ตอนที่ 472 อีกสักพักก็จะดีขึ้นเอง / ตอนที่ 473 ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 472 อีกสักพักก็จะดีขึ้นเอง

 

 

           ฉินเพ่ยหรงหมุนตัวกลับมาเห็นเฉียวซือมู่เข้าพอดี เธอพยักหน้าเล็กน้อย “ตื่นแล้วเหรอ? กับข้าวใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวก็กินข้าวได้แล้วล่ะ”

 

 

           เฉียวซือมู่มองเธอด้วยความประหลาดใจ “ทำไมคุณแม่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ? แล้วยัง…” แล้วยังอยู่ในครัวอีกต่างหาก แม้จะดูออกว่าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นคนลงมือทำอาหารเอง แต่ท่าทางนั้นก็มากเพียงพอที่จะทำให้เธอประหลาดใจมากแล้ว

 

 

           ฉินเพ่ยหรงมองเธอแวบหนึ่ง แม้จะท่องในใจตลอดเวลาว่าอย่าถือสาคนท้อง แต่เธอก็อดโมโหไม่ได้ มีสะใภ้บ้านไหนบ้างที่นอนกินบ้านกินเมืองจนป่านนี้? แล้วดูหน้าตาเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลนั่นสิ อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนไม่สงบเสงี่ยมอีกแล้ว?

 

 

           ทำอย่างนั้นได้อย่างไร? เดี๋ยวก็กระทบกระเทือนลูกในท้องกันพอดี

 

 

           เมื่อคิดได้ดังนั้น แต่เดิมที่เคยคิดจะปั้นหน้าเป็นมิตร คราวนี้เลยปั้นไม่ออกเลย จึงได้แต่พยักหน้าสีหน้าเรียบเฉย “ฉันไม่วางใจให้คนใช้ที่นี่ดูแลเธอ ก็เลยแวะมาดูเสียหน่อย”

 

 

           เฉียวซือมู่รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที แยกกันอยู่อย่างเดิมก็ดีอยู่แล้วนี่ ทำไมต้องมาที่นี่ด้วย เธอไม่เชื่อหรอกว่าฝ่ายนั้นจะผูกไมตรีกับเธอเพราะคิดว่าเธอเป็นคนดี ที่มาที่นี่ก็เพราะลูกในท้องของเธอมิใช่หรือ?

 

 

           เธอได้แต่แอบคิดเช่นนั้นอยู่ในใจเงียบๆ คนเดียว จะพูดออกไปไม่ได้เด็ดขาด

 

 

           “ไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวจะเหนื่อยเปล่าๆ รีบออกมาก่อนเถอะนะคะ” เธอคิดๆ แล้วเอ่ยกับฉินเพ่ยหรง

 

 

           ฉินเพ่ยหรงได้ยินแล้ว ใบหน้าที่เคยเฉยชาเปื้อนยิ้มบางๆ “ไม่เป็นไร ไหนๆ ฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว”

 

 

           ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่เธอก็ยอมตามเฉียวซือมู่ออกไปโดยดี ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น

 

 

           ที่บอกว่าคุยกันอย่างกระตือรือร้นนั้นหมายถึงฉินเพ่ยหรงฝ่ายเดียวเท่านั้น ส่วนเฉียวซือมู่นั้นถามคำตอบคำ ไม่ยอมพูดมากเด็ดขาด

 

 

           ฉินเพ่ยหรงพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่หน้าท้องของเฉียวซือมู่โดยไม่สนใจท่าทีของเธอสักนิด เอาแต่ถามโน่นถามนี่ไม่หยุด “ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง? เหนื่อยไหม? เบื่ออาหารหรือเปล่า?”

 

 

           หลังจากได้รับคำตอบยืนยันจากเฉียวซือมู่แล้ว เธอจึงเอ่ยอย่างมั่นใจ “ช่วงแรกๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องกังวลไปหรอก อีกสักพักก็จะดีขึ้นเอง”       

 

 

           เฉียวซือมู่พยักหน้ารับ

 

 

           เพียงไม่นาน สาวใช้ก็นำอาหารออกมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ ฉินเพ่ยหรงคีบกับข้าวมากมายใส่ถ้วยให้เธอ “รีบกินเร็ว กำลังท้องกำลังไส้ ต้องกินบำรุงเยอะๆ ลูกในท้องจะได้แข็งแรง”

 

 

           เฉียวซือมู่มุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย

 

 

           เธอไม่ค่อยมีอาการแพ้ท้องสักเท่าไหร่ เธอไม่มีอาการวิงเวียนอยากอาเจียน หรืออยู่เฉยๆ ก็เหนื่อยอะไรเทือกนั้น เธอมีอาการเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือความอยากอาหารลดลง หากเมื่อก่อนเธอรับประทานอาหารในปริมาณปกติ ถ้าเช่นนั้น ตอนนี้ความอยากอาหารของเธอก็ลดลงเกือบครึ่ง หรืออาจจะมากกว่านั้น

 

 

           เธอและจิ้นหยวนกังวลปัญหานี้มาก จึงไปปรึกษาแพทย์เป็นพิเศษ และทั้งสองได้คำตอบว่าแม้ช่วงสามเดือนแรกร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อบำรุงร่างกาย แต่ก็ไม่จำเป็นบำรุงให้มากจนเกินไป เพราะโดยปกติร่างกายจะได้รับสารอาหารครบถ้วนจากอาหารที่รับประทานทุกวันอยู่แล้ว

 

 

           เธอจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้อีก เพียงแค่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้นอีกนิดหน่อยเท่านั้น

 

 

           จิ้นหยวนเองก็ไม่เคยบังคับจิตใจเธอ แค่ต้องคอยบังคับให้เธอดื่มนมทุกวันเท่านั้น

 

 

           ปกติเธอเน้นรับประทานอาหารรสจืดเป็นหลัก

 

 

           แต่ตอนนี้ฉินเพ่ยหรงมากำกับเรื่องอาหารเอง อาหารที่ทำออกมาจึงรสจัดกว่าปกติ ไม่เพียงเท่านั้น อาหารที่ทำออกมาส่วนใหญ่ยังเป็นอาหารที่เธอไม่ชอบเสียด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลหรืออาหารแห้งก็ตาม

 

 

           ตอนที่เธอไม่ได้ท้อง เธอยังพอรับประทานอาหารพวกนี้ได้ แต่ตอนนี้แค่ได้กลิ่นเธอก็คลื่นไส้แล้ว

 

 

 

 

ตอนที่ 473 ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้

 

 

           เฉียวซือมู่มองดูอาหารเลิศรสมากมายที่กองเป็นภูเขาเล็กๆ ตรงหน้า ไม่เพียงไม่มีความอยากอาหารเท่านั้น แต่น้ำย่อยในกระเพาะยังถูกลมตีขึ้นมาอีก

 

 

           ฉินเพ่ยหรงมองดูท่าทางเธอด้วยความแปลกใจ อาหารพวกนี้ทำจากวัตถุดิบชั้นยอดที่เธอเป็นคนซื้อหามากับมือ ไม่เพียงรสชาติอร่อย แต่ยังบำรุงร่างกายได้ดีมากอีกด้วย เธอยังอุตส่าห์สอนวิธีปรุงอาหารพวกนี้ให้แม่ครัวเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้น จะต้องเป็นอาหารรสเลิศอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ดูท่าทางแล้วเหมือนเฉียวซือมู่จะไม่ชอบอย่างนั้นแหละ แล้วยังทำหน้าอมทุกข์อีก

 

 

           เธอรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาในบัดดล ความกระตือรือร้นที่ฉายชัดบนใบหน้าค่อยๆ จางลง

 

 

           “เป็นอะไรไป? ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยชอบอาหารที่ฉันเตรียมมาให้เลยนะ” เธอเอ่ยเสียงเย็น

 

 

           เฉียวซือมู่เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ดูเหมือนฉินเพ่ยหรงจะโกรธมาก เธอคิดๆ แล้วไม่อยากจะมีเรื่องกับฉินเพ่ยหรง จึงฝืนยิ้มพลางเอ่ย “อาจเป็นเพราะหนูเพิ่งตื่น ก็เลยยังไม่ค่อยอยากอาหารน่ะค่ะ”

 

 

           เธอคีบอาหารสีดำๆ ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไรเข้าปาก กลิ่นอาหารทะเลกำจายทั่วปากทันที น้ำย่อยในกระเพาะอาหารที่มีลมตีโครกครากเบาๆ พุ่งปรี๊ดขึ้นมากะทันหัน

 

 

           “เพียะ!”

 

 

           เธอโยนตะเกียบลงบนโต๊ะ ทำเอาฉินเพ่ยหรงที่กำลังจะคีบอาหารเข้าปากตกใจสะดุ้งโหยง พอหันกลับไปมอง กลับเห็นเธอยืนขึ้น เอ่ยด้วยใบหน้าซีดขาวว่า “ขอโทษค่ะ หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” จากนั้นวิ่งถลาออกจากโต๊ะอาหารทันทีด้วยความรีบร้อน

 

 

           นี่มัน…

 

 

           ฉินเพ่ยหรงขมวดคิ้วมุ่น รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

           เธอกินอาหารพวกนี้ไม่ได้อย่างนั้นหรือ?

 

 

           ในห้องน้ำ เฉียวซือมู่อาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ใบหน้าขาวซีดเหมือนผีไม่มีผิด

 

 

           เธอมองใบหน้าที่สะท้อนอยู่ในกระจกแล้วได้แต่ยิ้มขื่น ปกติถึงเธอจะไม่ค่อยถูกกับอาหารพวกนี้สักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยมีปฏิกิริยาตอบสนองไวเท่านี้มาก่อน หรือนับวันลูกในท้องยิ่งโตขึ้น เธอก็ยิ่งแพ้ท้องหนักขึ้น?

 

 

           ถ้าเช่นนั้น เวลาที่เหลืออีกตั้งครึ่งปีเธอควรทำอย่างไรดี?

 

 

           แล้วยังมีฉินเพ่ยหรงอีกคน เมื่อกี้นี้ดูเหมือนเธอจะไม่พอใจมาก…

 

 

           เธอทอดถอนใจอยู่นานสองนาน จากนั้นค่อยๆ เดินออกจากห้องน้ำ

 

 

           เธอเดินไปถึงโต๊ะอาหารพร้อมกับตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินเพ่ยหรงเลวร้ายลงไม่ได้ อย่างไรเสียเธอก็เป็นคุณแม่ของจิ้นหยวน

 

 

           เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยปากทันที “ขอโทษค่ะ หนูไม่ดีเอง…”

 

 

           เอ่ยพลางกวาดสายตามองดูโต๊ะอาหารพลาง ทันใดนั้น เธอถึงกับชะงักอึ้ง

 

 

           อาหารรสจัดบนโต๊ะถูกเก็บไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงอาหารรสอ่อนไม่กี่อย่างเท่านั้น และตรงหน้าเธอยังมีโจ๊กเปล่าวางอยู่อีกถ้วย

 

 

           เธอมัวแต่ตกตะลึงจนลืมคำพูดที่เหลือจนเกลี้ยง

 

 

           ฉินเพ่ยหรงมองเธอแวบหนึ่ง ดวงตาฉายแสงวาบ “เด็กคนนี้นี่ กินปลิงทะเลไม่ได้ก็ไม่บอก ฉันเห็นว่าเป็นของดี ถึงได้ตั้งใจเอามาให้กินเป็นพิเศษ แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้”

 

 

           “ขอโทษค่ะ หนูก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้ยังกินได้แท้ๆ” เธอรู้สึกผิดที่ทำให้ฉินเพ่ยหรงเสียเวลาเหนื่อยเปล่าทั้งเช้า จึงเอ่ยขอโทษจากใจจริง

 

 

           สีหน้าฉินเพ่ยหรงดูดีขึ้นกว่าเมื่อครู่เยอะมาก เห็นท่าทางเธอแล้วได้แต่โบกมือเบาๆ “นั่งลงเถอะ ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก เป็นเพราะฉันใจร้อนเกินไปต่างหาก”

 

 

           เฉียวซือมู่รู้สึกประหลาดใจมาก คิดไม่ถึงเลยว่าฉินเพ่ยหรงจะยอมลดทิฐิของตนเองลง และยังยอมรับว่าเป็นความผิดของตนอีก น่าทึ่งมาก

 

 

           เฉียวซือมู่กินโจ๊กเปล่าพลางแอบลอบมองฉินเพ่ยหรงพลาง

 

 

           เธอคิดว่าตนแอบมองได้อย่างแนบเนียนแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกฉินเพ่ยหรงจับได้ “มองฉันบ่อยๆ ทำไม?”

 

 

           “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร หนูแค่รู้สึกประหลาดใจเท่านั้น” เธอชะงักเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยตอบตามตรง