ตอนที่ 813 การโจมตีของศัตรู
ปีกพลังงาน
นี่เป็นทักษะต้นกําเนิดที่ไม่เหมือนใคร
เปลี่ยนพลังงานให้เป็นปีกหนึ่งคู่ทําให้สามารถบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ในทางทฤษฎีเอสเปอร์จะสามารถควบคุมมันได้หลังจากถึงขอบเขตมืออาชีพสูงสุดโดยมีความเข้าใจในความสามารถพิเศษจนถึงขีดสูงสุดในขอบเขตมืออาชีพเป็นมาตรฐานในการแยกความแตกต่างระหว่างความสามารถพิเศษของเอสเปอร์แต่ละคน
ปีกพลังงานเป็นทักษะต้นกําเนิด เพราะในทางทฤษฎีแล้วทุกคนสามารถเรียนรู้ได้
บางคนถึงกับคิดว่ามันเป็นทักษะต้นกําเนิดสากลแต่สิ่งที่แปลกก็คือวิธีการฝึกฝนปีกพลังงานสําหรับความสามารถพิเศษแต่ละอย่างนั้นแตกต่างกันเพราะปีกพลังงานสร้างจากความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันดังนั้นมันจึงยากกว่าการสร้างอาวุธพลังงานจากความสามารถพิเศษ
การดํารงอยู่ของปีกพลังงานมีอัตราความสําเร็จสูงสุดในความสามารถพิเศษประเภทธาตุเช่นสายฟ้า ไฟ น้ํา หรือแม้กระทั่งองค์ประกอบของโลหะอย่างเช่น เหล็ก! อย่างไรก็ตามสําหรับความสามารถประเภททางกายภาพของซูฮ่าวหรือแม้กระทั่งความสามารประเภทการวิเคราะห์ก่อนหน้าของเขาก็ไม่สามารถทําได้
ดังนั้นไม่ว่าจะมีกี่คนที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตโดเมน มันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะควบคุมปีกพลังงาน
“ข้าไม่” ซูฮ่าวตอบโดยไม่ลังเล
ถ้าเป็นโจวหวังก็คงไม่มีปัญหาอะไร สําหรับเฉินอี้หรานเธอสามารถสร้างนกน้ําแข็งแบกทุกคนได้ก่อนหน้านี้ซูฮ่าวจะอายที่จะบอกว่าเขาไม่สามารถควบคุมปีกพลังงานได้แต่ด้วยความสามารถประเภทกายภาพใของเขานปัจจุบันเขาสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่าเขาไม่ได้เรียนรู้
เซี่ยเคอพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจความสามารถพิเศษของซูฮ่าว
คนที่เหลือก็กล่าวตามมา ซึ่งทําให้ซูฮ่าวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพบว่ามีสองในสิบคนที่เชี่ยวชาญปีกแห่งพลังงาน! แม้ว่าจํานวนเอสเปอร์ที่เชี่ยวชาญปีกแห่งพลังงานจะต่ําแต่เขาก็ต้องยอมรับว่าเขานับถือความสามารประเภทธาตุเนื่องจากพวกเขามีมากกว่า 90% ของความสามารถพิเศษทั้งหมด
ภายใต้จํานวนที่สูงแม้มีโอกาสต่ําก็ไม่เป็นปัญหา
“ดีมาก” เซี่ยเคอกล่าวอย่างพอใจ “ด้วยปีกพลังงานเราสามารถลดความตึงเครียดได้”
“หืม?”
คนอื่นต่างไม่เข้าใจ
“ในไม่ช้าทุกคนจะได้รู้” เซี่ยเคอยิ้ม
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเครื่องบินก็ลงจอดในที่สุดเมื่อเซี่ยเคอปลดล็อคทุกอย่างและนํา ทุกคนไปที่คลังสินค้าเพื่อรวบรวมในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าทําไมพวกเขาต้องเดินกลับ
ใหญ่!
มันใหญ่มาก!
นี่เป็นความประทับใจแรกที่ทุกคนแสดงออกมา
สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขาคือโกดังที่มีเพดานสูงเท่าบ้านมากกว่าเครื่องบินพลังงานต้นกําเนิดรอบๆคลังสินค้าเต็มไปด้วยอักษรรูนและผนึก หากไม่ใช่เพราะมีแสงในปัจจุบันลวดลายแปลกๆรอบตัวพวกเขาจะทําให้ดูน่ากลัวอย่างมาก
“นี่คือเป้าหมายของเรา”
“เอ่อ..!”
ทุกคนงงงวย “นี่คืออาร์ติเฟคใช่ไหม!”
“แน่นอน” เซี่ยเคอโบกมือของเขา “อาร์ติเฟคทุกคนต่างรู้ว่ามันมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่และการที่มีมากกว่าสามร้อยชิ้นการที่จะจัดเก็บไว้ด้วยกันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วยิ่งเพื่อป้องกันความผันผวนของพลังงานจึงต้องอาศัยโล่พลังงานอย่างน้อยสิบชั้นเพื่อการป้องกันการรั่วไหล
ซูฮ่าวพยักหน้าเข้าใจอย่างเงียบๆ
ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นมันครั้งหนึ่งในซากปรักหักพัง อาร์ติเฟคประเภทเสื้อคลุมนั้นถือว่าค่อนข้างดีเมื่อเปรียบเทียบกับค้อนยาวสองเมตรหรือพระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตรย(Maitreya)สูงห้าเมตรอาร์ติเฟคกว่า 300 ชิ้นที่มีความสูงเท่าบ้านนี้ค่อนข้างปกติแล้วในความคิดของเขา
ทุกคนมีใบหน้าที่ขมขื่น
ก่อนหน้านี้พวกเขารู้สึกว่าคําเตือนจากกัปตันของพวกเขา คือการเดินทางกลับอาจพบกับอันตรายแต่ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาหากพวกเขาต้องการที่จะจากไปอย่างเงียบๆ ใครจะสังเกตเห็น? อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นขนาดของอาร์ติเฟคซึ่งสูงพอๆ กับคลังสินค้าได้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจ
อุปกรณ์ขนาดใหญ่เช่นนี้ มันไม่ยากเลยที่จะตรวจพบ!
พวกเขาต้องขนกลับคนละกี่ชิ้น?
การเดินทางของพวกเขาต้องใช้เวลากี่วัน?
ในการขนอุปกรณ์เหล่านี้กลับมันไม่ต่างจากการที่ฉายไฟใส่ตนเองในที่มืดๆ คนธรรมดาที่ไหน เขาทํากันแบบนี้
นอกจากนี้ ในช่วงเวลานี้กําลังมีอะไร
สงคราม!
เป็นช่วงเวลาที่มีกองกําลังคอยตรวจสอบอยู่ทุกพื้นที่!
พวกเขาสามารถกลับไปอย่างเงียบๆได้อีกงั้นเหรอ?
“ดังนั้นเราจึงต้องการบุกพลังงาน”เซี่ยเคอชี้ไปที่เอสเปอร์สองคน “เราถือว่าเป็นเป้าหมายขนาดใหญ่บนพื้นดิน หากเจ้าสองคนบินอยู่บนท้องฟ้าในก้อนเมฆ ความเสี่ยงของเราจะเล็กลง”
ดวงตาของทุกคนส่องสว่างขึ้น
มันเป็นอย่างงี้นี่เอง
“ทําไมเราไม่ขนพวกมันแยกกันล่ะ” ซูฮ่าวเลิกคิ้ว
“แม้ว่าอาร์ติเฟคจะมีจํานวนมากที่นี่ แต่ถ้าเราแต่ละคนขนคนละไม่กี่ชั้นหรือแม้แต่สวมใส่มันจะไม่ง่ายกว่างั้นเหรอ”
เมื่อทุกคนคิดเกี่ยวกับมัน พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ตามทฤษฎีแล้วควรเป็นเช่นนั้น” เซี่ยเคอพยักหน้าแล้วกล่าวต่อ “อย่างไรก็ตามอาร์ติเฟคจะไม่มีพลังใดๆ หากไม่มีการบ่มเพาะ หากเจ้านํามันมาใช้โดยตรงเจ้าจะไม่สามารถใช้ความสามารถของมันได้มากนัก นอกจากนี้ยังยุ่งยากกว่าเดิม เจ้านึกภาพผู้คนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเห็นร่างกายของเจ้าเต็มไปด้วยอาร์ติเฟคที่ไม่มีเจ้าของ”
พวกเขาลองจินตนาการตาม
ถ้าหากเป็นพวกเขา ถ้าพวกเขาอยู่ข้างนอกแล้วเห็นใครบางคนที่กล้าพกอาร์ติเฟคที่ไม่ได้รับการบ่มเพาะมาด้วย ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือการตามไป! ปฏิกิริยาที่สองของพวกเขาคือการประเมินความแข็งแกร่งของศัตรู หากศัตรูมีอาร์ติเฟคจํานวนมาก
ไร้ความลังเล พุ่งเข้าไปโจมตีอย่างรวดเร็ว
หากไม่สามารถเอาชนะได้ ก็แค่เรียกหากําลังเสริม!
“ถ้าอย่างนั้น การกลับด้วยเครื่องบินล่ะ?” มีคนยกมือขึ้นถามอย่างไม่มั่นใจ
“ค็อก ค่อก” เซี่ยเคอไอสองครั้งที่ “เมื่อเครื่องบินพลังงานต้นกําเนิดบินผ่านจุดมันจะถูกรวจจับโดยเรดาร์ของสมาคมความสามารถต้นกําเนิด เมื่ออาร์ติเฟคจํานวนมากถูกค้นพบเราก็ต้องลงทะเบียน แน่นอนว่าตระกูลเทียนของเราย่อมมีสิทธิพิเศษบางอย่าง อย่างไรก็ตามด้วยจํานวนอาร์ติเฟคดังกล่าว…”
เซี่ยเคอชี้กองอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า
มีอาร์ติเฟคทั้งหมด 386 ชิ้นหากสมาคมความสามารถต้นกําเนิดค้นพบสิ่งนี้พวกเขาจะอธิบายว่าอย่างไร เพื่อการต่อสู้ในสงครามครั้งนี้งั้นเหรอ!
หลังจากอธิบายภารกิจอย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนก็ออกจากเมืองเมิ่ง
รูป!
ผ้าขนาดยักษ์ปกคลุมอาร์ติเฟค
ด้านล่างเป็นชั้นวางที่มีหูให้ถือ หนึ่งด้านหน้าและอีกหนึ่งด้านหลังซึ่งเป็นพื้นที่เอสเปอร์โดเมนสมบูรณ์จะอาศัยปีกพลังงานของเขาเพื่อช่วยขน ทันใดนั้นทุกคนก็พร้อมเดินทาง
รูป
ทุกคนหายไป
หากไม่ได้สงเกตอย่างรอบคอบจะไม่มีทางเห็นว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
“เห็นยัง” เซี่ยเคอกล่าวอย่างใจเย็น “ภารกิจของเรายังคงราบรื่น”
“อือ”
ทุกคนยืนอยู่ด้านบนสุดขออาร์ติเฟคดูสองเอสเปอร์ที่กําลังทําหน้าที่ราวกับเป็นทาส หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ถือได้ว่าค่อนข้างราบรื่น
“เมื่อพวกเขามีพลังงานไม่เพียงพอนั่นก็คือหน้าที่ของพวกเจ้า” เซี่ยเคอกล่าวต่อ “ ด้วยความเร็วระดับนี้เราสามารถกลับไปได้ใน 1 วันหากไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางของเรา”
“ใช่”
ทุกคนตอบ
ถ้ามองมันในมุมมองนี้ ภารกิจนี้ก็ถือว่าง่าย
“ง่ายงั้นเหรอ?”
ซูฮ่าวมองดูที่คนที่เขาเล็งไว้ตั้งแต่เริ่มต้น เขาดูกระตือรือร้นที่จะลงมือ หลังจากที่บุคคลนั้นกดบางบนเครื่องมือสื่อสาร ใบหน้าของเขาก็มีลักษณะแปลกๆ และมองไปที่เซี่ยเคอด้วยความประหลาดใจ “กัปตันฉันไม่สามารถส่งข้อความถึงครอบครัวได้ เป็นไปได้ไหมที่เราถูกศัตรูค้นพบ”
ทุกคนตกใจและมองอุปกรณ์สื่อสารของตนเอง
“ไม่มีทาง” เซี่ยเคอกล่าวอย่างยิ้มๆ “เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนเปิดเผยข้อมูล เมื่อภารกิจเริ่มต้นขึ้นสัญญาณทั้งหมดจะถูกปิดกั้น มีเพียงฉันเท่านั้นที่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้”
“มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก หากไม่ได้สื่อสารกันหนึ่งวัน” เซี่ยเคอชําเลืองมองคนๆนั้นอย่างเย็นชา “ แน่นอนถ้าเจ้ายืนยันจะติดต่อ ฉันสามารถช่วยเจ้าส่งข้อความถึงครอบครัวของเจ้าได้”
“ไม่เป็นไร” ชายคนนั้นยิ้มอย่างเชื่องช้า “ข้าแค่คิดถึงภรรยา”
ทุกคนหัวเราะ
ซูฮ่าวรู้สึกแปลกๆ เนื่องจากสัญญาณจะถูกปิดกั้นในระหว่างการปฏิบัติภารกิจ ดังนั้นศัตรูคงต้องเตรียมการบางอย่างเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้นนั่นหมายความว่าช่วงเวลาที่สัญญาณหายไปนั่นก็แสดงว่าภารกิจได้เริ่มขึ้น หากบุคคลนั้นมีบางอย่าง
ภารกิจเชิงกลยุทธ์นี้จะไม่ง่ายอย่างแน่นอน
ซูฮ่าวยักไหล่ การเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งในด้านหนึ่ง โดยคนจากข้างกายของตนอยู่เบื้องหลังของศัตรู เป็นสิ่งที่เลวร้ายในกรณีที่แย่ที่สุดอาจถึงตาย มันจะเป็นเหมือนโยนหินลงไปในน้ํานิ่ง
อย่างที่คาดไว้ทุกคนต่างพูดคุยและหัวเราะ ภารกิจนี้ดูผ่อนคลายอย่างมาก จนกระทั่งครึ่งวันผ่านไปตกกลางดึก มีแสงส่องระยิบระยับ
บูม!
เหนือทีม F ออร่าสีทองก็ปรากฏขึ้น ความเร็วของพวกเขาช้าลงราวกับว่าพวกมันเคลื่อนที่อยู่ในโคลน ผ่านไปไม่นานก็เหมือนหยุดนิ่งอยู่ในอากาศ
“ศัตรู!” เซี่ยเคอเป็นคนแรกที่ตอบสนองและเปิดใช้งานทักษะการป้องกันของเขา อย่างไรก็ตามมันก็ไร้ประโยชน์ ออร่าสีทองดูเหมือนจะไม่มีข้อจํากัดใดๆ ทักษะการป้องกันใดๆไร้ประโยชน์ต่อมันโดยสิ้นเชิง
คนอื่นๆ ก็ไม่ได้ตอบสนองช้าแต่อย่างใด ทั้งสองคนที่มีปีกพลังงานพยายามเคลื่อน ไหวไปพร้อมกับอาร์ติเฟคแต่ก็เป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์! ภายใต้ออร่าทองไม่ว่าพวกเขาจะพยายามเคลื่อนไหวมากแค่ไหนพวกเขาก็ลอยนิ่งอยู่ในอากาศ ในที่สุดพวกเขาก็ตกลงบนพื้น
อาร์ติเฟคที่ตกลงส่งเสียงดังก้อง
ก่อนที่พวกเขาจะทันได้เห็นศัตรูพวกเขาก็ถูกบังคับให้ลงพื้น!
ในทันที่ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด
“เจ้าทั้งสองรักษามันไว้” เซี่ยเคอสั่งการอย่างใจเย็น “สําหรับคนอื่นๆ เตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้”
ซูฮ่าวและคนอื่นๆ เข้าสู่สถานะต่อสู้อย่างรวดเร็วและเฝ้าดูรอบๆ อย่างระมัดระวัง เหนือพวกเขาออร่าสีทองขนาดใหญ่กําลังส่องแสงระยิบระยับ
“ ไม่ต้องกังวล” เซี่ยเคออธิบาย “ทักษะต้นกําเนิดที่ทรงพลังเช่นนี้ต้องเป็นความสามารถพิเศษบางอย่าง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่ศัตรูจะไม่ได้มีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่ง “
“สมกับเป็นคนของตระกูลเทียน” เสียงเย็นชาลอยออกมาก่อนที่คนกลุ่มหนึ่งจะป รากฏตัวรอบๆทีม F และที่เป็นน่าแปลกใจก็คือผู้นําของฝั่งนั้นเป็นเอสเปอร์โดเมนสูงสุด
“พวกเจ้าเป็นใคร?” เซี่ยเคอถามอย่างใจเย็น
เพียงแต่เขาไม่ได้สังเกตว่าเมื่อซูฮ่าวเห็นคนๆนี้เดินออกมา ซูฮ่าวก็ตกตะลึง เป็นยังไง ได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าชายคนนี้ถูกเขาสังหารไปแล้วงั้นเหรอ