ตอนที่ 1801-1803

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1801  วางยา (2)
  ไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสอิ่งไม่คิดจะโค่นล้มประมุขวิหารเงาจันทราแต่เป็นเพราะเขาไม่มีโอกาสต่างหาก
  เมื่อได้ยินจวินอู๋เสียพูดว่าประมุขถูกวางยาเขาจึงแปลกใจมาก
  “ถ้าไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใครได้ล่ะ?”จวินอู๋เสียหรี่ตา จากที่ผู้อาวุโสอิ่งพูด นั่นไม่ใช่การกระทำของเขา แต่สิ่งที่ผู้อาวุโสซึ่งมีอำนาจสูงยังไม่สามารถทำได้ แล้วใครจะมีโอกาสลงมือได้กัน?
  ผู้อาวุโสเยว่?
  จวินอู๋เสียปฏิเสธการคาดเดาของตนอย่างรวดเร็วผู้อาวุโสเยว่รับใช้ประมุขวิหารเงาจันทรามาหลายรุ่น แม้ว่าจะเป็นคนโหดร้ายวิปริต แต่ความจงรักภักดีต่อวิหารเงาจันทราของเขาก็ไม่ต้องสงสัยเลย
  ไม่ใช่ทั้งผู้อาวุโสอิ่งและผู้อาวุโสเยว่และยังเป็นคนที่มีความเกลียดชังและความแค้นต่อวิหารเงาจันทราอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งสามารถเข้าใกล้ประมุขวิหารเงาจันทราได้ด้วย พอตัดตัวเลือกแบบนี้แล้ว ก็จะเหลือผู้ต้องสงสัยเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
  “ในเมื่อเจ้ามองออกว่าประมุขถูกวางยางั้นเจ้าบอกได้หรือไม่ว่าเป็นยาพิษชนิดใด? เราอาจจะตรวจสอบจากทางนี้ได้ ถ้าคนผู้นั้นพยายามฆ่าประมุข คนผู้นั้นก็อาจจะร่วมมือกับเราได้” ผู้อาวุโสอิ่งแค่อยากทำลายวิหารเงาจันทราให้พังพินาศเพื่อแก้แค้นให้ลูกและหลานของเขา ตราบใดที่เป็นศัตรูกับวิหารเงาจันทรา พวกเขาก็เป็นพันธมิตรกันได้
  จวินอู๋เสียส่ายหัว“แม้ว่าข้าจะมองออกว่าเขาถูกวางยาพิษ แต่แค่ดูสีหน้าไม่สามารถระบุได้หรอกว่าเป็นพิษชนิดใด ข้าต้องตรวจสอบให้มากกว่านี้ถึงจะสามารถบอกได้”
  “ข้าอาจจะช่วยเจ้าได้”ผู้อาวุโสอิ่งกล่าว “ข้าได้เอ่ยถึงเจ้าต่อหน้าประมุขไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญกับผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่อายุน้อยอยู่พอสมควร หลังจากที่เจ้าออกจากคุกแล้ว ข้าสามารถพาเจ้าไปที่นั่นเพื่อดูอีกครั้งได้ แต่เรื่องที่เจ้าจะตรวจสอบพิษยังไง เจ้าคงต้องคิดหาวิธีเอาเอง”
  “ได้”ถ้านางสามารถเข้าใกล้ประมุขวิหารเงาจันทราได้ นางย่อมมีวิธีตรวจสอบอาการของเขา
  ผู้อาวุโสอิ่งและจวินอู๋เสียปรึกษาแผนการกันอีกเล็กน้อยไฟแค้นในใจทำให้ผู้อาวุโสอิ่งไม่จมอยู่กับความเศร้าโศกอีกต่อไป พอเริ่มดึก ผู้อาวุโสอิ่งก็ให้จวินอู๋เสียกลับไปพักผ่อนที่ห้องของนาง ไม่จำเป็นต้องกลับไปที่คุกใต้ดินแล้ว
  คืนนั้นคนที่ผู้อาวุโสเยว่ส่งไปลอบสังหารจวินอู๋เสียก็พบว่าสถานที่นั้นว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของจวินอู๋เสียอยู่ที่นั่นเลย
  เช้าวันรุ่งขึ้นอาการของประมุขวิหารเงาจันทราก็ดีขึ้นในที่สุด หลังจากทรมานมาทั้งคืน สีหน้าพวกผู้อาวุโสก็ดูซีดเซียว พวกเขาไม่สามารถหลับตาลงได้ตลอดทั้งคืน ได้แต่คอยเฝ้าดูอยู่ในห้องนอนของประมุข
  ผู้อาวุโสเยว่ได้ข่าวขณะอยู่ในวังประมุขว่าการลอบสังหารเมื่อคืนล้มเหลวอีกครั้งและได้รู้ว่าจวินอู๋เสียไม่ได้อยู่ในคุกใต้ดินแล้ว ใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็หันกลับและเดินเข้าไปในห้องนอนและคุกเข่าลงตรงหน้าเตียงของประมุข
  “เรียนท่านประมุข!เมื่อคืนนี้ฉางฮวนหลบหนีออกจากคุกใต้ดินขอรับ การกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎวิหาร เขาไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลย ลงโทษตักเตือนเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ก็ไม่ยอมรับ ไม่มีสำนึกในความเมตตาของท่านประมุข” ผู้อาวุโสเยว่คุกเข่ากับพื้นพร้อมกล่าวประณามจวินอู๋เสีย
  หลังจากทรมานจากอาการเจ็บป่วยของตนมาตลอดทั้งคืนประมุขวิหารเงาจันทรายังคงรู้สึกปวดหัวและวิงเวียนอยู่เล็กน้อย เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที
  “เจ้าฉางฮวนนั่นไร้ความเคารพเช่นนี้จริงหรือ?”
  “ขอรับ!ข้าไม่กล้าหลอกลวงท่านประมุข ฉางฮวนทำผิดมาแล้วครั้งหนึ่งตอนที่ทำร้ายศิษย์วิหารเรา แต่โชคดีได้รับความเมตตาจากท่านประมุข ลงโทษแค่ให้สำนึกตนอยู่ในคุกใต้ดินเท่านั้น แต่เขากลับไม่แสดงความสำนึกผิดใดๆเลย ตอนนี้เขาได้หลบหนีออกจากคุกใต้ดินแล้วขอรับ” ผู้อาวุโสเยว่กล่าวอย่างเคียดแค้นชิงชังเป็นที่สุด
  สีหน้าของประมุขวิหารเงาจันทราดำมืดลงทันทีดวงตาฉายแววไม่พอใจอย่างมาก
  ผู้อาวุโสเยว่แอบหัวเราะอยู่ในใจ
ตอนที่ 1802  วางยา (3)
  ประมุขวิหารเงาจันทรามีนิสัยอย่างไรผู้อาวุโสเยว่รู้ดีที่สุด แม้ว่าวิหารเงาจันทราจะต้องการศิษย์ที่แข็งแกร่ง แต่ไม่ว่าศิษย์คนนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็มีเงื่อนไขสำคัญอยู่ข้อหนึ่ง!
  นั่นคือการปฏิบัติตามคำสั่งของประมุขอย่างเคร่งครัด!
  จวินอู๋เสียออกจากคุกใต้ดินโดยพลการก็เท่ากับตบหน้าประมุขวิหารเงาจันทราก่อนหน้านี้ประมุขวิหารเงาจันทราได้งดโทษทรมานไปเพราะพลังที่จวินอู๋เสียมี แต่ตอนนี้จวินอู๋เสียหลบหนีออกจากคุกใต้ดิน ประมุขวิหารเงาจันทราจะทนได้อย่างไร?
  ได้คืบจะเอาศอกจริงๆ
  “ท่านประมุขฉางฮวนนิสัยไม่ดีไม่ยอมอยู่ในระเบียบวินัย แม้ว่าเขาจะมีพลังที่โดดเด่น แต่คนที่ควบคุมไม่ได้แบบนี้ ถ้ายังให้อยู่ในวิหารต่อไป เกรงว่า……” ผู้อาวุโสเยว่ดูเหมือนลังเลที่จะพูด
  แต่คำพูดที่ไม่จบนี้ได้จี้ใจดำของประมุขวิหารเงาจันทราเขาเป็นคนขี้ระแวงอยู่แล้ว โดยเฉพาะตอนที่ไม่สบาย การที่ศิษย์วิหารเงาจันทราไม่เชื่อฟังก็คือการท้าทายอำนาจของเขา ราวกับกำลังบอกเขาว่าเขาใกล้จะตายแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องใส่ใจคำพูดของเขา
  “ตอนนี้ฉางฮวนอยู่ที่ไหน?”ประมุขวิหารเงาจันทรามีสีหน้าถมึงทึง แม้ว่าร่างกายเขาจะอ่อนแอ แต่การกัดฟันอย่างไม่พอใจก็เห็นได้อย่างชัดเจน
  “ข้าไม่รู้ขอรับ”ผู้อาวุโสเยว่พยายามเก็บความยินดีเอาไว้ในใจอย่างเต็มที่ และแสร้งตอบอย่างเคร่งเครียด
  เขาคิดว่าการหนีออกจากคุกใต้ดินของจวินอู๋เสียทำให้แผนของเขาล้มเหลวอีกครั้งแต่ดูท่าทางแล้ว การแหกคุกกลับไปกระตุ้นความโกรธของประมุข แบบนี้ต่อให้ผู้อาวุโสเยว่ไม่ทำอะไร ประมุขวิหารเงาจันทราก็จะไม่ทนศิษย์ที่ไม่เชื่อฟังควบคุมไม่ได้เช่นนี้ให้อยู่ในวิหารเงาจันทราต่อไป
  “ยาม!แค่ก แค่ก……” ด้วยความโกรธจัด อาการของประมุขวิหารเงาจันทราที่ทำท่าว่าดีขึ้นแล้วก็กลับแย่ลงอีกครั้ง การไอแบบขาดๆหายๆทำให้เขาไม่สามารถพูดจนจบประโยคที่ต้องการได้
  “ไป……แค่กแค่ก……จับ……แค่ก……ตัวฉางฮวน……แค่ก……มา……ให้ข้า……” ประมุขวิหารเงาจันทราอ้าปากหอบหายใจอย่างหนัก เขาทุบกำปั้นลงที่ข้างเตียงด้วยความโกรธ
  “ท่านประมุขระงับโทสะด้วย!สุขภาพของท่านสำคัญกว่านะขอรับ!” ผู้อาวุโสเยว่รีบพูด
  ผู้อาวุโสคนอื่นก็แสดงความกังวลอย่างมากเช่นกันแต่ก็มีผู้อาวุโสหลายคนที่มีสีหน้ากระวนกระวายเล็กน้อย
  พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่สนิทสนมกับผู้อาวุโสอิ่งพวกเขาย่อมรู้ถึงความสามารถอันโดดเด่นของ “ฉางฮวน” ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆสำหรับผู้อาวุโสอิ่ง แต่เรื่องดีๆนี้จะรอจนราบรื่นมั่นคงก่อนก็ไม่ได้ ต้องก่อเรื่องใหญ่ซะขนาดนี้ เมื่อเห็นใบหน้าของประมุขวิหารเงาจันทรายิ่งไม่น่าดูมากขึ้นทุกที หัวใจของผู้อาวุโสพวกนั้นก็ขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ
  เพราะถ้า“ฉางฮวน” ถูกกำจัดในตอนนี้ เกรงว่าผู้อาวุโสอิ่งก็จะต้องพัวพันไปด้วย แล้วพวกเขาล่ะ……
  คิดแล้วเหล่าผู้อาวุโสก็อดด่าจวินอู๋เสียเป็นพันๆครั้งไม่ได้
  ประมุขได้แสดงความเมตตาต่อเขาแล้วโดยการลงโทษแค่ให้เขาสำนึกตนอยู่ในคุกใต้ดิน ทำไมเขาถึงแหกคุกออกมาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญแบบนี้?
  จะรีบไปตายหรือยังไง!
  พวกผู้อาวุโสรู้สึกร้อนใจแต่ไม่มีใครกล้าก้าวออกมาเกลี้ยกล่อมประมุขวิหารเงาจันทราในขณะที่เขากำลังเดือดดาลแบบนี้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ด้านข้าง
  “ยาม!ไปจับตัวฉางฮวนตามคำสั่งของท่านประมุขเดี๋ยวนี้! ต่อให้ต้องขุดดินลึกสามฉื่อ ก็ต้องหาตัวเจ้าเด็กดื้อด้านเอาแต่ใจนั่นมาให้ได้!” ผู้อาวุโสเยว่ไม่ขี้ขลาดเหมือนผู้อาวุโสคนอื่นๆ เขาเอาคำพูดของประมุขวิหารเงาจันทราที่ขาดเสียงไปมาพูดต่อทันที ทวนคำสั่งที่ขาดๆหายๆของประมุขอีกครั้งด้วยเสียงอันดัง
  [เจ้าหนูข้าอยากเห็นนักว่าคราวนี้เจ้าจะรอดไปได้ยังไง?!]
ตอนที่ 1803  บิดกลับฟ้าดิน (1)
  “ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากขนาดนั้นหรอก”ทันใดนั้น เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นในห้องนอน
  เมื่อผู้อาวุโสเยว่ได้ยินเสียงนั้นเขาก็ชะงักไปนิดนึง สังหรณ์ร้ายผุดขึ้นมาในใจ
  พอสิ้นเสียงของผู้อาวุโสอิ่งเขาก็ก้าวเข้ามาในห้องนอน
  เมื่อผู้อาวุโสเยว่เห็นผู้อาวุโสอิ่งสีหน้าเขาก็ดำมืดทันที
  “ท่านประมุข”ผู้อาวุโสอิ่งคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
  ประมุขวิหารเงาจันทราจ้องผู้อาวุโสอิ่งที่คุกเข่าตรงหน้าเขาด้วยใบหน้าถมึงทึงและพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรว่า “ผู้อาวุโสอิ่ง เจ้ามาได้จังหวะพอดี มีเรื่องที่ข้าอยากให้เจ้าธิบาย!”
  ผู้อาวุโสอิ่งคุกเข่านิ่งอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับแม้แต่น้อยเขาพูดด้วยความเคารพว่า “เชิญท่านประมุขกล่าวขอรับ”
  “แค่กแค่ก……เรื่องที่ฉางฮวนทำร้ายศิษย์ของวิหาร ข้าพิจารณาว่าเขายังเด็กมากและประเมินพลังของตนผิดไปตอนที่ลงมือ นั่นคือสาเหตุที่ข้าละเว้นโทษหนักและแค่ส่งเขาไปทบทวนการกระทำของตนในคุกใต้ดิน แต่ยังไม่ทันไรเลย เขาก็ทนไม่ได้และแหกคุกออกมาตามอำเภอใจ! ผู้อาวุโสอิ่ง นี่หรือศิษย์ที่เจ้าอบรมดูแลมา? ไม่ใส่ใจคำพูดของข้าเลยใช่ไหม!?” ประมุขวิหารเงาจันทราโกรธมาก เขาปัดถ้วยยาที่วางอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงกระเด็นไปทางผู้อาวุโสอิ่ง
  ผู้อาวุโสอิ่งไม่สะดุ้งแม้แต่น้อยตอนที่ถ้วยยากระแทกพื้นอย่างแรงห่างจากด้านหน้าเขาแค่ครึ่งเมตร เสียงถ้วยแตกดังก้องภายในห้องนอน
  “ท่านประมุขโปรดระงับโทสะด้วย” ผู้อาวุโสอิ่งกล่าวเสียงต่ำ
  “ระงับโทสะ?ข้าจะไม่โกรธได้ยังไง? พวกเจ้าเห็นว่าสุขภาพของข้าไม่เหมือนเมื่อก่อนใช่ไหม พวกเจ้าเลยไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาแล้ว?” ประมุขวิหารเงาจันทราตะโกนความกลัวที่อยู่ในใจออกมา เสียงตะโกนนี้ทำให้ผู้อาวุโสคนอื่นที่อยู่ในห้องนอนคุกเข่าลงทันทีด้วยความตกใจกลัว
  คนทั้งกลุ่มเงียบกริบราวกับจักจั่นในฤดูหนาวพร้อมกับตัวสั่นเล็กน้อย
  “ท่านประมุขเรื่องนี้เป็นฉางฮวนที่ไร้หัวคิด ท่านประมุขโปรดระงับโทสะก่อน ฉางฮวนยังเด็กและโง่เขลา ข้าบังเอิญได้ข่าวว่าท่านประมุขป่วยตอนอยู่ในคุกใต้ดิน ตอนนั้นข้ากำลังสั่งสอนฉางฮวนอยู่ เจ้าเด็กนั่นก็เลยได้ยินไปด้วย ตอนแรกข้าก็ไม่ได้สนใจมากนัก ไม่คิดเลยว่าฉางฮวนจะแหกคุกออกมาและอ้อนวอนให้ข้าพาเขามาพบท่านประมุข……ข้ารู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเนื่องจากท่านประมุขกำลังพักฟื้นอยู่ เกรงว่าเขาจะรบกวนการพักผ่อนของท่านประมุข จึงตัดสินใจขังเขาไว้ที่เรือนของข้าก่อน” ผู้อาวุโสอิ่งพูดเรื่อยๆไม่เร็วไม่ช้า ชัดถ้อยชัดคำ แม้ว่าคำพูดจะเต็มไปด้วยคำตำหนิ แต่พอเข้าหูคนอื่นกลับให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป
  “เจ้ากำลังบอกว่าที่ฉางฮวนหนีออกจากคุกใต้ดินก็เพราะ……เขาอยากพบข้างั้นหรือ?”ประมุขวิหารเงาจันทราแปลกใจเล็กน้อย เหตุผลนี้ทำให้เขาตกใจไม่น้อย ความโกรธในใจก็ค่อยๆลดลงด้วยสาเหตุที่ทำให้ “ฉางฮวน” หนีออกจากคุกใต้ดิน
  ถ้าฉางฮวนหลบหนีเพราะไม่พอใจกับการตัดสินลงโทษเขาประมุขวิหารเงาจันทราย่อมโกรธมากอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเพราะเจ้าเด็กนั่นได้ยินว่าเขาป่วยและร้อนใจอย่างหนักล่ะก็……ความหมายมันจะแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!
  มีประมุขคนไหนบ้างที่ไม่อยากให้ตนอยู่ในสถานะที่ไม่มีใครเทียบได้ในหัวใจของศิษย์?
  เมื่อผู้อาวุโสเยว่เห็นประมุขวิหารเงาจันทรามีสีหน้าอ่อนลงหัวใจเขาก็สั่นไหวทันที เขารีบก้าวออกมาพูดว่า “ผู้อาวุโสอิ่ง ข้ารู้ว่าเจ้าตามใจฉางฮวนมาก แต่เจ้าจะคิดหาเหตุผลที่น่าหัวเราะแบบนั้นมาช่วยเขาไม่ได้ เหตุผลที่เขาแหกคุกเมื่อวานนี้ นอกจากตัวเขาเองแล้ว คนอื่นไม่มีใครรู้ได้หรอก ยิ่งกว่านั้น……ท่านประมุขไม่สบาย เขาร้อนใจก็เป็นเรื่องที่สมควร แต่การหนีออกมาอย่างบ้าบิ่นแบบนั้น เขาจะทำอะไรได้? มันฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด”