บทที่ 507 หอรักษา

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 507 หอรักษา
เย่เซิ่งเทียนรู้ดี เหตุใดหัวเวิ่นยีถึงต้องไปที่สมาคมการแพทย์ลำพัง

เขาอยากหยุดยั้งการประลองทางการแพทย์ในครั้งนี้ เขาอยากรับผิดชอบสมาคมการแพทย์เพียงคนเดียว

อยากใช่ชีวิตของตัวเอง เพื่อแลกกับการให้อภัยของจั่วอู๋เต้า

แต่ด้วยความเข้าใจที่เย่เซิ่งเทียนมีต่อหัวเวิ่นยี เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบเมื่อก่อนอย่างแน่นอน

บนเครื่องบิน เย่เซิ่งเทียนสีหน้าเยือกเย็นขึ้นเรื่อยๆ สมาคมการแพทย์ในตอนนี้ ไม่ใช่สมาคมการแพทย์ดังเช่นเมื่อก่อนอีกแล้ว

“เบื้องหลังนี้ ตกลงเป็นใครกันแน่?ตกลงตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ถ้าไม่รีบจัดการ สมาคมการแพทย์จะต้องกลายเป็นเนื้อร้ายแน่”

เย่เซิ่งเทียนรีบเปิดเอกสารในตอนนั้นดู

โก้วหวยได้รับอิทธิพลจากผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับไม่มีข่าวคราวของผู้หญิงคนนั้นเลย

เจียงหมิงเฉิงพลาดการประเมินไป เพราะการตายของพ่อแม่ แต่การตายของพ่อแม่เจียงหมิงเฉิงมีช่องโหว่ บังเอิญมากเกินไป!

แต่การโดนยาพิษของหูชิงหนิว แปลกประหลาดเหมือนกัน จั่วอู๋เต้าไปที่ถ้ำศพ หวังหลิงฝึกกู่ เผยชุนชิหักหลังสมาคมการแพทย์ เป็นช่องโหว่ทั้งนั้น

เป็นไปไม่ได้ที่ หัวเวิ่นยีจะทำเรื่องพวกนี้คนเดียว

เหตุผลน่ะเหรอมันง่ายมาก ถึงแม้ตอนนั้นหัวเวิ่นยีจะมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม แต่เขายังไม่เข้าใจเส้นทางของตัวเองหมดด้วยซ้ำ เขาไม่ได้มีความสามารถมากมายขนาดนั้นพอที่จะทำเรื่องมากมายพวกนี้ได้หรอกนะ

พิษซากศพพันปี ทางกู่ ทางพิษ หัวเวิ่นยีในตอนนั้นไม่มีทางเข้าใจเรื่องพวกนี้

ยิ่งไปกว่านั้น หากเรื่องนี้ล้วนเป็นฝีมือของหัวเวิ่นยี ถ้าอย่างนั้นเหตุใดเขาจึงไม่ถอนรากถอนโคน?ให้คนพวกนี้อยู่รอดมาได้อย่างไร?หรือว่าจะเหลือไว้เป็นเสี้ยมหนามของตัวเอง?

หัวเวิ่นยีไม่ได้โง่ขนาดนั้น

ยิ่งเข้าใจและรู้เรื่องเหล่านี้ เย่เซิ่งเทียนก็ยิ่งรู้สึกว่าในนี้มีเรื่องไม่ชอบมาพากลที่ใหญ่มาก

“ที่ตาแก่ในตอนนั้นถูกคนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส หรือมันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?ถึงจะเป็นฉันในตอนนี้ ก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตาแก่ในตอนนั้น คนที่สามารถทำร้ายตาแก่จนบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ตกลงเป็นใครกันแน่?”

เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วเป็นปม หลินเต้าจื่ออาจารย์ของเขา เป็นผู้นำของสมาคมการแพทย์คนก่อน

ทักษะทางการแพทย์และวิทยายุทธล้วนหาใครเปรียบ ถึงจะเป็นเย่เซิ่งเทียนในตอนนี้ ก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ แต่คนแบบนี้ กลับถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสปางตาย

ดังนั้นเย่เซิ่งเทียนจึงเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก ในนี้ต้องมีบางอย่างที่เชื่อมโยงกันอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐาน ดังนั้นจึงไม่อาจพิจารณาอะไรได้

“ไอ้โง่พวกนี้”

เย่เซิ่งเทียนทำอะไรไม่ถูก คนของสมาคมการแพทย์ ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะในด้านทักษะทางการแพทย์ แต่นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว พวกเขาเป็นกลุ่มคนบ้าและประสาท

ดังนั้นถ้าหากมีคนอยากใช้ประโยชน์จากพวกเขา มันง่ายเกินไปแล้ว

ในขณะที่เย่เซิ่งเทียนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เครื่องบินก็ได้ลงจอดที่เมืองหลวง

เมื่อลงจากเครื่องบิน เย่เซิ่งเทียนรีบรุดไปที่หอรักษา

เขาไม่กล้ารีรอแม้แต่วินาทีเดียว ไม่อย่างนั้นหัวเวิ่นยีจะต้องตายแน่โดยไม่ต้องสงสัย

ณ ตอนนี้

หอรักษา

ขาทั้งสองข้างของหัวเวิ่นยีได้ถูกตนทำลายแล้ว บนพื้นเต็มไปด้วยเลือด บาดแผลเละตุ้มเป๊ะ

“หัวเวิ่นยี อย่าคิดว่าที่แกทำแบบนี้ ฉันจะยกโทษให้แก แกทำให้ฉันต้องตกอยู่ในสภาพไม่เหมือนมนุษย์มนา ไม่ทรมานแกให้หนำใจ แกก็อย่าคิดจะตายเลย!”

จั่วอู๋เต้าพูด อย่างน่ากลัว ราวกับซากศพพูดได้

ตะขาบขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือกำลังแหวกว่ายอยู่บนตัวของหวังหลิง เขาตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ”ฉันจะเอาชีวิตแก!”

หูชิงหนิวและคนอื่นๆ มองไปที่หัวเวิ่นยีด้วยสายตาเย็นชา ไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย

คนเหล่านี้ กล้ำกลืนฝืนทนกับความเจ็บปวดของหัวเวิ่นยี บนใบหน้ากลับเผยให้เห็นรอยยิ้มเยือกเย็น”ไอ้พวกโง่!”

“แกยังจะหยิ่งผยองอะไรอีก!!”

เผยชุนชิวฟาดฝ่ามือของไปที่หน้าของหัวเวิ่นยี เขาพูดอย่างโกรธเคือง”วันนี้แกตายแน่ ไม่มีใครช่วยแกได้หรอก!หัวเวิ่นยี ถ้าใช่แก พวกเราคงไม่ได้ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้!!”

“เขาพูดถูก พวกแก เป็นพวกโง่!”

ชั่วพริบตาเดียว ก็มีเสียงหนึ่งดังกังวานขึ้นมา