บทที่ 1067 สถานการณ์กลับกัน / บทที่ 1068 ก็ไม่แน่เสมอไป

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1067 สถานการณ์กลับกัน

เยี่ยหวันหวั่นแค่กวาดตามองแวบเดียว ไม่พูดอะไร

ตอนที่พ่อของเธอยังอยู่ในบ้าน เป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของตระกูลเยี่ย มูลค่าทรัพย์สินจัดอยู่หนึ่งในสิบอันดับต้นๆ ของเมืองหลวง

ตอนนั้นห้องของเธอเต็มไปด้วยเครื่องประดับเพรชพลอย และของใช้ฟุ่มเฟือยราคาแพงมากมาย

มีทั้งของที่พ่อกับแม่ซื้อให้ และของขวัญที่เยี่ยมู่ฝานให้ แล้วตัวเธอเองก็ชอบซื้อเครื่องประดับที่วิบวับอยู่แล้วด้วย

ต่อมาตระกูลเยี่ยต้องเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่เพราะเยี่ยเส่าอัน หลังจากที่เยี่ยเส่าอันรับช่วงต่อบริษัท ตระกูลเยี่ยก็ไม่เคยกลับไปรุ่งเรืองเหมือนเมื่อก่อนอีกเลย

เยี่ยอีอีไม่ได้เรียกมาแค่เยี่ยหวันหวั่นคนเดียว แต่ยังเรียกเหลียงซือหานกับลูกคุณหนูในแกงค์มาอีกหลายคนด้วย

“พี่อีอี วันนี้พี่สวยมาก!”

“อีอีกับคุณชายกู้ช่างเหมาะสมกันจริงๆ!”

“ขอให้พวกเธอรักกันไปจนแก่เฒ่าเลยนะ!”

พวกเธอรุมล้อมอวยพรเยี่ยอีอีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าว ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมส่งสายตาเยาะเย้ยมาทางเยี่ยหวันหวั่นเป็นระยะ

เยี่ยหวันหวั่นเดินไปนั่งโซฟาอย่างขี้คร้านจะสนใจ

สาวๆ คุยกันได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หวงหมิงคุนเดินถือน้ำชาเข้ามา

“คุณหนูหวันหวั่น เชิญดื่มชาครับ”

เยี่ยหวันหวั่นกำลังอ่านนิตยาสารฆ่าเวลา หวงหมิงคุนยกชาแก้วหนึ่งวางไว้ข้างหน้าเยี่ยหวันหวั่น ขณะเดียวกันก็แอบเอาของชิ้นเล็กๆ บางอย่างใส่กระเป๋าเธอ โดยใช้ความเร็วและองศาที่เธอไม่สังเกตเห็น จากนั้นก็เดินถือถาดน้ำชาไปบริการคุณหนูคนอื่นๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“คุณหนูใหญ่ แขกมากันครบแล้ว ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ” หวงหมิงคุนบอกเยี่ยอีอี

“โอเค” เยี่ยอีอีพูด พลางเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยหางตาเงียบๆ

หวงหมิงคุนส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่า “สำเร็จ” มาให้เธอ

“ฉันรู้แล้ว นายไปได้” เยี่ยอีอีก็ทำหน้าโล่งใจในที่สุด

“ครับ” หวงหมิงคุนรับคำแล้วออกจากห้องไป

เยี่ยอีอีจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว คนอื่นๆ จึงพากันลงไปข้างล่าง

โถงงานเลี้ยงด้านล่าง

เยี่ยหวันหวั่นกำลังเดินลงไปก็เจอเยี่ยมู่ฝานที่วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมาพอดี

“พี่ จะรีบวิ่งไปไหน?” พอเห็นเยี่ยมู่ฝานท่าทางเร่งรีบ เยี่ยหวันหวั่นก็อดถามไม่ได้

เยี่ยมู่ฝานบ่น “ก็พ่อกับแม่น่ะสิ เป็นห่วงแก กลัวว่าแกจะโดนรังแก จะให้ฉันตามมาดูให้ได้”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้าซาบซึ้ง “ฉันไม่เป็นไร ไปกันเถอะ”

“เยี่ยอีอีไม่ได้ทำอะไรแกใช่ไหม?” เยี่ยมู่ฝานถาม

“มีคนอื่นอยู่ด้วย เธอยิ่งต้องทำดีแล้วก็เกรงใจฉันอยู่แล้ว จะทำอะไรฉันได้ยังไง” เยี่ยหวันหวั่นตอบ จากนั้นก็ไม่ลืมพูดกับเยี่ยมู่ฝานว่า “พี่ชาย เรื่องนี้พี่ต้องเรียนรู้ไว้บ้างนะ เรียนได้นิดหน่อยก็ใช้ประโยชน์ได้แล้ว”

เยี่ยมู่ฝานได้ยินก็ทำหน้าพูดไม่ออก

น้องสาว นี่ฉันกำลังเป็นห่วงเธอนะ ทำไมสถานการณ์มันกลับกันล่ะ?

เยี่ยมู่ฝานเม้มปาก จากนั้นก็รับคำโดยสัญชาตญาณ “โอเค เข้าใจแล้ว…”

ท่วงทำนองเพลงอันไพเราะดังขึ้น ไม่นานงานก็เริ่ม

ขณะงานเลี้ยงกำลังคึกคัก จู่ๆ เสียงเอะอะโวยวายกลับดังขึ้นท่ามกลางกลุ่มคน

หวงหมิงคุนและกลุ่มคนรับใช้เดินฝ่าฝูงชนด้วยสีหน้าร้อนรน คล้ายกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่

เยี่ยมู่ฝานขมวดคิ้วมองหวงหมิงคุน “ไอ้หมารับใช้แซ่หวงนั่นกำลังเล่นลูกไม้อะไรอีก?”

เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองคนพวกนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะเดียวกันก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าถือสีขาวของตัวเอง “จิ๊…”

เยี่ยมู่ฝานเห็นสีหน้าเยี่ยหวันหวั่นผิดปกติ จึงถามว่า “เป็นอะไรไป?”

“เปล่า” เยี่ยหวันหวั่นยักไหล่ “แค่รู้ตัว…ว่าเหมือนจะโดนคนอื่นมองว่าเป็นคนโง่…”

“หา?” เยี่ยมู่ฝานไม่เข้าใจที่เธอพูด

……………………………………………………….

บทที่ 1068 ก็ไม่แน่เสมอไป

เพราะสถานการณ์วุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานแขกในงานก็พากันกระซิบกระซาบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“มีอะไรกันน่ะ? เกิดอะไรขึ้น?”

“ไม่รู้สิ เหมือนแหวนหมั้นของเยี่ยอีอีจะหายไปนะ”

“ไม่มั้ง! ของสำคัญอย่างแหวนหมั้นก็ต้องเตรียมพร้อมไว้แล้วสิ ทำไมจู่ๆ ก็หายล่ะ?”

……

หวงหมิงคุนทำหน้าเครียดแล้วเดินมาทางเยี่ยหวันหวั่น รวมถึงกลุ่มคุณหนูที่ขึ้นไปบนห้องเมื่อกี้

“ต้องขออภัยในความไม่สะดวก คุณหนูทุกท่าน เมื่อครู่ตอนที่ขึ้นไปบนห้องของคุณหนูเยี่ยอีอีเมื่อกี้ เห็นแหวนหมั้นของคุณหนูเยี่ยอีอีไหมครับ?” หวงหมิงคุนถามอย่างเกรงใจ

คุณหนูบางคนส่ายหน้า “เหมือนจะไม่เห็นนะ”

ตอนนั้นเอง เหลียงซือหานก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันเห็น เมื่อกี้ยังวางอยู่บนโต๊ะของพี่อีอีอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ ฉันก็เห็น เป็นแหวนมรกตที่สวยมากเลยล่ะ!” คุณหนูที่สวมชุดเดรสสีเหลืองพูดขึ้น

เหลียงซือหานสายตาไหวระริก “เมื่อกี้ยังอยู่ แล้วทำไมจู่ๆ ก็หายไปได้ล่ะ คงไม่ใช่ว่ามีใครขโมยไปหรอกนะ?”

คุณหนูชุดเดรสสีเหลืองเอ่ย “ขโมย? วันนี้มีแต่แขกคนสำคัญทั้งนั้น จะมีใครลักเล็กขโมยน้อยอย่างนี้ได้ยังไง!”

“หึๆ แขกคนสำคัญ? ก็ไม่แน่เสมอไปมั้ง?” เหลียงซือหานมองไปทางเยี่ยหวันหวั่นคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

เหลียงซือหานพูดจบ ก็หันไปมองหน้าหวงหมิงคุน “พ่อบ้านหวง หาทั่วแล้วรึยัง?”

หวงหมิงคุนพยักหน้า “ครับ ผมหาทั่วแล้ว ไม่มีเลย งานจะเริ่มในไม่ช้าแล้ว ผมถึงได้รีบลงมาถามเหล่าคุณหนูอย่างนี้ ถ้าพวกคุณหนูเห็น ก็ช่วยบอกผมด้วยนะครับ”

หวงหมิงคุนเอ่ย แล้วแสร้งพูดเสริมด้วยน้ำเสียงลำบากใจ “ผมค้นตัวคนรับใช้ในบ้านหมดทุกคนแล้ว คนรับใช้ที่เข้าห้องคุณหนูอีอีก็ตรวจไปหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังไม่เจออะไร เหมือนแหวนหายไปกับอากาศยังไงยังงั้นเลยครับ”

เหลียงซือหานพูดเสียงแหลม “แหวนมันอยู่ดีๆ ของมัน จะหายไปกับอากาศได้ยังไงกัน? ในเมื่อตอนที่พวกฉันออกมายังอยู่ ก็แสดงว่ามันหายไปตอนที่พวกฉันช่วยพี่อีอีเลือกสร้อยในห้อง

เมื่อกี้คนที่เข้าห้องพี่อีอีก็มีแค่พวกฉันไม่กี่คน ในเมื่อพ่อบ้านหวงหาทั่วแล้วไม่เจอ ถ้างั้นพวกเราที่เข้าห้องพี่อีอีเมื่อกี้ เอากระเป๋าขึ้นมาให้พ่อบ้านหวงตรวจดูหน่อยเป็นไร! ถ้าหากไม่มี พ่อบ้านหวงจะได้ไปตามหาที่อื่นต่อ!”

พอเห็นว่าเหลียงซือหานถูกตัวเองชักจูงจนสำเร็จ หวงหมิงคุนก็ลอบยิ้มอย่างย่ามใจ แต่ภายนอกกลับทำหน้าขอโทษขอโพย “ต้องขออภัยจริงๆ นะครับ รบกวนพวกคุณหนูแล้ว ความจริงผมไม่กล้าขอร้องให้พวกคุณหนูทำอย่างนี้ แต่วันนี้เป็นวันมงคลของคุณหนูอีอี ถ้าหากหาของสำคัญขนาดนี้ไม่เจอ ผมก็ไม่รู้จะอธิบายกับคุณหนูอีอียังไงจริงๆ…”

เหลียงซือหานรู้ว่าหวงหมิงคุนเป็นอดีตคนโปรดของเยี่ยอีอี เพื่อเอาอกเอาใจ เธอจึงรีบกล่าวส่งเสริม “ก็ใช่น่ะสิ ถ้าหากพลาดฤกษ์งามยามดีไปต้องแย่แน่! ฉันก่อนแล้วกัน!”

ซือเยี่ยหานพูดจบ ก็ยื่นกระเป๋าให้เขาตรวจ “พ่อบ้านหวง ตรวจของฉันก่อนแล้วกัน!”

วันนี้ทุกคนสวมชุดเดรส จุดที่จะสามารถซ่อนแหวนได้ก็มีแค่กระเป๋าถือเท่านั้น

คุณหนูคนอื่นเห็นอย่างนั้นก็ทยอยยื่นกระเป๋าถือให้เช่นกัน

“ขออภัยด้วยครับ!” หวงหมิงคุนรีบให้คนรับใช้ไปตรวจดูทันที

แต่เห็นได้ชัดว่าตอนที่ตรวจค้นกระเป๋าของคุณหนูพวกนั้น หวงหมิงคุนแค่สั่งให้พวกคนรับใช้ตรวจพอเป็นพิธี ไม่ได้ควานหาของในกระเป๋า ไม่นานก็คืนกระเป๋าให้คุณหนูพวกนั้น

“เฮ้อ ก็ยังไม่เจออยู่ดีครับ…” หวงหมิงคุนถอนหายใจด้วยสีหน้าร้อนรน

เหลียงซือหานได้ยิน ก็เอ่ยด้วยสีหน้าแปลกๆ “เดี๋ยวก่อน พ่อบ้านหวง ยังมีอีกคนที่ยังไม่ได้ตรวจไม่ใช่เหรอ?”

……………..