ตอนที่ 811 คนรู้จัก
ในสหพันธ์
สงครามได้มาถึงแล้ว!
ทําลายสองตระกูใหญ่ในคืนเดียวแล้วตระกูลเทียนก็ไม่ลังเลที่จะต่อสู้กับอีกหกตระกูลที่เหลืออยู่ นี่คือหนังสยองขวัญที่สร้างขึ้นโดยตระกูลเทียนและตระกูลจางร่วมกัน! เหล่าโลกเอสเปอร์ที่ทะลวงเมื่อวานแสดงให้เห็นถึงพลังของพวกเขาในสงครามนี้ เป็นพลังความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัวที่ทําให้ทุกคนต้องหวาดกลัว
สามเดือนเพื่อการทําลายสิบตระกูลใหญ่!
นี่คือคําพูดโผงผางที่ปล่าวประกาศออกมาของตระกูลเทียน คําพูดที่หยิ่งพยองนี้ หลังจากพวกเขาทําลายสองตระกูลใหญ่เมื่อวานนี้ก็ไม่มีใครกล้าพูดถึงมัน
โชคดีที่พวกเขาหยุดเคลื่อนไหวหลังจากทําลายสองตระกูล
ทุกคนรู้ว่าพวกเขากําลังเก็บเกี่ยวผลจากการต่อสู้ หลังจากการต่อสู้ทั้งคืนพวกเขาก็ต้องหยุดพักเช่นกัน สําหรับตระกูลอื่นๆ มันคือพื้นที่หายใจของพวกเขา นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ใครจะคาดคิดว่าหลังจากผ่านไปสิบปีแห่งความสงบสุข ตระกูลเทียนที่เหมือนอ่อนกําลังจู่ๆ ก็ประกาศสงคราม?
ไม่มีใครได้เตรียมตัว!
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลใดพวกเขาก็ไม่พร้อมสําหรับสงครามเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นถึงแม้ช่องว่างระหว่างแข็งแกร่ง แต่การต่อสู้จะจบลงโดยอาศับเวลาเพียงคืนเดียวงั้นหรือ? ด้วยการทําลายล้างของทั้งสองตระกูลทุกคนรู้ว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
สมาชิกตองตระกูลอื่นๆ ที่เหลือต่างเตรียมพร้อมสัหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่ ทั้งหกตระกูลใหญ่ได้จัดการประชุมอย่างลับๆ เพื่อเตรียมการรับมือกับการประกาศสงครามโดยของทั้งตระกูลเทียนและจาง
เพียงชั่วข้ามคืน บรรยากาศในสหพันธ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
นี่คือสงครามระหว่างสิบตระกูลใหญ่ โชคดีที่ไม่ว่าการต่อสู้จะรุนแรงเพียงใดพวกเขาก็ไม่ได้ลากกองกําลังอื่นๆ หรือคนทั่วไปเข้ามาเกี่ยวข้อง
สําหรับกองกําลังอื่นๆ พวกเขาไม่มีแผนที่จะแทรกแซง
แม้ว่าทุกคนจะรู้ดีว่าการรวบรวมทั้งหกตระกูลใหญ่สําเร็จ ก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่ตระกูลเทียนจะเล็กเป้าหมายมาที่พวกเขา อย่างไรก็ตามทุกคนจําเป็นต้องรู้เกี่ยวกับผลลัพธ์ผลลัพธ์ของสงครามก่อน คุณแน่ใจจริงๆ หรือว่าตระกูลเทียนจะสามารถเอาชนะอีกหกตระกูลได้? บางที่ทั้งสองฝ่ายอาจประสบกับความสูญเสียแทน?
ตระกูลเทียนมีความมั่นใจในตนเองอย่างถึงที่สุด หลังจากประเมินความแข็งแกร่งของทั้งหกตระกูลพวกเขาก็ปาวประกาศอย่างมั่นใจต่อชาวโลก!
สําหรับกองกําลังอื่นๆ พวกเขาเพียงเฝ้าดูจากจากภายนอกมองดูเหล่าสิบตระกูลใหญ่สังหารกันเองจนทั้งสองประสบความสูญเสีย ในขณะเดียวกันสหพันธ์และสมาคมความสามารถต้นกําเนิดได้เลือกที่จะปิดตาข้างหนึ่ง มีการกล่าวว่าผู้อาวุโสของสมาคมความสามารถต้นกําเนิดได้ทําการประเมินผลการต่อสู้ครั้งนี้
ทั้งสหพันธ์ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
สิบตระกูลใหญ่ทั้งหมดเข้าสู่ภาวะพร้อมรบ
สําหรับความโกลาหลนี้มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อซูฮ่าวและคนอื่นๆ แม้พวกเขาจะได้เข้าร่วมการต่อสู้เมื่อวานนี้ แต่พวกเขาก็อยู่ที่นั่นเพื่อตั้งโชว์เท่านั้น ตระกูลเทียนที่กําลังขุ่นเคืองส่งหกเอสเปอร์โลกและภายใต้การนําของเทียนกง พวกเขาทําลายล้างศัตรูได้อย่างง่ายดาย
นี่เป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกของตระกูลเทียน
รวดเร็วดั่งสายฟ้า!
พวกเขาจะไม่พึ่งพากลุ่มเอสเปอร์ที่ไม่รู้อะไรแน่ชัดกลุ่มนี้ในการต่อสู้ที่สําคัญ เหตุผลที่พวกเขาปล่อยให้ซูฮ่าวและคนอื่นๆ ติดตามก็เพื่อแสดงความแข็งแกร่งของตระกูลเทียน ทําให้ศัตรูไม่มีความกล้าที่จะต่อสู่หรือต่อกรใดๆ ต่อตระกูลเทียน!
ในความจริง สิ่งที่พวกเขาทําถูกต้อง!
ไอ้พวกเจ้าเล่ห์…โอ้ ไม่สิปฏิบัติการเริ่มต้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม ในขณะที่เหล่าเอสเปอร์กําลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความโกลาหล แม้กระทั่งเอสเปอร์โดเมนสูงสุดก็คงไม่มีความมั่นใจเหลืออยู่ ตระกูลเทียนทําให้ขาดกําลังใจจนถึงขีดสุด หลังจากทําลายตระกูลใหญ่ในชั่วข้ามคืนมันเป็นภาพที่ยากจะจินตนาการ
“ตระกูลเทียนแข็งแกร่งมาก”
“นี่เป็นโอกาสของเรา ฮ่าๆ จากที่เห็น ตระกูลอื่นๆ ไม่สามารถต่อกรกับตระกูลเทียนได้อย่างแน่นอน การเซ็นสัญญาเมื่อวานนี้เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง!”
“มันเป็นการฆ่าเพียงฝ่ายเดียว!”
นี่เป็นวลีที่ซูฮ่าวได้ยินที่บ่อยที่สุดเกี่ยวกับการต่อสู้
คุณลองนึกภาพ กลุ่มเอสเปอร์โดเมนที่กําลังแอบนินทาสิ่งอื่นๆ มันน่าเหลือเชื่อหรือไม่? เอสเปอร์ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพผู้แอบนินทาไม่แตกต่างไปจากประชาชนทั่วไปในเมืองเทียน เห็นได้ชัดว่าความยิ่งใหญ่ของตระกูลเทียนและความหยิ่งยะโสที่เข้าใจยากทําให้พวกเขาสูญเสียความนึกคิด
สําหรับซูฮ่าวสิ่งที่เขาเป็นห่วงคือการกระจายทรัพยากร
หลังสงครามเพื่อหล่อเลี้ยงพวกเขา ตระกูลเทียนมอบทรัพยากรจํานวนมากให้กับทุกคน สงครามที่รุนแรงย่อมมีประโยนช์ที่ยิ่งใหญ่ มีทรัพยากรสําหรับการบ่มเพาะมากมาย ยาเสริมสิ่งต่างๆและบางคนกระทั่งได้อาร์ติกเฟค
หลังสงครามตระกูลเทียนเป็นเหมือนจรวดที่พุ่งพรวด
อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ยังไม่เพียงพอสําหรับซูฮ่าว!
ซูฮ่าวมองดูความคืบหน้าพลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกายของเขาก่อนถอนหายใจ ทรัพยากรเหล่านี้เพียงพอสําหรับการบ่มเพาะเป็นเวลาหนึ่งปีของเอสเปอร์โดเมน แต่มันเพิ่มความคืบหน้าของเขาเพียง 2% เท่านั้น
“ด้วยความเร็วเช่นนี้ฉันจะต้องบ่มเพาะจนแก่ตาย” ซูฮ่าวรู้สึกหดหูเล็กน้อย
ขอบเขตมืออาชีพยังยากถึงขนาดนี้แล้วขอบเขตโดเมนล่ะ?
ในความจริงในระหว่างช่วงความก้าวหน้าของการสะสมพลังงานไม่ได้เป็นความกังวลของเขา สิ่งเดียวที่เขากังวลคือการสะสมพลังงานในช่วงเวลาที่เกิดปัญหาคอขวด หากเขาได้สัมผัสกับสิ่งเดียวกันเมื่อพยายามที่จะทะลวงสู่ขอบเขตโลกแห่งดินแดนหลังจากไปถึงขอบเขตโดเมน
เขาคงทําได้แค่ยิ้มเหมือนคนโง่
ในเวลานั้นเขาคงต้องกลายเป็นศัตรูของเอสเปอร์ทั้งโลกจริงๆ ออกปล้นพลังงานต้นกําเนิดทุกหนแห่ง แม้ว่าเขาจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดในสหพันธ์เพื่อทะลวง มันจะเพียงพอสําหรับเขาหรือไม่
เขาเองไม่แน่ใจ!
“ฉันหวังว่าการ์ดลึกลับจะสามารถสร้างความประหลาดใจบางอย่างได้” ซูฮ่าวเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นผู้อาวุโสใหญ่ก็ติดต่อเขามา ซูฮ่าวอธิบายสถานการณ์ของตระกูลเทียนให้เขาฟังและมอบอํานาจเต็มที่ในการจัดการกับพวกเขา ซูฮ่าวรู้สึกว่าเป็นการดีกว่าที่จะไม่เข้าไปแทรกแซงในเรื่องนี้ ความรู้ของเขาในด้านนี้ใกล้เคียงกับศูนย์ นอกเหนือจากการสร้างความวุ่นวาย เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทํายังไง
ดังนั้นจึงเหมาะสมกว่าที่จะมอบสิ่งนี้ให้กับผู้อาวุโสใหญ่
แน่นอนรายละเอียดที่ซูฮ่าวส่งให้ผู้อาวุโสใหญ่เกี่ยวกับตระกูลเทียนทําให้ผู้ผู้อาวุโสใหญ่ตกใจเป็นเวลานาน แน่นอนซูฮ่าวไม่กล้าบอกเขาว่าตอนนี้เขาอยู่กับตระกูลเทียน ไม่เช่นนั้นผู้อาวุโสใหญ่คงจะเดือดดาลน่าดู หลังจากกล่าวอย่างลึกลับไม่กี่ประโยคว่าเขามีแผน ซูฮ่าวก็ตัดการสื่อสารทิ้งไป
เรื่องราวของตระกูลซูเป็นเพียงบทตอนเล็กๆ
ซูฮ่าวไม่คิดว่าเขาจะทําได้ดีไปกว่าชายชราเหล่านั้น การโจมตีของเทียนและตระกูลจางดูเหมือนจะดุร้าย แต่ส่วนใหญ่เป็นการโจมตีอย่างรวดเร็วโดยใช้หลักจิตวิทยา ท้ายที่สุดใครจะไปนึกว่าตระกูลเทียนที่เหมือนอ่ออนกําลังลง จะพลิกกระดานช่วงข้ามคืน? และมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวเช่นนี้
ในชั่วข้ามคืน
โดยไม่มีความระมัดระวังใดๆ ทั้งสองตระกูลจึงถูกทําลายลง
อย่างไรก็ตามหลังข่าวนี้แพร่กระจายออกไปก็ทําให้ตระกูลอื่นๆ ตื่นตัวและไม่ง่ายที่ตระกูลตระกูลจะโจมตีแบบเดิมได้อีกต่อไปซึ่งเป็นสาเหตุที่เทียนกังกําหนดเวลาสามเดือน มิฉะนั้นตระกูลเทียนตงสิ้นสุดสงครามนี้ในสามวัน และรวมทั้งสหพันธ์เป็นหนึ่งเดียวแล้ว
ซูฮ่าวเชื่อว่าหลังจากเตรียมการอย่างเพรียบพร้อม ไพ่ตามของทุกตระกูลจะค่อยๆ ปรากฏออกมาทีละใบ สงครามครั้งนี้น่าจะยาวนานกว่าที่คิด
สําหรับเรื่องของตระกูลซูนั้นซูฮ่าวไม่ได้พิจารณานานนัก
หลังจากพิจารณาอย่างชัดเจนแล้วว่าตระกูลซูจะไม่ได้เผชิญกับปัญหาใหญ่ใดๆ ซูฮ่าวก็หันความสนใจกลับมาที่พลังงานต้นกําเนิดสิ่งที่เขากังวลมากที่สุด!
อีก 38% !
มันเป็นพลังงานมากแค่ไหน?
ซูฮ่าวประมาณมันควรจะเป็นพลังงานปริมาณเดียวกับที่เขาดูดซับที่ตระกูลซู เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสิ่งที่สิบตระกูลใหญ่มี นั่นหมายความว่าถ้าซูฮ่าวต้องการทะลวงเขาจะต้องดูดซับพลังงานต้นกําเนิด 50% จากตระกูลที่พ่ายแพ้เมื่อวานนี้
ตระกูลเทียนจะยอมหรือไม่
แน่นอนว่าไม่
ซูฮ่าวเดาว่าถ้าเขาเอ่ยขอสิ่งนี้ เขาอาจถูกกระทืบจนตายหรือถูกสังหารทันทีโดยถือว่าเป็นสายลับ
“ฉันควรทําอย่างไร”
ซูฮ่าวคิดอย่างหนัก วิธีเดียวที่เขามีตอนนี้คือการตกปลาในบ่มโคลน เมื่อน้ำกลายเป็นบ่อโคลนมากขึ้นเขาก็สามารถตกปลาได้อย่างมีความสุขขึ้น
ขณะที่เขากําลังคิดมีชายคนหนึ่งเดินมาที่ค่ายทําให้เกิดความปั่นป่วน
“ใคร?”
“ผู้นําตระกูลกําลังมาที่นี่”
“ผู้นําตระกูล? ใครกัน?”
ซูฮ่าวมองออกไปด้วยความประหลาดใจ อย่างรวดเร็วเมื่อเขาเห็นเขาลอบยิ้ม ผู้นําตระกูลของตระกูลเทียนคนใหม่ เขาเป็นคนที่ซูฮ่าวรู้จักดี ใครคือคนรู้จักที่เขาสามารถพบได้ในตระกูลเทียน
ย่อมแน่นอนว่าคือ เทียนซี!
ซูฮ่าวไม่คาดคิดว่าหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงไปหลายครั้งเทียนซีจะกลายเป็นผู้นําตระกูลเช่นนี้
เมื่อมองถึงความแข็งแกร่งของเขา ซูฮ่าวก็รู้สึกเสียดาย ขอบเขตโดเมนระดับห้าแม้ว่าจะถือว่าค่อนข้างทรงพลังสําหรับคนทั่วไป แต่ก็ไม่สมกับคนอย่างเทียนซีที่ได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ซูฮ่าวเข้าใจแล้วว่าทําไมเขาถึงได้รับตําแหน่งผู้นําตระกูล
หากต้องการพูดง่ายๆ เลยก็คือ เขาเป็นหุ่นเชิด
“ช่างเป็นคนที่น่าสงสาร” ซูฮ่าวถอนหายใจ
เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่พ่ายแพ้ต่อซูฮ่าวมาหลายครั้งและเหตุการณ์เกี่ยวกับเสี่ยวเดีย อดีตเทียนซีผู้ซึ่งหยิ่งผยองก็สูญเสียความกล้าทั้งหมด
แม้แต่
สภาวะอารมณ์ก็เปลี่ยนไป
“หืม?”
ราวกับว่าเขาสังเกตเห็นการจ้องมองของซูฮ่าว เทียนซึมองกลับไป ซูฮ่าวพยักหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้ม เทียนชีหันศีรษะกลับมาอย่างไม่สบายใจ
“นั่นใคร?” เทียนชีขมวดคิ้วและถามคนข้างเขา
โดยไม่ทราบว่าทําไมเมื่อเขาเห็นชายร่างใหญ่คนนั้นเป็นครั้งแรกเขารู้สึกไม่สบายใจและมีความเกียจชังฝังลึกจนถึงกระดูก การจ้องมองของชายร่างใหญ่คนนั้นทําให้เขาอารมณ์เสียมากกว่าเดิม เขาเป็นใคร ผู้นําตระกูลเทียน! แม้ว่าเขาจะรู้ว่าตําแหน่งของเขาไม่มีค่าแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เอสเปอร์โดเมนสามารถดูแคลดได้! ความเห็นอกเห็นใจในสายตาที่จ้องมานั้นส่งผลกระทบต่อความภาคภูมิใจในตนเองของเขา
ถ้าซูฮ่าวได้ยินนี้เขาคงยิ้มอย่างขมขื่น
เขาแค่มองอย่างปกตินั่นก็ทําร้ายจิตใจของเทียนชีแล้ว? นี่หรออัจฉริยะที่น่าภาคภูมิใจ ที่ทุกคนต่างทําได้แค่แหงนมองในอดีต ความภาคภูมิใจในตนเองของเขาในปัจจุบันช่างเปราะบางเสียจริงๆ
“ ชื่อของเขาคือหลินฮู” ด้วยการแนะนําสั้นๆ จากลูกน้องเทียนซีจึงเข้าใจ
เนื่องจากการกระทําของหลินฮูในเทียนเคิง และด้วยความสามารถพิเศษที่หาได้ยากและโดดเด่นของเขา จึงทําให้เขาอยู่ในรายชื่อแรกๆ ของภารกิจพิเศษมากมาย นอกจากนี้เทียนกังยังให้ความสําคัญกับผู้ชายที่ชื่อหลินฮูคนนี้อย่างมาก
“ไม่แปลกที่เขาจะหยิ่งยโส” เทียนซียิ้ “ฉันจําได้ว่ามีภารกิจการเตรียมรบนิ? มอบมันให้เขา”
“นี้” ลูกน้องลังเลเล้กน้อย “ท่านผู้นํานั่นไม่ดีแน่ เขาอยู่ภายใต้การดูแลของอาวุโสเทียนกัง”
“ ใครคือผู้นําตระกูลที่นี่? เจ้าหรือข้า?” เทียนซีพูดด้วยความโกรธ
“ผมจะจัดการเรื่องนี้ทันที” ลูกน้องรีบพูด จากนั้นเทียนซีก็แสดงสีหน้าเย้ยหยัน แต่เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าชายผู้เป็นลูกน้องของเขากําลังส่ายศีรษะขณะมองเขา เจ้าที่เป็นเพียงหุ่นเชิดยังกล้าสั่งข้า