ตอนที่ 1813 พิษมหัศจรรย์ (1)
ผู้อาวุโสอิ่งมองจวินอู๋เสียอย่างไม่เข้าใจ
จวินอู๋เสียมองผิวน้ำที่สงบนิ่งดอกบัวบานลอยอยู่ในน้ำพร้อมกับใบบัว ทันใดนั้น จุดสีขาวก็ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำทำให้เกิดระลอกคลื่น
ปลาคาร์ปสีแดงพลิกหงายท้องอยู่บนผิวน้ำไม่หายใจอีกต่อไป
ผู้อาวุโสอิ่งเบิกตากว้างเขามองปลาคาร์ปในสระลอยขึ้นสู่ผิวน้ำทีละตัว หงายท้องตายอย่างไร้เสียง
“นี่……นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”ผู้อาวุโสอิ่งชี้ไปที่ปลาคาร์ปที่ตายแล้วในน้ำด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ สระน้ำก็ดูปกติดี และจวินอู๋เสียแค่เทชาในกาลงไปเท่านั้น ทำไม……
จวินอู๋เสียมองปลาคาร์ปที่ตายแล้วและยกยิ้มมุมปาก“ดูเหมือนว่าเจ้าจะคิดผิดนะ”
“อะไรนะ?”ผู้อาวุโสอิ่งมองจวินอู๋เสียอย่างไม่เข้าใจ ทั้งอาหารและเครื่องดื่มของจวินอู๋เสียที่นี่ เขาให้ศิษย์ที่เขาไว้ใจดูแลจัดการ เนื่องจากเขากลัวว่าผู้อาวุโสเยว่จะแอบทำอะไรกับมัน แต่สุดท้ายก็ยังเกิดปัญหาขึ้นกับน้ำชา
“ต้องเป็นแผนการของผู้อาวุโสเยว่แน่!ข้าจะเปลี่ยนคนพวกนั้นใหม่ทั้งหมดวันนี้” ผู้อาวุโสอิ่งตกใจ การร่วมมือระหว่างเขากับจวินอู๋เสียเพิ่งจะเริ่มต้น เขาจะปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับจวินอู๋เสียไม่ได้เด็ดขาด
แต่จวินอู๋เสียส่ายหน้า
“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากอย่างนั้นปัญหาไม่ได้อยู่ที่พวกเขา”
“ไม่ได้อยู่ที่พวกเขา?แล้วจะเป็นใครได้อีก?” ผู้อาวุโสอิ่งยังคงมองจวินอู๋เสียอย่างสับสน
จวินอู๋เสียกวาดสายตามองปลาคาร์ปที่ตายอยู่บนผิวน้ำแล้วหรี่ตาลง
เรื่องชักจะน่าสนใจขึ้นทุกที
“ไม่มีอะไรเจ้ากลับไปก่อนเถอะ” จวินอู๋เสียพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ผู้อาวุโสอิ่งรู้สึกว่าตนต้องมองข้ามอะไรบางอย่างไปแต่หลังจากที่คิดทุกอย่างแล้ว เขาก็ยังหาสิ่งผิดปกติไม่พบ ตอนแรกเขาคิดจะสงสัยเยว่เย่ แต่เขาก็มองเห็นทุกอย่างจากในห้องอย่างชัดเจน แม้ว่าเยว่เย่จะแตะถ้วยน้ำชา แต่นางไม่เคยแตะกาน้ำชาเลยสักครั้ง นอกจากนั้น นางนั่งอยู่แค่ครู่เดียวเท่านั้น สีหน้าตื่นตกใจอยู่ตลอดเวลา ดูไม่เหมือนคนที่จะวางยาใครได้เลย
ดังนั้นผู้อาวุโสอิ่งจึงปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เยว่เย่จะเป็นคนวางยา
แม้ว่าพลังของเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่าผู้อาวุโสเยว่แต่อย่างน้อยเขาก็มีพลังวิญญาณขั้นสีม่วง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวอันแข็งทื่อของเด็กหญิงตัวเล็กๆ
จวินอู๋เสียมองผู้อาวุโสอิ่งออกจากลานบ้านไปด้วยสีหน้าไม่เข้าใจจากนั้นนางก็เดินไปนั่งที่ม้านั่งหิน เอามือเท้าคางมองกาน้ำชาที่ว่างเปล่าในมืออีกข้าง แล้วเปิดฝากาออก เทใบชาลงบนโต๊ะหิน จากนั้นก็หยิบเศษใบชา 2 ชิ้นจากในกองขึ้นมาดม
กลิ่นชาจางๆอบอวลอยู่ในจมูกของนางและนอกจากกลิ่นชาก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
เจ้าแมวดำโผล่พรวดออกมาและกระโจนขึ้นไปโต๊ะหินมองกองใบชาที่เปียกโชกขณะเดินไปรอบๆ ก่อนจะเดินเข้าไปดมใกล้ๆ
“เหมียว?”
[ไม่มีกลิ่นเลยนี่?]
“เก่งนะว่าไหม?” จวินอู๋เสียพูดพลางเลิกคิ้ว
“เหมียวววว……”
[มันใช่เวลามาชื่นชมอีกฝ่ายไหม?พิษนี่ดูอันตรายมากนะ ฆ่าคนได้ทันทีแบบไม่มีปัญหาเลย]
เจ้าแมวดำตัวน้อยมองเจ้านายของมันอย่างจนปัญญาชาใส่พิษนี้เกือบจะเข้าปากนางอยู่แล้ว นางยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรแม้แต่น้อย นางต้องเป็นคนเดียวในโลกแน่ที่สามารถมองดูพิษที่ใช้เพื่อฆ่าตัวเองด้วยท่าทางสงบเช่นนี้
จวินอู๋เสียหรี่ตามองเจ้าแมวดำอย่างดูถูกทันใดนั้น นางก็บีบกองใบชาให้เป็นก้อนเล็กๆ และก่อนที่เจ้าแมวดำจะทันได้ตอบสนอง นางก็ยัดใบชาเข้าไปในปากของมัน!
ตอนที่ 1814 พิษมหัศจรรย์ (2)
“เหมียว!!!!”เจ้าแมวดำกระโดดตัวลอย อุ้งเท้าหน้าของมันยกขึ้นปัดใบชาออกจากปากอย่างดุเดือดทันที
[ท่านจะฆ่าข้าเรอะ!!?]
“กลัวอะไร?ร่างวิญญาณดูดซับพิษไม่ได้” จวินอู๋เสียเอามือหนุนหัวมองเจ้าแมวดำตัวน้อย เห็นมันมีปฏิกิริยาที่รุนแรง รอยยิ้มก็ผุดขึ้นในใจนาง
เจ้าแมวดำมองจวินอู๋เสียตาละห้อยขณะแงะเอาเศษใบชาออกจากซอกฟันของมัน แล้วถุยลงบนโต๊ะหิน
พิษใดๆก็ตามล้วนไม่มีผลต่อร่างวิญญาณยกเว้นอันที่ส่งผลต่อวิญญาณได้ แต่จนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่เคยเจอเลย
“เหมียว!”
[ไม่มีผลก็กินมั่วๆแบบนี้ไม่ได้!ข้าไม่ใช่ถังขยะนะ!]
เจ้าแมวดำรู้สึกว่าสิทธิแมวเหมียวของมันลดน้อยลงเรื่อยๆแล้ว
“ในนั้นมีอะไรบ้าง?”จู่ๆจวินอู๋เสียก็ถามขึ้น
เจ้าแมวดำส่งเสียงฮึ่มๆอย่างขุ่นเคืองแม้ว่าจะเจ็บปวดรวดร้าวในใจ แต่มันก็ยังตอบไปตามตรง “เก๊กฮวยเพลิง, เปลือกขาว, เมล็ดสัตตบุตย์……” เจ้าแมวดำเอ่ยชื่อสมุนไพรกว่าสิบชนิดอย่างคล่องปาก เมื่อมาถึงอันสุดท้าย มันก็หยุดเลียเขี้ยวที่เคยโดนใบชาก่อนจะเพิ่มชื่อลงไปในรายการ
สมุนไพรมากกว่าสิบชนิดส่วนใหญ่ปลอดสารพิษและไม่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะนำอันใดอันหนึ่งออกมา ก็จะไม่มีใครพบสิ่งผิดปกติกับพวกมัน แม้ว่าจะป้อนให้ใครกินสดๆ ก็จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆกับร่างกายมนุษย์ และยังจะช่วยบำรุงร่างกายอีกด้วย
แต่ดวงตาของจวินอู๋เสียกลับเป็นประกายขึ้นมาเพราะสิ่งนั้น
สมุนไพรทั้งหมดนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรในสายตาของคนอื่นแต่สำหรับคนอย่างนางที่รู้เรื่องการแพทย์ดีราวกับฝ่ามือของตัวเอง นางพบความลับในนั้นทันที
สมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ดูเหมือนจะช่วยบำรุงร่างกายอย่างอ่อนๆนั้นแต่ละชนิดล้วนมีคุณสมบัติที่ขัดแย้งกัน พิษในกาน้ำชาจากมุมมองบางอย่างก็ไม่นับว่าเป็นพิษ แต่ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่ขัดแย้งกันของสมุนไพรทั้งหมดทำให้เกิดอันตรายอย่างมากต่อร่างกาย
นำสมุนไพรบำรุงร่างกายทั้งกองมาปรุงรวมกันเป็นยาพิษวิธีการดังกล่าวจะต้องมีความคุ้นเคยอย่างมากเกี่ยวกับคุณสมบัติและผลกระทบที่หลากหลายของสมุนไพรชนิดต่างๆ และยังต้องเข้าใจชนิดของสมุนไพรที่จะมีผลขัดแย้งกันด้วย
ในกรณีส่วนใหญ่เมื่อฤทธิ์สมุนไพรขัดแย้งกัน มันจะทำให้เกิดความไม่สบายขึ้นอย่างมาก และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคร่าชีวิตของคนในเวลาสั้นๆ แต่พิษในกาน้ำชากลับทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ใส่สมุนไพรบำรุงร่างกายมากกว่าสิบชนิดรวมกันโดยที่แต่ละชนิดมีฤทธิ์ขัดแย้งกันมั่นใจเลยว่าผลของมันจะรุนแรงมากอย่างแน่นอน
และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือถ้ามีคนเสียชีวิตจากการได้รับพิษชนิดนี้ไม่ว่าหมอจะเก่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายที่แท้จริงได้ ได้แต่ประกาศว่าคนผู้นั้นเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ไม่ได้เสียชีวิตจากพิษ
แม้แต่คนอย่างจวินอู๋เสียที่เชี่ยวชาญในการปรุงยาพิษก็ต้องตะลึงกับพิษที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้
“คิดไม่ถึงเลยว่าโลกนี้จะมีผู้มีพรสวรรค์พิสดารแบบนี้”ดวงตาของจวินอู๋เสียเป็นประกายวาว นางเคยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอก สิ่งที่นางชอบที่สุดคือการอยู่ในโลกแห่งการแพทย์ที่เงียบสงบ นางหลงใหลทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์
แต่นางไม่ได้รู้สึกถึงความหลงใหลแบบนั้นมานานแล้ว
“เหมียว……”
[น่าเสียดายที่ผู้มีพรสวรรค์พิสดารคนนี้ตั้งใจจะฆ่าท่าน]
เจ้าแมวดำเลียอุ้งเท้าของมันหลังจากอยู่กับจวินอู๋เสียมานาน ความเข้าใจในเรื่องการแพทย์ของมันก็เหนือว่าคนธรรมดาทั่วไป แม้ว่าพิษจะไม่มีผลต่อร่างวิญญาณอย่างมัน แต่กับมนุษย์แล้ว มันอันตรายถึงตายทีเดียว
ถ้าจวินอู๋เสียเผลอกินเข้าไปคาดว่าไม่ถึงสองนาที ชะตากรรมของนางคงไม่ต่างจากปลาคาร์ปในสระพวกนั้น
ตอนที่ 1815 พิษมหัศจรรย์ (3)
ถ้าจวินอู๋เสียเผลอกินเข้าไปคาดว่าไม่ถึงสองนาที ชะตากรรมของนางคงไม่ต่างจากปลาคาร์ปในสระพวกนั้น
“ถ้ามีความสามารถก็มาฆ่าข้าได้เลย” จวินอู๋เสียมั่นใจในทักษะด้านการแพทย์ของตัวเองมาก
เจ้าแมวดำส่งเสียงหึแล้วเลียอุ้งเท้าอย่างเงียบๆ
ไม่ว่าจวินอู๋เสียจะได้ข้อสรุปอย่างไรหลังจากที่ผู้อาวุโสอิ่งกลับไป เขาก็เปลี่ยนกลุ่มศิษย์ที่ทำหน้าที่ดูแลเรือนของจวินอู๋เสียออกไปและส่งกลุ่มใหม่มาแทน
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นวิหารเงาจันทราดูเหมือนจะกลับมาสงบสุขดังเดิม ประมุขวิหารเริ่มเข้ามาดูแลงานส่วนใหญ่ของวิหารที่เขาเคยละทิ้งไป ผู้อาวุโสอิ่งและผู้อาวุโสเยว่จึงค่อยๆมีเวลาว่างมากขึ้น
ผู้อาวุโสอิ่งมีความสุขกับเวลาว่างที่ได้มาแต่ผู้อาวุโสเยว่ไม่ได้คิดแบบเดียวกัน
ผู้อาวุโสเยว่เอาแต่คิดหาวิธียกสถานะของตัวเองต่อหน้าประมุขตลอดเวลาในเวลาเพียงไม่กี่วัน เขาก็เริ่มยุ่งอีกครั้ง
วันหนึ่งจวินอู๋เสียเดินออกจากเรือนเล็กๆของตัวเอง และเดินไปยังเรือนที่เยว่เย่อาศัยอยู่
เรือนหลังเล็กของเยว่เย่เงียบสงบไม่รู้ว่าเยว่อี้มาเมื่อไร สองพี่น้องนั่งพูดคุยหัวเราะกันอยู่ในสนามหญ้าเล็กๆ มองจากระยะไกล ท่ามกลางดอกไม้มากมาย สายตาของเยว่อี้ขณะมองเยว่เย่นั้นอ่อนโยนและรักใคร่เอ็นดูมาก รอยยิ้มที่อ่อนหวานบริสุทธิ์ปรากฏบนใบหน้าของเยว่เย่ ความขลาดกลัวและวิตกกังวลดูเหมือนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยยามอยู่กับพี่ชายของนาง
“ฉางฮวน?”เมื่อเยว่อี้เห็นจวินอู๋เสีย เขาก็สะดุ้งเล็กน้อยและปล่อยพลังวิญญาณออกไปตรวจสอบรอบๆทันที หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครที่อาจจะเป็นคนที่ผู้อาวุโสเยว่ส่งมาเฝ้าดูพวกเขาอยู่ใกล้ๆ ใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มโล่งใจ
ตอนที่เยว่เย่เห็นจวินอู๋เสียรอยยิ้มของนางก็ลดลง นางรีบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเยว่อี้และมองจวินอู๋เสียอย่างขลาดกลัว
“เจ้ามาทำไม?”เมื่อเยว่อี้เห็นว่าไม่มีคนอื่นอยู่รอบๆ เขาก็เลิกเสแสร้งและยิ้มออกมาอย่างจริงใจ
“แค่เดินดูไปรอบๆช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ” จวินอู๋เสียเดินผ่านเขาเข้าไปในสวนเล็กๆ สายตาของนางจับจ้องไปที่แปลงดอกไม้ที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ ดอกไม้ในแปลงดอกไม้นั้น แต่ละชนิดมีอย่างมากสองหรือสามต้น พวกมันถูกปลูกลงดินแบบมั่วๆ มีทุกขนาดและรูปทรง มองไกลๆอาจจะดูมีสีสันสดใสและสวยงาม แต่เมื่อดูใกล้ๆแล้ว มันค่อนข้างยุ่งเหยิง ไม่เหมาะที่จะอยู่ในวิหารเงาจันทราเลยจริงๆ
เยว่อี้เห็นว่าจวินอู๋เสียดูสนใจแปลงดอกไม้เขาก็พูดพลางหัวเราะว่า “ช่วงนี้ท่านประมุขกลับมาดูแลงานในวิหารอีกครั้ง พวกเราก็เลยว่างและอู้กันได้มากขึ้น” ไม่เช่นนั้น เยว่อี้จะมีเวลามาเจอน้องสาวได้อย่างไร
แน่นอนว่าตอนที่เขามาที่นี่ในวันนี้เยว่อี้ดูจนแน่ใจแล้วว่าผู้อาวุโสเยว่กำลังหมกมุ่นมากเกินกว่าจะมาสนใจเขา เขาจึงกล้ามา ไม่รู้ทำไมแต่เยว่อี้รู้สึกว่าผู้อาวุโสเยว่ดูไม่อยากให้เขากับเยว่เย่มาเจอกันบ่อยเกินไป เขากลับมาจากวิหารจิงหงได้สักพักแล้ว แต่วันนี้เป็นแค่ครั้งที่สองที่เขาได้ก้าวเข้ามาในเรือนของน้องสาว ผู้อาวุโสเยว่จะเรียกตัวเขาไปบ่อยๆเกือบทุกวัน และเขาจะถูกผู้อาวุโสเยว่ข่มเหง เยว่อี้ไม่กล้าต่อต้านคำสั่งเขาอย่างเปิดเผย จึงได้แต่ซ่อนความกังวลและความปรารถนาที่จะเจอน้องสาวของเขาเอาไว้ในใจ
เยว่เย่ยืนอยู่ข้างหลังเยว่อี้นางเงยหน้าขึ้นมองรอยยิ้มที่จริงใจของเยว่อี้ ดวงตากลมโตคู่นั้นฉายแววแปลกประหลาด คิ้วของนางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อเห็นเยว่อี้พูดเชิงล้อเล่นกับจวินอู๋เสีย ไม่รู้ว่าในใจนางคิดอะไรอยู่
“อืม”จวินอู๋เสียตอบอย่างเฉยเมย ความสนใจของนางยังคงจดจ่ออยู่ที่ต้นไม้ดอกไม้พวกนั้น
เยว่เย่เม้มปากมองสายตาสนใจจดจ่อของจวินอู๋เสีย แล้วอดไม่ได้ที่จะดึงแขนเสื้อของเยว่อี้
“ท่านพี่……”
“อะไรหรือ?”เยว่อี้หันหน้าไปมองเยว่เย่