บทที่ 506 โกรธเกรี้ยว

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 506 โกรธเกรี้ยว
ถึงแม้หลี่กั๋วหรงจะชราแล้ว แต่เนื่องจากเป็นคนผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ

ถือได้ว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าคนหนึ่งก็ว่าได้ ไม่อย่างนั้นตระกูลหลี่คงไม่เจริญก้าวหน้ามาถึงตอนนี้หรอก

ถึงแม้ว่าระหว่างเย่เซิ่งเทียนกับหวางซีต่างไม่พูดถึงเรื่องนี้ แต่หลี่กั๋วหรงก็สามารถคาดเดาเรื่องนี้ได้ไม่มากก็น้อย

“ท่านยังคงเฉียบแหลมนะครับ”

เย่เซิ่งเทียนหัวเราะ ไม่ได้ตอบตรงๆ

หลี่กั๋วหรงถอนหายใจพลางกล่าวว่า”ยังจะมาเฉไฉกับฉันอีก หนทางที่ฉันก้าวเดินมายังมากกว่าข้าวที่พวกแกเคยกินเสียอีก ไป๋เหวินเซวียนเป็นใคร?เขายอมเข้ามาขอโทษคนที่อายุน้อยกว่าอย่างพวกแกได้โดยดีงั้นหรอ?แล้วเปาเจิ้นเป็นใคร?เขามาที่ตระกูลหลี่ไม่ได้มาหาฉันแต่มาหาพวกแก หรือว่ามันยังไม่ชัดเจนอีก?เซิ่งเทียนเอ้ย แกมันเป็นเด็กไม่ซื่อสัตย์เอาเลยนะ”

ไม่รอให้เย่เซิ่งเทียนได้ตอบอะไร หลี่กั๋วหรงก็พูดต่อไปว่า”ฉันรู้ดีว่า ฉันมันแก่แล้ว คนหนุ่มสาวอย่างพวกแกน่ะมีบางเรื่องที่ไม่ยอมพูดกับฉัน แต่ในฐานะคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ฉันขอแนะนำแกนะว่า ขอให้ฉันสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์”

เย่เซิ่งเทียนกล่าว”คุณตาครับ ผมเข้าใจความหมายของท่านดีครับ แต่เรื่องบางเรื่องผมพูดไม่ได้ อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังพูดไม่ได้ คำแนะนำของท่านผมจะจำไว้ครับ”

หลี่กั๋วหรงมองไปที่เย่เซิ่งเทียนอย่างลึกซึ้ง ใช้ไม้ค้ำเคาะไปที่ขาของเซิ่งเทียน พลางกล่าวว่า”ไอ้หนุ่ม ซุปยาต่ออายุของแก ดีมากเลยล่ะ ฮ่าๆๆ”

เย่เซิ่งเทียนมองดูแผ่นหลังของหลี่กั๋วหรง ไม่พูดอะไรอยู่นาน

หรือเรื่องบางเรื่อง เพราะหลี่กั๋วหรงเป็นผู้ชม แต่กลับเข้าใจอะไรมากกว่า

เรื่องการประลองทางการแพทย์ ณ หอรักษา อึกทึกครึกโครมไปทั่ว ดูท่านายท่านคงจะคาดเดาอะไรได้แล้ว ดังนั้นสองวันมานี้ จึงได้มอบหมายกิจการของตระกูลหลี่ให้กับหวางซีจัดการไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่

ไม่ว่าหลี่กั๋วหรงจะมีจุดประสงค์อะไร เย่เซิ่งเทียนไม่อยากเข้าไปยุ่ง ให้หวางซีตัดสินใจเองทั้งหมด

“เซิ่งเทียน ตระกูลเย่ส่งคนมา อยากจะพบนายน่ะ”

หมิงหวงลุงรองได้โทรศัพท์มา

เย่เซิ่งเทียนเงียบ

หมิงหวงพูดต่อไปว่า”ถ้านายไม่อยากเจอก็ช่างเถอะ ความจริงก็ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อยากบอกกับนายก่อน คุณท่านเย่ไปไหว้หลุมศพของแม่นายมา บอกว่านายให้อภัยตระกูลเย่เมื่อไร เขาก็จะจากไปเมื่อนั้น เย่ห้าวที่ขาดทั้งสองข้างหัก ก็ไปด้วยเหมือนกัน”

เย่เซิ่งเทียนยังคงเงียบ

หมิงหวงกลัวว่าเย่เซิ่งเทียนจะโกรธ เขาจึงพูดปลายสายอย่างระมัดระวังว่า”เซิ่งเทียน ถ้านายไม่เห็นด้วย ฉันก็จะให้คนไล่พวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้แหละ แต่มีคำบางคำที่ลุงรองต้องพูดกับนาย สมัยนั้นตระกูลหมิงของเราต่ำต้อย คนอื่นจะไม่เห็นค่ามันก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา ลุงรู้ว่านายรู้สึกโกรธ ฉันเองก็รู้สึกโกรธเหมือนกัน เพียงแต่ว่า คนที่ทำให้เสี่ยวเม่ยต้องตาย ไม่ใช่คนของตระกูลเย่ แต่เป็นไอ้สัตว์เดรัจฉานพวกนั้นของตระกูลหมิง”

“เซิ่งเทียน งั้นลุงวางสายก่อนแล้วกัน ลุงไม่ยุ่งกับพวกเขาแล้ว”

เย่เซิ่งเทียนยังคงไม่พูดไม่จา

เย่จิงหงพวกเขาจะทำอะไร เย่เซิ่งเทียนขี้เกียจใส่ใจ

“ในเมื่อพวกแกจะสำนึกผิดต่อหน้าหลุมศพของแม่ฉัน งั้นพวกแกก็ไปคุกเข่าเสียเถอะ รอให้แม่ฉันฝืนกลับขึ้นมาได้เมื่อไร ฉันจะให้อภัยพวกแก”

สายตาของเย่เซิ่งเทียน เหลือเพียงความเย็นชา

หมายความว่าไงที่คนของตระกูลเย่มาที่เฉียนถัง?ใครๆก็รู้ว่า อยากจะเชิญให้ตนกลับไปรับช่วงต่อของตระกูลเย่

ไม่มีอะไรมากไปกว่าการอยากให้ตนสนับสนุนตระกูลเย่

แต่ทว่า เขาไม่อยากได้มัน!

ในเมื่อพวกเขาอยากเฝ้าหลุมศพแม่ งั้นก็ให้พวกเขาเฝ้าไปเถอะ

เย่เซิ่งเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วโทรหาหัวเวิ่นยี

เรื่องของสมาคมการแพทย์อยากจะแก้ไขให้เรียบร้อย ยังต้องอาศัยหัวเวิ่นยี

แต่ไม่นาน คิ้วของเย่เซิ่งเทียนก็ขมวดขึ้น หัวเวิ่นยีกลับปิดเครื่อง

เขารีบโทรหาเวินเฉินทันที”ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของหัวเวิ่นยีที”

ผ่านไปสิบนาที เวินเฉินรีบตอบกลับมาว่า”เจ้าเทพครับ ตรวจสอบพบแล้วครับ หัวเวิ่นยีไปหอรักษาครับ อีกทั้งยังขาขาดอีกด้วย ได้รับบาดเจ็บปางตาย”

“บ้าหน่า!!”

เย่เซิ่งเทียนโกรธเป็นอย่างมาก”รีบจัดหาเที่ยวบินที่เร็วที่สุดให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะไปหอรักษาทันที!”

เขาคิดไม่ถึงว่า คนของสมาคมการแพทย์ จะกล้ามากขนาดนี้ ทำให้หัวเวิ่นยีต้องเสียขาทั้งสองข้าง!

ดูท่า สมาคมการแพทย์ จะเก็บไว้ไม่ได้อีกแล้ว!