ตอนที่ 741 หลู่เยว่เยว่
“หม่อมฉันชื่อหลู่เยว่เยว่ เป็นบุตรีของอัครมหาเสนาบดี” สตรีนางนี้เห็นฟางหลิงซู่มีท่าทีเปลี่ยนไปจึงรีบคุกเข่าลงและตอบตามความจริงทันที พวกนางไม่มีใครเคยพบพระชายาของประมุขเผ่ามาก่อนและมิรู้ว่าพระชายามีรูปโฉมอย่างไร
แต่หลู่เยว่เยว่เป็นคนฉลาด พอได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของฟางหลิงซู่แล้ว นางก็รู้ได้ทันทีว่าพระชายาประมุขเผ่าที่ลึกลับผู้นั้นจะต้องมีรูปโฉมเหมือนนางมากเป็นแน่ถึงทำให้เขามีท่าทีเยี่ยงนี้
“หลู่เยว่เยว่ ? ” ฟางหลิงซู่ยังจำได้ว่าในรายชื่อเหล่านั้นมีชื่อของนางอยู่จริงจึงมิได้กล่าวอันใด เพียงพยักหน้าให้เท่านั้น หากมิได้เป็นเพราะแววตาของนางต่างจากอันหลิงเกอ เขาก็คงแยกทั้งสองคนมิออก
“เจ้าเข้าไปอยู่ในวังหลังก็แล้วกัน ส่วนสตรีคนอื่นให้พวกขันทีเลือกไว้สักสองสามคนก็พอ นอกเหนือจากนั้นก็ให้ออกไปทั้งหมด” ฟางหลิงซู่มิอยากเสียเวลากับสตรีพวกนี้มากนัก แต่สำหรับหลู่เยว่เยว่คนนี้ทำให้เขาคิดแผนการบางอย่างออก
“ต่อไปเจ้าจงมาที่ห้องทรงพระอักษร ข้าจักรอเจ้าที่นั่น” เมื่อได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าของหลู่เยว่เยว่ก็แดงก่ำขึ้นมาทันที ตอนนี้นางอายุ 20 ปีแล้วแต่มิเคยมีความรักมาก่อน พอเห็นการกระทำของฟางหลิงซู่ในเวลานี้จึงเป็นธรรมดาที่นางจะรู้สึกเขินอายเอามาก
ขณะมองหลู่เยว่เยว่เดินจากไป ดวงตาของฟางหลิงซู่ก็หรี่ลง หากเขาใช้นางล่อลวงมู่จวินฮานก็จะมิสูญเสียอันหลิงเกอไปและสามารถใช้เรื่องนี้จัดการมู่จวินฮานได้ด้วย
ฟางหลิงซู่กลับไปที่ห้องทรงพระอักษรเพื่อรอหลู่เยว่เยว่ ผ่านไปมินานเสียงรายงานการมาถึงของหลู่เยว่เยว่ก็ดังขึ้น นางที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูช่างมีท่าทางเหมือนอันหลิงเกอยิ่งนัก
เพียงตัวอันหลิงเกอในเวลานี้มีรูปร่างซูบผอม ส่วนหลู่เยว่เยว่ดูสุขภาพดี มองจากภายนอกแล้วมีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่แตกต่างกัน แต่เขาเชื่อว่าหลังอันหลิงเกอฟื้นตัวแล้ว ทั้งสองคนจะต้องเหมือนกันราวกับแกะ
“เจ้ายินดีทำเพื่อข้าและเพื่อเผ่าปิงชวนหรือไม่ ? ” ฟางหลิงซู่กล่าวกับหลู่เยว่เยว่ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง นางดูมิใช่คนขี้ขลาดและน่าจะพอแบกรับหน้าที่ไว้ได้
หลู่เยว่เยว่ได้ยินเช่นนี้ก็มีท่าทางลังเลเล็กน้อยเพราะฟางหลิงซู่เรียกนางมาที่นี่ แล้วแววตาของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใด นางจึงรู้ว่าเขาต้องการใช้ประโยชน์จากตนเท่านั้น
เมื่อนางได้ตริตรองเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแล้วก็คิดได้ว่าบทบาทของสตรีไม่มีอันใดมากไปกว่าการแต่งงาน สำหรับนางแล้ว ให้แต่งกับผู้ใดก็เหมือนกันหมดเพราะมันถูกกำหนดโดยผู้อื่น
“ขอเพียงเจ้าตอบตกลง ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนคนในครอบครัวและเหมือนเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง ฐานะของเจ้าก็จะถูกแต่งตั้งเป็นพระชายาประมุขเผ่า” คำกล่าวนี้ของฟางหลิงซู่ทำให้หลู่เยว่เยว่หวั่นไหว
ทว่าในเวลาเดียวกันหลู่เยว่เยว่ก็รู้ถึงจุดประสงค์ของฟางหลิงซู่ดีว่าเขาคงหวังให้นางทำอันใดบางอย่างแทนพระชายาประมุขเผ่าตัวจริง แต่ไม่ลองก็ไม่รู้เพราะในเมื่อผลตอบแทนมากมายเพียงนี้นางจึงเชื่อว่าตระกูลต้องเห็นด้วยแน่นอน
เมื่อคิดได้เช่นนี้แล้วหลู่เยว่เยว่จึงพยักหน้ารับ จากนั้นฟางหลิงซู่ก็เหลือบมองนางครู่หนึ่งแล้วบอกให้นางออกไปก่อน เพราะเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าสตรีคนนี้จะตอบตกลงและรู้ว่านางฉลาดพอ
จากนั้นเวลาก็ล่วงเข้าสู่ยามราตรี ฟางหลิงซู่สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง
เดิมทีเขาอยากไปจัดการกับพวกสนมคนใหม่ แต่พบว่ามีร่างของคนผู้หนึ่งอยู่ในตำหนักของอันหลิงเกอ
เมื่อเห็นเช่นนี้ฟางหลิงซู่จึงแอบไปทางด้านหลังตำหนักอย่างเงียบ ๆ เพื่อมิเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้วมองเข้าไปในตำหนักก็พบกับรอยยิ้มอันสดใสของอันหลิงเกอ
เวลาที่นางอยู่กับเขา นางมิเคยยิ้มอย่างมีความสุขเพียงนี้มาก่อน เวลานี้คนที่กำลังหันหลังให้มิใช่มู่จวินฮานหรือไร ? เป็นเหตุให้ฟางหลิงซู่กำหมัดแน่นทันที
ผ่านไปมินานเขาก็คลายมือออกพร้อมฉีกยิ้มร้ายกาจออกมา ในเมื่อมู่จวินฮานเข้ามาติดกับเองก็อย่ามาโทษเขาแล้วกัน จากนั้นเขาก็มิได้ทำอันใดต่อ เพียงหันหลังเดินออกมาเท่านั้น
ต่อจากนั้น วันแล้ววันเล่าฟางหลิงซู่ก็ยังมาลอบมองการไปมาหาสู่ของมู่จวินฮานและอันหลิงเกอ ตัวเขามิได้เข้าไปห้ามเพียงแค่จดจำช่วงเวลาและรอโอกาสเท่านั้น
ฟางหลิงซู่รู้ดีว่าหากสังหารมู่จวินฮานในตำหนักเช่นนี้ก็ยังมีองครักษ์เงาและชิงเฟิงผู้นั้นที่จะมาช่วยอันหลิงเกอไปจากเขาได้ อีกทั้งอันหลิงเกอก็จะโกรธแค้นเขาตลอดไป ดังนั้นจึงเป็นการได้มิคุ้มเสีย
สิ่งที่เขาต้องการคือทำให้อันหลิงเกอตัดใจได้อย่างเด็ดขาด ทำให้นางรู้ว่ามู่จวินฮานทิ้งนางไป เมื่อคิดได้เช่นนี้ฟางหลิงซู่ก็คลี่ยิ้มแล้วเดินจากไปเพราะรู้ว่าแผนของตนจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน
หกวันหลังจากนั้นฟางหลิงซู่ได้จัดงานเลี้ยงสำหรับอันหลิงเกอขึ้นมาซึ่งงานนี้ได้จัดเตรียมไว้นานแล้ว เวลาเดียวกันก็ให้หลู่เยว่เยว่เข้าไปอยู่ในห้องของอันหลิงเกอ เดิมทีบุคลิกของหลู่เยว่เยว่ก็เหมือนอันหลิงเกอราวกับเป็นคนเดียวกัน เพียงแต่นางจะดูเชื่อฟังกว่าอันหลิงเกอหน่อยเท่านั้น
เป็นธรรมดาที่ฟางหลิงซู่จะสั่งให้องครักษ์ไปอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เขามิได้เตรียมไว้ซุ่มโจมตีมู่จวินฮาน แต่เตรียมไว้เพื่อให้รายงานความเคลื่อนไหวของมู่จวินฮานแก่เขาเท่านั้น
ส่วนในเวลานี้ฟางหลิงซู่ก็พาอันหลิงเกอมาในงานเลี้ยง เห็นได้ชัดว่านางดูกระวนกระวายพอสมควร และฟางหลิงซู่ก็ทราบสาเหตุดี แต่มิได้กล่าวอันใดออกมา
อันหลิงเกอไม่รู้ว่าฟางหลิงซู่ได้เห็นนางพลอดรักกับมู่จวินฮานแล้ว นางคิดแค่ว่างานเลี้ยงครั้งนี้เป็นเหตุบังเอิญและจัดขึ้นเพื่อเหล่าสนมก็เท่านั้น
ในเวลาปกติฟางหลิงซู่จะช่วยปฏิเสธแทนนางเพราะรู้ว่านางมิชอบงานรื่นเริง แต่คราวนี้มิได้ทำเพราะเขาอยากให้อันหลิงเกออยู่ที่นี่นาน ๆ ส่วนมู่จวินฮานจะได้อยู่กับหลู่เยว่เยว่และติดกับดักของเขา
เวลาเดียวกันนั้นมู่จวินฮานก็มาอยู่ที่หน้าห้องของอันหลิงเกอแล้วจริง ๆ ทุกอย่างเป็นเหมือนปกติคืออันหลิงเกอยังจุดตะเกียงเพื่อรอการมาของเขา
มู่จวินฮานเข้ามาในห้องก็เห็นอันหลิงเกอกำลังนั่งอยู่บนเตียง วันนี้แสงตะเกียงค่อนข้างสลัวแต่ในสายตาของเขาเห็นว่าอันหลิงเกอมิได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
เพื่อทำงานให้ฟางหลิงซู่แล้วช่วงหลายวันมานี้หลู่เยว่เยว่ต้องทานให้น้อยลงและตอนนี้ตัวนางก็ดูสั่นเทาเล็กน้อย มู่จวินฮานเห็นอันหลิงเกอเป็นเช่นนี้ก็ทำใจมิได้และอยากพานางหนีไปเสียครั้งนี้เลย
“เกอเอ๋อ เราหนีออกไปคืนนี้เลยดีหรือไม่ ? ” เป็นธรรมดาที่มู่จวินฮานจะยังเลือกถามความเห็นจากอันหลิงเกอเพราะหากตอนนี้ร่างกายของนางยังมิพร้อม มู่จวินฮานก็ไม่มีทางทำอันใดที่บุ่มบ่ามแน่นอน
“จวินฮาน ตอนนี้ยังอันตรายเกินไป ข้ามิเป็นไรหรอก แค่ได้พบหน้าท่านทุกวันก็มีความสุขมากแล้ว” ก่อนหน้านี้ฟางหลิงซู่สอนพูดเรื่องพวกนี้แล้วนางก็ได้เรียนรู้พฤติกรรมของอันหลิงเกอมานาน ตอนนี้จึงมิได้ทำให้มู่จวินฮานเกิดความสงสัยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นมู่จวินฮานก็ดึงตัวนางเข้าสู่อ้อมกอด การกระทำที่กะทันหันนี้ทำให้หลู่เยว่เยว่ใจเต้นรัว นางมิเคยอยู่ใกล้ชิดกับบุรุษเท่านี้มาก่อนจึงเป็นธรรมดาที่จะตื่นตกใจ
แม้มู่จวินฮานเห็นว่านางตื่นตกใจแต่คิดแค่ว่านางเป็นห่วงความปลอดภัยของเขาเท่านั้น เพราะผู้ใดก็คงมิคิดว่าจะมีคนที่เหมือนกันมากเพียงนี้อยู่ในใต้หล้า ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่เสียงพูดก็ยังเหมือนด้วย
มู่จวินฮานกอดหลู่เยว่เยว่อยู่อย่างนั้น อย่างไรเขาก็มิยอมปล่อยมือและเวลานั้นองครักษ์ที่ประจำอยู่ในสวนดอกไม้ก็รายงานให้ฟางหลิงซู่รับรู้
ตอนนี้ฟางหลิงซู่ดูมีความสุขมาก อันหลิงเกอจึงมิได้คิดอันใดเพราะการที่เขาคัดเลือกสนมเช่นนี้ก็น่าจะทำให้นางอยู่อย่างเป็นสุขไปได้อีกนาน ส่วนฟางหลิงซู่พอฟังองครักษ์รายงานเสร็จแล้วก็กระซิบออกคำสั่งไปเบา ๆ