1791-3 vs 1791-4 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1791-3

เซียวจิ่งจับตัวห้ามไว้ “จำเป็นเหรอ?”

จ้าวซานพั่งโมโหมาก “เขาพูดบ้าอะไร เขา…”

“มีคนหลายคนพูดแบบนั้นไม่ใช่เหรอ แถมยังมีคนบอกว่าจะชนะหรือแพ้ มันก็ไม่สำคัญ เพราะมันเป็นแค่เกม แพ้แล้วจะเป็นไรไป” เซียวจิ่งหันไปมองอีกด้าน “เวลานี้ ขอแต่ชนะเป็นพอ”

ไม่ต้องพูดอะไร ขอแค่ชนะ เอาเกียรติยศมาให้ประเทศ ถึงจะได้รับการยอมรับจากผู้คนมากขึ้น คนพวกนั้นคิดเช่นนี้เสมอมา

เซียวจิ่งมองดูผนังขาวที่แปะป้ายโฆษณาของทีมไดมอนด์ เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่ง ทุกคนจะเข้าใจว่า พวกเขาไม่ได้เล่นเกมบ้าบอ แต่กำลังเล่นลีกส์อาชีพต่างหาก ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาคือการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต

เฟิงอี้กำลังรอข่าวอยู่นอกตึก เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาไม่หยุดชะงักสักนิด และพอรู้ผลก็รีบโทรหาป๋อจิ่วทันที

ป๋อจิ่วได้ยินแล้ว มุมปากแยกยิ้มอย่างเห็นได้ชัด แค่ในห้องนี้ขาดคนคนหนึ่งที่เธออยากให้เขารู้มากที่สุด ส่วนสมาชิกคนอื่นยังอยู่ครบ

เมื่อหลินเฟิงทราบผลการตัดสินของทางคณะกรรมการ ถึงกับกระโดดตัวลอยจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ หันไปกอดป๋อจิ่วสุดตัว ถามอย่างดีใจว่า “จริงเหรอ? เจ้าแบล็ก นายพูดจริงใช่ไหม?”

“นายลองเปิดมือถืออ่านสิ จิ้งจอกเฟิงส่งข่าวมาในวีแชทแล้ว”

นั่นไง ส่งข้อความมาทางกรุ๊ปวีแชทจริงด้วย หลินเฟิงดีใจเอามาก ดีจังเลยๆ แต่พอดีใจเสร็จก็พลันนึกอะไรออก สันหลังเย็นวาบในทันใด หันไปมองตำแหน่งที่ฉินมั่วนั่งเมื่อครู่ทันที เมื่อพบว่าเจ้าตัวไม่อยู่ก็โล่งใจ โชคดีนะที่หัวหน้าไม่เห็นสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่นี้

ทุกคนต่างดีใจ แค่วิธีการแสดงออกไม่เหมือนกัน ป๋อจิ่วไปหาเหราหรงที่น่าเชื่อถือที่สุดแล้วเอ่ยถาม “พี่มั่วไปไหน?”

“น่าจะไปห้องน้ำนะ” เหราหรงไม่รู้เหมือนกัน

ห้องน้ำเหรอ? ตอนที่เธอมา ที่นั่นไม่มีใครนี่

เฟิงซ่างพูดขึ้น “หา หัวหน้า มะ เหมือนจะอะ…ออกไป ซื้อลูกอม”

ลูกอม? ทุกคนไม่อยากเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะขึ้นได้ คนอย่างหัวหน้าเนี่ยนะจะไปซื้อลูกอมได้ยังไง? นิ้วมือของป๋อจิ่วดูเหมือนจะแข็งทื่อ ก่อนจะสาวเท้าลงตึกไป

แต่กระนั้นเมื่อ 3 นาทีที่แล้ว ณ ร้านสะดวกซื้อเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงตรงหน้าเขตที่พักซึ่งอยู่ข้างนอกอะพาร์ตเมนต์

ฝานเจียคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ เธอยังวางแผนจะลงมือตอนค่ำ ไม่คิดว่าจะได้เห็นคนที่คาดไม่ถึง เธอถึงกับเบิกตากว้าง เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินซุกมือในกระเป๋าข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างไล่สินค้าไปตามชั้นวางสินค้า ราวกับจะเลือกอะไรสักอย่าง ใบหน้านั่นไม่ต่างจากที่เธอฝันถึงแม้แต่น้อย แค่ตอนนี้ดูเหมือนจอมมารที่ถูกปลดปล่อย เธอยังรู้สึกได้ถึงความร้ายกาจที่ไม่เหมือนเดิมจากเรียวปากบางที่แย้มยิ้มนิดๆ อีกด้วย

ไม่นาน ฝานเจียก็ระลึกได้ว่านี่เป็นโอกาสทองที่จะลงมือ! เพราะนอกจากตัวเขาแล้ว ไม่มีใครติดตามมาด้วย บวกกับการยืนเลือกของในชั้นวางสินค้าอันเดียวกัน ย่อมไม่ทำให้ใครสงสัย

หลังจากที่ตัดสินใจ ฝานเจียข่มอารมณ์ไว้ เดินสาวเท้าตามร่างสูงสง่าไป และพอจะได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดอยู่บ้าง “ปกติยัยนั่นน่าจะชอบยี่ห้อนี้”

เมื่อเห็นปลายนิ้วของชายหนุ่มสัมผัสลูกอมชิ้นหนึ่ง ส่งผลให้ฝานเจียไม่คิดเลยว่าเขาจะมาซื้อขนมหวานไม่ต้องเดาเลยว่า ‘ยัยนั่น’ จากคำพูดของเขาจะหมายถึงใคร?

ความริษยาอย่างสุดแสน ทำให้ฝานเจียกำมือแน่น จนปลายเล็บจิกเข้าเนื้อ!

ในขณะที่เธอจะอ้าปาก เสียง ‘ฟึ่บ!’ ดังขึ้น ไพ่ใบหนึ่งบินผ่านหน้าเธอไป ฝานเจียรีบหลบทันที มองดูไพ่ที่บินเหมือนมีดไปปักขนมปังด้านหลังเธอ สีหน้าซีดเผือด ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงระโหยโรงแรง “พี่มั่ว พี่จำฉันไม่ได้แล้วเหรอคะ?”

 ————————————-

ตอนที่ 1791-4

พี่มั่ว? ฉินมั่วได้ยินชื่อดังกล่าวถูกเรียกออกจากปากเธอ รู้สึกได้อย่างหนึ่งว่าเขาไม่ชอบใจ

เดิมทีฝานเจียคิดจะฉวยจังหวะที่ชายหนุ่มสูญเสียความทรงจ เข้าไปใกล้ชิดเขา แต่ไม่คิดว่าแค่เธอพูดจบ เขาก็ดึงเอาลูกอมมาถุงหนึ่งแล้วเดินไปจ่ายเงิน เหมือนไม่อยากจะมองหน้าเธอสักนิด

ฝานเจียหรี่ตาลง หันไปบังทางของฉินมั่ว “พี่มั่ว พี่คิดว่านังนั่นชอบพี่จริงๆ เหรอคะ เขาแค่อยากให้พี่ลงแข่งการแข่งชิงแชมป์เอเชียเท่านั้น ถึงได้เชื่อฟังพี่ทุกอย่าง ถ้าไม่เชื่อฉันมีรูปให้พี่ดู เขากับโฮชิโนะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา ไม่ได้แค่ชื่นชมกันตามปกติ พวกเขาเป็นคู่หูที่สนิทกันมาก ตอนแรกเขาช่วยโฮชิโนะล้างข้อหาทั้งหมด จนใช้เล่ห์กลมาหลอกพี่ พี่ลืมเรื่องพวกนี้หมดแล้วเหรอคะ?”

ฝานเจียคิดว่าเธอพูดขนาดนี้แล้ว เขาน่าจะฟังเธอบ้างสักนิด ไม่คิดว่าเขาแค่ตอบเธออย่างเย็นชาที่ก่อตัวมาจากความเหนื่อยหน่าย “ไสหัวไป”

ฝานเจียนิ่งอึ้งอยู่กับที่ เพราะแววตาที่เขามองเธอ ไม่มีความอ่อนโยนสักนิด ราวกับว่าหากเธอพูดมากอีกนิดเขาจะฆ่าเธอเสีย ดูท่าแล้วเธอไม่น่าใช้วิธีนี้เลย

แต่ในเมื่อเธอไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวัง! นัยน์ตาฝานเจียตึงเครียด “ฉินมั่ว อย่าโกหกตัวเองเลย คนที่สำคัญที่สุดของพี่น่ะตายไปแล้ว เพราะพี่จับตัวเขาไม่ได้ พี่คงจำได้ว่าน้ำนั่นมันลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง…”

ฉินมั่วไม่คิดจะฟังจนจบ ทว่าเมื่อตัวอักษรเหล่านั้นผ่านเข้ากระดูกหู ก็เหมือนจะซึมเข้าสมองเขาทันที เขารู้ทันทีว่ามันคือคำสั่งที่แฝงทางจิต คิดจะหนีไป แต่พอประโยคที่ว่า ‘คนที่สำคัญที่สุดของพี่ตายไปแล้ว เพราะพี่จับตัวเขาไม่ได้….’ ก็ปวดศีรษะอย่างรุนแรงทันที จนเขาต้องกุมศีรษะตัวเอง

ฝานเจียยังคงพูดต่อ ทั้งยังเดินเข้าไปหาเขาทีละก้าวๆ เหมือนงูที่แลบลิ้นออกมา “เขาจมลึกลงไปเรื่อยๆ  ลึกลงไปเรื่อยๆ กว่าพี่จะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว เพราะตอนที่เขาต้องการพี่ พี่กลับไปช่วยคนอื่น”

เสียง ‘ผัวะ’ ดังขึ้น สมองเขาเหมือนถูกกรีดออก แววตาของฉินมั่วไม่เคยคมกล้าเหมือนเดิม แถมสีนัยน์ตาก็อ่อนลงเรื่องๆ เหมือนเห็นสิ่งของบางอย่าง แต่ก็เหมือนไม่เห็น เขายื่นมือออกไปคว้า กลับได้แต่ความว่างเปล่า

ฝานเจียจงใจเดินหนีมายืนมองเขาอยู่ด้านข้างแล้วเอ่ยต่อ “พี่รู้ดีกว่าใคร คนที่ผิดมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือตัวพี่นั่นแหละ ถ้าพี่เชื่อเขา ไม่แคร์คนอื่น ยอมทิ้งความรับผิดชอบทั้งหมด เขาก็ไม่ตายแล้ว  โถ Z ที่น่าสงสาร คนทั้งโลกไม่ยอมรับ แถมยังต้องจมอยู่ใต้น้ำตลอดกาล พี่ก็เห็นตอนที่เขาดิ้นรนเอาชีวิตรอดในน้ำนี่ ตอนเด็กๆ พี่รับปากเขาไว้ พอโตแล้วไม่ว่าจะทำอะไรพี่จะนึกถึงเขาก่อน พี่นั่นแหละที่เป็นคนผิดคำพูด พี่เป็นคนทำให้เขาตาย”

เมื่อฝานเจียพูดประโยคสุดท้าย นัยน์ตาของฉินมั่วก็แข็งกร้าว เมื่อเขายกมือขึ้นอีกครั้งกลับรุนแรงมาก มากจนข้อนิ้วซีดขาว ทั้งอ่อนแอและแข็งแกร่ง เพราะความแข็งแกร่งนี่แหละที่ทำให้พี่ชายเธอไม่ประสบความสำเร็จในตอนนั้น

ฝานเจียกำมือแน่น เป็นครั้งแรกที่เธอไม่หลบ แต่เป็นฝ่ายยื่นมือไปจับมือเขาเอง เมื่อฉินมั่วมีของบางอย่างในมือก็ยึดเอาไว้แน่น…

………………………………………………