ตอนที่ 635 ชนโรงรถพัง / ตอนที่ 636 ไม่มีความหวาน

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 635 ชนโรงรถพัง

 

 

“ไม่เป็นไรใช่ไหม” เหยียนเค่อใช้มือหนึ่งลูบที่ผมหล่อน อีกมือคลำจมูกตัวเอง

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”

 

 

จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหยียนเค่อดังมาจากบนหลังคารถ “ที่เธอฝึกมาถ้าไม่ใช่ฝึกให้หัวแข็งก็คงเป็นการชนอย่างไรให้ประสาบความสำเร็จ ช่างเป็นมืออาชีพจริงๆ ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่งมองที่เหยียนเค่ออย่างงงๆ เห็นชายหนุ่มเอาแขนมาบังจมูกตัวเองไว้จากนั้นก็นั่งลงที่เบาะตามเดิม เธอจึงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “นายทำอะไรน่ะ”

 

 

“จมูกฉันเป็นปื้นเลย” เหยียนเค่อถูกกระแทกจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา ชายหนุ่มเอามือบังจมูกจามออกมาสองสามรอบ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วหัวเราะออกมาอย่างไม่ได้สลด “ฮิ”

 

 

“ซย่าเสี่ยวมั่ว ถ้าเธอกล้าขำอีกฉันจะจับเธอโยนออกไปแล้วนะ” เหยียนเค่อมั่วโมโห เอามือไปขยำคอด้านหลังของหญิงสาว

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกจักจี้จนต้องหดคอหนี เอามือสองข้างดันแขนชายหนุ่มออก “ฉันผิดไปแล้ว นายไม่เป็นไรใช่ไหม”

 

 

เหยียนเค่อลูบที่จมูกของตัวเองจิ้มไปที่หน้า เอ่ยเสียงกระเง้ากระงอด “ต้องหอม”

 

 

“ฮ่าฮ่า” ซย่าเสี่ยวมั่วหอมไปที่แก้วของชายหนุ่มอย่างจนใจ “พอใจไหม”

 

 

“มันดูลวกๆ ” เหยียนเค่อไม่พอใจ ยังลูบไปที่จมูกของตัวเองแล้วทำท่าทางน่าสงสาร

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วค้นพบว่าถ้าเหยียนเค่ออยู่ต่อหน้าตนจะหน้าหนาเป็นพิเศษ ลูบไปที่ผมของชายหนุ่ม “ไม่เล่นแล้ว รีบไปเถอะ เดี๋ยวฉันช่วยประคบให้”

 

 

พอเธอนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ใบหน้าก็เครียดขึ้นทันที “ตอนนี้เรามาคิดกันก่อนว่าจะทำอย่างไรกับโรงรถดี”

 

 

โรงรถของเหยียนเค่อเป็นระบบแสกนทะเบียนรถอัตโนมัติ พอดดนชนเอาแบบนี้ ระบบก็คงเสียหายทั้งหมด ยังไงก็ไม่ควรปล่อยให้ประตูโรงรถเปิดไปอย่างนี้ตลอด เพราะรถที่อยู่ด้านใน…เธอยังนับแทบไม่หมดเลย

 

 

“ไม่เป็นไร” เหยียนเค่อไม่อยากเห็นหล่อนทำท่าทางเศร้า “ที่นี่มีกล้องวงจรปิดตั้งเยอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ซ่อมเสร็จแล้ว

 

 

“นายนี่ใจกล้าจริงๆ นะ” ซย่าเสี่ยวมั่วอยากลงจากรถ “นาย นายขับมันเถอะ เดี๋ยวถ้าฉันเผลอขับไปชนรถคันอื่นของนายเข้าอีกจะทำอย่างไร”

 

 

 “ตามสบาย เอาตัวชดใช้ก็พอ” เหยียนเค่อบังจมูกของตัวเองแล้วเอ่ยหยอกซย่าเสี่ยวมั่ว ยิ่งดูยิ่งชอบ

 

 

“ถ้านายหน้าเสียโฉม ฉันไม่เอาตัวเข้าแลกแน่ๆ ” ซย่าเสี่ยวมั่วปฏิเสธยิ้มๆ “ถ้าฉันทำรถนายพังทั้งหมดแล้วนายยังเสียโฉมอีก นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย”

 

 

เหยียนเค่อ “…” หล่อนไม่กลัวเขาจัดการหล่อนเลยใช่ไหม

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วปิดตาชายหนุ่ม “นายอย่ามองสิ ฉันอาย”

 

 

“เธออาย” เหยียนเค่อไม่พอใจ “รีบเอารถเข้าซอง ฉันจะไปนอนแล้ว”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วที่ยั่วโมโหชายหนุ่มไม่กล้าพูดอะไรต่อ รีบทำตามคำบอก

 

 

“เลี้ยวขวาถอยหลัง ตรงไปตามเส้น หักพวกมาลัย เลี้ยวขวา”

 

 

เหยียนเค่อช่วยชี้แนะให้ ทั้งที่ความจริงควรจะเสร็จภายในสองนาที แต่ซย่าเสี่ยวมั่วกลับใช้เวลาถึงสิบนาที แต่สุดท้ายก็ได้แค่จอดหยุดอยู่ที่ด้านหน้ารถอีกคัน นี่คือขีดจำกัดสูงสุดของหล่อนแล้ว

 

 

“ถ้าเธอไม่ใช่ผู้หญิงฉันคงรำคาญเธอตายแน่ๆ ” เหยียนเค่อยังคงยิ้มน้อยๆ เอ่ยพูดกับซย่าเสี่ยวมั่วเบาๆ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเศร้าใจ “เห็นชัดๆ ว่าตอนนี้นายก็รำคาญฉันอยู่”

 

 

เหยียนเค่อยิ้มแล้วหยิกไปที่แก้มของหล่อน “เธอรู้ความสามารถของตัวเองไม่ขับรถบนถนน ฉันจะไปรำคาญอะไรเธอล่ะ”

 

 

“ฉันออกไปรอข้างนอก”

 

 

“ดูดีๆ นะ” เหยียนเค่อกำชับ เพราะว่าต่อไปซย่าเสี่ยวมั่วคงไม่สามารถเอาแต่เดินเท้าอย่างเดียวได้ หล่อนต้องขับรถออกถนนใหญ่ให้ได้

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วพยักหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง ยืนดูเหยียนเค่อเอารถเข้าซองอย่างราบรื่น

 

 

ราบรื่น รวดเร็ว ซย่าเสี่ยวมั่วอยากจะร้องไห้ออกมา

 

 

“ทำไมนายเก่งแบบนี้”

 

 

เหยียนเค่อยิ้มจนตาหรี่ราวกับพระจันทร์เสี้ยว ที่ส่องแสงเป็นพันๆ ลี้ เอ่ยพูดอย่างหยอกเย้า “ยังมีเรื่องที่เก่งกว่านี้อีกนะ อยากจะลองไหม”

 

 

คนคนนี้ยังหน้าไม่อายได้มากกว่านี้อีกไหม

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 636 ไม่มีความหวาน

 

 

ห้องรับแขกของเหยียนเค่อตกแต่งอย่างเรียบง่าย สีที่ใช้ล้วนเป็นโทนสีเรียบๆ ดูสะอาดตา บนผนังมีแผ่นวอลล์เปเปอร์รูปดอกไม้สีเรียบๆ แปะทับอยู่ เฟอร์นิเจอร์ล้วนเป็นสีขาวดำสลับกัน ยังมีชั้นวางต้นไม้ที่ทำจากไม้ล้วนๆ ประดับอยู่สองสามชั้น ผ้าม่านสีน้ำเงินเข้มกับพรมสีขาวขุ่น ทั้งหมดดูแล้วช่างเข้ากันได้ดี

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วรับรองเท้าแตะที่เหยียนเค่อยื่นให้มา เธอเริ่มอ้ำอึ้ง “เอ่อคือ…”

 

 

“หืม” เหยียนเค่อเห็นหล่อนยังไม่เปลี่ยนรองเท้า เอ่ยเดา “ให้ฉันเปลี่ยนให้เหรอ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วส่ายหน้า “นายกล้าหรือไง” เธอแค่รู้สึกกลัวกับเฟอร์นิเจอร์ที่นี่

 

 

“เป็นอะไร”

 

 

“นี่นี่ทีแต่ไม้แท้ทองแท้ ฉันรู้สึกเหมือนกำลังเหยียบทองอยู่ ฉันกลัว”

 

 

เหยียนเค่อยิ้มน้อยๆ “ต่อไปที่นี่ก็คือบ้านเธอ มีอะไรจะต้องกลัว”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วถลึงตา คบกันนับจริงๆ ยังไม่ถึงวันเลยด้วยซ้ำเรื่องแบบนี้ควรระวังไว้หน่อยสิ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วก้มหน้าเปลี่ยนรองเท้า พอเท้าเหยียบโดนพรมก็แทบไม่อยากใส่รองเท้าแล้ว “ฉันอยากเดินเท้าเปล่า”

 

 

“อือ” เหยียนเค่อตามใจหล่อน เอ่ยพูดขึ้นมาอีกประโยค “ต่อไปย้ายมาอยู่กับฉันที่นี่เถอะ”

 

 

“ไม่เอา” ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยปฏิเสธอย่างรวดเร็ว อยู่ที่นี่รู้สึกแปลกๆ ไม่สบายเหมือนอยู่ที่บ้านของตัวเอง

 

 

เหยียนเค่อได้ยินหล่อนปฏิเสธอย่างทันที ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด แต่ว่าเขาได้เตรียมห้องไว้ให้หล่อนเรียบร้อยแล้วยังไงก็ไม่มีทางยอมให้หล่อนปฏิเสธ “ฉันย้ายไปที่เธอไม่ค่อยสะดวก แต่ส่วนเธอฉันเตรียมของทุกอย่างไว้ให้หมดแล้ว”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าเหยียนเค่อมีนิสัยอย่างหนึ่งที่ไม่ดีเอามากๆ เพิ่งคบกับแค่วันเดียวก็วางแผนกะจะเอาเอไว้ข้างกายตลอดเวลาแล้ว เป็นการกระทำที่คิดว่าผู้ชายเป็นใหญ่ชัดๆ

 

 

เธอไม่ได้ขัดข้องตรงนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ควรเว้นช่องว่างระหว่างกันบ้าง

 

 

“ฉันไม่เห็นด้วย” ซย่าเสี่ยวมั่วปฏิเสธเสียงแข็งยิ่งกว่าเมื่อครู่ “พวกเรายังไม่ถึงขั้นนั้น”

 

 

สำหรับเหยียนเค่อนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขามันเลยขั้นนั้นมานานมากแล้ว กินด้วยกันนอนด้วยกันก็เคยทำมาหมดแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงจะยอมรับแบบนั้นไม่ได้

 

 

“ยังไม่ถึงขั้นนั้น? อย่างนั้นเธอคิดว่าพวกเราอยู่ในขั้นไหน” เหยียนเค่อถามกลับ ทำท่าทางราวไม่ได้รับความเป็นธรรมกับกับว่าตนเป็นเด็กที่แบ่งลูกอมให้อีกฝ่ายแต่อีกฝ่ายกลับคิดว่ามันคือยาพิษ

 

 

“ความสัมพันธ์ของเรายังไม่ถึงขั้นนั้น นายถามตัวเองดูซิ ว่ารู้ทุกเรื่องของฉันแล้วเหรอ สำหรับฉันตอนนี้แค่รู้จักนายแค่ผิวเผิน ต้องใช้เวลาสักหน่อยถึงจะเข้าใจกันมากขึ้น” ซย่าเสี่ยวมั่วพูดตามความจริง

 

 

ตอนที่เธอจ้างเหยียนเค่อมาเป็นแฟนนอกจากชื่อนามสกุลและเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นของจริงนอกนั้นต่างเป็นเรื่องโกหกหมดเลย จากนั้นข้อมูลอื่นๆ ของเขาเธอก็ได้รู้จากการได้รู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งเรื่องที่เขาเป็นเจ้านายของเธอเธอยังเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง และก็เพราะเรื่องเมื่อวานทำให้เธอคิดไตร่ตรองที่จะทำความรู้จักชายหนุ่มให้มากขึ้นก่อน

 

 

เหยียนเค่อเห็นท่าทีของหล่อนว่าไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่จึงไม่อยากทะเลาะด้วย เดินขึ้นชั้นสองไปทันที

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มไปอย่างเศร้าสร้อย เอ่ยพึมพำเสียงเบา “ใครอยากจะไปยื้อเวลาให้นานกันล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะนายกะล่อนเกินไป”

 

 

เมื่อครู่เหยียนเค่อยังคงรู้สึกตื่นเต้นที่ในที่สุดก็ได้คบกับซย่าเสี่ยวมั่วอยู่เลย ใครจะไปคิดว่าผ่านไปไม่เท่าไหร่ก็ถูกหล่อนตอกกลับมาอีก ตอนนี้เขาต้องการอยู่เงียบๆ คนเดียว จะทำอย่างไรให้ซย่าเสี่ยวมั่วยอมอยู่กับเขาแต่โดยดี จากนั้นก็ตกลงแต่งงานกับเขานะ

 

 

“ไม่รู้ว่าวันๆ คิดอะไรอยู่ เชื่อกันหน่อยไม่ได้หรือไงนะ” เหยียนเค่อพึมพำอย่างอารมณ์ไม่ดี “ยังไม่รักฉันแน่ๆ เลย” ชายหนุ่มหยิบปากกามาวาดรูปเล่น “ซย่าเสี่ยวมั่วถ้าเธอรู้ว่าฉันทำเรื่องโง่ๆ อะไรเพราะเธอไม่บ้าง ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะยังไม่ไว้ใจฉันอยู่ น่าเสียใจจริงๆ ”

 

 

เหยียนเค่อเริ่มนั่งพิมพ์อยู่บนโต๊ะอย่างจริงจัง ทำตาราง เปิดอินเตอร์เน็ตค้นหาประวัติของตัวเอง

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วนั่งอยู่บนพื้นลูบพรมไปมาอย่างมีความสุข นุ่มนิ่มดีจัง ลูบไปลูบมาก็สะลึมสะลือผล็อยหลับไป