ตอนที่ 812 ภารกิจเชิงกลยุทธ์

Godly Model Creator

ตอนที่ 812 ภารกิจเชิงกลยุทธ์

 

“ความวุ่นวายนี่มันอะไรกัน” ซูฮ่าวมองสถานการณ์ในปัจจุบันของโลกและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ปนเป

 

ตระกูลเทียนและจาง อาศัยความแข็งแกร่งของพวกเขาเข้าปะทะกับตระกูลอื่นๆ ในชั่วข้ามคืนทั้งคู่ต่างทําลายตระกูลใหญ่คนละตระกูลด้วยการจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วก็เจอทางตันกับอีก 6 ตระกูล กองกําลังของตระกูลเล็กๆ ถูกบังคับให้ต้องเลือกข้างและเข้าร่วมการต่อสู้ ในระหว่างนี้สหพันธ์และกองกําลังอื่นๆ ที่ไม่ใช่กลุ่มตระกูลต่างเลือกที่จะเฝ้าดู ส่วนเหล่าสัตว์ร้ายก็คอยเฝ้าดูอยู่ห่างออกไป เฝ้าคอยการต่อสู้ของมวลมนุษยชาติ

 

ฉากนี้สวยงามมากจนซูฮ่าวไม่กล้าคิด

 

ในทางทฤษฎี ด้วยการดํารงอยู่ของสัตว์ร้าย สิ่งต่างๆ ไม่ควรดําเนินมาถึงขั้นนี้ อย่างน้อยในขณะที่ต้องเผชิญกับการคุกคามของสัตว์ร้ายมนุษยชาติควรร่วมมือกัน

 

อย่างไรก็ตาม …

 

ความเย่อหยิ่งของตระกูลเทียนมีมากเกินไป

 

ตระกูลเทียนพยายามทําตัวให้แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาประกาศศักดิ์ดา อันดับแรกจะเริ่มเคลื่อนไหวเข้าโจมตีกองกําลังอื่นๆ ก่อนที่จะรวบรวมสหพันธ์เข้าด้วยกันเพื่อครองโลกและรวมมนุษยชาติ แล้วต่อไปก็เริ่มโจมตีสัตว์ร้าย แม้ว่าหลายคนจะคิดว่าสงครามครั้งนี้เป็นเรื่องตลก แต่ตระกูลเทียนก็มีความมั่นใจในตนเองและคิดว่าพวกเขาไม่มีใครเทียบ

 

“สมองของพวกเขาคงมีการลัดวงจรจากการบ่มเพาะมากเกินไป” ซูฮ่าวแสดงความคิดเห็นนี้

 

ตระกูลเทียนนั่งอยู่บนจุดสูงสุดมานานเกินไป จนสมองของพวกเขาเริ่มมีปัญหา

 

หากมันง่ายอย่างที่พวกเขาคิดมันคงมีการรวมทั้งโลกเข้าด้วยกันเป็นเวลานานแล้ว ไม่จําเป็นต้องพูดถึงคนอื่น จากที่ซูฮ่าวรู้ สหพันธ์และสมาคมความสามารถต้นกําเนิดก็กําลังวางแผนลับๆ เช่นกัน จู่เสียวโยว่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ใครจะจินตนาการว่าจะมีคนที่แฝงตัวอยู่ในตระกูลมานานกว่าทศวรรษ?

 

จากสิ่งที่เราจะเห็นว่าสหพันธ์นั้นอันตรายแค่ไหน

 

นอกจากนี้ยังมีปัญหาลึกลับมากมายเกี่ยวกับความลึกลับโลกซึ่งดูเหมือนจะถูกลืมหายไปจากประวัติศาสตร์ ในจุดศูนย์กลางของโลกอย่างสหพันธ์ที่ดูเหมือนสงบสุขแต่กลับมีความลึกลับมากมาย ด้วยสิ่งเหล่านี้พวกตระกูลเทียนกลับคิดว่ามันง่ายงั้นเหรอ?

 

นอกเหนือจากการบ่มเพาะแล้วซูฮ่าวก็จะนึกถึงเรื่องนี้เป็นบางคราว จากนั้นก็พิจารณาถึงวิธีการเก็บเกี่ยวรางวัลสําหรับตนเองในความสับสนวุ่นวายนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือก่อนที่เขาจะนึกถึงวิธีเก็บเกี่ยว รางวัลก็ถูกส่งมาหาเขาทันที

 

“หลินฮู”

 

“…!”

 

“เข้าร่วมทีม F เพื่อทําภารกิจเชิงกลยุทธ์

 

“ตกลง!”

 

ซูฮ่าวถูกมอบหมายให้เข้าร่างกับทีม F

 

ทีมเล็กๆ ขนาดสิบคนนอกเหนือจากซูฮ่าว มีสมาชิกที่เป็นเอสเปอร์โดเมนสมบูรณ์ทั้งหมดแปดคน และมีผู้นําในฐานะกัปตันอีกหนึ่งคน หากทีมดังกล่าวปรากฏตัวอยู่ในสหพันธ์มันเพียงพอที่จะทําลายตระกูลเล็กๆ ที่ไม่มีเอสเปอร์โลกได้เลย อย่างไรก็ตามในตระกูลเทียนด้วยความแข็งแกร่งดังกล่าวเป็นเพียงทีมเล็กๆ

 

ซูฮ่าวดูอย่างรวดเร็ว

 

ผู้ที่เพิ่งเข้าร่วมตระกูลเทียนต่างถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจ พวกเขาไม่กลัวคนเหล่านี้จะทรยศเนื่องจากตราเครื่องหมาย ยิ่งกว่านั้นทีมสิบคนทุกทีมจะมีคนที่เป็นศิษย์หลักของตระกูลเทียนมานําทีมในการปฏิบัติภารกิจ

 

“ครบ!”

 

เอสเปอร์ทั้งสิบของทีม F มาถึงแล้ว

 

กัปตันเป็นเอสเปอร์โดเมนสูงสุดเพียงคนเดียวและเป็นศิษย์หลักเดิมของตระกูลเทียนสําหรับสมาชิกอีกเก้าคนพวกเขาทุกคนต่างก็เหมือนซูฮ่าว ที่เข้าร่วมผ่านการประเมิณเทียนเคิงแต่ซูฮ่าวไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อน

 

ย่อมแน่นอนอยู่แล้วที่เขาไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อน เพราะคนที่เขาพบเห็นถูกฆ่าตายทั้งหมดภายใต้น้ำมือของเขา

 

“ฉันชื่อ เซี่ยเคอ เป็นกัปตันทีม F” เชี่ยเคอกล่าวอย่างเฉยเมย เมื่อมองไปที่ทีม อย่างรวดเร็วดวงตาของเขาก็หยุดที่ซูฮ่าว “เจ้าคือหลินฮู”

 

“เจ้ารู้จักข้า?” ซูฮ่าวประหลาดใจ

 

“แน่นอน” เชี่ยเคอตอบด้วยรอบยิ้มแต่มีความกลัวปรากฏในสายตาของเขา “การแสดงของเจ้าใน เทียนเคิงได้ฝังรากลึกในใจของผู้คน ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถแสดงบทบาทในภารกิจนี้ได้”

 

“แน่นอน!” ซูฮ่าวตอบเสียงดัง

 

สําหรับสมาชิกคนอื่นๆ พวกเขามองกันและกันก่อนหันมองซูฮ่าวด้วยสีหน้าความไม่พอใจ ทุกคนเพิ่งเข้าร่วมตระกูลเทียนและกระตือรือร้นที่จะทําแต้ม แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต้น ชายที่ชื่อหลินฮูคนนี้ก็ได้รับความโปรดปรานไปก่อนแล้ว ทุกคนเป็นถึงเอสเปอร์โดเมนสมบูรณ์ เขามีพื้นฐานใดดีกว่าคนอื่นๆ ?

 

“ฮ่าๆ ” เชี่ยเคอไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม “ในเมื่อทุกคนพร้อมแล้ว งั้นเราก็เริ่มเคลื่อนไหวกันเลย”

 

”เยสเชอร์!”

 

ทุกคนตะโกนอย่างพร้อมเพรียง

 

เครื่องบินลอยขึ้นพาทุกคน ก่อนที่จะลอยออกไป ซูฮ่าวดูเหมือนจะสังเกตเห็นท่าทีของเอสเปอร์โดเมนสมบูรณ์ที่แสดงออกมาอย่างลับๆ กับพนักงานที่อยู่ด้านนอก เขานึกย้อนไปถึงสัญญาณของการแสดงท่าทางนั้นอย่างระมัดระวัง สีหน้าของซูฮ่าวก็กลายเป็นซีด

 

สัญญาณนั่น

 

เขาเคยเห็นมันในตําราเรียนมาก่อน ฆ่า!

 

เขาต้องการฆ่าใคร

 

มันเป็นภารกิจอีกอย่างหรือไม่? แม้ว่าจะมีเงื่อนงําไม่มากนัก แต่ซูฮ่าวก็ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่นในหมู่เพื่อน ตอนนี้เขาจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับชายคนนี้

 

เมื่ออยู่คนเดียวข้างนอก เขาจะต้องระมัดระวังในแต่ละย่างก้าว

 

“เจ้าคิดอะไรอยู่?” เซี่ยเคออดไม่ได้ที่จะถามหลังจากสังเกตเห็นว่าซูฮ่าวเหม่อลอย

 

“ไม่มีอะไร” ซูฮ่าวเกาหัวและพูดต่อไปอย่างตรงไปตรงมา “ข้าแค่กําลังเกี่ยวกับภารกิจที่เราจะทําในครั้งนี้”

 

ทุกคนหันมาฟังเขาอย่างจริงจัง

 

เพื่อป้องกันมิให้ภารกิจรั่วไหลพวกเขาจึงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับภารกิจก่อนออกเดินทาง แม้แต่เซี่ยเคอในฐานะกัปตันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

 

“เราจะทราบในเร็วๆ นี้” เซี่ยเคอดูเวลา หากไม่มีอะไรผิดพลาดมันควรจะถึงเวลาเปิดเผยแล้ว

 

ติ้ง~

 

อุปกรณ์สื่อสารของพวกเขาดังขึ้น ทุกคนเบิดมันอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาเห็นมัน พวกเขาก็เผยท่าทีแปลกๆ แม้แต่ซูฮ่าวก็ไม่มีข้อยกเว้น

 

__________________

 

ชื่อภารกิจ: การรวบรวมวัสดุเชิงกลยุทธ์

 

เนื้อหา: ไปที่เมืองเมิ่ง(ความฝัน) และรวบรวมวัสดุ, อาร์ติเฟค, อุปกรณ์ทั้งหมด 386 ชิ้น หลังจากทําภารกิจสําเร็จแล้วให้กลับมาที่เมืองเทียนอย่างลับๆ อาร์ติเฟคเมื่ออยู่รวมกันจะทําให้เกิดความผันผวนของพลังงานมหาศาลแต่หลังจากผู้นําตระกูลใช้เทคนิคพิเศษเพื่อปกปิดความผันผวนเนื่องจากเป้าหมาย ทําให้ไม่สามารถใช้การขนส่งทางอากาศได้ให้ใช้เพียงการขนส่งทางบกเท่านั้น และต้องใส่ใจกับปัญหาความปลอดภัยเสมอ

 

รับภารกิจ: ทีม F

 

ความคืบหน้า: 0%

 

__________________

 

“อาร์ติเฟค?”

 

“อุปกรณ์ 386 ชิ้น?”

 

ทุกคนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

 

แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมความพร้อมสําหรับภารกิจประเภทสงครามมาบ้างแล้ว แต่ภารกิจแรกก็ทําให้พวกเขากลัวจนเหยี่ยวเล็ดแล้ว อาร์ติเฟคไม่เท่าไรแต่มันมีถึง 386 ชิ้นนั่นไม่น่ากลัวมากเกินไปงั้นเหรอ ผู้ที่ไม่เคยเห็นอาร์ติเฟคมาก่อนจะยิ่งตกตะลึงมากยิ่งกว่าจํานวนดังกล่าว

 

“ภารกิจเช่นนี้เอง” ทันใดนั้นเชี่ยเออก็เข้าใจและหัวเราะต่อปฏิกิริยาของทุกคน “พวกเจ้าประหลาดใจ?”

 

“แน่นอนมันมีมากถึงเพียงนั้นได้อย่างไร!”

 

ทุกคนพูดไม่ออก

 

ซูฮ่าวตกตะลึงนิดหน่อยเพราะในเวลานี้เขานึกย้อนไปถึงตระกูลจิน ในอดีตตระกูลจินก็รวบรวมอาร์ติเฟคไว้มากเช่นนี้ไม่ใช่หรือยังไง หากตระกูลที่ทํางานตระกูลเทียนยังมีอาร์ติเฟคหลายสิบชิ้นจึงไม่แปลกที่ตระกูลเทียนจะสามารถสะสมไว้จนมีจํานวนดังกล่าวได้

 

อาร์ติเฟคนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แม่นอน หากเอสเปอร์พิเศษใช้งานมันจะมีพลังที่อ่อนแอและเอสเปอร์โดเมนใช้งานมันจะสามารถดึงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่ อาร์ติเฟคแต่ละชิ้นมีความสามารถที่ทรงพลัง ผู้ที่อ่อนแอสามารถเพิ่มความสามารถโดยรวมได้ สําหรับผู้ที่แข็งแกร่งพวกเขาสามารถใช้ทักษะต้นกําเนิดที่เป็นเอกลักษณ์ได้ อย่างเช่น…

 

ดาบแห่งแสงของตระกูลเฉิน!

 

แม้ว่าจะใช้เวลานานในการฟื้นฟูหลังจากใช้เพียงหนึ่งครั้งเดียว แต่เมื่ออยู่ในเอสเปอร์พิเศษคุณสามารถสร้างช่องว่างได้อย่างมาก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าอาร์ติเฟคเป็นสิ่งที่ท้าทายสวรรค์

 

เพียงแค่อาร์ติเฟคประเภทดังกล่าวหายากมาก

 

อาร์ติเฟคส่วนใหญ่เป็นประเภทสนับสนุนแม้ว่าจะช่วยเพิ่มพลังแต่ก็มีผลที่อ่อนแอ มีพลังงานต้นกําเนิดที่น้อยกว่า และมีความสามารถน้อยลง

 

อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของอาร์ติเฟคก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้

 

ตั้งแต่ขอบเขตพิเศษจนถึงขอบเขตโดเมนอาร์ติเฟคจะเป็นสิ่งที่มีบทบาทสําคัญในการต่อสู้สําหรับซูฮ่าวเอง เขาไม่เคยลองใช้สิ่งนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพราะไม่มีโอกาส แต่เขาไม่มีเวลา และหากเขาจะมันเขาต้องเสียพลังงานมากขึ้น

 

หลังจากที่ได้รับอาร์ติเฟค มันต้องใช้เวลาและพลังงานเป็นจํานวนมากในการฝึกฝน เพื่อที่จะสามารถดึงพลังของมันออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ สําหรับซูฮ่าวเวลาและพลังงานเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด!

 

การจะให้เสียเวลากับวัตถุปลอมๆ เหล่านี้งั้นเหรอ?

 

ไม่มีทางอย่างแน่นอน!

 

การมีอยู่ของการวิเคราะห์โมเดลทําให้เขามีความแข็งแกร่งที่ดี เอาชนะคนที่ระดับสูงกว่าจนเป็นเรื่องปกติ อาร์ติเฟคเป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งสําหรับเขา หลังจากมีความสามารถประเภทกายภาพ อาร์ติเฟคนั้นมีประโยชน์สําหรับเขามากจริงๆ แต่ …

 

เขาจะหาพลังงานจากที่ไหนเพื่อมาฝึกฝน?

 

ดังนั้นในระยะสั้นๆ นี้อาร์ติเฟคจึงถือว่าไร้ประโยชน์สําหรับซูฮ่าว

 

แน่นอนเขารู้สึกว่าเขาไม่ต้องเสียเวลากับมัน ไม่ว่าอาร์ติเฟคจะมีประสิทธิภาพเพียงใดเมื่อมาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตโดเมน มันก็ไม่มีประโยชน์เพราะมันไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อเอสเปอร์โลกในขอบเขตโลกพวกเขาจะมีสิ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งอย่าง เขตแดนวิญญาณ

 

ในแง่หนึ่ง เขตแดนวิญญาณเป็นเหมือนอาร์ติเฟครุ่นอัพเกรด

 

อย่างไรก็ตามเราจําเป็นต้องรวมเขตแดนวิญญาณด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้เขตแดนวิญญาณจึงเหมือนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคนๆ นั้นโดยเฉพาะและทรงพลังยิ่งกว่า

 

เขามีเขตแดนวิญญาณอยู่แล้ว เขาจําเป็นต้องใช้อาร์ติเฟคงั้นเหรอ

 

ซูฮ่าวปลอบโยนตัวเอง

 

“สิ่งเหล่านี้เป็นอาร์ติเฟคทั้งหมดที่รวบรวมโดยตระกูลเทียนในปีที่ผ่านมา การรวบรวมสิ่งเหล่านี้โดยไม่ให้ถูกตรวจพบโดยสมาคมความสามารถต้นกําเนิดไม่ใช่เรื่องง่าย” เซี่ยเคอยิ้ม “ในเมื่อสงครามได้เริ่มต้นขึ้น มันจําเป็นต้องอาศัยความแข็งแกร่ง ดังนั้นผู้นําตระกูลของเราจึงหวังว่าเอสเปอร์โดเมนแต่ละคนจะมีไว้คนละชิ้นเพื่อดูแลตนเอง”

 

“อะไร?!”

 

“พูดจริงงั้นเหรอ?”

 

ดวงตาของทุกคนสว่างขึ้น

 

“แน่นอน” เซี่ยเคอยิ้ม “ข้าลืมบอกพวกเจ้าไป รางวัลสําหรับภารกิจนี้คือสิทธิ์ในการเลือกอาร์ติเฟคของตนเอง ก่อนคนอื่นๆ”

 

ทุกคนรู้สึกมีความสุข

 

ด้วยอาร์ติเฟคมากมายตราบเท่าที่พวกเขาเลือกชิ้นที่เหมาะสมความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน!

 

ยิ่งพวกเขาสามารถเลือกได้ก่อนคนอื่นๆ รางวัลของภารกิจนี้ช่างยอดเยี่ยมมาก

 

“ดี” เชี่ยเคอกลับมามีสีหน้าจริงจัง “รางวัลภารกิจยอดเยี่ยมก็จริง แต่เราต้องทําให้สําเร็จก่อน เนื่องจากคนระดับสูงจัดการทุกอย่างให้เราแล้ว ดังนั้นเราน่าจะไม่เจอปัญหาใดๆ ในระหว่างการรวบรวมพวกมัน แต่ปัญหาจะเริ่มต้นเมื่อเราเดินทางกลับ! ทุกคนคงเห็นรายละเอียดของภารกิจแล้ว เราต้องเดินทางกลับด้วยการเดินเท้าเท่านั้น!”

 

“มันหมายถึงอันตรายที่ไม่อาจคาดคิด!”

 

ทุกคนกลายเป็นจริงจัง

 

“ในพื้นที่สหพันธ์ การคุกคามของสัตว์ร้ายสําหรับเรานั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าตระกูลอื่นสังเกตเห็นเราจะเดือดร้อน ในทางทฤษฎีภารกิจของเราควรเป็นความลับ แต่การเก็บความลับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายในยุคนี้ ดังนั้นเมื่อจําเป็น เราก็ทําได้เพียงต้องต่อสู้!”

 

“ ไม่ต้องกังวลมากนัก หากเอสเปอร์โลกไม่ได้ลงมือด้วยตนเอง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ทีมเล็กๆ ของเราต้องกลัว” เซี่ยเคอกล่าวให้บรรยากาศที่ตึงเครียดผ่อนคลาย

 

หลังจากดูคนในสงบลง เขาก็ถามคําถามแปลก ๆ “มีใครที่เชี่ยวชาญกพลังงานไหม?”