ตอนที่ 613: ผนึกวิญญาณร้าย

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 613: ผนึกวิญญาณร้าย

 

“ไม่ทราบว่าที่ฝ่าบาทมาที่นี่เพราะเรื่องอะไรหรือเพคะ?”

 

ไป๋อวี่เหลียนถามอยู่ด้านข้างด้วยความเคารพ ขณะที่ในใจรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก หากไม่ได้มาเพราะอวชี เชี่ยน งั้นจริงๆ แล้วมาเพราะเรื่องอะไร? หรือว่าจะมีใครไปหาเรื่องมหาจักรพรรดิเทียนหยุนจริงๆ ?

 

“ไม่ต้องกังวล ข้ามาที่นี่เพื่อหาสมบัติ” อี้เทียนหยุนตอบออกไปตรงๆ

 

เขาต้องขุดที่นี่ ซึ่งเป็นการกระทําที่ไม่ใช่เล็กๆ ดังนั้นวังไปเหลียนจะต้องรู้อย่างแน่นอน และที่สําคัญคือเขา อยากจะถามวังไป๋เหลียนด้วยว่า รู้จักสมบัตินี้ไหม

 

“สมบัติ? สมบัติอะไร… สมบัติของพวกเราน่ะเหรอ?” ไป๋อวี่เหลียนพูดด้วยความประหลาดใจ “แม้พวกเราจะ มีสมบัติ แต่อย่างมากก็เป็นแค่อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขึ้นต่ํา ไม่ใช่อะไรที่จะพูดต่อหน้าฝ่าบาทได้เลย……”

 

สมบัติที่ดีที่สุดในวังไปเหลียนของพวกเธอ เป็นแค่อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่จริงๆ นี่เป็นที่สุดของพวกเธ อแล้ว สําหรับขุมอานาจชั้น 3 แล้ว แค่สามารถมีอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ําได้ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดแล้ว

 

ยังไงก็ตาม ก็เหมือนกับที่ไป๋อวี่เหลียนพูด อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ําสําหรับเขานั้น ไม่ได้มีค่าอะไรเลยจริงๆ พูดว่าไม่มีค่าอะไรเลยดีกว่า แต่ถึงจะไม่มีค่าสําหรับเขา เขาก็ยังสามารถมอบมันให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของตนได้ ซึ่งสําหรับพวกเขาแล้ว ถือว่าเป็นของดีเลยทีเดียว

 

จากคําพูดของเขานี้ หากไม่ใช่สมบัติระดับเทวะ ก็ไม่สามารถทําให้เขารู้สึกสนใจได้จริงๆ

 

“ไม่ ไม่ใช่สมบัติที่เจ้ามีอยู่ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าวังไปเหลียนของเจ้า ได้มีเหล่าบรรพชน หรือบรรพชนไท่ซ่างได้สอนหรือบอกประวัติอะไรไว้หรือเปล่า?” เทียนหยุนถาม

 

“เรื่องที่เหล่าบรรพชนบอก…” ไป๋อวี่เหลียนอยากจะพูด แต่ก็รู้สึกลังเล พวกเธอมีความลับอยู่อย่างหนึ่งจริงๆ แต่ไม่พูดออกไปน่าจะดีกว่า

 

“ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าก็จะไปเอามันออกมาเอง ที่พูดอยู่นี้ก็เพราะข้าไว้หน้าเจ้า ให้ข้าบอกอะไรเจ้าอย่าง” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “โชคดีที่คนที่มาเป็นข้า หากว่าเปลี่ยนเป็นอาณาจักรอื่น พวกเขาคงไม่มีทางมาแบบเป็นมิตรอย่างข้าแน่นอน”

 

ที่พูดนี้ก็ถูก หากเปลี่ยนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงมา วังไปเหลียนจะต้องพังพินาศอย่างแน่นอน อย่างแรกเลยคือต้องล้อมเอาไว้ จากนั้นก็ค่อยๆหา เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ จะปล่อยให้แพร่ออกไปไม่ได้เป็นอันขาด

 

สมบัติล้ําค่าของราชาศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นสมบัติชั้นยอด สามารถทําให้ขุมอํานาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์น้ําลายไหลได้ และแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเองก็ไม่ใช่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นจึงต้องทําเป็นการลับ ไม่กล้าให้โลกภายนอกล่วงรู้

 

สีหน้าของไป๋อวี่เหลียนกลายเป็นน่าเกลียด ขณะที่ในใจก่าลังดิ้นรนอยู่

 

“ที่ข้าพูดนี้ไม่ได้เป็นคําพูดที่ไร้สาระเลย เหตุผลที่ขารู้เรื่องนี้ก็เพราะว่าได้ยินมันมาจากปากของขุมอํานาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ในโลกใต้พิภพ พวกเขาต้องการค้นหาสมบัตินี้ผ่านทางอาณาจักรใต้พิภพ ไม่ว่าเจ้าจะรู้จักสมบัติชิ้นนี้หรือไม่ ยังไงก็ต้องถูกตรวจค้นอยู่ดี” เทียนหยุนพูดอย่างเฉยชา “ตอนนี้อาณาจักรใต้พิภพถูกข้าทําลายทิ้งไปแล้ว แต่ขุมอํานาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ในโลกใต้พิภพจะต้องไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน”

 

เขาไม่ใช่คนที่ชอบพูดโกหก หากว่าวังไปเหลียนกับเขาสามารถเจรจากันได้ เขาก็จะไม่ใช้กําลังบังคับอย่างแน่นอน แม้เขาจะไม่รู้ว่าสมบัตินั่นคืออะไร แต่หากว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงได้ไป คนแรกที่จะพบกับหายนะก็คืออาณาจักรเทียนหยุนของพวกเขา!

 

กระทั่งสามารถพูดได้ว่าทั่วทั้งโลกมนุษย์แห่งนี้คือถิ่นของเขา การกระทํานี้ของเขาถือว่าช่วยเหลือโลกมนุษย์ทั้งใบไว้

 

และต่อให้เขาจะได้สมบัติล้ําค่านี้มา เขาก็ไม่ใช้มันในทางที่ผิด ย่อมไม่เลือกใช้มันสร้างความเสียหายต่อโลกอย่างแน่นอน

 

“ขุมอ่านาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์…” สีหน้าไป๋อวี่เหลียนยิ่งน่าเกลียด ชื่อเสียงอันชั่วร้ายของอาณาจักรใต้พิภพ เปรียบดั่งกับฟ้าร้องกรอกหู และเมื่อคิดดูดีๆแล้ว เธอก็ถอนหายใจแล้วพูดออกมาในที่สุด “ตกลง ข้าจะบอกพระองค์ ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ท่านบรรพชนได้บอกว่าที่ด้านล่างของยอดเขาหยกขาว(ไป๋อวี่)ได้กักขังวิญญาณร้ายเอาไว้ ห้ามขุดลงไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะต้องพบกับหายนะอย่างแน่นอน!”

 

“และเพื่อที่จะสยบวิญญาณร้ายตนนี้เอาไว้ ก็จําเป็นต้องใช้ฉีหยินจํานวนมหาศาล ดังนั้น พวกเราจึงได้รับเฉพาะศิษย์ที่เป็นผู้หญิง ไม่รับศิษย์ที่เป็นผู้ชาย….”

 

รายละเอียดที่ไป๋อวี่เหลียนพูดออกมานี้ ทําเอาอวี่ชีเชี่ยนที่อยู่ใกล้ๆตกใจ ไม่คิดเลยว่าสํานักของเธอจะมีเรื่องแบบนี้อยู่

 

“ที่แท้เรื่องก็เป็นแบบนี้นี่เอง….” เทียนหยุนมีสีหน้าครุ่นคิด เรื่องนี้ก็เป็นไปได้ ส่วนที่ว่ามันจะเป็นสมบัติล้ําค่าของราชาศักดิ์สิทธิ์จริงหรือเปล่า เรื่องนี้ไว้ท่าลายผนึกดูก็รู้!

 

“ใช่ ดังนั้นจึงห้ามขุดลงไปเด็ดขาด…” จากนั้นไป๋อวี่เหลียนก็รีบพูดต่อว่า “นี่เป็นเรื่องที่ท่านประมุขคนก่อนบอกมา เป็นเรื่องที่จะส่งต่อให้กับประมุขอย่างพวกเรารู้เท่านั้น คนอื่นไม่มีใครรู้”

 

อี้เทียนหยุนพยักหน้า เรื่องนี้แน่นอนว่ายิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี ดังนั้น การที่ไม่มีใครรู้ก็เป็นเรื่องธรรมดา

 

“แล้วมีทางลงไปดูไหม?” เทียนหยุนถาม

 

“อันนี้ไม่มีจริงๆ พวกเราเองก็ไม่กล้าที่จะขุดลงไปดู ตอนนี้ด้านล่างมีสภาพเป็นยังไงแล้ว พวกเราก็ไม่รู้เช่นกัน” ไป๋อวี่เหลียนตอบ

 

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นข้าคงได้แต่สร้างทางลงไปเองแล้ว” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “แล้วก็อย่าได้ห้ามข้า ที่ถามก็เพื่ออยากจะฟังรายละเอียดดูเท่านั้น หากว่าเป็นผนึกวิญญาณร้ายจริงๆ ข้าก็จะไม่ทําลายมัน มิหนําซ้ํายังจะช่วยผนึกมันไว้อีกแรง ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ผนึกนั่นคงอ่อนแอลงไม่มากก็น้อย”

 

“หากว่าผนึกอ่อนแอลง สุดท้ายแล้วมันย่อมสร้างปัญหาขึ้นในท้ายที่สุด ต่อให้ไม่มีคนไปแตะมัน มันก็จะพังออกมาเองอยู่ดี”

 

คําพูดของเทียนหยุนพูดได้ค่อนข้างตรง ทําให้ไป๋อวี่เหลียนต้องหน้าเปลี่ยนสี เมื่อคิดดีๆ แล้วก็ควรจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ผนึกนั้นถูกบอกผ่านมาหลายรุ่น ต่อให้ผนึกจะร้ายกาจแค่ไหน ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ พลังของมันย่อมต้องอ่อนลงอย่างแน่นอน

 

นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จะต้องมีนักสลักอาคมระดับอาจารย์จํานวนมาก หรืออาจกระทั่งระดับปรมาจารย์มาช่วยกันลงผนึกรุ่นต่อรุ่น แต่ก็ด้วยเวลาที่ล่วงผ่าน จึงทําให้ผนึกค่อยๆอ่อนลง จนสุดท้ายก็หายไปไม่เหลือ

 

ซึ่งความต่างก็คือ ยิ่งอาคมระดับสูง ก็จะยิ่งด้านเอาไว้ได้นาน

 

“งั้นคงต้องรบกวนฝ่าบาทแล้ว…” ไป๋อวี่เหลียนกัดฟันพูดออกมาในที่สุด

 

เพราะต่อให้เธอจะแย้งอะไรไป สุดท้ายแล้วก็ไร้ความหมายอยู่ดี เพราะด้วยระดับของเทียนหยุนแล้ว สามารถกําจัดพวกเธอได้อย่างง่ายดาย แล้วจะให้เธอเอาอะไรไปต้าน? แต่ที่เขาพูดมานั้นก็ถูก หากว่าผนึกอ่อนลงจริงๆ นั่นคงเป็นปัญหาอย่างแน่นอน

 

“อืม หากว่าสามารถเคลื่อนย้ายได้ ระหว่างนี้ข้าจะช่วยเคลื่อนย้ายผนึกนี้ออกไปให้ เมื่อถึงตอนนั้น วังของเจ้าก็จะไม่มีอันตรายอะไรซ่อนอยู่อีก” อี้เทียนหยุนพูดออกมา

 

“จริงเหรอเพคะ…” ไป๋อวี่เหลียนตาเป็นประกาย หากว่าสามารถเคลื่อนย้ายออกไปได้จริงๆ จากนี้ไปเธอก็จะไม่ต้องรับแต่ศิษย์หญิงอีก จะได้ขยายอิทธิพลออกไปได้เสียที

 

ก่อนหน้านี้พวกเธอก็ต้องการรับศิษย์ชายเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งมาแต่ไหนแต่ไร แต่เพราะต้องคอยสยบผนึกวิญญาณร้ายเอาไว้ จึงรับได้เพียงแค่ศิษย์ผู้หญิงเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ แต่หากว่าสามารถเคลื่อนย้ายผนึกออกไปได้จริงๆ วังไปเหลียนก็จะสามารถรับศิษย์ชายเข้ามาได้ และต่อจากนี้ อํานาจของพวกเธอก็จะเพิ่มขึ้นอีกมากอย่างแน่นอน!

 

“จะได้หรือไม่ได้ก็คงได้แต่ต้องลองดู” อี้เทียนหยุนพูด “งั้นก็ขอให้ประมุขนําทางด้วย เรื่องนี้ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี”

 

พูดจบ เทียนหยุนก็หันไปหาอวชีเชี่ยน ฝ่ายหลังก็รีบพยักหน้า รู้ว่าตนต้องทําอะไร

 

“งั้น หม่อมฉันคงต้องขอตัวก่อน…” อวี่ชีเชียนรู้ตัวดี ดังนั้นจึงไม่คิดจะไปด้วย

 

เรื่องนี้ยิ่งมีคนรู้น้อยยิ่งดี สําหรับเธอที่เป็นแค่คนทั่วไป จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่สามารถตามไปได้

 

“เจ้าก็ลงไปด้วยกันกับข้า ลงไปดูด้วยกัน พรสวรรค์ของเจ้าก็ใช่ว่าจะต่ํา ไม่จําเป็นต้องไปหรอก” เทียนหยุนโบกมือแล้วพูดออกมา

 

“ขะ ขอบคุณฝ่าบาทมากเพคะ!” ในใจอว์ชิเชียนรู้สึกตื่นเต้น แม้ว่าจะยังรู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดว่ามีเทียนหยุนอยู่ ยังจะมีอะไรที่ต้องกลัวอีก