ตอนที่ 1816-1818

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1816  พิษมหัศจรรย์ (4)
  “ดอกไม้ที่ข้าปลูกน่าเกลียดมากไหม……” เยว่เย่มองเยว่อี้อย่างอึดอัดใจ
  เยว่อี้ชะงักเล็กน้อยเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่สายตาของจวินอู๋เสีย เมื่อเชื่อมโยงเข้ากับคำถามของเยว่เย่ เขาก็เข้าใจถึงความกังวลของน้องสาวตนทันที เด็กหนุ่มหัวเราะออกมาเสียงดัง
  “ดอกไม้ที่เย่เอ๋อร์ปลูกไม่น่าเกลียดเลยสักนิดเป็นดอกไม้ที่สวยที่สุดที่ข้าเคยเห็น ข้าว่าฉางฮวนก็รู้สึกเหมือนกัน ใช่ไหม?” เยว่อี้มองจวินอู๋เสียอย่างจริงจัง ด้วยความที่น้องสาวของตนต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเลวร้ายเช่นนี้ และเขาไม่สามารถให้นางได้มากกว่านี้ ทำได้แค่ทำให้เยว่เย่ปราศจากความกังวลให้มากที่สุด
  จวินอู๋เสียเหลือบมองเยว่อี้พี่ชายผู้รักน้องสุดใจแล้วก็พยักหน้าเพื่อไว้หน้าเขา นางย่อตัวลงมองดอกไม้ที่ดูไม่เตะตาในแปลงดอกไม้ ก่อนจะหันไปมองเยว่เย่ที่ซ่อนอยู่ข้างหลังเยว่อี้
  เยว่เย่หดคอเหมือนกลัวสายตาของจวินอู๋เสีย
  เยว่อี้ดูเวลาแล้วดวงตาของเขาก็ฉายแววจนใจ ผู้อาวุโสเยว่ใกล้จะกลับเรือนแล้ว ถ้าเขารู้ว่าเยว่อี้มาที่เรือนเยว่เย่ เยว่อี้คงแก้ตัวได้ยาก ตอนแรกเยว่อี้คิดจะให้จวินอู๋เสียกลับไปกับเขา แต่ดูเหมือนจวินอู๋เสียจะสนใจแปลงดอกไม้มาก ความไว้วางใจที่เขามีต่อจวินอู๋เสียทำให้เขามั่นใจว่าจวินอู๋เสียจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อเยว่เย่อย่างแน่นอน เยว่อี้จึงพูดว่า “ข้าต้องกลับแล้ว ถ้าเย่เอ๋อร์มีเรื่องอะไร ก็บอกฉางฮวนได้ ข้ากับฉางฮวนเป็นสหายร่วมชะตากรรม ถ้าไม่มีเขา ข้าคงตายที่วิหารจิงหงแล้ว เจ้าไว้ใจเขาได้ แต่มีเรื่องหนึ่ง ความสัมพันธ์ของข้ากับฉางฮวน เจ้าห้ามเปิดเผยให้ท่านปู่รู้เด็ดขาด เข้าใจไหม?”
  เยว่อี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบังสิ่งต่างๆจากเยว่เย่มากเกินไปนักแค่พยายามทำให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวิหารจิงหงดูสวยงาม จึงบอกกับเยว่เย่คร่าวๆเท่านั้น ไม่ได้เล่ารายละเอียด
  เยว่เย่ได้ฟังเรื่องแค่ครึ่งๆกลางๆแต่ก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
  อย่างอื่นนางไม่เข้าใจหรอกนางรู้อยู่แค่อย่างเดียว
  นั่นคือ……
  พี่ชายของนางไว้ใจฉางฮวนมากจริงๆ
  “ข้ากลับก่อนล่ะ”เยว่อี้ลูบหัวเยว่เย่ แล้วรีบร้อนจากไป
  เยว่เย่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเฝ้ามองภาพด้านหลังที่สูงโปร่งของพี่ชายค่อยๆหายไปจากสายตา ดวงตาฉายแววเหงา
  “เจ้าชอบปลูกต้นไม้ดอกไม้มากเลยหรือ?”จู่ๆจวินอู๋เสียก็ถามขึ้น
  เยว่เย่นิ่งงันไปเล็กน้อยนางมองดูจวินอู๋เสียที่จ้องแปลงดอกไม้โดยไม่มองนางเลย แล้วก็ตอบเสียงเบาว่า “อืม”
  “เจ้าดูแลต้นไม้ดอกไม้พวกนี้อย่างดีเลยนะ”จวินอู๋เสียยืนขึ้นและมองไปที่เยว่เย่
  มุมปากเยว่เย่กระตุกด้วยความเครียดนางยิ้มออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
  “ปกติข้าไม่ค่อยมีอะไรทำมีเพียงการปลูกต้นไม้ดอกไม้พวกนี้เท่านั้นที่ช่วยคลายความเบื่อหน่ายได้ ไม่ได้ดูแลดีอะไรนัก ศิษย์พี่ฉางฮวนชมเกินไปแล้ว”
  จวินอู๋เสียไม่ได้สนใจความถ่อมตัวของเยว่เย่สายตาของนางมองไปที่เก๊กฮวยต้นหนึ่งในแปลงดอกไม้ สีของเก๊กฮวยต้นนั้นสวยสดงดงาม เป็นสีแดงเข้มเล็กน้อย กลีบดอกทุกกลีบโค้งงอ ดูมีชีวิตชีวารื่นเริง
  “เก๊กฮวยเพลิงปลูกง่าย ดูแลยาก สามารถดูแลเก๊กฮวยเพลิงให้เติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นนี้ คนทั่วไปทำไม่ได้หรอก”
  ร่างกายของเยว่เย่แข็งทื่อไปนางเห็นสายตาของจวินอู๋เสียแปลกไปเล็กน้อย
  “อย่างนั้นหรือ?ข้าไม่รู้เลย นี่คือ……ข้าปลูกไปมั่วๆด้วยเมล็ดพืชที่ได้มา” เยว่เย่ฝืนยิ้ม
  จวินอู๋เสียพูดว่า“ก็อาจจะ แต่เก๊กฮวยเพลิงเอาไปผสมรวมกับเปลือกขาวไม่ได้หรอกนะ ถ้าใครไม่ระวังเผลอกินเข้าไป อาจทำให้เสียชีวิตได้”
  ดวงตาของเยว่เย่วูบไหวเล็กน้อย
ตอนที่ 1817  แยกบุญคุณความแค้น (1)
  จวินอู๋เสียพูดว่า“ก็อาจจะ แต่เก๊กฮวยเพลิงเอาไปผสมรวมกับเปลือกขาวไม่ได้หรอกนะ ถ้าใครไม่ระวังเผลอกินเข้าไป อาจทำให้เสียชีวิตได้”
  ดวงตาของเยว่เย่วูบไหวเล็กน้อย
  จวินอู๋เสียเดินไปนั่งบนเก้าอี้ด้านข้างราวกับไม่สังเกตเห็นปฏิกิริยาแปลกๆของเยว่เย่มือคู่งามของนางประสานกันอยู่ตรงท้องน้อย ดวงตาเย็นชาใสกระจ่างของนางมองประเมินเยว่เย่อย่างละเอียด
  เยว่เย่มองจวินอู๋เสียด้วยท่าทางทำอะไรไม่ถูกเหมือนเด็กที่ทำความผิด
  เยว่เย่เพิ่งอายุ12 ปี นางยังตัวเล็กกว่าจวินอู๋เสียซะอีก เห็นนางยืนคอหดอยู่แบบนั้นแล้วสามารถทำให้คนใจอ่อนและไม่อาจทำอะไรรุนแรงได้เลย
  จวินอู๋เสียมองเยว่เย่อยู่สักพักและเห็นเยว่เย่เหงื่อออกจนชุ่ม ขณะที่เยว่เย่คิดว่าจวินอู๋เสียจะพูดอะไรบางอย่าง จวินอู๋เสียยืนขึ้นและเดินจากไปอย่างเงียบๆหลังนั่งอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง
  จนกระทั่งร่างของจวินอู๋เสียหายไปจากประตูเรือนเล็กเยว่เย่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองได้
  [เขาไป……ง่ายๆอย่างนั้นเลย?]
  สีหน้าขลาดกลัวของเยว่เย่เปลี่ยนเป็นงุนงงสับสนนางไม่เข้าใจว่าจวินอู๋เสียตั้งใจจะมาทำอะไรที่นี่ เรือนหลังเล็กที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง เยว่เย่เก็บของว่างที่กินไม่หมดบนโต๊ะหินออกไปทีละจาน นางถือจานเล็กๆพวกนั้นกลับเข้าไปในบ้าน และนั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองดูเงาสะท้อนของตัวเองบนกระจกทองแดง
  ใบหน้าเล็กๆในกระจกทองแดงนั้นขาวผ่องและบริสุทธิ์ไร้เดียงสาคิ้วที่ขมวดมุ่นเล็กน้อยด้วยความสงสัยทำให้ดูน่าสงสารมาก
  “ศิษย์พี่ฉางฮวนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับท่านพี่จริงๆ……”เยว่เย่พูดกับตัวเอง
  ทันใดนั้นนางก็ส่ายหัวเมื่อนางมองเข้าไปในกระจกอีกครั้ง ใบหน้าเล็กๆในกระจกไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังตัวมากเกินอีกต่อไป แต่กลับดูไม่พอใจแทน
  “ท่านพี่โง่ซะขนาดนั้นคงแปลกถ้าแยกแยะคนดีคนชั่วได้ ฉางฮวนเป็นคนแก้พิษของไอ้สารเลวนั่น ทำแผนข้าพังหมด”
  แต่พอพูดคำเหล่านั้นออกมาได้ไม่นานสีหน้าของเยว่เย่ก็เปลี่ยนเป็นวิตกกังวล
  “ที่นี่มีแต่พวกสารเลวแต่ท่านพี่บอกว่าฉางฮวนช่วยชีวิตเขาเอาไว้……เขาคือผู้มีพระคุณของท่านพี่……”
  เยว่เย่กัดเล็บตัวเองด้วยความรู้สึกหมดหนทางนางหรี่ตามองตัวเองในกระจก
  ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตท่านพี่นางต้องไม่ฆ่าเขา
  แต่ถ้าจวินอู๋เสียยังอยู่แผนของนางก็……
  เยว่เย่จมอยู่ในความคิดสายตาของนางมองไปที่กล่องไม้เล็กๆบนโต๊ะเครื่องแป้ง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิดกล่องออก ในกล่องไม้มีพวกเครื่องประดับที่ดูธรรมดาไม่โดดเด่นอยู่ แต่เมื่อเยว่เย่หยิบชั้นบนสุดของกล่องไม้ออก ที่ด้านล่างของกล่องไม้เป็นอีกโลกที่เป็นความลับของนาง ขวดกระเบื้องเคลือบกว้างเท่าหัวแม่มือเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบอยู่ในกล่อง มีป้ายสีแดงติดอยู่บนขวดทุกขวด บนป้ายมีตัวอักษรเขียนไว้อย่างประณีตบรรจง
  มือเล็กๆของเยว่เย่กวาดไปที่แถวขวดกระเบื้องทีละขวดมือของนางวนเวียนอยู่ที่ขวดตรงกลาง คิ้วขมวดแน่น แล้วสุดท้ายนางก็ละทิ้งตัวเลือกนั้นและหยิบขวดใบเล็กตรงริมสุดขึ้นมาแทน
  “เมื่อเป็นผู้มีพระคุณของท่านพี่ข้าก็จะไม่ทำให้เจ้าลำบากก็แล้วกัน แต่……ยังไงข้าก็ปล่อยให้เจ้าทำลายแผนของข้าต่อไปไม่ได้” เยว่เย่หรี่ตา นางวางขวดกระเบื้องเคลือบใบเล็กลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นก็หยิบถุงเครื่องหอมขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากกองงานเย็บปักถักร้อยของนาง
  นางดึงด้ายที่ถุงเครื่องหอมออกแล้วเทยาสมุนไพรขนาดเท่าเมล็ดข้าวออกจากขวดกระเบื้องใส่ลงไปสองสามเม็ด ก่อนจะใช้เข็มกับด้ายเย็บปิดถุงเครื่องหอมนั้นอีกครั้ง
ตอนที่ 1818  แยกบุญคุณความแค้น (2)
  จวินอู๋เสียเพิ่งกลับเข้ามาในเรือนของตัวเองลงนั่งได้ไม่ทันไร นางก็เห็นเยว่เย่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา ใบหน้าเล็กๆขึ้นสีแดงจากการวิ่ง
  “ข้า……ข้ายังไม่ได้ขอบคุณเจ้านี่……ถือเป็นของขวัญขอบคุณ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพี่ชายข้า……” เยว่เย่มองจวินอู๋เสียอย่างประหม่า
  จวินอู๋เสียถือแอปเปิ้ลอยู่ในมือและกำลังจะเอาเข้าปากแต่เยว่เย่เข้ามาขอบคุณนางอย่างกะทันหัน ขัดจังหวะการกินของนาง
  จวินอู๋เสียมองถุงเครื่องหอมในมือของเยว่เย่แล้วมองใบหน้าแดงก่ำของนาง สุดท้ายก็ตัดสินใจวางแอปเปิ้ลลง
  “พี่ชายเจ้ากับข้าเป็นศิษย์ร่วมสำนักกันช่วยเขาก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า” จวินอู๋เสียกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
  เยว่เย่สั่นหัว“บุญคุณที่ช่วยชีวิต หากเจ้าไม่ต้องการคำขอบคุณ เช่นนั้นเจ้าช่วยรับของเล็กๆน้อยๆนี้ไว้ด้วยเถอะ” พูดจบ เยว่เย่ก็วางถุงเครื่องหอมลงบนโต๊ะและวิ่งออกไปโดยไม่ให้โอกาสจวินอู๋เสียได้ปฏิเสธ
  ไปมาไร้ร่องรอยอย่างแท้จริง
  จวินอู๋เสียมองไปที่ถุงเครื่องหอมบนโต๊ะอย่างหมดคำพูดถุงเครื่องหอมนั้นดูๆแล้วก็ไม่นับว่าประณีตงดงามอะไรนัก ฝีเข็มดูแย่เล็กน้อยด้วย มองออกได้ไม่ยากเลยว่าสิ่งนี้เยว่เย่น่าจะทำขึ้นด้วยตัวเอง
  “เหมียว?”เจ้าแมวดำปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆ มันเดินเข้าไปดมถุงเครื่องหอม แล้วยื่นอุ้งเท้าออกไปข่วนถุง
  [ยัยเด็กเลวนั่นเอาไอ้นี่มาทำไม?มีอุบาย! มีอุบายซ่อนอยู่แน่ๆ!]
  คนอื่นอาจไม่รู้ว่าเยว่เย่ทำอะไรลงไปแต่เจ้าแมวดำที่อยู่ในร่างของจวินอู๋เสียตลอดย่อมรู้ดีว่าเยว่เย่ทำอะไรเอาไว้
  ตอนที่เยว่เย่มาหาจวินอู๋เสียครั้งที่แล้วนางทำน้ำชาหกด้วยความตื่นเต้นและประหม่า ดูเหมือนซุ่มซ่ามเงอะงะ แต่ในตอนนั้น นางได้แอบโยนยาเม็ดเล็กๆลงไปทางพวยกาน้ำชา
  ทำให้ชากานั้นกลายเป็นหายนะของปลาคาร์ปทั้งสระ
  จวินอู๋เสียหยิบถุงเครื่องหอมขึ้นมาดูจากนั้นก็นำมันขึ้นมาดม ถุงเครื่องหอมส่งกลิ่นหอมของดอกลิลลี่ออกมาจางๆ จากช่องว่างเล็กๆระหว่างรอยตะเข็บหยาบๆ สามารถมองเห็นกลีบดอกลิลลี่แห้งอยู่ภายใน
  แต่ในกลิ่นหอมอ่อนๆนั้นจวินอู๋เสียยังได้กลิ่นอีกอย่างหนึ่งที่จางมากจนแทบจับไม่ได้
  กลิ่นนั้นคล้ายกับกลิ่นดอกลิลลี่แต่ขมกว่าเล็กน้อย ท่ามกลางกลิ่นดอกลิลลี่เช่นนี้ แทบแยกความต่างไม่ได้เลย
  จวินอู๋เสียขมวดคิ้ว
  “ดูเหมือนจะมีคนอยากให้ข้าพักนะ”รอยยิ้มปรากฏขึ้นในแววตาของจวินอู๋เสีย
  วันก่อนยาพิษที่ฆ่าปลาคาร์ปทั้งสระทำให้นางประหลาดใจ และยาในถุงหอมวันนี้ แม้ว่าจะไม่ได้พิเศษพิสดารอะไรนัก แต่ก็น่าสนใจมากทีเดียว
  ที่สำคัญกว่านั้นคือ……
  ยาในถุงหอมนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายใดๆกับคนแต่มันเหมือนยาที่นางให้เยว่อี้กิน เป็นยาที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่าตนไม่สบายและอ่อนแอลงทุกวัน ทั้งที่ความจริงแล้วแข็งแรงสบายดี
  ยาเช่นนี้ไม่มีอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์เป็นแค่การหลอกลวงเท่านั้น
  ยาทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทำให้จวินอู๋เสียค้นพบอะไรบางอย่าง และยังทำให้การคาดเดาของนางค่อยๆกระจ่างมากขึ้น
  “เหมียว?”
  [เป็นไปได้ไหมว่านี่เป็นของที่ไอ้แก่ตายยากผู้อาวุโสเยว่สั่งให้ยัยเด็กเลวเอามาให้เจ้า?]
  จวินอู๋เสียส่ายหัว
  “ข้าต้องพูดคุยดีๆกับน้องสาวของเยว่อี้แล้ว”พูดจบ จวินอู๋เสียก็เอาถุงเครื่องหอมนั่นสอดเข้าไปในแขนเสื้อของนาง