ตอนที่ 77 ค่ำคืนที่แสนยาวนานและลึกซึ้ง

ซ่อนรักเคียงบัลลังก์

รูแฮคล่อมอยู่เหนือร่างกโยซึล กายกำยำของเขาบดบังนางไว้มิด น้ำหนักที่กดทับลงมาให้ความรู้สึกดีอย่างอธิบายไม่ถูก ผิวเนื้อแนบสัมผัสกันอย่างเป็นธรรมชาติไร้สิ่งขวางกั้น เนื้อสัมผัสเนื้อ ส่งผ่านไออุ่นให้กันและกัน คนหนึ่งแผ่ไอความอบอุ่น อีกคนแผ่ไอเย็น บางส่วนร้อนรุ่ม และบางส่วนก็เย็นสบาย 

 

 

มือสัมผัสกับมือ อกสัมผัสกับอก หน้าท้องสัมผัสกับหน้าท้อง ขาสัมผัสกับขา ทั้งสองรู้ถึงสัมผัสของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจนราวกับมันกำลังทักทายกันเป็นครั้งแรก จากนั้นร่างกายของรูแฮก็ขยับทีละน้อย โอบกอด 

 

 

กโยซึลเอาไว้ทั้งร่างและลูบไล้ใบหน้าของนาง นิ้วมือของเขาเชยเข้าที่แก้มแล้วเคลื่อนไปที่ริมฝีปาก และมันก็ถูกแทนที่ด้วยริมฝีปาก ริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกัน เหมือนกับร่างกายที่แนบชิดกันทุกส่วนอยู่ในตอนนี้ 

 

 

ริมฝีปากที่เคยประสานกันหลายครั้ง 

 

 

สัมผัสที่เคยเกิดขึ้นหลายครา 

 

 

ทั้งที่ห้องอาบน้ำ ทั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ รูแฮสัมผัสกโยซึลด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักอันเปี่ยมล้น ลมหายใจหอบถี่ รับรู้สัมผัสมือของอีกฝ่ายที่เคลื่อนไหว กายสั่นสะท้านเคลิบเคลิ้มไปกับแรงอารมณ์ 

 

 

ทว่าในตอนนี้กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง 

 

 

แม้สถานที่จะแตกต่างออกไป และท่าทางนั้นดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ทว่าความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นในตอนนี้มีทั้งความรู้สึก แรงอารมณ์ และความประหม่าต่างๆ รายล้อมอยู่มากมาย การนอนเคียงข้างกันอยู่บนเตียงและแลกเปลี่ยนสัมผัสริมฝีปากกัน การนอนเคียงข้างกันอยู่บนเตียงและสัมผัสกันและกัน 

 

 

สัมผัสอย่างนุ่มนวลที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้ร่างกายร้อนรุ่ม 

 

 

“อา กโยซึล” 

 

 

รูแฮฝังใบหน้าไปที่ต้นคอของกโยซึลพร้อมกับร้องเรียกชื่อนาง เสียงที่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่เอ่อล้นของเขาระเบิดออกมาด้วยชื่อของนาง กโยซึลคุดคู้ไหล่ด้วยความเกร็ง ลมหายใจร้อนระอุของรูแฮรินรดบริเวณต้นคอ นางขนลุกซู่ ช่างเป็นความวูบไหวที่ดียิ่ง ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้แล่นไปตามสันหลังราวกับเกลียวคลื่น 

 

 

รูแฮถามอย่างระมัดระวังต่อปฏิกิริยาอ่อนไหวของนาง 

 

 

“กลัวหรือ” 

 

 

กโยซึลส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ ไม่กล้าแม้จะเอ่ยปากพูดออกมา นางไม่มั่นใจว่าตนจะส่งเสียงออกไปได้หรือไม่ แค่พยายามฝืนแรงไม่ให้ร่างกายอ่อนยวบยาบก็ลำบากมากพออยู่แล้ว นางทำได้เพียงส่ายหน้าช้าๆ เท่านั้น สัมผัสที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นสร้างความรู้สึกรุ่มร้อนได้อย่างง่ายดาย และนางอยากจะกอดเขาสุดหัวใจ 

 

 

นี่คือครั้งแรก 

 

 

กโยซึลทั้งเขินอายและตื่นกลัว แต่ทว่าก็ไม่ได้รังเกียจมันไปเสียทีเดียว สิ่งที่กังวลอยู่สิ่งหนึ่งคือความงามของนางจะสะท้อนในสายตาของรูแฮหรือไม่ 

 

 

ถ้างดงามก็คงจะดีไม่น้อย 

 

 

ปรารถนาที่จะงดงามเพื่อรูแฮเท่านั้น และยังปรารถนาที่จะงดงามกว่าผู้ใดในโลกใบนี้ กโยซึลโอบแขนไว้ที่ลำคอของรูแฮ เพราะเกรงว่าการส่ายหน้าเพียงอย่างเดียวคงจะไม่พอ นางจึงค่อยๆ โอบกอดเขาเบาๆ ใบหน้าของรูแฮฝังอยู่ที่หน้าอกของนาง ความรู้สึกนุ่มนิ่มห้อมล้อมอยู่รอบๆ ใบหน้า กลิ่นกายของกโยซึลช่างหอมหวาน บริเวณหน้าอกมีกลิ่นหอมดั่งกลิ่นกาย แต่มันหอมและมีแรงกระตุ้นยิ่งกว่า จนทำให้หัวใจของเขานั้นเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ 

 

 

รูแฮประสานมือกับมัน สะโพกของกโยซึลสั่นไหวเล็กน้อย เขาอ้าปากออก ภายในของกโยซึลบิดเร้าไปมาอย่างรุนแรง สิ่งนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น เขาไม่เคยหยุดเลยสักวินาทีเดียว กโยซึลเองก็ไม่สามารถหยุดได้สักวินาทีเช่นกัน รูแฮรู้จังหวะเป็นอย่างดี เขาถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วค่อยๆ ผ่อนลงอย่างเชื่องช้า ทว่าไร้ซึ่งความหยาบกระด้าง กโยซึลลืมความหวาดกลัวไปจนหมดสิ้น ความกังวลถูกคลายลงอย่างอ่อนโยนด้วยปลายนิ้วของเขา และแทนที่ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ร่างกายเคลื่อนไหวก่อนที่จะขยับด้วยตัวเองเสียอีก 

 

 

ร่างกายไม่รู้ประสาตอบสนองอย่างตรงไปตรงมากับสัมผัสแปลกใหม่และไม่คุ้นเคย  

 

 

“อะ อา…อือ อะ” กโยซึลเปล่งเสียงอันไพเราะออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เป็นเสียงแห่งความพึงพอใจที่เปล่งออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ 

 

 

รูแฮหอบหายใจถี่เร็วขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเขาไม่ได้รีบร้อนและคอยสังเกตปฏิกิริยาของกโยซึล ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใด เพียงแค่แววตา สีหน้า การสั่นไหวของร่างกายก็เพียงพอแล้ว รูแฮโอบกอดกโยซึลอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น มันลึกซึ้งยิ่งกว่ากอดไหน และชิดใกล้ยิ่งกว่าช่องว่างใด 

 

 

ในตอนนี้ มีเพียงกโยซึลและรูแฮเท่านั้น ทั้งสองไม่สามารถนึกถึงเรื่องใดได้เลยนอกจากเรื่องของกันและกัน ไม่รู้แม้กระทั่งว่าที่นี่คือที่ไหน เป้าหมายแห่งการรับรู้มีเพียงกโยซึลและรูแฮเท่านั้น ดวงตาจับจ้องเพียงเขา ร่างกายเคลื่อนไหวไปตามท่าทางของเขา เพลิดเพลินไปกับสีหน้าของเขา ในขณะที่รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องลงมา ก็ถูกดึงดูดเข้าไปในนัยน์ตาคู่นั้นจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่นิดเดียว หูได้ยินเพียงเสียงของเขาเท่านั้น และตั้งใจฟังมันอย่างจดจ่อ ลมหายใจเข้าออกที่ถี่เร็ว เสียงครวญครางทุ้มต่ำ ขณะที่ริมฝีปากสัมผัสกันไปมา ก็ได้ยินเสียงของร่างกายที่กระทบกันอย่างชัดเจน ที่จมูก ปาก มือ และร่างกาย ทุกประสาทสัมผัส ทุกอย่างล้วนเป็นเขา ทุกสัมผัสล้วนมีเพียงเขามากขึ้นทุกที 

 

 

แล้วทั้งคู่ก็หล่อหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว 

 

 

ดวงตาของกโยซึลเบิกขึ้น รูแฮมองไปที่สีหน้าตกใจของนาง แล้วส่งนิ้วมือไปสัมผัสที่แก้ม 

 

 

“เจ็บหรือ” 

 

 

“อย่า…อย่าถามเราอย่างนั้น” กโยซึลซ่อนใบหน้าเขินอายลงกับบ่าของรูแฮ รูแฮโอบกอดร่างเล็กไว้ และปลอบประโลมนางไปทุกส่วน 

 

 

“ช่างดีเหลือเกิน” 

 

 

ความร้อนรุ่มปะทุขึ้น แม้จะโอบกอดกันอยู่ แต่ก็ยังอยากแนบชิดให้มากขึ้น 

 

 

“ช่างงดงามเหลือเกิน รู้สึกดีเหลือเกิน หวังว่าเจ้าเองก็จะมีความสุขเช่นเดียวกัน” 

 

 

“เราก็มีความสุขเช่นกัน” กโยซึลสารภาพอย่างเขินอายและตอบกลับอีกว่า “ขอบคุณนะ” 

 

 

รูแฮและกโยซึลต่างกุมมือกันทันทีโดยไม่ต้องบอก มือที่กุมกันอยู่ของทั้งคู่นั้นมีเหงื่อค่อยๆ ซึมออกมา ลมหายใจกับเสียงออดอ้อนผสมปนเปกันไป ลมหายใจระบายความร้อนออกมาทุกครั้งที่สองร่างสัมผัสกันตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย เสียงชื้นแฉะที่ไม่คุ้นเคยดังก้องราวกับคลื่นกระทบ คลื่นที่บางครั้งกระทบกับน้ำ บางครั้งก็กระทบกับโขดหิน สะโพกของกโยซึลพริ้วไหวไปมา เอวของนางวาดขึ้นเป็นเส้นโค้งอย่างยืดหยุ่นแล้วสั่นระริกกลางอากาศ จุดสัมผัสสั่นไหวนั้นส่งผ่านไปยังรูแฮ สุดท้ายแล้วรูแฮก็ไม่สามารถทนกักเก็บเสียงแห่งความสุขสมได้ แขนที่โอบกอดกโยซึลรัดแน่นขึ้น เขาฝังใบหน้าไว้ที่ลำคอของนาง แต่ทว่ากลับไม่หยุดการเคลื่อนไหวของตน 

 

 

           เหงื่อไหลเป็นทางออกมาทั้งร่างกาย รูแฮค่อยๆ ผ่อนกายอย่างช้าๆ ทว่าปฏิกิริยาของกโยซึลกลับยิ่งอ่อนไหวมากขึ้น เอวบิดเร้าและส่งเสียงแห่งความสุขสมราวกับไม่สามารถอดทนต่อไปได้อีก รูแฮจุมพิตไปที่ไหล่ของนางเรื่อยมาจนต้นแขนและเอว กโยซึลกลายเป็นสตรีอย่างสมบูรณ์แบบ รูแฮที่อยู่ตรงหน้านางสามารถเป็นบุรุษได้อย่างเต็มตัว นางเป็นสตรีเพียงผู้เดียวที่ทำให้เขาเป็นบุรุษอย่างสมบูรณ์ บรรยากาศในห้องร้อนวูบวาบ เป็นบรรยากาศที่ยากจะอธิบาย เหงื่อและกลิ่นอายของทั้งคู่ รวมไปถึงกลิ่นหอมที่กระจัดกระจายถูกผสมผสานกัน เพียงแค่สูดดมก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กโยซึลและรูแฮนอนเคียงข้างกันอยู่บนเตียง เขาโอบกอดนางที่นอนคุดคู้ราวกับเหนื่อยล้า เขาไม่ห่างจากร่างกายของนางเลยหลังจากที่ล้มตัวลงนอน 

 

 

ร่างกายของกโยซึลสั่นไหวเป็นบางครั้ง ทุกครั้งที่เป็นเช่นนั้นรูแฮก็จะปลอบประโลมนาง 

 

 

“หากเวลาหยุดแค่ตรงนี้ก็คงจะดีไม่น้อย” รูแฮกระซิบ แม้กโยซึลไม่ได้ตอบแต่เขาก็รู้ได้ว่านางกำลังรับฟังอยู่ เขากระซิบอย่างแผ่วเบาต่อไปอีกว่า 

 

 

“มีเพียงเราสองเท่านั้นที่เป็นผู้เดินเวลาที่กำลังหยุดนี้ ไม่ว่าเมื่อไรข้าก็จะอยู่เคียงข้างเจ้าด้วยความเต็มใจตราบนานเท่านาน” 

 

 

เป็นถ้อยคำอันแสนหวานแต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด 

 

 

           “ต้องกลับแล้วหรือ” 

 

 

กโยซึลไม่รู้วิธีที่จะเก็บซ่อน ดับความเพ้อฝันของรูแฮไปเสียดื้อๆ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นสิ่งที่ทั้งสองพูดคุยร่วมกันได้ และเป็นความกังวลที่แบ่งบันซึ่งกันและกันได้ ทว่ารูแฮไม่ได้ต้องการที่จะนำพาความเป็นจริงกลับมาในเวลานี้ เขาตอบคำถามด้วยคำถามอื่น 

 

 

“หรือเราจะหนีไปด้วยกันดี” 

 

 

“ห หนีอย่างนั้นหรือ” กโยซึลถามด้วยความหวาดหวั่น 

 

 

รูแฮเป็นคนละเอียดอ่อน แม้กโยซึลจะเอ่ยปากว่าไม่เป็นอะไรแต่เขาก็รับรู้ไปถึงหัวใจที่ฝืนทนของนาง เขามักจะใส่ใจความรู้สึกของกโยซึลมากกว่าตัวเองเสียด้วยซ้ำ บางทีอาจะเป็นเพราะว่าเขาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็เป็นได้ พวกเขาทั้งคู่รักกัน ทว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ถูกผูกติดกับผู้อื่นที่ไม่ใช่คนรัก และคำบัญชาจากเบื้องบน ช่างเป็นโชคชะตาที่เล่นตลกเสียจริง เป็นการพบกันที่พลิกผันจนน่าคับแค้นใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่หยุดมันเด็ดขาด เขาไม่สามารถมองข้ามมันไปได้ 

 

 

รูแฮกระชับอ้อมกอดที่กำลังโอบกอดกโยซึลแน่นขึ้น ราวกับว่าพวกเขาต่อต้านต่อสถานการณ์อันโหดร้ายที่ต้องเผชิญ 

 

 

“หากข้าสามารถอยู่กับเจ้าได้ ข้ายินดีที่จะละทิ้งทุกอย่าง สำหรับข้าแล้วชีวิตอันสุขสำราญที่รายล้อมไปด้วยเสื้อผ้า อาหารดีๆ หรือแม้แต่ที่พักพิงอันสุขสบายอย่างพระราชวังหรือราชบัลลังก์นั้นไม่ได้มีความหมายใดเลย” 

 

 

เมื่อกโยซึลได้ฟังคำพูดที่เอื้อนเอ่ยออกมาอย่างช้าๆ นั้น ไม่รู้เพราะเหตุใดน้ำตาจึงเอ่อล้นออกมา ราวกับน้ำตาของนางนั้นเสมือนกับน้ำแร่อันล้ำค่า รูแฮดื่มน้ำตาทุกหยาดหยดอย่างหวงแหน 

 

 

“ข้าพร้อมละทิ้งทุกอย่างไป ขอเพียงได้อยู่กับเจ้า” 

 

 

           “…หากเป็นเช่นนั้นก็คงจะดีไม่น้อยเลย” กโยซึลเผยยิ้มอย่างไม่คาดหวังสิ่งใด 

 

 

           ทั้งสองคนต่างรู้อยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะภาวนาสักเพียงใด แต่ก็เป็นความจริงที่มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้เลย แม้จะเป็นแค่การภาวนา แต่ก็ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้ ไม่อาจอธิบายได้เลย 

 

 

กโยซึลดึงรูแฮเข้ามากอด รูแฮกอดตอบและลูบหลังนาง 

 

 

“แค่พูดออกมาอย่างนี้เราก็ขอบคุณมากแล้ว” 

 

 

“ไม่เลย ข้าขอโทษที่ทำได้เพียงแค่พูดเท่านั้น” 

 

 

กโยซึลส่ายหน้า  

 

 

“เราเองก็ต้องขอโทษด้วย” กโยซึลยืดร่างกายท่อนบนออกไป “เพราะเราก็ไม่มีความกล้าพอที่จะจับมือรูแฮ” กโยซึลหลับตาไล่ความกังวลที่เกาะกุมหัวใจ แล้วรับจุมพิตของรูแฮราวกับหวังที่พึ่งพิง 

 

 

ริมฝีปากแนบชิด ลมหายใจสอประสาน รูแฮสัมผัสกโยซึลอย่างอ่อนโยน ความรู้สึกของเนื้อกายที่สัมผัสกันร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นไม่เพียงพอ และไม่สามารถที่จะปล่อยให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปเฉยๆได้ ต่างฝ่ายต่างโหยหากันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดราวกับกำลังปลอบประโลมหัวใจที่น่าสงสาร  

 

 

อีกครั้ง และอีกครั้ง 

 

 

ค่ำคืนนี้ช่างยาวนานและลึกซึ้งยิ่งกว่าค่ำคืนไหน