“ เจ้ายอมแพ้แล้วหรือ ? ข้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถพอที่จะไล่ตามพวกเขา จัดการพวกเขา และเอาแกนเชวียนกลับมาหากเจ้าต้องการ … เจ้าแค่ต้องมีความกล้า ! ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวยิ้มอย่างหม่นหมอง
“ ใช่แล้ว ! และเจ้าก็อาจจะเป็นยอดฝีมือขั้นเทพ … และใครจะรู้ละ บางทีเจ้าอาจจะชนะ และเรื่องราวของเจ้าจะกลายมาเป็นที่จดจำ … ”
ทั่วทั้งร่างของฉีฉางเซี่ยวแข็งทื่อขณะที่เขาได้ยินคำเหล่านั้น เขาหันไปด้วยความโมโห และคำรามออกมาด้วยความโกรธ
“ เงียบซะ ! เอาคำพูดของเจ้าไปใช้กับตัวเองเถอะ เว้นแต่ว่าเจ้าอยากตาย ! ”
จะต้องบอกว่า ฉีฉางเซี่ยวนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่หนึ่งในแปดยอดปรมาจารย์ แต่เขายังเป็นคนหัวโบราณและมีความเป็นอารยะ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่คนส่วนใหญ่จะจินตนาการได้ว่าเขากำลังข่มขู่คนอื่นๆได้ นับประสาอะไรกับคนอื่นๆในแปดยอดปรมาจารย์ ! เขาเพ่งมองไปเข้าไปในดวงตาของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และคนอื่นๆก็เริ่มเตรียมตัวที่จะรับมือกับการต่อสู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งมันมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการโต้เถียงเช่นนี้เกิดขึ้น !
อย่างไรก็ตาม มันก็เหนือกว่าความคาดหมาย การโต้เถียงนี้ไม่ได้ก่อเชื้อประทุแห่งสงครามได้ !
หากคำนี้ถูกพูดในเหตุการณ์อื่นๆ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวอาจจะตอบสนองกลับมาด้วยความรุนแรง และก่อให้เกิดการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือทั้งสอง อย่างไรก็ตามเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก็ไม่ได้จมไปกับอารมณ์ที่รุนแรง แต่เขากลับหัวเราะออกมาแทน
คนส่วนใหญ่ยืนอยู่ด้วยความตกตะลึงจนพูดไม่ออก พร้อมกับสีหน้าที่งุงงง โดยไม่สามารถเข้าใจถึงเหตุผลได้ อย่างไรก็ตาม หลายคนดูเหมือนจะไม่มีความสุขจากความโชคร้ายของเพื่อนพวกเขาในขณะนี้
หากปรมาจารย์ยังผิดพลาดแล้วเหตุใดข้าถึงต้องรู้สึกอับอาย ?
ศิษยทั้งเก้าของลี่วูเบ้ยนั้นรู้แล้วว่าแม้แต่พี่หกของพวกเขาก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้หลังจากที่เผชิญหน้ากับเหยี่ยวผู้โดเดี่ยว เขาไม่ได้ยอมแพ้ให้กับความตาย เขาเพียงแค่สลบ แต่เขาได้เข้าใกล้ความตายมากแล้ว พวกเขาทั้งหมดรวมกลุ่มกันข้างๆต้นไม้ใหญ่ ใช้มือข้างหนึ่งกุมส่วนที่บาดเจ็บไว้ ในขณะที่อีกข้างยังคงใช้เพื่อป้องกัน นอกจากสิบคนที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการต่อสู้แล้ว พี่หกของพวกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก แต่ก็ยังคงนอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น
“ แกนเชวียนหลุดมือได้แล้ว แล้วตอนนี้แผนการเป็นเช่นไร ? หยางลี่จะผิดหวังมาก ”
เล้ยเจียนฮ้งถอนหายใจและพูด
“ ใครจะรู้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเราทั้งหมดนั้นไร้ประโยชน์ในการต่อสู้นี้ … ”
“ ไม่มีผู้ใดสามารถทำได้ … แม้แต่แปดยอดปรมาจารย์ทั้งสองก็ไม่ไดสามารถทำอะไรได้ ข้าเชื่อว่าอาจารย์ของเราก็จะต้องกลับไปมือเปล่าในการต่อสู้นี้ … ดังนั้นอย่าได้โทษตัวเองเลยพี่ใหญ่ ”
หญิงสาวที่อยู่ด้านหลังของเขาพูดเบาๆ
“ ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ผู่อาวุโสทั้งสามแห่งเมืองพายุหิมะก็ทำอะไรไม่ได้ และพวกเราจะมีค่าอะไรในการต่อสู้นี้ ? ”
คำพูดของนางทำให้ความตึงเครียดในกลุ่มผ่อนคลายลง
“ พี่หกในตอนนี้ … หยางลี่ต้องการใช้ให้เขาจับตาดูจวินโม่เซี่ย และตอนนี้เราจะเอาอย่างไรกันต่อ ? ”
เล้ยเจียนฮ้งขมวดคิ้วเนื่องจากความเจ็บปวดที่เขารู้สึกได้เมื่อมองไปยังร่างที่ไร้ความรู้สึกที่อยู่ข้างๆ
“ หยางลี่เป็นคนในสกุลของที่ปรึกษาราชสำนัก เขานั้นฉลาดและเจ้าปัญญา และเขาสามารถหากคนอื่นมาทำงานนี้ได้อย่างแน่นอน ”
หญิงสาวตอบ
“ หากเขาไม่สามารถหาคนที่เหมาะสมกับงานนี้ได้ เดี๋ยวข้าจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ”
“ ข้าอยากจะรู้ว่า ชายชุดดำสองคนนั้นคือใครกัน ? พวกเขาทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร ? ในโลกนี้มีคนที่ทรงพลังเช่นนี้เพียงหยิบมือ แต่ข้าไม่เคยรู้จักพวกเขาทั้งสองเลย ! สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ แม้คิดว่าพวกเขาจะอ่อนแอกว่าฉีฉางเซี่ยวและเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว แต่ทั้งสองก็ไม่ไล่ตามพวกเขาไป … เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวไม่ได้มาที่นี่เพื่อแกนเชวียน นั่นคือสิ่งที่ข้าเข้าใจได้ แต่แม้แต่ฉีฉางเซี่ยวก็ยังไม่ไล่ตามพวกเขาไป … ซึ่งมันน่าประหลาดใจว่า ก่อนหน้านี้เขาเสี่ยงทุกอย่างเพื่อแกนเชวียน …. ”
“ เจ้าพูดถูก ข้าเชื่อว่าแม้ความแข็งแกร่งของชายสองคนนั้นจะน้อยกว่าฉีฉางเซี่ยวและเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว แต่ก็มั่นใจว่าพวกเขาต้องไปถึงขั้นเทพเชวียน แม้ว่าพวกเราไม่รู้ว่ายอดฝีมือลึกลับสองคนนั้นเป็นใคร … ดังนั้นเราทำได้เพียงแค่คิดว่า ที่มาของเขานั้นจะต้องเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือสิ่งที่พวกเรารู้ ! ”
หญิงสาวที่สวยงามย่นคิ้วด้วยความสับสนขณะที่นางถาม
“ แต่สิ่งที่กวนใจข้ามากกว่านี้ … ทำไมเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวและฉีฉางเซี่ยวถึงดูเหมือนจะกลัวพวกเขา ? มีกองกำลังในโลกนี้ที่ปรมาจารย์ทั้งสองไม่กล้าแม้แต่จะยั่วยุหรือ ? ”
“ หรือจะมีกองกำลังในโลกนี้ที่แม้แต่ยอดปรมาจารย์ทั้งแปดก็ไม่กล้าที่ให้พวกเขาขุ่นเคือง ? ”
เล้ยเจียนฮ้งขมวดคิ้ว
ไม่มีพวกเขาคนใดสามารถตอบคำถามนี้ได้
แต่การสนทนาของพวกเขานั้นทำให้จวินโม่เซี่ยผู้ที่ยังคงพรางตัวเองอยู่นั้นสนใจ มือของจวินโม่เซี่ยเริ่มคันเมื่อรู้ว่าพวกเขาเป็นคนของลี่โย่วหลาน และยิ่งคันมากขึ้นเมื่อลี่โย่วหลานบอกให้พวกเขามาจับตาดูเขา ทำให้ จวินโม่เซี่ไม่สามารถควบคุมจิตแห่งการสังหารของเขาได้
สุดท้ายแล้วสายฝนเริ่มจะซาลงเล็กน้อย
“ พี่ฉี พี่เหยี่ยว พี่เฟ้ยเมิงเฉิน หากพวกเราทำผิดกับท่านในวันนี้ โรปดรให้เราได้ชดใช้ในช่วงเวลาในการดื่มชาครั้งหน้า ”
ผู้อาวุโสสสามแห่งเมืองพายุหิมะเดินมาข้างหน้า และพูด
“ หากไม่มีอะไรจะพูดแล้ว พวกเราขอตัวก่อน ”
ตอนนี้เงาของร่างที่อยู่ห่างออกไปเริ่มกระจายตัวออกไปแล้ว กองกำลังของเมืองรวมถึงกองทัพที่มารวมตัวกันเพื่อขโมยเอาแกนเชวียน พวกเขาได้รู้แล้วว่ามันไม่มีประโยชน์สำหรับใครเลยเมื่อแกนเชวียนถุกเอาไปแล้ว และเลือกที่จะกลับไปยังที่พักของพวกเขาแทนที่จะยืนเฉยๆอยู่กลางสายฝนนี้
ฉีฉางเซี่ยวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ขณะที่ผู้อาวุโสทั้งสามกำลังจะจากไป
“ โปรดอย่าโทษตัวเองที่ล้มเหลวในวันนี้ แต่วันหลังข้าจะเชิญชวนพวกเจ้า ”
ผู้อาวุโสทั้งสามหัวเราะ เหาะขึ้นไป รวมตัวกับสหายทั้งสี่และจากไป
พายุโหมกระหน่ำใส่ท้องฟ้าในทันทีที่พวกเขาจากไป ปละดุเหมือนว่า เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก็ตัดสินใจที่จะจากไปเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำบอกลาใดๆ แม้ว่าเขาจะพูดอะไรบางอย่างก่อนที่เขาจะไป อย่างไรก็ตาม ก็ดูเหมือนว่าเสียงของเขาก็ยังดังชัดเจนจากที่อันห่างไกลนั้น
“ มันทำให้ข้าผิดหวังที่เมืองพายุหิมะขาวคิดจะทำให้พวกเราหลงด้วยชาไร้สาระนั่น บอกฮั่นเฟิงยี่ว่าข้าจะมาหาเขา ! ศิษย์ของลีวูเบ้ย บอกอาจารย์ของเจ้าว่าข้าพร้อมในตอนที่เขาต้องการให้เกิดปัญหา ! ”
แม้ว่าเสียของเขาจะยังคงสะท้อนไปในท้องฟ้า แต่ร่างของเขานั้นก็หายไปแล้ว
“ เหยี่ยว ระวังคำพูดของเจ้าด้วย ”
ฉีฉางเซี่ยรีบตอบกลับไป แต่ไม่แน่ใจนักว่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นจะได้ยินหรือไม่เนื่องจากเขาไม่ได้ตอบกลับมา
เฟ้ยเมิงเฉินหัวเราะเบาๆ หันไป และเหาะไปอย่างรวดเร็ว ! เขาเดินทางนับพันลี้มาจากอาณาจักรยูถังด้วยเป้าหมายที่จะคว้าเอาแกนเชวียนมา แต่แม้แกนเชวียนนั้นหายไปต่อหน้าต่อตาของเขา เขาก็ดูเหมือนจะไม่ผิดหวังมากนัก เนื่องจากเขาเนื่องจากเขาฉลาดมากพอที่ตระหนักได้ว่าเขาโชคดีมากแล้วที่มีชีวิตรอด
ขณะที่เห็นกลุ่มคนกระจายตัวออกไป ฉีฉางเซี่ยวถอนหายใจ
คนเพวกนั้นยังอยู่ข้างนอก … ข้าจะต้องไปพบยุนเบ้ยเฉิน และลี่จือเจียนแลกเปลี่ยข้อเสนอบางอย่าง …
หัวใจของเขาจมดิ่งลงด้วยสถานการณ์ที่กลับตาละปัตนี้ ซึ่งทำให้เขาเป็นกัลวลอย่างมาก เนื่องจากแกนเชวียนได้หลุดมือเขาไป …
“ นายท่าน ”
ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนเรียกฉีฉางเซี่ยวด้วยความสุภาพ
“ เจ้ากลับไปยังค่ายของเฉินซีและอยู่ที่นั้น ข้ามีบางอย่างที่จะต้องจัดการด้วยตัวเอง แล้วข้าจะไปหาเจ้า ”
ฉีฉางเซี่ยวกล่าวหลังจากที่เขาครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน
“ ขอรับ ! ”
ชายทั้งหกรับคำสั่ง พวกเขาสี่คนยื่นมือไปประคองชายสองคนที่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขารีบถลึงตาใส่ศิษย์ของลี่วูเบ้ยอีกครั้ง จากนั้นก็หันไป คำนับฉีฉางเซี่ยว และหายไปในสายฝน
ฉีฉางเซี่ยวมองไปที่มือของเขาอีกครั้ง ขณะที่เดินช้าๆไปในอากาศ ดูเหมือนจะแปลกประหลาดแต่ความหดหู่กำลังเกาะกุมหัวใจของเขา
ทันใดนนั้น เขามองไปขึ้นไปบนท้องฟ้า และถอนหายใจขณะที่หยิบขวดใบเล้กออกมา และโยนไปให้กับเล้ยเจียนฮ้งก่อนที่เขาจะพุ่งตัวจากไป ร่างที่ริบหรี่ของเขาเริ่มห่างไปจากกลุ่มของเล้ยเจียนฮ้งและจากนั้นก็ค่อยๆเบลอและจางหายไปในที่สุด …
เล้ยเจียนฮ้งค่อยๆมองไปยังขวดหยกในมือของเขา และเห็นมีสองคำเขียนไว้ยนนั้น
น้ำยาคืนสภาพ !
เขาอดที่จะดีใจกับโชคของเขาไม่ได้ และมองขึ้นไปเพื่อของคุณฉีฉางเซี่ยว แต่ชายผู้นั้นก็หายไปแล้ว
น้ำยาคืนสภาพนี้เป็นเครื่องหมายการค้าของสกุลของฉีฉางเซี่ยว และมีแค่พวกเขาเท่านั้นที่สามารถผลิตมันได้ แม้ว่ายานี้อาจจะไม่สามารถชุบชีวิตคนตายได้ แต่มันก็มีความสามารถมากพอที่ช่วยให้รอดชีวิตได้ !
เล้ยเจียนฮ้งรีบออกคำสั่งเพื่อนของเขา ผู้ที่พยุงร่างของพี่หกขึ้นมาในทันที ประสาทสัมผัสของเล้ยเจียนฮ้งเริ่มเตือนถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามาในทันทีขณะที่เขาเปิดฝาขวดยานี้ และจิตใต้สำนึกของเขาก็บอกให้หลบนี้อันตรายที่มองไม่เห็นนี้
เสียงกรีดร้องหลายเสียงดังขึ้นพร้อมกัน !
คนสี่คนที่ล้อมรอบพี่หกอยู่เริ่มมีเลือดออกมาจากปากและจมูกของพวกเขาอย่างรวดเร็ว และจากนั้นพวกเขาก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างเงียบๆ !
มีมีดบินขนาดเล็กปักอยู่ที่อกของพวกเขา และเห็นได้จากใบมีดที่เสียเข้าไปในร่างกายของพวกเขาว่ามันปักตรงเข้าไปที่หัวใจของพกวเขา !
มีดหนึ่งเล่มหนึ่งชีวิต !
พวกเขาทั้งสี่ตายไปอย่างเงียบๆ !
พวกเขาทั้งสี่เป็นยอดฝีมือปฐพีเชวียน ในขณะที่อีกสี่คนเป็นยอดฝีมือสวรรค์เชวียน !
“ น้อง … ”
เล้ยเจียนฮ้งยื่นมืออกไป ร่างของเขาแข็งทื่อไปในขณะที่เขาได้สติขึ้นมา
“ เจ้าเป็นใคร ? ออกมาแสดงตัวต่อหน้าข้า ! อย่าหลบซ่อนในเงามืดและโจมตีพวกเราจากข้างหลัง … ออกมาเจ้าชั่ว … ออกมา … เจ้า … เจ้า … เจ้า …. เจ้าอยู่ใน …. ”
เล้ยเจียนฮ้งคำรามด้วยความโกรธขณะที่เขาสาปแช่ง ในขณะที่ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ ! ดูเหมือนว่าเขาจะเสียสติไปแล้ว และเริ่มวิ่งไปรอบๆเพื่อมองหาผู้ที่โจตมีออกมา แต่ก็ไม่สามารถที่จะระบุได้หลังจากที่ค้นหาเป็นเวลานาน สุดท้ายเขาคุกเข่าลงบนพื้น และร้องไห้ออกมา !
เพื่อนอีกสี่คนที่เหลืออยู่ของเขาก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน และเริ่มวิ่งไปพร้อมกับกรีดร้องและร้องไห้
พวกเขาทั้งห้าพยายามค้นหาอีกครั้ง แต่ก็ไม่เจอร่องรอยของศัตรูของพวกเขาเลย พวกเขาไม่คิดว่า พวกเขาทั้งสิบจะสามารถรอดพ้นจากการต่อสู้กับกลุ่มของสวรรค์เชวียน และแม้แต่เทพเชวียนโดยสูญเสียคนไปเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องประหลาดใจหลังจากที่การต่อสู่จบลง และพวกเขาสี่คนตายไปอย่างรวดเร็ว !
เล้ยเจียนฮ้งก้มลงไปและดึงใบมีดออกจากอกของพี่เก้าเพื่อจะตรวจสอบมัน และกัดฟันขณะที่พูด
“ ข้าไม่เคยเห็นมีดบินเช่นนี้มาก่อน … เห็นได้ชัดว่าศัตรูของพวกเราออกแบบมันมาอย่างพิเศษ สำหรับพวกเรา ตราบใดที่เจ้าสามารถที่ระบุแหล่งที่มาของมีด ที่โจมตีมาอย่างอุกอาจนี้ได้ ! พวกเราจะได้แก้แค้นให้แก่ความตายของพี่น้องทั้งหมดนี้ ! ”
“ พวกเขาจะต้องไม่ตายฟรี พวกเราสาบานว่าจะแก้แค่ให้กับคนที่ล้มตาย ! ”
สี่คนที่ยังเหลืออยู่ตะโกนขึ้นมาพร้อมกันด้ยความโกรธ
ทันใดนนั้นหญิงสาวก็ร้องขึ้น
“ มีดอีกสามเล่มหายไปใหน ? ”
พวกเขาหันไปและทันใดนั้นก็ตัวแข็งด้วยความหวาดกลัว มีบางคนได้เอามีดไปจากร่างของเพื่อนๆพวกเขา และผู้โจมตีลึกลับนี้ก็จัดการปาดคอพวกเขาเมื่อให้แน่ใจว่าพวกเขานั้นตายจริงๆก่อนที่จะจากไป
มีใครบางคนสามารถขโมยมีดเหล่านั้นไปได้อย่างรวดเร็วและปล่อยให้เลือดของพวกเขาไหลออกมจากรอยแผลที่เปิดอยู่นั้น !
ทุกคนมองหน้ากันขณะที่ความหวาดกลัวหยั่งลึกลงไปยังจิตวิญญาณของพวกเขา