ฉีฉางเซี่ยวคำรามทางจมูก เสียงอันทรงพลังของเขาดังก้องขึ้นไปยังท้องฟ้า และดูราวกับว่ามันจะทำให้หายฝนตกใจ ปรากฏเป็นคลื่นที่มองไม่เห็นกระแทกสายฝนเหล่านั้นให้พุ่งกระจายออกมาจากร่างของเขา และตรงไปยังกลุ่มคนที่เหลือ …
ฉีฉางเซี่ยวโดนไล่ล่าด้วยการโจมตีจากเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และถูกบังคับให้ล่าถอยออกไปไม่ไกลนัก อย่างไรก็ตาม เขากางแขนออกอย่างรวดเร็วและปล่อยการกระบวนท่าที่แปลกประหลาดในทันที !
ทุกคนรู้สึกถึงความแปลกประหลาดในอากาศ และทันใดนั้นพวกเขาก็ถอยหลังไปให้ห่างจากร่างกายของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว !
ในกระบวนท่าอันทรงพลังของฉีฉางเซี่ยวนั้นเขาไม่ต้องการจะทำให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวบาดเจ็บ แต่ต้องการเพียงแค่กันคนอื่นๆออกห่างไปจากเขา และแผนการของเขาก็สำเร็จ เนื่องจากยอดฝีมือคนอื่นๆนั้นหวาดกลัวที่จะอยู่ในขอบเขตกระบวนท่าที่รุนแรงของเขา และถุกบังคับล่าถอยออกไป
มีเงาสองร่างกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ซึ่งห่างออกไปราวสี่สิบหรือห้าสิบฟุตจากศูนย์กลางการต่อสู้ และยืนเงียบๆ อยู่บนจุดสุดของต้นไม้นั้น
เจดีย์หงษ์จวินยังคงหมุนด้วยความเร็วสูงสุด และยังคงปล่อยพลังเข้าสู่ร่างของจวินโม่เซี่ย ในขณะที่เขาพยายามฟื้นฟูตัวเองจากจากการโจมตีของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว จวินโม่เซี่ยเกือบจะกระโดดออกไปในขณะที่เขาเห็นถึงการเคลื่อนไหวนี้ในพื้นที่การต่อสู้
สุดท้ายแล้ว ! แผนการของข้าก็ถือได้ว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่ข้าก็ยังไม่รู้ว่า …
การโจมตีอันทรงพลังและความโกรธของฉีฉางเซี่ยวนั้นได้ผลักทุกคนให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสามแห่งเมืองพายุหิมะขาวผู้ที่เป็นเทพเชวียนก็ตัดสินใจล่าถอยไปในทันที แม้ศิษย์ของลี่วูเบ้ยก็ยังต้องถอยไปอย่างไม่มีทางเลือก แต่ที่พวกเขาล่าถอยไปนั้นเนื่องจากพวกเขารู้ว่าไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งของเทพเชวียนสูงสุดได้ และพวกเขามองหน้ากันและกันด้วยความสิ้นหวัง
เทพเชวียนที่ยังเหลืออยู่ เฟ้ยเมิงเฉินก็ดูไม่ค่อยดีนัก เป้าหมายการโจมตีของเขานั้นคือเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเช่นเดียวกับทุกคน แม้ว่าจะได้รับผลกระทบเพียงน้อยนิดจากการโจมตีที่รุนแรงของฉีฉางเซี่ยว แต่เขาก็ยังล่าถอยไปเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับการบาดเจ็บ แม้ว่าเขาจะหนีออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังสาปแช่งผู้ที่อยู่ใต้อำนาจของเขา
แต่คนที่โชคร้ายที่สุดคือพี่หก หนึ่งในสิบสหายของลี่โย่วหลาน !
เพราะความเร็วของเขานั้นเร็วเกินไป !
เขามุ่งหน้าเข้าไปเช่นเดียวกับทุกคนเพื่อความได้เปรียบในสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ชายผู้นั้นก็ยังเร็วกว่าผู้อาวุโสทั้งสามจากเมืองพายุหิมะขาว และเฟ้ยเมิงเฉิน ชายผู้นี้รวดเร็วกว่าแม้แต่เทพเชวียน ! ลี่วูเบ้ยจะต้องภูมิใจในความเร็วและความคล่องแคล่วของศิษย์ผู้นี้อย่างมาก !
แต่ความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงของเขาคือ … เขานั้นเร็วเกินไป !
เขาเกือบจะอยู่เหนือเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวในตอนที่ฉีฉางเซี่ยวกำลังบ้าคลั่ง บังคับให้ผู้ช่วยที่เขาไม่รู้จักและเทพเชวียนทั้งสี่ห่างออกไปจากเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว !
เพราะว่าเขาเร็วมาก เขาจึงสามารถหลบหลีกการโจมตีของฉีฉางเซี่ยวไปได้ แต่เขานั้นอยู่ข้างในวง มากกว่าข้างนอก !
เพราะว่าเขาเร็วมาก ตอนนี้เขาเลยอยู่ตรงกลาง ระหว่างเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวและฉีฉางเซี่ยว เพียงคนเดียว โดยไร้ความช่วยเหลือใดๆ ! และมันทำให้เรื่องนี้แย่ลง ด้วยความเร็วของเขา เขาจึงต้องการจะไปถึงเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก่อนผู้อื่น และตอนนี้เขาไม่มีที่ให้ไปแล้ว !
ในตอนนี้ แม้ว่าความคิดของเขาจะเริ่มวิตกกับสถานการณ์ที่น่าประหลาดใจนี้ แต่มือของเขาก็ยังคงมุ่งตรงไปยังเป้าหมาย และล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวอย่างว่องไว …
ความพิเศษนั้นอาจจะไม่ใช่ข้อดีเสมอไป … ความคล่องแคล่วของชายผู้นี้คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในความจริงนี้ !
กระบวนท่าของฉีฉางเซี่ยวนั้นทำให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวโมโหมาก เนื่องจากมันบังคับให้ทุกคนละทิ้งแผนการที่จะโจมตีเขา และทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่า มีมือที่กล้าหาญและไร้ความกลัวล้วงเข้ามาในกระเป๋าของเขาเพื่อคว้าเอาแกนเชวียน ! เห็นได้ชัดว่ามันทำให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวโมโหมากขึ้น !
หากมีใครในดินแดนเชวียนเชวียน สามารถล้วงกระเป๋าของหนึ่งในแปดยอดปรมาจารย์ได้สำเร็จ … ข่าวนี้จะทำให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวอับอายมากกว่าการต้องตายเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ที่อ่อนแอกว่า และมันจะทำให้เขากลายเป็นตัวตลก !
หากมันไม่ใช่เพราะการแทรกแซงของฉีฉางเซี่ยว เขาก็จะไม่รู้สึกถึงความรวดเร็วที่แสนพิเศษของชายผู้นี้อย่างแน่นอน ! เขาได้เลือกเวลาที่เหมาะสมในการลักขโมยนี้ เวลาของเขาคือช่วงเวลาอันแสนสั้นของความสมบูรณ์แบบ !
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขาทำสำเร็จ เขาจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างง่ายดายเนื่องจากมีเพียงคนเดียวที่รับรู้ถึงหัวขโมยผู้นี้ได้คือ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ที่กำลังจะต้องรับมือกับยอดฝีมือเทพเชวียนสี่คน ! …. หนึ่งในแปดปรมาจารย์ถูกล้วงกระเป๋าโดยหัวขโมย … ข่าวนี้จะทำให้ทั้งโลกตกตะลึง !
ดังนั้น จะต้องเข้าใจความโกรธของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว …
เห็นได้ชัดว่าพี่หกนั้นรู้ถึงความเร็วอันแสนพิเศษของเขา และรู้ว่าเขานั้นเร็วกว่าเทพเชวียน แต่เขาไม่รู้เลยว่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นก็รวดเร็ว … เช่นเดียวกับเขา ความแตกต่างเดียวนั้นก็คือ … เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นเป็นยอดฝีมือเทพเชวียนสูงสุด !
เขาเห็นเพียงเงารางๆของมือของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวที่ยื่นมาความข้อมือของเขา ซึ่งตามมาด้วยเสียงหักของแขนที่แตกละเอียดของมือของเขา เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวปล่อยข้อมือ และตบไปที่เอวของเขา และจากนั้นเขายกแขนขึ้นไปเพื่อ ตีไปยังหลังหัว ความกระฉับกระเฉงและว่องไวของชายผู้นี้ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ แม้แต่การตั้งรับ เนื่องจากความเร็วและความแข็งแกร่งของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และเขาก็ได้กลายเป็นกระสอบทรายของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวไป
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวไม่สนใจในความเป็นตายของผู้ที่ทำการแทรงแซงเช่นนี้ และโยนร่างอันไร้วิญญาณของเขาให้หมุนดั่งกังหันลมตรงไปยังพี่น้องของเขา
คนทั้งเก้า เอื้อมมือไปคว้าเอาพี่น้องที่ตายไปของเขา แต่ความเร็วการหมุนของร่างนั้นไว้มากเกินกว่าที่พวกเขาจะคว้าไว้ได้ และมีคนจำนวนหนึ่งต้องพุ่งลงไปกระแทกพื้นเนื่องจากแรงเหวี่ยวของร่างไร้วิญญาณนั้น ร่างของพี่หกร่วงลงไปพื้นและกลิ้งไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้น้ำสาดกระจายเป็นสายไปตามทาง ราวกับน้ำพุที่สวยงาม ก่อนที่จะหยุดลงเนื่องจากแรงเสียดทานของพื้นเบื้องล่าง !
พี่น้องของเขารีบไปยังร่างอันไร้วิญญาณนั้น และกรีดร้องออกมาได้ความโกรธเมื่อได้เห็นสภาพศพอันเลวร้ายของพี่น้องของเขา
มันยากที่จะจินตนาการถึงร่างอันไร้วิญญาณที่หมุนไปดั่งกังกันลม แต่มันแย่ลงเมื่อได้เห็นสภาพหลังจากที่ร่างนั้นหยุดนิ่งแล้ว !
มือของเขาหักมากกว่าเจ็ดสิบแปดชิ้นเนื่องจากการจับที่รุนแรงของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ขาของเขาพับไปข้างหลังเนื่องจากโดนตบเข้าที่เอว และทำให้กระดูกสะโพกหัก เช่นเดียวกับจุดดันเถียนของเขา ในขณะที่หัวของเขาหันกลับไปข้างหลัง หากชายผู้นี้ยังคงรอดจากการโจมตีนั้น เขาก็คนจะต้องกลายเป็นอัมพาต !
มันไม่ใช่ปัญหาของความกล้า หรือความหวังที่จะชิงข้อได้เปรียบของสถานการณ์ แต่ชายผู้นี้ผิดพลาดที่เขาหุนหันพลันแล่น เขาไม่เข้าใจเลยว่าเขากำลังต่อสู่กับชายผู้ที่เหนือกว่าเขามาก
ผู้นำกลุ่ม ลี่เจียนฮ้ง คำรามด้วยความโกรธและเสียใจ เขายืนขึ้นและเกรียวกราด
“ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ! เจ้ามันโหดเหี้ยมอำมหิต ! และเมื่อเจ้าสังหารพี่น้องของเรา พวกเราเฝ้ามองความตายของเจ้า ! ”
เห็นได้ชัดว่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีในตอนนี้ และเขาสาปแช่งกลับมา
“ ไปหาแม่เจ้าซะ ! ชายผู้นี้กล้าทำให้ข้าขุ่นเคือง และเขาก็สมควรจะได้รับสิ่งเหล่านั้น ! หากเจ้ากล้าทำให้ข้ารำคาณ วันนี้จะมีศิษย์ของลี่วูเบ้ยต้อสูญเสียมากกว่านี้ ! ”
หัวใจของเก้าคนที่ยังเหลืออยู่นั้นเต็มไปด้วยความโกรธ แต่พวกเขาต้องละทิ้งมันออกไป ตอนนี้ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะทำกับชายผู้นี้ได้ หากพวกเขาผลีผลามโจมตีชายผู้นี้ดั่งเช่นที่พี่ชายพวกเขาทำ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก็ยังมีความสามารถมากพอที่จะสังหารพวกเขาทั้งเก้า ดังนั้นแผนการที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการอดทนต่อการสูญเสีย และ ค่อยๆวางอุบายแก้แค้น
ยิ่งไปกว่านั้น เห็นได้ชัดว่าการทำให้เทพเชวียนสูงสุดขุ่นเคืองนั้นมีราคาที่ต้องจ่าย !
“ นกเหยี่ยว การต่อสู่นี้ช่างน่าเบื่อ มันไม่สนุกพอสำหรับเจ้าและข้า ดังนั้นจะเป็นอย่างไร หากพวกเราจะร่วมมือกันและกำจัดเจ้าพวกนี้ไปก่อน และจากนั้นพวกเราไปหาที่เงียบๆ และเล่นสนุกันสักสามวันสามคืน และเจ้าก็ให้แกนเชวียนแก่ข้า … เจ้าจะว่าอย่างไร ? ”
เพียงแค่ประโยคเดียวของฉีฉางเซียวนั้นทำให้สีหน้าของทุกคนซีดเผือกด้วยความตกใจ !
หากเทพเชวียนสูงสุดทั้งสองนี้ร่วมมือกัน แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสามจากเมืองพายุหิมะขาวก็ยังไม่มีมีโอกาสที่จะรอดพ้นจากความแข็งแกร่งนี้ได้ แม้แต่ เฟ้ยเมิงเฉิน ผู้ที่เป็นยอดฝีมือเทพเชวียนก็ไม่เว้น
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นเพียงคนเดียว ที่ไม่สามารถที่จะรอดพ้นความโกรธของทั้งสองซึ่งทรงพลังกว่าเขาได้
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหัวเราะขณะที่เขาเริ่มหันไปอย่างช้าๆ จ้องมองไปยังชายทุกคน ผู้ที่เริ่มจะถอยหลังไปด้วยความกลัว ขณะที่พวกเขาได้สบตาและเห็นแววตาที่กระหายเลือดของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว บางคนถึงขนาดที่เตรียมจะวางอาวุธแล้วหันหลังและวิ่งหน้าตั้งไปสุดพลัง
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเริ่มหัวเราะดังขึ้น
“ ฉีฉางเซี่ยวเจ้าเชื่อจริงๆหรือว่าข้าจะโง่พอที่จะช่วยเจ้าและคนของเจ้าสังหารทุกคนในที่นี่แล้วเจ้าและคนของเจ้าก็จะชิงเอาแกนเชวียนไปจากข้าได้ง่ายๆ ?! หากข้าช่วยเจ้าสังหารคนอื่นๆก่อน แล้วจากนั้นเจ้าและคนของเจ้าจะเอาแกนเชวียนไปจากข้าอย่างรวดเร็ว หากข้าไม่ …เช่นนั้นข้าก็ยังคงสนุกอยู่กับการต่อสู้ที่นี่ ”
การปฏิเสธของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวทำให้ทุกคนรู้สึกตัวด้วยความตกใจ หากฉีฉางเซี่ยวและเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นเห็นด้วยที่จะร่วมมือกันแล้วละก็ สองสุดยอดเทพเชวียนนี้จะสามารถที่จะทำลายทุกคนลงได้อย่างง่ายดายพวกเขาจะไม่แม้แต่จะละเว้นเพื่อสนิทของฉีฉางเซี่ยว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจะพิสูจน์ได้ว่าเขาอ่อนแอกว่าฉีฉางเซี่ยวในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว เขาก็ยังไม่คิดจะใช้แกนเชวียนเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการตู้สู้ที่ดีและน่าพอใจนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อยึดตามความจริงที่ว่า เขาจะต้องไปรับการประกันว่าจะรอดจากการต่อสู้ซึ่งเขาสามารถที่จะหนีจากเทพเชวียนสูงสุดได้ตลอดเวลา !
ความจริงในตอนนี้ ฉีฉางเซี่ยวจะได้รับสิ่งที่มากกว่าแกนเชวียนในเรื่องนี้ มันเห็นได้ชัดว่ามียอดฝีมือจากทั่วทั้งดินแดนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อแกนเชวียน และและการตายของพวกเขาเหล่านี้นนั้มากพอที่จะสั่นคลอนโครงสร้างของสมาคมของพวกเขา ซึ่งมันจะกลายเป็นสินค้าที่ประเมินราคมไม่ได้สำหรับจักรพรรดิแห่งอาณาจักรเฉินซี และดังนั้น การใช้ความช่วยเหลือของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวในการกำจัดยอดฝีมือที่ทรงอำนาจมากมายจะทำให้ฉีฉางเซี่ยวได้รับตำแหน่งของที่ปรึกษาราชสำนักแห่งอาณาจักรเฉินซี !