ตอนที่ 1804 บิดกลับฟ้าดิน (2)
คำพูดของผู้อาวุโสก็มีเหตุผล ประมุขวิหารเงาจันทราก็ไม่ได้เชื่อคำพูดของผู้อาวุโสอิ่งง่ายๆอยู่แล้ว ตอนนี้ผู้อาวุโสเยว่พูดข้อสงสัยในใจเขาออกมา เขาจึงนิ่งเงียบรอฟังคำอธิบายจากผู้อาวุโสอิ่ง
การที่ศิษย์อายุน้อยกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยของประมุขมากขนาดนั้นถ้าไม่ได้มีเหตุผลอะไรพิเศษแล้วล่ะก็ มันก็ฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อสักเท่าไร
ผู้อาวุโสอิ่งถอนหายใจเบาๆและพูดว่า “เรื่องนี้ ข้าคิดว่าถ้าข้าเป็นคนพูด ท่านประมุขก็คงไม่เชื่อข้า ทำไมไม่ให้ฉางฮวนพูดเองล่ะขอรับ?”
“โอ้?”ประมุขวิหารเงาจันทราเลิกคิ้ว
“ท่านประมุขตอนนี้ฉางฮวนคุกเข่าอยู่นอกห้องนอน หากท่านประมุขอนุญาต เขาจะเข้ามาขออภัยท่านประมุขทันที” ผู้อาวุโสอิ่งกล่าว
ผู้อาวุโสเยว่ที่อยู่ด้านข้างหรี่ตาไม่เข้าใจว่าผู้อาวุโสอิ่งและจวินอู๋เสียซ่อนลูกไม้อะไรเอาไว้ เรื่องวันนี้ หากไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้วล่ะก็ เขาจะไม่มีวันปล่อยผ่านไปแน่ ไม่ว่าผู้อาวุโสอิ่งจะบิดคำพูดยังไง เขาจะไม่ยอมให้จวินอู๋เสียรอดไปได้เด็ดขาด!
“ให้เขาเข้ามา”ประมุขวิหารเงาจันทราตกลงหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้ดีว่าผู้อาวุโสอิ่งเป็นคนยังไง กล่าวได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่ซื่อสัตย์จริงใจที่สุดซึ่งหาได้ยากในวิหารเงาจันทรา แม้ว่าจะมีบางครั้งที่คำพูดของเขาระคายหูไปบ้าง แต่อย่างน้อยเขาก็ถูกมองว่าเป็นคนยุติธรรม ไม่เคยลำเอียงเข้าข้างใคร
“ฉางฮวนเจ้ายังไม่เข้าอีก!” ผู้อาวุโสอิ่งตะโกนเสียงต่ำ
ร่างผอมบางเดินเข้ามาจากนอกประตูอย่างช้าๆสายตาของผู้อาวุโสเยว่จับจ้องไปที่คนที่กำลังเดินเข้ามา เขารู้สึกเกลียดที่สายตาของตนไม่สามารถเปลี่ยนเป็นใบมีดแหลมคมเข้าเฉือนเนื้อหนังของเด็กนั่นได้
“ศิษย์ฉางฮวนคารวะท่านประมุข” จวินอู๋เสียเดินเข้ามาในห้องนอน จากนั้นก็คำนับประมุขวิหารเงาจันทราอย่างสงบนิ่ง
ประมุขวิหารเงาจันทราประเมินจวินอู๋เสียอย่างเงียบๆก่อนหน้าที่จวินอู๋เสียจะเปิดเผยพลังวิญญาณสีม่วงของนาง เขาไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามีศิษย์คนนี้อยู่ในวิหาร พิจารณาจากรูปลักษณ์และพรสวรรค์แล้ว “ฉางฮวน” ด้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับเยว่อี้จนไม่สามารถดึงดูดความสนใจของประมุขได้เลย
แต่เมื่อประเมินเขาอย่างละเอียดในตอนนี้แล้วจะเห็นได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ตัวเล็กกว่าคนในวัยเดียวกันมาก ถ้าไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ามีพลังวิญญาณขั้นสีม่วง ก็คิดว่าคงไม่มีใครสนใจเด็กคนนี้มากนัก
“ก่อนหน้านี้ตอนที่เจ้าเพิ่งกลับมา เจ้าก่อเรื่องเอาไว้และข้าก็ลงโทษให้เจ้าสำนึกตนในคุกใต้ดิน ทำไมเจ้าถึงฝ่าฝืนคำสั่ง?” ประมุขวิหารเงาจันทรากล่าวตำหนิ แต่ท่าทีไม่ได้แข็งกร้าวเกินไปนัก
ก่อนที่เรื่องจะกระจ่างประมุขวิหารเงาจันทรายังไม่อยากเล่นบทตัวร้าย
“เรียนท่านประมุขศิษย์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหนีออกจากคุกใต้ดิน เพราะทำเช่นนั้นเท่านั้น ศิษย์ถึงจะสามารถมอบของให้กับท่านประมุขได้” จวินอู๋เสียก้มหน้า ไม่มองไปที่ประมุขวิหารเงาจันทราเลย เอาแต่จ้องพื้นขณะพูด
“โอ้?เจ้าอยากให้อะไรข้างั้นหรือ?” นี่น่าสนใจทีเดียว ประมุขวิหารเงาจันทราไม่คิดว่าศิษย์ของวิหารเงาจันทราจะสามารถให้อะไรที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นกับเขาได้
ผู้อาวุโสเยว่ที่ยืนอยู่ด้านข้างอดรนทนไม่ได้พูดขึ้นว่า “ฉางฮวน เรื่องที่เจ้าแหกคุกออกมาตามอำเภอใจไม่สามารถกลบเกลื่อนได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำของเจ้าหรอกนะ ถ้าวันนี้เจ้าไม่สามารถให้เหตุผลที่ยอมรับได้สำหรับการกระทำของเจ้า วิหารเงาจันทราก็ไม่มีที่สำหรับเจ้าอีกต่อไป”
“ศิษย์เชื่อว่าของสิ่งนี้เพียงพอที่จะทำให้ความโกรธของท่านประมุขบรรเทาลงได้”จวินอู๋เสียไม่เหลือบมองผู้อาวุโสเยว่แม้แต่แวบเดียว แต่หยิบเอาขวดกระเบื้องขนาดเท่าฝ่ามือออกมาหนึ่งขวด
“นั่นอะไร?”ประมุขวิหารเงาจันทราถามอย่างสงสัย
จวินอู๋เสียตอบว่า“สิ่งนี้เรียกว่าโอสถหิมะละลาย เป็นสิ่งที่ศิษย์เรียนรู้และปรุงออกมาจากใบสั่งยาที่สืบทอดมาของตระกูลจ้าน”
ตอนที่ 1805 บิดกลับฟ้าดิน (3)
“โอสถหิมะละลาย?มันคืออะไร?” แววตาของประมุขวิหารเงาจันทราเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นเล็กน้อย เขาสนใจสิ่งที่ตระกูลจ้านสะสมไว้มากมาตลอด แม้ว่าผู้อาวุโสอิ่งจะมอบให้เขามาเป็นจำนวนมากแล้ว แต่เขาก็รู้ว่าผู้อาวุโสอิ่งยังซ่อนสมบัติไว้ในมืออีกมากมาย ของพวกนั้นคือสิ่งที่วิหารเงาจันทราให้ความสำคัญมากที่สุด
จวินอู๋เสียพูดว่า“โอสถหิมะละลายช่วยฟื้นฟูชี่และเลือด ปรับเส้นเอ็น เหมาะกับการฟื้นฟูร่างกายที่สุด ศิษย์ได้ยินมานานแล้วว่าท่านประมุขไม่ค่อยสบาย จึงตั้งใจขอใบสั่งยานี้จากผู้อาวุโสอิ่ง แต่เนื่องจากสมุนไพรบางอย่างในใบสั่งยานั้นหาได้ยาก จึงไม่สามารถปรุงยาได้มาตลอด โชคดีตอนที่ข้าเดินทางไปวิหารจิงหง ศิษย์พบสมุนไพรบางชนิดที่ยังขาดอยู่ และเพิ่งจะปรุงยานี้ได้สำเร็จ เมื่อคืนศิษย์ได้ยินว่าท่านประมุขป่วย จึงร้อนใจจนหลบหนีออกมาจากคุกใต้ดิน เพราะศิษย์อยากมอบโอสถหิมะละลายนี้ให้ท่านประมุข ขอท่านประมุขอภัยให้ด้วย”
เสียงของจวินอู๋เสียฟังสบายๆไม่ร้อนไม่เย็นชัดเจนทุกถ้อยคำ เมื่อนางพูดจบ บรรยากาศในห้องก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
สีหน้าโกรธเคืองของประมุขวิหารเงาจันทราหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอยใดๆและแทนที่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้ทุกคนในห้องตกตะลึงพวกเขานึกว่าจวินอู๋เสียหนีออกจากคุกใต้ดินเพราะไม่ยอมทำตามกฎระเบียบ และคำพูดของผู้อาวุโสอิ่งเมื่อครู่ก็แค่ข้อแก้ตัวที่เขาสร้างขึ้นมา เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น แต่ดูจากสิ่งที่จวินอู๋เสียนำเสนอในตอนนี้ มันมาจากใบสั่งยาลับอันเก่าแก่ของตระกูลจ้านจริงๆ และจุดประสงค์ที่ทำขึ้นมาก็เพื่อรักษาอาการป่วยของประมุขวิหารเงาจันทราโดยตรง!
เช่นนี้การที่จวินอู๋เสียหลบหนีออกจากคุกใต้ดินเมื่อวานนี้ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้และสมเหตุสมผล
ผู้อาวุโสเยว่จ้องมองจินอู๋เสียอย่างมึนงงตีเขาให้ตายเขาก็ไม่มีวันจะคิดว่าจวินอู๋เสียสามารถใช้อะไรแบบนี้เพื่อกลบเกลื่อนสถานการณ์ไปได้ เขาเชื่อไม่ลงจริงๆว่าจวินอู๋เสียจะสามารถหาข้อแก้ตัวที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ได้
“โอสถหิมะละลายอะไร?ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน? ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะได้ผลหรือไม่ก็เถอะ แต่เราจะให้ท่านประมุขกินของที่เราไม่รู้อะไรเลยได้ยังไง? ตลกแล้ว!” ผู้อาวุโสเยว่ส่งเสียงหึอย่างดูถูกเหยียดหยาม
สำหรับคำถามของผู้อาวุโสเยว่จวินอู๋เสียได้เตรียมพร้อมมาแล้ว นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และถามผู้อาวุโสเยว่ว่า “ข้าปรุงโอสถหิมะละลายมาได้แค่เม็ดเดียวเท่านั้น ถ้าท่านสงสัย จะให้คนอื่นมาลองกินก่อนหรือไง? แล้วถ้ามันได้ผล ผู้อาวุโสเยว่สามารถปรุงยาเม็ดที่สองมาได้ไหมล่ะ?”
มุมปากของผู้อาวุโสเยว่กระตุกเล็กน้อย“แล้วถ้ามันเป็นอันตรายต่อท่านประมุขล่ะ ใครจะรับผิดชอบ?”
จวินอู๋เสียตอบว่า“ข้าขอรับรองด้วยชีวิตของข้า ถ้ามีผลข้างเคียงใดๆหลังจากที่ท่านประมุขกินเข้าไป หรือหากว่ามันไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการป่วยของท่านประมุขเลย ชีวิตของข้าก็โยนทิ้งไว้ที่นี่วันนี้ ให้ผู้อาวุโสเยว่จัดการได้เลย”
จวินอู๋เสียพูดด้วยเสียงดังก้องใช้ชีวิตตัวเองเป็นหลักประกัน ขนาดที่หากโอสถหิมะละลายไม่ได้ผลกับประมุขวิหารเงาจันทรา นางก็ยอมตาย เป็นคำพูดที่เฉียบขาดหนักแน่นจริงๆ
คำพูดเหล่านั้นทำให้ผู้อาวุโสเยว่นิ่งงันเขาปิดปากเงียบไม่สามารถพูดอะไรได้ คิดไม่ถึงว่าจวินอู๋เสียจะเดิมพันด้วยชีวิตของตัวเอง
“ข้าก็รับประกันให้ฉางฮวนได้เช่นกันใบสั่งยานี้เป็นของตระกูลจ้าน หากยาไม่ได้ผล ข้ายินดีรับผิดชอบผลที่ตามมา” ผู้อาวุโสอิ่งก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อแบกรับความเสี่ยงร่วมกับจวินอู๋เสีย
หากกล่าวว่าคำพูดของจวินอู๋เสียเพียงอย่างเดียวยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอเมื่อมีผู้อาวุโสอิ่งเข้ามาสมทบ ก็ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามในเรื่องนี้อีก!
ตอนที่ 1806 บิดกลับฟ้าดิน (4)
ประมุขวิหารเงาจันทราหรี่ตามองจวินอู๋เสียกับผู้อาวุโสอิ่งแม้ว่าที่มาและฤทธิ์ของโอสถหิมะละลายจะน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขายังคงสงสัยอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ กระทั่งผู้อาวุโสอิ่งก็ก้าวออกมาใช้ชีวิตตัวเองเป็นหลักประกัน ระดับความน่าเชื่อถือจึงเพิ่มขึ้นไม่น้อย
ทันใดนั้นประมุขวิหารเงาจันทราก็หัวเราะออกมาดังลั่น
“ผู้อาวุโสอิ่งไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ข้าก็เชื่อใจเจ้าอยู่แล้ว ฉางฮวน เอาโอสถหิมะละลายมาให้ข้า”
“ท่านประมุข!จะกินยามั่วๆไม่ได้นะขอรับ!” ผู้อาวุโสเยว่กรีดร้องอยู่ในใจ แม้เขาจะไม่เชื่อว่าจะมียาใดสามารถรักษาอาการป่วยของประมุขวิหารเงาจันทราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากผู้รักษานับไม่ถ้วนได้ทำการรักษามานานมากแล้วก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เขาต้องขัดขวางเอาไว้ทุกวิถีทาง
แต่ประมุขวิหารเงาจันทราโบกมืออย่างไม่ใส่ใจและกล่าวว่า“ผู้อาวุโสเยว่ไม่จำเป็นต้องกังวลมากนักหรอก ข้าเชื่อใจผู้อาวุโสอิ่ง”
ผู้อาวุโสเยว่อับจนคำพูดจากคำกล่าวของประมุขได้แต่ถลึงตามองจวินอู๋เสียถือขวดยาเดินไปยืนตรงหน้าประมุขวิหารเงาจันทรา เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วลั่น ไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าการพุ่งเข้าไปทุบขวดนั้นให้แตกกระจาย!
ประมุขวิหารเงาจันทราหยิบขวดยาจากมือของจวินอู๋เสียเขาเงยหน้ามองจวินอู๋เสียด้วยสายตาค้นหาและตรวจสอบ
“ฉางฮวนข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีความสามารถด้านการปรุงยาด้วย!” ประมุขเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่คุ้นเคยกับฉางฮวน แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินว่าฉางฮวนสามารถปรุงยาได้
จวินอู๋เสียตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า“ในวิหารมีผู้รักษาอยู่มากมาย ไม่เคยมีความจำเป็นต้องใช้ศิษย์เลย”
ประมุขวิหารเงาจันทราหัวเราะเบาๆนึกขึ้นได้ว่าฉางฮวนซ่อนพลังวิญญาณสีม่วงของเขาเอาไว้จากทุกคน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะไม่แสดงให้เห็นว่าเขามีความสามารถด้านปรุงยาด้วย
“ข้าเชื่อใจผู้อาวุโสอิ่งและข้าก็เชื่อใจเจ้า หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง” ประมุขวิหารเงาจันทราพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขาเปิดฝาขวดออก โอสถหิมะละลายหนึ่งเม็ดตกลงบนมือของเขา
ทันทีที่ยาตกลงมากลิ่นหอมจางๆก็กระจายเต็มห้อง กลิ่นหอมนั้นเบาบางมาก แต่ก็ยากจะมองข้าม เพียงแค่สูดกลิ่นนิดเดียว ทุกคนที่นั่นก็รู้สึกว่าหัวที่มึนงงจากการอดนอนทั้งคืนโล่งสบายขึ้นมาทันที
แม้แต่ประมุขวิหารเงาจันทรายังรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงความเจ็บปวดในหัวของเขาค่อยๆบรรเทาลงด้วยกลิ่นหอมนั้น ลดอาการปวดหัวไปได้มาก
ผลที่น่าทึ่งนั้นทำให้ทุกคนตกใจอย่างมาก
แม้ว่าทุกคนจะคิดว่าผู้อาวุโสอิ่งและจวินอู๋เสียมีความน่าเชื่อถือสูงแต่ก็ไม่มีใครคิดว่าฤทธิ์ยาจะชัดเจนขนาดนี้ แค่สูดกลิ่นก็ทำให้หัวที่มึนงงและวิงเวียนโล่งสบายขึ้นมาได้
และนั่นก็เป็นแค่กลิ่นเท่านั้นถ้าหากกินเข้าไปล่ะก็……
ทันใดนั้นทุกคนที่สงสัยเกี่ยวกับโอสถหิมะละลายก็พลันรู้สึกว่าความสงสัยของพวกเขาโดนละลายไปจนหมดสิ้น
ใบหน้าของผู้อาวุโสเยว่เปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที
ดูเหมือนประมุขวิหารเงาจันทราทนรอที่จะกลืนยาลงท้องไม่ไหวแล้วเมื่อเขากินยาเข้าไป เขาก็รู้สึกถึงความเย็นสดชื่นที่มาพร้อมกับโอสถหิมะละลายที่ไหลลงคอของเขา ความเย็นนั้นกระจายไปทั่วร่างกาย ล้างความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียให้หายไปอย่างสิ้นเชิง!
ผลจากยาที่รวดเร็วราวสายฟ้าเช่นนี้ทำให้ประมุขวิหารเงาจันทราเบิกตากว้างโดยไม่รู้ตัวเขาวางมือไว้ที่หน้าอก รู้สึกว่าความเย็นสดชื่นกระจายไปทั่วร่างราวกับกำลังแช่อยู่ในน้ำพุ ความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียหายไป และค่อยๆผ่อนคลายขึ้นทีละนิด