EG บทที่ 611 ทัศนคติตรงกัน (1/2)

 

เฝิงหยู่ยังคงนิ่งเงียบและดื่มชาในขณะที่หลี่ต้าฝูกำลังลังเล เขาอยากให้หลี่ต้าฝูตัดสินใจ แม้ว่าหลี่ต้าฝูจะตัดสินใจได้แล้ว แต่เขาก็อาจจะไม่ได้เข้าร่วมฝ่ายบริหารระดับสูง เขาจำเป็นต้องแสดงให้เฝิงหยู่เห็นว่าเขาสามารถนำพาบริษัทไปสู่จุดที่สูงขึ้นได้ อย่างน้อยเขาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองในฝ่ายรถจักรยานยนต์และรถยนต์

 

“ผู้จัดการเฝิงครับ ผมขอถามหน่อยว่าคุณจะมอบตำแหน่งอะไรให้ผมถ้าผมยอมขายบริษัทผมและมาซื้อหุ้นของคุณ?”

 

หลี่ต้าฝูไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ถือหุ้นแล้วก็ตาม แต่เขาก็อาจจะไม่ได้รับบทบาทในการบริหารจัดการก็ได้

 

“คุณต้องการตำแหน่งอะไรล่ะครับ? ผมต้องพูดกับคุณให้ชัดเจนก่อน บริษัทของเรามีผู้ถือหุ้นไม่มาก เรามีการประชุมผู้ถือหุ้นทุกไตรมาส แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่ว่าผู้ถือหุ้นทุกคนจะมาร่วมประชุม นั่นเป็นเหตุผลที่การตัดสินใจและการบริหารจัดการส่วนใหญ่ของบริษัทได้รับการตัดสินโดยผู้จัดการทั่วไป รองผู้จัดการทั่วไป และผู้อำนวยการโรงงาน เป้าหมายของคุณคืออะไรครับ?”

 

ถ้าหลี่ต้าฝูต้องการเป็นผู้จัดการทั่วไป ก็ไม่จำเป็นต้องคุยกันอีกต่อไป บทบาทของหลี่หมิงเต๋อในบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงไม่สามารถแทนที่ได้ในขณะนี้ หลี่ต้าฝูไม่มีความรู้เรื่องเครื่องจักรทางการเกษตรและเฝิงหยู่จะไม่ปล่อยให้เขาบริหารบริษัทแน่นอน

 

“ผมอยากรับผิดชอบฝ่ายรถยนต์ครับ ผมขอรองผู้จัดการทั่วไปได้หรือเปล่า?” หลี่ต้าฝูถาม

 

“ตอนนี้บริษัทมีผู้จัดการทั่วไปหนึ่งคนและรองผู้จัดการทั่วไป 5 คน ผู้ถือหุ้นอีกรายและตัวผมดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการทั่วไป โดยปกติเราไม่สนใจเรื่องการบริหารจัดการของบริษัท มีผู้ถือหุ้นอีกรายที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสหภาพแรงงาน เงินเดือนของเขาคือ 1 หยวน รองผู้จัดการทั่วไปอีก 3 คนที่เหลือทำงานใน บริษัทมาเป็นเวลานานมากและคุ้นเคยกับธุรกิจและการตลาดของบริษัทเป็นอย่างดี คุณคิดว่าคุณเหมาะสมที่จะเป็นรองผู้จัดการทั่วไปเมื่อคุณได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ?” เฝิงหยู่ถามเขากลับ พ่อของเขาอาจเป็นเพียงแค่รองประธานสหภาพคนงาน การลงทุนและการบริหารจัดการเป็นสองเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

หลี่ต้าฝูกำหนดวิสัยทัศน์เอาไว้สูงมาก ถ้าเขาเก่งจริง เฝิงหยู่ก็โอเคที่จะยอมให้เขาเป็นรองผู้จัดการทั่วไป แต่เขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนและยังอยากจะมาเป็นรองผู้จัดการทั่วไปทันทีที่ได้ร่วมงานกับบริษัท คนอื่นๆ ที่เหลือจะต้องไม่พอใจแน่ๆ

 

หลี่ต้าฝูดูออกเลยว่าเฝิงหยู่กำลังจะพูดอะไรต่อ เขาเป็นรองผู้จัดการทั่วไปไม่ได้ในตอนนี้ เฝิงหยู่ยังอยากเห็นความสามารถของเขาก่อน

 

แทนที่จะปล่อยให้คนอื่นมาซักถามเรื่องความสามารถของเขา หลี่ต้าฝูชอบที่จะพูดด้วยตัวเองมากกว่า

 

“ผู้จัดการเฝิงครับ ก่อนที่จะมาพบคุณ ผมได้ศึกษาตลาดมาแล้ว แต่ผมไม่ได้พิจารณาตลาดเครื่องจักรทางการเกษตร ผมมีมุมมองของผมเองเกี่ยวกับการพัฒนาของอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์และรถยนต์”

 

เฝิงหยู่เลิกคิ้ว หลี่ต้าฝูยอมรับเองหรอ?

 

“โอเคครับ งั้นเรามาคุยเรื่องรถจักรยานยนต์กันก่อน คุณคิดอย่างไรกับการพัฒนารถจักรยานยนต์ของเราและบอกผมว่าคุณจะพัฒนาธุรกิจของเราในอนาคตต่ไปยังไงครับ”

 

ในที่สุดพวกเขาก็ได้พูดคุยถึงเรื่องความเชี่ยวชาญของหลี่ต้าฝู หลี่ต้าฝูรู้สึกว่าเฝิงหยู่อาจจะเปลี่ยนความคิดหลังจากที่เขาบอกทัศนคติของตัวเองออกไปก็ได้ บางทีเขาอาจจะได้เข้าทำงานในบริษัทในฐานะรองผู้จัดการทั่วไป

 

“รถจักรยานยนต์ซงเจียงคันแรกคือรถจักรยานยนต์ขนาด 125 ซีซี รถจักรยานยนต์พวกนี้ถือว่าเป็นรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน นี่เป็นการพิสูจน์ว่ามอเตอร์ของซงเจียงมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในประเทศจีน การออกแบบภายนอกนั้นสวยงาม และผู้บริโภคก็ชื่นชอบ ประสิทธิภาพและการออกแบบก็ดีกว่าบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์อื่นๆ ในจีนเป็นอย่างมาก ต่อมา รถจักรยานยนต์พวกนี้มีโฆษณาทางสถานีโทรทัศน์ CCTV และได้ว่าจ้างคนดังให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ยอดขายรถจักรยานยนต์น่าจะทำกำไรได้สูงให้กับบริษัทในปีนั้น”

 

“แต่หลังจากนั้น ซงเจียงมอเตอร์ไม่ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ที่ทรงพลังมากกว่านี้ แต่กลับเปิดตัวรุ่นซงเจียง 100 ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายอื่นเริ่มต้นด้วยการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาด 50 ซีซีและค่อยๆ เพิ่มขนาดขึ้นไปเรื่อยๆ มีแต่ซงเจียงมอเตอร์เนี่ยแหละที่ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามและก็ประสบความสำเร็จด้วย! ผมพิจารณาตลาดไต้หวันและญี่ปุ่นและก็พบว่าจำนวนรถจักรยานยนต์ในประเทศพวกนั้นเหมือนกับจำนวนรถจักรยานยนต์ในประเทศจีนเลย มีหลายคนที่นั่นเต็มใจซื้อรถจักรยานยนต์ แต่ไม่อยากจ่ายค่าน้ำมัน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กจึงมีข้อได้เปรียบที่นั่น และก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงรู้สึกว่าต่อไปซงเจียงมอเตอร์ควรเปิดตัวรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดซีซีเล็กกว่าเดิม!”

 

หลังจากที่พูดแบบนี้จบลง หลี่ต้าฝูก็มองหน้าเฝิงหยู่อย่างภาคภูมิใจ เขารู้สึกว่าเขาสื่อสารทัศนคติของตัวเองออกไปได้ดีมากพร้อมกับเหตุผลที่ดีด้วย เฝิงหยู่จะต้องประหลาดใจกับสิ่งที่เขาพูดแน่ๆ ผู้ผลิตของจีนทั้งหมดกำลังพยายามผลิตรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและไม่มีใครผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก

 

แต่หลี่ต้าฝูก็เห็นว่าเฝิงหยู่ยังคงมีสีหน้านิ่งอยู่ เฝิงหยู่ไม่แปลกใจกับคำแนะนำของเขาเลย หรือว่ามีคนจาก บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงเคยแนะนำแบบนี้เอาไว้แล้ว?

 

เฝิงหยู่ก็ดีใจที่หลี่ต้าฝูคิดถึงเรื่องนี้ เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากในชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ แผนการของหลี่ต้าฝูก็เหมือนกับที่เฝิงหยู่เคยบอกกับหลี่หมิงเต๋อเอาไว้เมื่อก่อน พวกเขาจะเปิดตัวรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กลงในปีนี้ แบบตัวอย่างของรถจักรยานยนต์ก็เสร็จสมบูรณ์แล้วด้วย ซึ่งก็คือรุ่นสกู๊ตเตอร์ขนาด 50 ซีซีและตั้งเป้าไปที่ตลาดของผู้หญิง

 

หลี่หมิงเต๋อและคนอื่นๆ สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขารู้สึกว่าควรเปิดตัวรถจักรยานยนต์ 3 ล้อมากกว่าและตั้งเป้าไปที่หมู่บ้าน รถจักรยานยนต์ 3 ล้อสามารถนำไปใช้บรรทุกสิ่งของได้ และก็น่าจะขายดี สกูตเตอร์กับตลาดผู้หญิงเนี่ยนะ? แบบนี้จะประสบความสำเร็จหรอ?

 

ปัจจุบันจีนยังคงมีความคิดว่าผู้ชายควรออกไปทำงานและผู้หญิงควรอยู่บ้าน ผู้ชายหลายคนยังไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์เลย แล้วทำไมพวกเขาจะต้องใช้เงินซื้อรถจักรยานยนต์ให้ผู้หญิงด้วยล่ะ?

 

แต่เฝิงหยู่รู้ว่ายอดขายของสกูตเตอร์จะสูงมากจนน่าตกใจในอนาคต หากพวกเขาไม่ได้เปิดตัวสกูตเตอร์ตอนนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดตัวก่อนในปีหน้า จากนั้นซงเจียงมอเตอร์จะถูกแซงไปอีกก้าวอีกครั้ง แม้ว่ายอดขายสกู๊ตเตอร์ในปีนี้จะไม่สูง แต่ซงเจียงมอเตอร์ก็จะไม่ขาดทุน อยู่ที่ว่าจะได้กำไรมากหรือน้อยเท่านั้นเอง

 

รถจักรยานยนต์ 3 ล้อก็เป็นทิศทางที่ดีเช่นกัน เฝิงหยู่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้และบอกให้หลี่หมิงเต๋อไปหาคนมาออกแบบสายการผลิต ปัจจุบันพวกเขามีสายการผลิตไม่เพียงพอ และต้องขยายบริษัท บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงมีเงินทุนเพียงพอที่จะสร้างโรงงานสาขาเพิ่มเติม พวกเขาสามารถเข้าซื้อโรงงานของแบรนด์รถจักรยานยนต์อื่นๆ ได้เสมอ

 

เฝิงหยู่รู้เกี่ยวกับการมองการณ์ไกลของหลี่หมิงเต๋อในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่สำหรับเขาแล้ว การที่เขาเสนอความคิดเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ 3 ล้อได้แค่นี้ก็ดีพอแล้ว และเฝิงหยู่ก็พอใจมาก

 

“แล้วคุณคิดยังไงกับตลาดของรถจักรยานยนต์ 3 ล้อครับ?” เฝิงหยู่ถาม

 

“รถจักรยานยนต์ 3 ล้อ? นั่นคือการกำหนดเป้าหมายโดยมุ่งเน้นไปที่เขตและหมู่บ้านส่วนใหญ่ การใช้งานหลักของรถจักรยานยนต์พวกนี้คือเอาไว้ขนส่งสินค้า จึงควรมุ่งเน้นเป้าหมายไปที่หมู่บ้าน ถ้าคุณจะเอามาขายในเมือง คุณสามารถสร้างส่วนกำบังเข้าไป และจะได้เอามาใช้เป็นแท็กซี่ได้” หลี่ต้าฝูคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูด

 

ดวงตาของเฝิงหยู่เป็นประกาย หลี่ต้าฝูมีความคิดที่จะแทนที่รถแท็กซี่ด้วยรถจักรยานยนต์ 3 ล้อ ขนาดหลี่หมิงเต๋อและคนอื่นๆ ยังไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย รถจักรยานยนต์ 3 ล้อกลายมาเป็นที่นิยมก็เพราะว่าสามารถเอามาใช้แทนรถแท็กซี่ได้ ผู้คนเรียกว่า “รถโบราณ” และราคาก็ถูกกว่าและช้ากว่าแท็กซี่ หลายเขตและเมืองที่ยากจนใช้รถจักรยานยนต์พวกนี้เพื่อแทนที่รถแท็กซี่

 

ในตอนแรก เจ้าหน้าที่ไม่ได้บอกว่ารถจักรยานยนต์ 3 ล้อพวกนี้ถูกกฎหมายหรือไม่ แต่เมื่อรถแท็กซี่ที่ใช้รถจักรยานยนต์ 3 ล้อเพิ่มจำนวนขึ้น เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาปราบปราม แต่หลายเขตก็ยังมีรถจักรยานยนต์พวกนี้วิ่งบนถนนอยู่

 

แม้ว่ารถจักรยานยนต์พวกนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นรถแท็กซี่ แต่ก็ยังเคยนำไปใช้เป็นรถตู้สินค้าขนาดเล็ก ซึ่งยังเป็นที่นิยมมาก เฝิงหยู่ค่อนข้างประหลาดใจที่หลี่ต้าฝูมีความคิดถึงแบบนี้!

 

แค่ประเด็นนี้เรื่องเดียว เฝิงหยู่ก็อยากได้ตัวหลี่ต้าฝูมาทำงานด้วยแล้ว และให้เขารับผิดชอบเรื่องธุรกิจจักรยานยนต์ เขาเหมาะสมกว่าหลี่หมิงเต๋อและรองผู้จัดการทั่วไปคนอื่นๆ อีก!