ชิงสุ่ยไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาหรือว่าเธอกำลังสูญเสียความมั่นใจในตัวเขา?
”เจ้าคือคู่ของข้าข้าจะไม่มีวันให้ปัญหาใดๆก็ตามย่างกรายเข้าหาเจ้าตราบที่ข้ายังมีชีวิตอยู่”
ชิงสุ่ยไม่พูดอะไรต่อเขาปล่อยให้ดวงตาที่จริงจังมองทะลุผ่านดวงตาอันแสนเยือกเย็นของชิงห่านอี่เพื่อให้เธอรู้ถึงเจตจำนงของเขา นี่ก็นานมากแล้วที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นดวงตาอันเย็นและเฉยเมยของชิงห่านอี่
ชิงห่านอี่ยิ้มขณะมองดูดวงตาที่จริงจังของชิงสุ่ยแต่ครั้งนี้รอยยิ้มของเธออัดแน่นไปด้วยความทุกข์ยากลำบากใจ แต่ก็ยังสร้างแรงสะเทือนใจได้พอสมควร
ตัวตนของเธอตอนนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนที่เธอพยายามเป็น
”สาวน้อยของข้ารอยยิ้มของเจ้าช่างทำให้หัวใจของข้าเจ็บปวดเหลือเกิน”ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่เขาเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเธอ
ชิงห่านอี่สัมผัสมือชิงสุ่ยใบหน้าของเธอค่อยๆกลายเป็นรอยยิ้มที่มีความสุข รอยยิ้มที่เปรียบเสมือนดอกไม้ที่กำลังเบิกบาน ความทุกข์ยากต่างๆเริ่มพันสลายหายไป และแล้วจิตใจของชิงสุ่ยก็ค่อยๆถูกเติมเต็มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มของเธอ
”เจ้าจะไม่ทิ้งข้าไปจริงๆใช่ไหม”ชิงห่านอี่กอดชิงสุ่ย
”จวบจนกว่าข้าจะสิ้นชีวี”
……………
……..
แม้ว่าจะเกิดเหตุผิดพลาดในงานวันเกิดของชิงซิ่วแต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่น่าใส่ใจ เพราะโลกใบนี้คนตายเกิดได้ทุกวินาทีเสมอ ทุกหย่อมหญ้าย่อมมีการสังหารการลอบฆ่า และการแย่งชิงกันตลอด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วตัดสินผ่านพละกำลัง และการฆ่าฟันกันนี้ก็เหมือนตัวขับเคลื่อนความแข็งแกร่งของแต่ละมหาทวีปให้ไปข้างหน้า
บรรดาแขกเริ่มแยกย้ายกันกลับเหลือเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังนั่งจับกลุ่มพูดคุยกัน
ชิงสุ่ยและเหล่าหญิงสาวก็เดินไปนั่งพักผ่อนกันที่ห้องนั่งเล่นชิงห่านอี่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้นำแห่งพระราชวังหมาป่ามังกร แต่เนื่องจากเธอไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ บรรดาหญิงสาวจึงมีสายตาแปลกๆ ซึ่งมันค่อนข้างทำให้ชิงสุ่ยอึดอัด
และการมีอยู่ของเธอมันทำให้คนอย่างประมุขพระราชวังสุริยารู้สึกหดหู่ใจเช่นกัน
แต่เธอก็เลือกที่จะไม่กล่าวถามใดๆทั้งสิ้นซึ่งชิงสุ่ยก็ไม่ใช่คนโง่เขาเองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป แต่โชคดีที่บรรยากาศทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากที่อีเย่เจี้ยนเก้อเริ่มต้นบทสนทนา
”ชิงสุ่ยตระกูลหยวนจะกลับมาอีกไหม?”อีเย่เจี้ยนเก้อกล่าวถามขณะที่เธอนั่งอุ้มชิงซิ่วอยู่ด้านข้าง
”พวกมันจะต้องกลับมาแน่แต่เวลาและเหตุผลที่ควรใช้อ้างจะกลับมาข้าก็ไม่แน่ใจนัก”ชิงสุ่ยยิ้ม
”ชิงสุ่ยพลังของเจ้าพัฒนาขึ้นแล้วงั้นหรือ?” มู่หยุน ชิงเก้อกล่าวถาม
ชิงห่านอี่เองก็รู้สึกได้เช่นกัน
”อืมพัฒนาขึ้นมาเล็กน้อยน่ะ แต่พวกเจ้าอย่าได้กังวลอันตรายเลย”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยท่าทางสบายๆ
”เจ้าอย่าได้ประมาทตระกูลหยวนนั้นมีพื้นเพดั้งเดิมที่แข็งแกร่ง”อีเย่เจี้ยนเก้อตอบ
”สถานการณ์ที่แตกต่างกันจะเป็นตัวผลักดันให้พวกเราแข็งแกร่ง จะได้กังวล ข้าจะสร้างค่ายกลปกป้องพื้นที่โดยรอบ อ๋อ พวกเจ้าเองก็ต้องเรียนรู้พวกมันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเช่นกัน”ชิงสุ่ยครุ่นคิด
……………
…………
ชิงสุ่ยทำการสร้างรูปแบบค่ายกลขึ้นภายในพระราชวังอาทิตย์อัสดงมันเป็นรูปแบบค่ายกลขนาดใหญ่ที่ยังไม่ถูกเปิดใช้งาน มันคือรูปแบบง่ายๆที่มีประโยชน์สารพัดนึกว่าจะเป็นป้องกันหรือโจมตี โดยอาศัยภูเขา ก้อนหิน และสายน้ำที่อยู่โดยรอบ ไอลีนโนเวล
วันเวลาผ่านไปอย่างสงบสุขแต่ตัวของชิงสุ่ยเองก็รับรู้ได้ว่าพายุกำลังจะเข้ามาแทนที่
ทางด้านของชิงห่านอี่เธอเดินทางกลับไปยังพระราชวังหมาป่ามังกรเนื่องด้วยมีภารกิจและมีผู้คนรอคอยเธออยู่มากมาย
ในตอนกลางคืนชิงสุ่ยกลับเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ เขาฝึกฝนพลังไทเก๊ก จากนั้นก็เริ่มฝึกฝนกรงเล็บมังกรทองคำ ความสามารถของเขายังคงคืบหน้า และทุกการฝึกฝนเขาจะรับรู้ได้ถึงกระแสพลังที่ไหลผ่านไปทั่วร่างกายและจิตใจ
ปราณเกิดขึ้นภายในตันเทียนและตันเถียนก็คือรากฐานของมนุษย์ ร่างกายก็เปรียบเสมือนตันเถียน แต่มันก็เป็นเพียงแค่ทางผ่าน จึงทำให้ความต้องการในการใช้ทะเลแห่งปราณมีเพียงน้อยนิด ทะเลแห่งปัญญาคือตัววัดความแข็งแกร่งของปราณจิตตันเถียน ฉะนั้นภายในทะเลแห่งปัญญาจึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังปราณจิต เมื่อมีร่างกายที่แข็งแรง การถ่ายทอดพลังปราณจิตและพลังปราณก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพ
ชิงสุ่ยครอบครองทั้งเส้นลมปราณวชิระเมล็ดเจ็ดสี เมล็ดปราณจักรพรรดิ รวมทั้งสิ่งของต่างๆไม่ว่าจะเป็น ธงสวรรค์ปัญจธาตุ และกระบี่ดารายุพฆาต ในบางครั้งที่เขาฝึกฝน เขาจะพบว่าสิ่งของต่างๆเหล่านี้จะช่วยรวบรวมพลังและเสริมพลังจุดตันเถียนให้แข็งแกร่งขึ้นโดยที่แต่ก่อนเขาไปเองก็ไม่รู้ตัว
และบางครั้งจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางเองก็พยายามเข้าไปในจุดตันเถียนดูเหมือนมันต้องการจะครอบครองร่างของเส้นลมปราณวชิระ ชิงสุ่ยไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาควรช่วยเหลือจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางให้เข้าควบคุมจุดตันเถียนของเขาดีหรือไม่
แต่เขาก็ไม่กล้าลองเขาฝึกฝนจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางจนบรรลุดินแดนขั้นต้นเพียงเท่านั้น และปล่อยให้มันทำตามใจตนเองโดยอยู่บนหลักกฎของธรรมชาติเพียงอย่างเดียว