Chapter 138: แปรธาตุ

 

ที่ชายแดนตะวันตกของรัฐโจว มีภูเขาเพลิงที่ทอดยาวออกไปไม่รู้จบซึ่งขัดขวางมนุษย์ทุกคนที่เห็นพวกมัน อันที่จริง แม้กระทั่งเซียนบางคนก็ไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยซ้ํา

 

เนื่องจากความจริงที่ว่าควันนั้นกําลังฟังเหนือภูเขาเพลิงบรรยากาศจึงเบาบางและพวกที่มีระดับการฝึกตนต่ําก็คงจะหลงทางได้ง่ายๆ

 

ถ้าพวกเขาไม่ออกจากภูเขาเพลิง พลังปราณของพวกเขาก็จะไม่สามารถต้านทางก๊าซที่ลุกไหม้ได้และพวกเขาก็คงจะตายในที่สุด

 

“มีแร่เพลิงดําอยู่ด้านใต้ทางซ้ายแร่เพลิงดํา +1

 

“มีแร่เหล็กดวงดาวลึกลับที่ด้านหลังทางขวาแร่เหล็กดวงดาวลึกลับ+1

 

ด้วยการใช้ระบบ เฉินเฉินได้ทําการเก็บแร่มากมายตั้งแต่ที่เขามาถึงเทือกเขาเพลิง ในความคิดของเขาพวกมันจะเป็นอาหารสําหรับทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาในอนาคต

 

ในขณะที่มองเทือกเขาเพลิง เฉินเฉินก็รู้สึกสยองขึ้นมาและหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบชุดคลุมขนฟีนิกซ์ที่ได้รับจากเจ้าสํานักวิหคสีชาดออกมา

 

แม้ว่าชุดคลุมนี้จะดูหวานแหววไปหน่อย แต่มันมีความสามารถในการต้านทานไฟที่แข็งแกร่ง

 

หลังจากที่สวมชุดคลุมขนฟีนิกซ์ ความรู้สึกแสบร้อนก็ลดลงไปอย่างมาก

 

เฉินเฉินอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ ถ้าท่านอาจารย์มีคนรักมากขึ้นก็จะไม่มีอันตรายอะไรสําหรับข้าอย่างมากที่สุดเขาก็แค่ถูกตีหน้าว่าเป็นผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง

 

“หึหึ

 

เฉินเฉินหัวเราะคิกคักแล้วเริ่มมองหาภูเขาไฟลูกที่ 32

 

แม้ว่าเทือกเขาเพลิงจะถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟ แต่พลังปราณที่นี่มีอยู่น้อย มันไม่ใช่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สําหรับเซียนที่จะฝึกวิชาไฟเลย

 

แม้กระทั่งเฉินเฉินที่มีร่างกายจิตวิญญาณโดยกําเนิดก็ยังรู้สึกว่าการฟื้นฟูพลังปราณของเขาในสภาพอากาศแบบ นี้เป็นเรื่องที่ยากโดยส่วนใหญ่นั้น เขาจะพึ่งพาพลังปราณที่เขาเก็บเอาไว้ในร่างกายของเขา

 

ไม่นานนัก เขาก็พบภูเขาไฟลูกที่ 32

 

ภูเขาไฟลูกนี้สูงแค่หนึ่งร้อยเมตร แต่ว่าภูเขาทั้งลูกเป็นสีแดงเข้ม จนดูเหมือนกับเตาหลอมขนาดยักษ์ที่มีอุณหภูมิสูงจนน่าหวาดหวั่น

 

“ระบบ ทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาอยู่ที่ไหน?”

 

“ 48 เมตรตรงหน้าท่าน”

 

เมื่อได้ฟังคําตอบของระบบ เฉินเฉินก็ถึงกับพูดไม่ออกสี่สิบแปดเมตรตรงหน้าเขาคือจุดที่ภูเขาไฟที่ว่าตั้งอยู่ถ้าเขาไปที่นั่นเขาก็คงตายอย่างแน่นอน

 

เห็นได้ชัดว่าทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญานั้นไม่ได้คิดที่จะยอมให้คนอื่นหยิบมันไป และต่อให้คนๆนั้นอยากได้มันพวกเขาก็จะต้องผ่านสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายสุดๆนี้

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฉินเฉินก็ถอนหายใจในขณะที่ความ มุ่งมั่นปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

 

ในฐานะนายน้อยสํานักอสูร เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสําหรับเขา

 

“ระบบ บอกข้ามาซิ ส่วนไหนที่มีอุณหภูมิต่ํากว่าส่วนอื่นๆ?”

 

“สามสิบเมตรทางซ้ายของท่านค่ะ”

 

เมื่อได้ฟังคําตอบของระบบ เฉินเฉินก็กัดฟันแน่นและร่างกายของเขาก็ค่อยๆเปล่งแสงสีทองออกมา

 

เขาอยู่ที่ระดับสามของวิชาร่างทองคําเก้าโคจร และด้วยชุดคลุมอันทรงพลังที่สวมอยู่นี่ เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถพิชิ ตภูเขาลูกเล็กๆนี้ได้!

 

สิบนาที่ผ่านไป

 

ร่างของคนๆหนึ่งที่ถูกปกคลุมด้วยไฟก็พุ่งออกมาจากปล่องภูเขาไฟและบินไปทางตะวันออกโดยไม่พูดอะไรซักคํา

 

ในวินาทีต่อมา ภูเขาไฟทั้งลูกก็แตกออก และจระเข้เพลิงน่ากลัวลําตัวยาวหนึ่งร้อยเมตรและพร้อมกับปากที่ยาวเกือบ 50 เมตรก็โผล่ออกมาจากลาวาพร้อมเสียงคํารามดังสนั้น

 

เมื่อได้ยินเสียงข้างหลังเขา เฉินเฉินไม่กล้าที่จะหันหลังกลับไปมองเลย

 

มันน่ากลัวเกินไป และจระเข้ไฟตัวนี้ก็น่าจะอยู่ระดับก่อกําเนิดวิญญาณเป็นอย่างน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเอาเอาสมบัติสวรรค์บางส่วนออกมาใช้หลอกล่อมันเฉิน เฉินก็อาจจะตายที่นั้นไปแล้ว

 

โชคดีที่เขาสามารถเอาทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญามาได้

 

ในตอนที่สัมผัสถึงวัตถุลูกบาศก์สีม่วงที่กําลังเปล่งแสงออกมาในแหวนเก็บของเฉินเฉินก็รู้สึกพึงพอใจ

 

เหมือนกับเขา ทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญามีนิสัยค่อนข้างเถรตรง

 

ไม่เพียงแค่มันจะไม่ซ่อนตัว มันยังไม่ได้แปลงเป็นรูปร่า งแปลกๆด้วยมันแค่ตั้งอยู่บนหัวของเจ้าจระเข้นั่นเหมือนกับกําลังบอกให้คนอื่นลองเข้ามาเอาดูสิ

 

“ไม่แปลกใจเลยที่มันเป็นสมบัติที่เข้ากับข้า ข้าขอบนิสัยนี้นับจากนี้ไปเจ้าจะติดตามข้า ข้าจะพาเจ้าไปสํารวบอวกาศเอง” เฉินเฉินยิ้มและพูดกับทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาที่อยู่ในแหวนเก็บของ

 

ทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาแทบจะไม่ได้ตอบสนองอะไรแต่ในคู่ต่อมามันก็สั่นและดูเฉื่อยชา

 

เวลาผ่านมาสองวันแล้วตั้งแต่ที่เขากลับมายังสาขาที่หนึ่งของสํานักอสูรหลังจากพ้นคืนนี้ เขาจะออกจากรัฐจิน

 

เฉินเฉินไม่ได้รีบร้อนไปหาหัวหน้าสาขาอาวุธ แต่เขาไปหาโจวเหรินหลงแทนเพื่อแจ้งให้เขาทราบเกี่ยวกับเรื่องหินทอ งคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาเช่นเดียวกับแผนการของเขาในการสร้างสมบัติประจําตัว

 

โจวเหรินหลง ที่ต้องชดใช้ด้วยการถูกขังอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งร้อยปีเนื่องจากไปสืบหาสาเหตุการตายของศิษย์หลายคนเมื่อสิบปีก่อนนั้นเป็นคนที่มีหลักการอย่างเห็นได้ชัด เขาคิดว่าโจวเหรินหลงคงไม่ชิงของของเขาไป

 

นอกจากนี้ ในฐานะเจ้าสํานัก โจวเหรินหลงควรจะตอบสนองต่อคําขอของเขาสําหรับเรื่องสมบัติประจําตัว

 

ซึ่งความจริงก็คล้ายกับที่เขาคิดเอาไว้ หลังจากที่ได้ยินเขาพูดถึงทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญา สายตาของโจวเหรินหลงก็เป็นประกายขึ้นมาอย่างกะทันหันและเขาก็ โยนแหวนเก็บของวงหนึ่งให้เฉินเฉิน

 

“สภาพแวดล้อมในสํานักอสูรนั้นเลวร้ายและพวกเราก็ขาดแคลนสมบัติสวรรค์ แต่ว่าพวกเรามีวัตถุ ดิบและอุปกรณ์มากมายสําหรับการขัดเกลานี่คือของสะสม ที่ข้าเก็บรวบรวมมาหลายสิบปี มันมีทั้งสมบัติเวทมนตร์ที่ข้าชิงมาหลังจากที่ฆ่าคนไปในอดีตด้วย รับไปซะสิ

 

“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ใช้วัตถุดิบศักดิ์สิทธิ์พวกนี้อย่างสูญเปล่านะ ไม่ใช่ทุกคนในโลกนี้ที่สามารถหาสมบัติสวรรค์ตามความต้องการของตัวเองได้”

 

เฉินเฉินรับแหวนเก็บของมา และเขาก็ได้เห็นภูเขาวัตถุดิบขัดเกลาอยู่ข้างใน และอดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้

 

“เซียนวิญญาณแก่นแท้คนนี้รวยไม่เบาเลย! สมบัติของเขามากกว่าข้าเกือบสิบเท่าได้

 

หลังจากที่ขอบคุณเขา เฉินเฉินก็เตรียมตัวลาแต่โจวเหรีนหลงคิดถึงเรื่องอื่นด้วย

 

ในตอนที่หันไปหาโจวเฟิงกับโจวฉานที่อยู่ไม่ไกลเขาก็พูดขึ้น “พวกเจ้าตามจางเฉินไปดูเตี้ยกวงหัวหน้าสาขาอาวุธด้วยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ”

 

เมื่อได้ฟังคําพูดของเขา หัวใจของเฉินเฉินก็หดหู

 

“เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเหรอ? หมายความว่ายังไงกัน? หัวหน้าสาขาอาวุธจะปล้นข้ารึไง?”

 

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตอนนี้มีโจวฉานกับโจวเฟิงตามมากับเขาด้วยก็คงไม่มีอะไรให้ต้องกังวล

 

พวกเขาทั้งสามมาถึงที่พักของหัวหน้าสาขาอาวุธและเฉิน เฉินก็อธิบายจุดประสงค์ในการมาอย่างรวบรัด

 

ในตอนที่เที่ยกวงได้ยินคําว่าทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก แต่เฉินเฉินรู้สึกว่าหัว โล้นๆของเขากําลังเปล่งประกายแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจว่าเขาหลอนไปเองรึเปล่าก็ตาม

 

ในตอนที่โจวฉานกับโจวเพิ่งเห็นว่าเที่ยกวงไม่ค่อยมีปฏิกิริยาอะไร ใบหน้าของพวกเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาและพวกเขาก็จับจ้องไปที่เตี้ยกวงไม่กล้าขยับไปไหน

 

“หัวหน้าสาขาเตี้ย สาขาที่หนึ่งเองก็มีโรงกลั่นเฉพาะอยู่เหมือนกัน ท่านไปที่นั่นกับพวกเราดีกว่าครับ” โจวเฟิงพูดขึ้นมาในจังหวะนี้

 

เที่ยกวงพยักหน้า ไม่กล้าที่จะคัดค้านอะไร ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงโรงแปรธาตุของสาขาที่หนึ่ง

 

มีค่ายกลพิเศษบางอย่างติดตั้งไว้ที่นี่ และพลังปราณเพลิงก็หนาแน่นมาก นอกจากนี้ มันยังมีเตาหลอมทองขนาดยักษ์ที่กินพื้นที่มหาศาลด้วย

 

เมื่อเห็นเตาหลอมทองนี้ เที่ยกวงก็ยิ้มและจากนั้นก็ชี้ไป ทางนั้นและในเวลาต่อมานั้นเองเปลวเพลิงก็เริ่มพวยพุ่งในเตาหลอม

 

ในเวลาเดียวกันนั้น วัตถุแปลกๆที่เหมือนหม้อก็ปรากฏขึ้นเหนือเตาหลอมทอง ปากหม้อนั้นเอียงเล็กน้อย และโลหะเหลวที่กําลังเดือดปุดๆก็ตกลงไปในเตาหลอมเหมือนกระแสน้ํา

 

“หม้อนี้มันคือสมบัติประจําตัว”

 

เมื่อสัมผัสถึงความผันผวน เฉินเฉินก็อึ้งเล็กน้อยมันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคนสร้างสมบัติประจําตัวเช่นนี้

 

“เจ้าหนู เลิกเอาแต่มองแล้วใส่ทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาเข้าไปได้แล้ว” เที่ยกวงพูดอย่างเฉยเมยในตอนที่เขาเห็นว่าเตาหลอมดูเหมือนจะกําลังเปลี่ยนเป็นลาวา

 

ในตอนนี้เอง โจวเฟิงกับโจวฉานก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่พวกเขายืนอยู่ข้างเตี้ยกวง เหมือนกับว่าพวกเขาพร้อมโจมตีทุกเวลา

 

“พวกเจ้าสองคนเป็นบ้าอะไรเนี่ย? พวกเจ้าทําให้ข้าเกรงอยู่นะ!”

 

ในขณะที่มองยอดฝีมือระดับก่อกําเนิดวิญญาณที่กําลังหวั่นเกรงเฉินเฉินก็สบถอย่างหงุดหงิดในใจ “เจ้าก็ แค่ขัดเกลาสมบัติต้องทําแบบนี้ด้วยเหรอ!?!

 

แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็หยิบทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาออกมาจากแหวนเก็บของแล้วหย่อนเข้าไปในเตาหลอมของเขา

 

ไม่นานนัก บรรยากาศแปลกๆก็เกิดขึ้น แสงศักดิ์สิทธิ์ในหินหนืดค่อยๆเคลื่อนตัวมาหาทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาอย่างรวดเร็วและไม่นานนักเศษโลหะปริมาณมหา ศาลก็ปรากฏขึ้นที่ขอบเตาหลอม เห็นได้ชัดว่า มันคือโลหะตกค้างจากที่ทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาดูดกลืนไป

 

“มันคือทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาจริงๆด้วย!”

 

เที่ยกวงพึมพํา แหวนเก็บของของเขาสว่างขึ้นในขณะที่วัตถุดิบขัดเกลาและสมบัติเวทมนตร์จํานวนนับไม่ถ้วนลอยออกมาไม่รู้จบมันใช้เวลาไม่นานก่อนที่พวกมันจะ ถูกเติมเข้าไปในเตาหลอมจนปริ่ม!

“นี่มัน…”

 

สายตาของเฉินเฉินเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

 

วัตถุดิบขัดเกลาที่หัวหน้าสาขาให้เขานั้นน่าจะไม่ได้ด้อยไปกว่าสิ่งที่โจวเหรินหลงให้เขามาเลย

 

“คนๆนี้เป็นคนที่ใจกว้างขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงใช่ไหม?”

 

ในขณะที่กําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น แสงของทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาก็เปล่งประกายอีกครั้งและทั้งเตาหลอมก็สั่นอย่างรุนแรงในครูต่อมาสมบัติและวัตถุดิบขัดเกลาก็เปลี่ยนเป็นเขม่าดําและโลหะตกค้าง

 

ทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญา ซึ่งตอนแรกเป็นสีม่วงได้กลายเป็นสีส้มและกําลังเปล่งความผันผวนที่ทําให้หัวใจเต้นแรงออกมา!

 

“เจ้าหนู เจ้าเองก็มีสมบัติใช่ไหม? เอาพวกมันใส่ ไปให้หมดถ้าเจ้าพลาดโอกาสนี้ไป การที่ทองคําศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาจะได้ดูดกลืนวัตถุดิบอื่นๆอีกในอนาคตก็คงจะไม่ ง่ายแล้วเพราะในตอนนั้นมันคงจะไม่สามารถทําลายได้ และไม่มีใครในรัฐโจวหรือรัฐจินที่สามารถขัดเกลามันได้!”

 

น้ําเสียงของกวงเยือกเย็น แต่หัวโล้นๆของเขาเปล่งประกายยิ่งขึ้น!