บทที่ 2015+2016

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2015 ข้าไม่ได้ช่วยเจ้าเปล่าๆ หรอก

แววตาของหลงซือเย่ราบเรียบ “หากว่าเป็นเช่นนั้น เจ้าจะชอบแบบนี้อยู่หรือไม่? ชมชอบจนปรารถนาจะเป็นบ่าวเป็นนางบำเรออยู่ข้างกายเขาอยู่หรือเปล่า? ชอบจนอยากออกเรือนกับเขาอยู่ไหม?”

สาวใช้นางนั้นสั่นสะท้านแล้ว “ไม่…”

ก่อนหน้านี้นางหลงใหลในตัวคุณชายจริงๆ แต่ว่านางไร้ความรู้สึกแต่เด็กน้อย นางเป็นเด็กสาวปกติ ไม่ได้เป็นพวกคลั่งเด็ก…

เพียงแต่ เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าคุณชายท่านนั้นดูเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะเป็นเด็กน้อยวัยหกขวบไปได้อย่างไรกัน?

หลงซือเย่เอ่ยอย่างเฉยเมย “บางทีรูปลักษณ์นี้ของเขาอาจจะเป็นการจำแลงลักษณ์ของเด็กคนนี้ก็ได้ มิใช่รูปโฉมที่แท้จริงของเขา เขาเพียงแค่รีบร้อนอยากเติบใหญ่เท่านั้น”

สาวใช้นางนั้นตะลึงพรึงเพริด!

หลงซือเย่มองนางอยู่พักหนึ่ง ยิ้มมุมปากนิดๆ “ทำไมเล่า? จะถอยแล้วหรือ?”

สาวใช้นางนั้นเอ่ยอ้อมแอ้ม “ท่านแม่ทัพล้อกันเล่นแล้ว ไม่ว่าคุณชายท่านนั้นจะเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นเด็กน้อย บ่าวล้วนมิได้คิดเกินเลย”

หลงซือเย่คล้ายจะค่อนข้างพอใจ “เจ้ารู้ก็ดีแล้ว” พลางโบกมือ “ไปเถอะ”

จากนั้นก็สั่งการประโยคหนึ่ง “เรื่องในวันนี้อย่าได้เอ่ยกับผู้ใด หากหลุดไปแม้แต่ประโยคเดียว แม่ทัพเช่นข้าจะทวงถามเอากับเจ้า!”

สาวใช้นางนั้นรีบตกปากรับคำ หันหลังจากไปเลย ไม่หาข้ออ้างกลับมาอีกแล้ว

อารมณ์ของหลงซือเย่ดีขึ้นมากอย่างไม่มีสาเหตุ เขานั่งลงหน้าโต๊ะหินตัวหนึ่ง รอคอยอย่างอดทน

….

ภายในห้อง ในที่สุดตี้ฝูอีก็เก็บพลังคืน สายตาวนสำรวจดวงหน้าเฉิดฉันของนางรอบหนึ่ง “รู้สึกอย่างไรบ้าง?”

กู้ซีจิ่วลืมตาขึ้น ถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง “ดีขึ้นมาแล้ว!” เดิมทีดวงหน้าเฉิดฉันของเธอซีดเซียวจนน่ากลัว ตอนนี้บนพวงแก้มกลับมีเลือดฝาดจางๆ แล้ว ดวงเนตรดุจวารี ไหวระริกดั่งคลื่น “เนี่ยน…ฝูอี ขอบใจนะ”

ก่อนหน้านี้เธออ่อนแอจนนั่งในอ่างไม้ไม่อยู่ ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายมีแรงขึ้นมาแล้ว และโคจรพลังวิญญาณได้เล็กน้อย เธอไม่เพียงแต่สามารถทรงตัวนั่งได้เท่านั้น คาดว่าลุกขึ้นยืนแล้วเดินเหินไม่กี่ก้าวก็น่าจะไม่มีปัญหาเช่นกัน

ตี้ฝูอีหยักมุมปากนิดๆ “เจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า ข้าไม่ได้ช่วยเจ้าเปล่าๆ หรอก”

กู้ซีจิ่วนิ่งไป

เธอก็ตรงไปตรงมาเช่นกัน “เจ้าจะขออะไรล่ะ ว่ามาสิ” ขอเพียงไม่เหลือบ่ากว่าแรง เธอจะหาทางทำให้เขาพอใจ

ตี้ฝูอีเพ่งพิศนางแวบหนึ่ง “เจ้าเตรียมจะแช่น้ำสนทนากับข้าตามเดิมหรือ?”

นี่ก็ใช่!

“เช่นนั้นเจ้าออกไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกเราค่อยคุยกัน” แช่อยู่ในน้ำยาเช่นนี้ตลอด เธอรู้สึกว่าตัวเองแช่จนเปื่อยไปหมดแล้ว!

การรักษาครั้งนี้กินเวลาถึงหกชั่วยามเต็ม แข้งขาเธอนั่งอยู่ในน้ำจนชาแล้ว และง่วงงุนอย่างยิ่ง อยากหลับซักงีบยิ่งนัก

เธอเป็นผู้ถูกรักษายังอ่อนล้าขนาดนี้ เช่นนั้นตี้ฝูอีที่เป็นผู้ร่ายเคล็ดก็ต้องเหน็ดเหนื่อยยิ่งกว่า!

กู้ซีจิ่วมองสีหน้าที่ค่อนข้างซีดขาวของเขา ไม่ค่อยสบายใจ “เจ้าก็ไม่มีแรงแล้วเหมือนกันใช่ไหม? ให้แม่ทัพหลงส่งสาวใช้สักสองสามคนเข้ามายกเจ้าออกไปดีหรือไม่?”

“ไม่ต้อง! ข้าไม่ต้องการให้คนนอกได้เห็นสภาพเช่นนี้” พอตี้ฝูอีกล่าวจบ ก็ควบคุมอ่างไม้ใบนั้นให้ลอยออกไปจากห้องส่วนใน…

จากนั้นบานประตูก็ปิดลงอีกครั้ง ภายในห้องเหลือเพียงกู้ซีจิ่วคนเดียว

ผ่านไปครู่หนึ่ง สาวใช้ก็ยกนำสะอาดเข้ามาอีกถัง ให้เธอได้ชำระล้างอย่างแท้จริงรอบหนึ่ง แล้วค่อยออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

ถึงอย่างไรเธอก็ยังค่อนข้างอ่อนแอ เมื่อจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จ เหงื่อก็ชุ่มศีรษะอีกครั้ง

จากนั้นนั่งบนเตียง รอให้ตี้ฝูอีเข้ามายื่นเงื่อนไขกับเธอ

นึกไม่ถึงว่าการรอของเธอจะไม่ได้พบตี้ฝูอี แต่กลับกลายเป็นรอพบหลงซือเย่แทน เมื่อหลงซือเย่เข้ามาก็เพ่งพิศเธอเป็นอันดับแรก ก่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก “ซีจิ่ว สีหน้าเจ้าดูดีขึ้นมากเลย!”

จากนั้นยื่นมือมาจับชีพจรให้เธอ สุ้มเสียงก็ผ่อนคลายขึ้น “ชีพจรก็ทรงพลังขึ้นมากนัก!”

ก่อนหน้านี้กู้ซีจิ่วจับชีพจรให้ตนไปแล้ว ย่อมทราบถึงสภาพร่างกายของตนดี เธอก็ยิ้มเช่นกัน

—————————————————————————-

บทที่ 2016 เขามาคิดบัญชีแล้ว…

“ใช่แล้ว ข้าเก็บชีวิตกลับคืนมาได้! คืนทุนแล้ว!” เธอมองดวงตาที่ค่อนข้างแดงเรื่อของหลงซือเย่ “ท่านไม่ได้นอนทั้งคืนเลยหรือ?”

ตอนนี้เป็นช่วงเย็นของวันที่สองแล้ว

หลงซือเย่ยิ้มนิดๆ ไม่ได้ตอบคำถามของเธอ แต่ย้อนถามประโยคหนึ่ง “ซีจิ่ว เจ้าหิวไหม? ข้าเตรียมโจ๊กที่ย่อยได้ง่ายไว้แล้ว อยากกินสักสองสามคำไหม?”

กู้ซีจิ่วส่ายหน้า ถึงแม้จะไม่ได้กินอะไรมาเกือบหนึ่งวันแล้ว เธอก็ไม่มีความอยากอาหารเลย ตอนนี้เธอมีเพียงความรู้สึกเดียวคือเหนื่อยล้า อยากพักผ่อนให้ดีๆ ยิ่งนัก

เธอมองไปทางด้านหลังเขาอีกครั้ง “เขาล่ะ?”

หลงซือเย่ชะงักไปเล็กน้อย เอ่ยตอบ “เขาไปทวงยารักษาให้เจ้า อาการบาดเจ็บนี้ของเจ้าถ้าอยากหายดี จะต้องมียารักษาของซานจิ่งเจินเหริน”

กู้ซีจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง เอ่ยโพล่งออกไป “เหตุใดต้องรีบร้อนขนาดนี้? เขาเพิ่งจะสิ้นเปลืองพลังวิญญาณไปมหาศาล ต้องพักสักหน่อยก่อนสิ แต่นี่กลับวิ่งไปที่หุบเขาล่องเมฆาอันห่างไกล…”

สีหน้าของหลงซือเย่ไม่ใคร่ดีแล้ว ฝืนยิ้มแล้วตอบว่า “นี่เป็นเรื่องที่เขารับปากไว้ก่อน อีกอย่างอาการบาดเจ็บของเจ้าก็ไม่อาจล่าช้าได้ นำยารักษามาให้เจ้าได้เร็วขึ้นหนึ่งวันเจ้าก็หายดีเร็วขึ้นหนึ่งวัน”

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วนิดๆ จวนนี้ของหลงซือเย่อยู่ห่างจากหุบเขาล่องเมฆานับหมื่นลี้ ตี้ฝูอีต้องหอบสังขารที่อ่อนล้าเทียวไปเทียวกลับ…

เด็กคนนี้ช่างซื่อตรงโดยแท้!

หากว่าเธอไม่ตอบรับเงื่อนไขของเขา เขาจะไม่ยุ่งวุ่นวายอย่างเสียเปล่าหรอกหรือ?

อีกอย่างการไปทวงยารักษาครั้งนี้เกรงว่าจะค่อนข้างลำบาก ถึงอย่างไรเธอก็เกือบจะทำลายกล่องดวงใจของซานจิ่งเจินเหรินไป…

คล้ายว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นได้ รีบเอ่ยถามว่า “เขาเพิ่งไปได้ไม่นานกระมัง? ข้าอาจเพิ่มแต้มต่อรองให้เขาได้เล็กน้อย…” พลางล้วงงูดอกท้อตัวนั้นออกมาจากมิติเก็บของ รีดพิษส่วนหนึ่งออกมา บรรจุใส่ขวดเล็กๆ ใบหนึ่ง ยื่นให้หลงซือเย่ “ครูฝึกหลง รบกวนท่านส่งคนไล่ตามเขาไปแล้วมองสิ่งนี้ให้เขาที”

หลงซือเย่งงงันปานน้ำเข้าสมอง “สิ่งนี้คืออะไร?”

กู้ซีจิ่วโบกมือ “กลับมาแล้วข้าค่อยอธิบายกับท่านแล้วกัน เมื่อเขาเห็นสิ่งนี้ก็จะเข้าใจเอง”

หลงซือเย่ไม่เอ่ยอะไรอีก รับขวดพิษงูใบนั้นไปแล้วออกไป…

….

ซานจิ่งเจินเหรินยังอยู่ในหุบเขาล่องเมฆาจริงๆ หากเป็นเช่นในอดีต เขาคงจากไปนานแล้ว แต่ครั้งนี้ทำไม่ได้ เขาปวดกล่องดวงใจเหลือเกิน แทบไม่อาจเดินเหินได้ ทำได้เพียงพักรักษาอยู่ในหุบเขาล่องเมฆาก่อนค่อยว่ากัน

โชคดีที่เฟิงชิงซ่างเหรินเป็นหมอมีชื่อ รับมืออาการบาดเจ็บเช่นนี้ได้สบายนัก เพียงแต่ตำแหน่งนี้น่าอับอาย ซานจิ่งเจินเหรินเป็นสุภาพชนคนหนึ่ง ในจุดนี้อย่าว่าแต่ให้คนนอกมองเลย ต่อให้เขามองเองก็ยังรู้สึกว่ากระดาก เสื่อมเสียเกียรติ

ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ใช้ยาทาภายนอกสักแขนง ใช้เพียงยารักษาจากภายใน เช่นนี้ความเร็วในการฟื้นฟูจึงเชื่องช้า ตรงส่วนนั้นเจ็บจนปวดแสบปวดร้อน เจ็บจนเขาทนไม่ไหวต้องร้องด่าว่า ‘หญิงแพศยา’ อยู่หลายครา

เพียงแต่ขณะที่เขากำลังด่าทออยู่ ในใจก็ค่อนข้างกระสับกระส่ายอยู่บ้าง

เป็นเพราะ ‘หญิงแพศยา’ ผู้นั้นใช้กระบวนท่าเตะผ่าหมากเขาจึงใช้กระบวนท่าสังหารกับนาง หากว่าไม่เหนือไปจากที่คาดการณ์ไว้ ยามนี้นางคงสิ้นชีพไปแล้ว ส่วนเสินเนี่ยนโม่กลับแตกหักกับอาจารย์ทุกท่านเพื่อนาง หากว่าเขาตามหาซากศพของสตรีผู้นั้นพบในไม่กี่วันนี้…ไม่รู้ว่าเขาจะกระทำเรื่องเช่นใดขึ้นมา!

ขณะที่เขากำลังกระสับกระส่ายอยู่ ศิษย์ที่อยู่ด้านนอกก็วิ่งเข้ามารายงาน “ท่านอาจารย์ เสินเนี่ยนโม่กลับมาแล้วขอรับ!”

สีหน้าของซานจิ่งเจินเหรินแปรเปลี่ยนเล็กน้อย

จบเห่แล้ว! คาดว่าสตรีนางนั้นคงตายไปแล้ว เขาจึงมาคิดบัญชี…

การหวนกลับมายังหุบเขาล่องเมฆาของเสินเนี่ยนโม่ย่อมดึงดูดให้เกิดเสียงฮือฮา ปรมาจารย์ทั้งสี่ท่านที่ยังไม่ได้จากรวมถึงเหล่าศิษย์ในสังกัดล้วนตกตะลึง

ด้วยเหตุนี้ ทันทีที่เสินเนี่ยนโม่เข้าสู่หุบเขาล่องเมฆาก็ถูกปิดล้อม…

เฟิงชิงซ่างเหรินมองเขาด้วยสายตาที่ราวกับมองผู้ต้องหา “เนี่ยนโม่ มิใช่ว่าเจ้าตัดขาดเหล่าอาจารย์ไปแล้วหรือ? กลับมาอีกทำไม?”

————————————————————————————-