบคอบ หากพวกเขาทำอะไรผลีผลาม พวกเขาอาจจะเป็นกลุ่มแรกๆที่ถูกตัดออกจากการแข่งขันในโลกนี้ได้เลย” ฟีนิกซ์เรนกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น หลังจากที่เธอได้อ่านรายงานจากลูกน้องของเธอ

สภาสิบแปดปีกในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะครอบครองวงเวทย์บาเรียเสาสิบสองธาตุอยู่ แต่พวกเขายังพิสูจน์ให้เห็นแล้วด้วยว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งมากเพียงพอในการปกป้องมัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สภาพของทวีปหลักด้านตะวันออกจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่นอน

ในขณะที่ฟีนิกซ์เรนกำลังประหลาดใจกับรากฐานที่สภาสิบแปดปีกแสดงออกมา แอสซาซินขั้นสามก็ได้เคาะประตูออฟฟิศของเธอก่อนจะเดินเข้ามา จากนั้นแอสซาซินก็กล่าวว่า “ปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน สุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนขอให้คุณไปพบเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญ”