ตอนที่ 1819 แยกบุญคุณความแค้น (3)
เจ้าแมวดำเห็นสีหน้าคันไม้คันมือของจวินอู๋เสียแล้วก็เกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมา
ทำไมมันถึงรู้สึกว่า……
อารมณ์ความรู้สึกของเจ้านายมันเริ่มปกติมากขึ้นเรื่อยๆ?
มันรู้สึกได้เลยว่าเจ้านายของมันกำลังจะแกล้งยัยเด็กเลวนั่น……
มันต้องบ้าไปแล้วแน่
หลังจากเยว่เย่เอาของไปให้จวินอู๋เสียนางก็กลับมาที่ห้องของตัวเอง คิดว่าอีกไม่กี่วันจะมีคนต้องนอนอยู่บนเตียงอย่างเชื่อฟัง
แต่……
“ด้ายบนถุงหอมที่เจ้าให้ข้ามันหลุดน่ะ”เสียงเย็นชาดังขึ้นด้านหลังของเยว่เย่
เยว่เย่ที่กำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงเด้งตัวขึ้นยืนบนเตียงทันทีนางทำตาโตปากอ้าค้างจ้องมองจวินอู๋เสียที่จู่ๆก็ปรากฏตัวในห้องของนาง
“เจ้า……เจ้า……”เยว่เย่ชี้นิ้วสั่นระริกไปที่จวินอู๋เสีย ดวงตาพองโต
จวินอู๋เสียไม่สนใจสีหน้าตกตะลึงของเยว่เย่และเดินไปวางถุงหอมลงบนโต๊ะด้านข้าง ขณะที่วางลง ด้านหนึ่งของถุงหอมที่เปิดอยู่ก็มีกลีบดอกลิลลี่ร่วงกระจายออกมา และสิ่งที่ร่วงลงมาพร้อมกันก็คือของบางอย่างที่มีขนาดเท่าเมล็ดข้าว
เยว่เย่จ้องมองของนั่นตาไม่กระพริบ
“ดมกลิ่นสมุนไพรพวกนี้นานๆจะทำให้แขนขาอ่อนแรงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ มันไม่ใช่ของที่เด็กๆควรเอามาเล่นหรอกนะ” จวินอู๋เสียเอามือเท้าคางมองเยว่เย่ที่กำลังตกตะลึงด้วยสายตาสงบนิ่ง ยาเม็ดเล็กๆพวกนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว แต่ดูจากปริมาณที่ใส่ไว้ในนั้น มันยังมากเกินไปหน่อย
ยาที่จวินอู๋เสียให้เยว่อี้จะทำให้เยว่อี้ดูอ่อนแอแค่ภายนอกแต่ร่างกายเขายังแข็งแรงสมบูรณ์ดี แค่ชีพจรและสีหน้าจะดูเหมือนคนเจ็บหนัก แต่นอกเหนือจากนั้น ทั้งร่างยังเต็มไปด้วยพละกำลังแข็งแรงเช่นเดิม
แต่ยาในถุงเครื่องหอมนี้มากเกินไปหน่อยมันจะทำให้คนรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อคนเลย แต่ความรู้สึกยังคงอยู่
“เจ้าพูดเรื่องอะไร?สมุนไพรอะไร?” เป็นเวลานานกว่าเยว่เย่จะได้สติ นางมองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้างุนงง ใบหน้าเล็กๆของนางเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ
ถ้าจวินอู๋เสียไม่เคยเห็นเยว่เย่ใส่ยาลงไปในกาน้ำชา ดูแค่สีหน้าของนางที่แสดงให้เห็นตอนนี้ นางคงหลงเชื่อคำพูดของเด็กคนนี้จริงๆ
น่าเสียดาย……
หางของจิ้งจอกน้อยโผล่ออกมาให้เห็นก่อนแล้ว
“เอาพืชสมุนไพรไปปนกับดอกไม้ในแปลงดอกไม้ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยแต่ข้าว่าถ้าหมอที่รู้เรื่องยามาเดินรอบๆสวนของเจ้าสักรอบ พวกเขาก็อาจจะได้รับสิ่งที่ไม่คาดคิด อย่างเช่น……” จวินอู๋เสียมองใบหน้าเล็กๆที่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาของเยว่เย่ แล้วพูดอย่างไม่รีบร้อนว่า “สมุนไพรที่สามารถทำให้ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเงินสุขภาพทรุดโทรมลงอย่างช้าๆ”
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้เยว่เย่ใจเต้นอย่างรุนแรงสีหน้าไร้เดียงสาเริ่มปรากฏรอยร้าว ดวงตากลมโตฉายแววกังวลอย่างปิดไม่มิด
“วางยาประมุขวิหารเงาจันทราเจ้าช่างกล้าซะจริง” จวินอู๋เสียมองเยว่เย่ด้วยสายตาราบเรียบสงบนิ่ง
ตอนที่นางถูกพวกเด็กเกเรของวิหารเงาจันทราพามาที่เรือนเล็กของเยว่เย่นางก็รู้สึกแล้วว่ามันแปลกๆ ต้นไม้ดอกไม้ที่ปลูกในสวนค่อนข้างแปลกทีเดียว ถ้าบอกว่าเยว่เย่ปลูกสมุนไพรพวกนั้นไปมั่วๆโดยไม่รู้อะไรเลย ก็ยังพอจะเชื่อได้ แต่การดูแลพืชสมุนไพรพวกนั้นมันยากลำบากมาก ถ้าไม่ได้รับการดูแลให้เหมาะสมตามลักษณะเฉพาะของพวกมัน ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกมันจะรอด
ตอนที่ 1820 แยกบุญคุณความแค้น (4)
แต่สมุนไพรในแปลงดอกไม้ของเยว่เย่กลับอยู่รอดและเติบโตแข็งแรงดีทั้งหมด!
ต่อให้เป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่มีทางที่จะบังเอิญถึงขนาดนั้น
ข้อสรุปเดียวที่เป็นไปได้ก็คือคนที่ปลูกสมุนไพรพวกนั้นรู้จักพวกมัน และรู้ด้วยว่าพวกมันต้องการการดูแลแบบไหน
สีหน้าของเยว่เย่เปลี่ยนไปทันทีความโง่เขลาอ่อนต่อโลกของเด็กหญิงตัวน้อยอันตรธานหายไปจนหมดสิ้น ดวงตากลมโตคู่นั้นแสดงออกถึงความเป็นศัตรูและความระแวงจวินอู๋เสียอย่างเห็นได้ชัด
“เจ้าคิดจะทำอะไร?รู้ไหมว่าคำที่เจ้าพูดออกมาอาจทำให้เจ้าไม่สามารถเดินออกไปจากที่นี่ได้?” เสียงของเยว่เย่เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นแค่เด็กผู้หญิงอายุ 12 ปี แต่คำขู่ของนางไม่อาจมองข้ามได้เลย
“โอ้?”จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว ไม่มีความกลัวให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
เยว่เย่สูดหายใจเข้าลึกๆและพูดว่า“เจ้าอย่าลืมซิ ปู่ของข้าคือผู้อาวุโสเยว่แห่งวิหารเงาจันทรา เรื่องบางอย่างเจ้าก็ไม่อาจยุ่งได้หรอกนะ ถ้ายังรักชีวิตของตัวเองอยู่ ก็อย่ายุ่งเรื่องของชาวบ้าน”
“มีใครบอกเจ้าไหมว่าก่อนที่จิ้งจอกจะแอบอ้างบารมีเสือ อย่างน้อยก็ต้องฝึกฝนสีหน้าของตัวเองให้ดีก่อน?” จวินอู๋เสียสวนกลับทันควัน
“อะไรนะ?”เยว่เย่ตกใจเล็กน้อย
“ถ้าผู้อาวุโสเยว่รู้เรื่องนี้จริงๆข้าเชื่อว่าคนแรกที่จะตาย ต้องเป็นเจ้า ไม่ใช่ข้า” จวินอู๋เสียพูดช้าๆ แค่ประโยคเดียวก็ทำให้ท่าทีแข็งกร้าวที่เยว่เย่พยายามทำพังทลายจนหมดสิ้น
“เจ้าพูดเหลวไหลอะไร……”เยว่เย่กัดฟัน พยายามคงสีหน้าสงบนิ่งเอาไว้อย่างเต็มที่
“ถ้าผู้อาวุโสเยว่ต้องการฆ่าประมุขวิหารเงาจันทราจริงๆเขาไม่รอจนถึงตอนนี้หรอก เขามีวิธีอื่นอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่จะบรรลุเป้าหมายได้ และจะไม่เลือกใช้ยาพิษที่มีประสิทธิภาพต่ำอย่างนี้แน่นอน นอกจากนั้น……ตอนที่เจ้าเอ่ยถึงเขาเมื่อกี้ ความเกลียดชังในดวงตาของเจ้าคืออะไร?” จวินอู๋เสียเอ่ยถาม
ดวงตาของเยว่เย่เบิกกว้างเล็กน้อยขณะมองจวินอู๋เสียนางไม่อยากจะเชื่อว่าผู้เยาว์ที่ไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคยกับนางจะมองการเสแสร้งของนางออกอย่างง่ายดาย
“เจ้าต้องการอะไรกันแน่?”เยว่เย่ยักไหล่ยอมแพ้ ไม่รู้ทำไม นางถึงรู้สึกว่าเวลาอยู่ต่อหน้าจวินอู๋เสีย นางไม่มีความลับอะไรอยู่เลย
การคาดเดาของจวินอู๋เสียถูกต้องคนที่วางยาประมุขวิหารเงาจันทราก็คือนาง และผู้อาวุโสเยว่ไม่รู้อะไรในเรื่องนี้เลย ตอนแรกนางคิดว่าจะใช้อำนาจของผู้อาวุโสเยว่บังคับจวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียจะได้ไม่กล้ายุ่ง แต่ว่า……
กลับถูกเปิดโปงอย่างไม่ไว้หน้าเลยสักนิด!
จวินอู๋เสียไม่ได้รีบเร่งที่จะพูดเพียงแค่มองเด็กหญิงที่พยายามควบคุมตัวเองอย่างหนัก ในตอนนี้ดวงตาของเยว่เย่ราวกับมีเปลวไฟลุกโชติช่วง แตกต่างจากคนขี้ขลาดที่ทำอะไรไม่ถูกอย่างที่นางแสร้งเป็นอย่างสิ้นเชิง และนี่คือตัวตนจริงของเยว่เย่
ยัยเด็กตัวร้ายอายุ12 ปีที่สามารถปรุงยาพิษที่ทำให้จวินอู๋เสียสนใจได้
“เจ้าอยากฆ่าประมุขวิหารเงาจันทราหรือ?”จวินอู๋เสียถาม
เยว่เย่มองจวินอู๋เสียทันใดนั้นนางก็เชิดหน้าขึ้นและพูดว่า “เวลาถามความลับของคนอื่น เจ้าควรแสดงความจริงใจของตัวเองก่อนไม่ใช่หรือ?”
จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว
เยว่เย่กระโจนลงจากเตียงมายืนบนพื้นมองจวินอู๋เสียและพูดอย่างไม่ถ่อมตัวและไม่เย่อหยิ่งว่า “เจ้าคงไม่คิดว่าข้าจะโง่ขนาดเชื่อว่าเจ้าคือฉางฮวนหรอกนะ? ข้าเคยเจอฉางฮวนมาหลายครั้ง มองทีเดียวก็รู้แล้วว่าเจ้าหมอนั่นไร้ประโยชน์แค่ไหน ไอ้โง่ไร้สมองอย่างนั้นจะรู้จักการซ่อนเร้นความสามารถได้ยังไง และยังมีพลังวิญญาณสูงกว่าพี่ชายของข้าอีก เจ้าไม่ใช่ฉางฮวน เจ้ามาที่วิหารเงาจันทราต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่ ถ้าเจ้าอยากถามคำถามข้า เจ้าก็บอกจุดประสงค์ในการมาที่นี่ของเจ้าเป็นการแลกเปลี่ยน!”
ตอนที่ 1821 แอบวางแผนอย่างลับๆ (1)
“เจ้าฉลาดมาก”จวินอู๋เสียชื่นชมเยว่เย่อย่างไม่ปิดบัง
อายุเท่านี้ก็สามารถมองสิ่งต่างๆได้อย่างทะลุปรุโปร่งเยว่เย่ฉลาดกว่าที่นางแสดงให้คนอื่นเห็นจริงๆ การเสแสร้งที่นางทำต่อหน้าทุกคนเป็นการป้องกันตัวเองแบบหนึ่งรึเปล่า? บางทีแม้แต่เยว่อี้ก็คงไม่รู้ว่าน้องสาวตัวเองแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิด
“ขอบคุณแต่ในเมื่อเจ้ามาหาข้าถึงนี่ ก็น่าจะไม่ได้แค่มาเพื่อชมข้าไม่ใช่หรือ?” เยว่เย่มองจวินอู๋เสีย ไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มในคำชมเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าวางยาประมุขวิหารเงาจันทราเป็นความคิดของเจ้าเองเลยหรือ?” แม้ว่าจวินอู๋เสียจะถามเช่นนั้น แต่นางก็รู้คำตอบที่แท้จริงอยู่ในใจแล้ว
“ข้าพูดไปแล้วถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมจากปากข้า ก็ต้องแสดงความจริงใจของเจ้าก่อน” ตอนนี้เยว่เย่ดูไม่เหมือนเด็กหญิงอายุ 12 ปีเลย ดวงตาของนางแจ่มใสชัดเจน มีความสงบนิ่งมั่นคงอย่างที่ไม่ใช่ของคนในวัยนาง
จวินอู๋เสียยักไหล่แล้วพูดว่า “ได้ ข้าไม่ใช่ฉางฮวน ฉางฮวนตายแล้ว ข้าปลอมตัวเป็นเขา แค่อยากทำลายวิหารเงาจันทรา ง่ายๆแค่นั้นแหละ”
เยว่เย่อ้าปากค้างเล็กน้อยตัวนางเองยังไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะให้คำตอบนางอย่างง่ายๆตรงไปตรงมาแบบนั้น
แต่การทำลายวิหารเงาจันทรามันง่ายอย่างนั้นเลยหรือ?!
ขนาดเยว่เย่ยังตกใจกับคำพูดสบายๆของจวินอู๋เสีย
นางย่นจมูกและมองจวินอู๋เสียขึ้นๆลงๆอย่างประเมิน
“ทำลายวิหารเงาจันทรา?ด้วยเจ้าเองคนเดียว? เจ้ามองวิหารเงาจันทราง่ายเกินไปไหม” นางไม่ปฏิเสธว่าจวินอู๋เสียโดดเด่นกว่าฉางฮวนมาก แต่ต่อให้วิหารเงาจันทราไม่ได้แข็งแกร่งมากมายอะไรนัก แต่มันก็ยังเป็นหนึ่งในสิบสองวิหาร ถ้ามันถูกทำลายได้ง่ายขนาดนั้น ก็คงไม่อยู่รอดมาจนถึงตอนนี้ จวินอู๋เสียพูดออกมาแบบสบายๆเกินไปไหม?
“ยากมากหรือไง?”จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว ทั่วร่างให้ความรู้สึกสงบนิ่งใจเย็นอย่างน่าตกใจ
เยว่เย่เม้มปากสายตาที่มองจวินอู๋เสียดูค่อนข้างซับซ้อน หลังจากนั้นไม่นานนางก็พูดขึ้นว่า “พิษในร่างของประมุขวิหารเงาจันทราเป็นฝีมือของข้าเอง……”
เป็นอย่างที่จวินอู๋เสียเดาไว้ที่ประมุขวิหารเงาจันทรา “ไม่สบาย” ทั้งหมดเป็น “ความดีความชอบ” ของเยว่เย่ ประมุขวิหารเงาจันทราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองมาก ขนาดผู้อาวุโสในวิหารยังไม่สามารถแทรกแซงการใช้ชีวิตประจำวันของเขาได้ แต่เยว่เย่เป็นข้อยกเว้น นางจะถูกประมุขเรียกตัวไปเป็นครั้งคราว ทำให้มีโอกาสดีที่จะลงมือ
ความจริงแล้วเยว่เย่มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กทั่วไปเยอะ ตั้งแต่ตอนที่นางเริ่มเข้าใจสิ่งต่างๆ นางก็รู้แล้วว่าเยว่อี้กับนางตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหนในวิหารเงาจันทรา นางยังรู้อีกด้วยว่าตัวนางคือหมากที่ผู้อาวุโสเยว่ใช้ควบคุมเยว่อี้ คนที่นางเรียกว่าท่านปู่ไม่ใช่ญาติพี่น้องของนาง แต่เป็นปีศาจร้าย
นางเข้าใจถึงอันตรายที่ตัวเองเผชิญอยู่แต่เยว่เย่ยังเด็กเกินไปไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จนกระทั่งนางบังเอิญได้พบกับโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อน
นางเริ่มเรียนรู้สิ่งที่เกี่ยวข้องกับยาพิษทุกรูปแบบและเริ่มปลูกสมุนไพรที่ต้องการในสวนเล็กของตัวเอง เนื่องจากนางอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อาวุโสเยว่ตลอดเวลา จึงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะได้รับเมล็ดพืชที่มีพิษร้ายแรง นั่นคือเหตุผลที่นางใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่ขัดแย้งกันของสมุนไพร
เยว่เย่ต้องการออกจากวิหารเงาจันทราพร้อมกับเยว่อี้ทุกคนในวิหารเงาจันทราจึงกลายเป็นอุปสรรคในการหลบหนีออกจากถ้ำปีศาจของพวกเขา
ผู้อาวุโสเยว่,ประมุขวิหารเงาจันทรา, และศิษย์ทุกคน……