จักรพรรดิเทพมังกร – บทที่ 923 : ไม่จำเป็นต้องอธิบาย!
ภายใต้ชุดนอนผ้าไหมสีแดง..เผยให้เห็นหน้าอกสีขาวราวหิมะทั้งสองข้าง และภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าเวลานี้ ได้ทำให้ร่างกายของหลิงหยุนเกิดการตอบสนองอย่างรุนแรง..
“นี่..มองอะไร”
เสี่ยวเม่ยหนิงร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโหพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้าอกใหญ่โตของตนเองไว้..
“ก็มองคุณน่ะสิ!”
หลิงหยุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่พร้อมกับก้าวเดินผ่านประตูเข้าไปในห้องนอนของเสี่ยวเม่ยหนิงก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ห่างจากร่างของเธอเพียงแค่ครึ่งฟุตเท่านั้น..
ด้วยระยะที่กระชั้นชิดเช่นนั้นทำให้ต่างฝ่ายต่างก็สัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มในกายของกันและกัน..
เสี่ยวเม่ยหนิงไม่เพียงยืนนิ่งไม่ถอยแต่ยังจงใจยืดอกทำให้สองเต้าชูชันท้าทายสายตาของหลิงหยุนมากกว่าเดิม
“พี่หลิงหยุน..พี่บอกว่าจะไปเล่นมายากล แต่กลับไปแกะสลักรูปปั้นน้ำแข็งเพื่อฉวยโอกาสหาผู้หญิงเพิ่มมาอีกคน!”
“เอ่อ..”
หลิงหยุนอึ้งไปเล็กน้อยแต่ในที่สุดก็ยิ้มออกมา ร่างสูงใหญ่ของเขาโน้มลงไปข้างหน้าจนใบหน้าเกือบจะแนบชิดกับใบหน้าของเสี่ยวเม่ยหนิง แล้วจึงพูดขึ้นว่า..
“หนิงน้อย..คุณคิดดูให้ดีๆ คุณสวยขนาดนี้ ผมจะกล้าทำเรื่องให้คุณเจ็บปวดเสียใจได้ยังไงกันล่ะ อีกอย่าง.. นั่นก็แค่รูปสลักน้ำแข็ง! อย่าบอกนะว่าคุณกำลังอิจฉา..”
หลิงหยุนช่างกล้านัก..ถึงกับโกหกหน้าตาย อีกทั้งยังพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยได้ แต่.. ครั้งนี้คงจะมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อ!
แต่เมื่ออยู่ใกล้หลิงหยุนในระยะกระชั้นชิดเช่นนี้เสี่ยวเม่ยหนิงก็ถึงกับอ่อนปวกเปียก และโน้มตัวเข้าหาหลิงหยุนอย่างไม่รู้ตัว หลิงหยุนก้มหน้าลงซุกไซ้ลำคอขาวนวลของเด็กสาวตัวแสบเรื่อยลงมาจนถึงเนินอก..
“อืมมม…”
เด็กสาวตัวแสบถึงกับพึมพำออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงลมร้อนจากจมูกของหลิงหยุนซึ่งกำลังซอกซอนอยู่แถวเนินอกของตนเอง ใบหน้างดงามนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง และรีบก้าวถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าวพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง
“คนลามก!”
“งั้นรึ!เห็นจะจริง ฮ่า.. ฮ่า..”
หลิงหยุนหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับยื่นฝ่ามือร้อนรุ่มออกไปโอบร่างบอบบางของเสี่ยวเม่ยหนิงเข้ามาไว้ในอ้อมแขน!
ปัง!
ส่วนมือซ้ายก็กระแทกประตูห้องปิดและแยกคนทั้งคู่ออกจากโลกภายนอกทันที แล้วห้องนอนของหนิงน้อยก็ได้กลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคนทั้งคู่ไป..
เสี่ยวเม่ยหนิงถูกหลิงหยุนกอดไว้เช่นนั้นจึงได้แต่ดิ้นรนไปตามสัญชาติญาณ แต่ยิ่งดิ้นรนมากเท่าไหร่ ก็ถูกหลิงหยุนกอดแน่นมากขึ้นเท่านั้น และเธอก็ยิ่งดิ้นรนหนักขึ้นกว่าเดิม..
แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนเพียงใดเด็กสาวตัวแสบก็ไม่อาจสู้แรงของชายหนุ่มได้ และตัวเธอเองกลับยิ่งเคลิบเคลิ้มพร้อมกับหายใจถี่ และแรง..
หลิงหยุนค่อยๆผลักร่างของเด็กสาวตัวแสบลงไปบนเตียงนอน จากนั้นจึงโน้มตัวตามไป และประทับริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากบอบบางของเสี่ยวเม่ยหนิงเนิ่นนาน..
“อืมม…”
เวลานี้ใบหน้าของเสี่ยวเม่ยหนิงแดงยิ่งกว่าอะไรเธอต้องการที่จะดิ้นรนให้หลุด แต่ในที่สุดก็เปลี่ยนจากดิ้นรนมาเป็นสงบนิ่ง และเคลิบเคลิ้มไปกับจูบที่แสนอบอุ่น และดื่มด่ำของหลิงหยุนแทน
สำหรับวิธีที่จะหยุดการทะเลาะวิวาทกับบรรดาหญิงสาวนั้นแน่นอนว่าหลิงหยุนย่อมรู้ดีกว่าใครๆ! อีกทั้งยังรู้จุดอ่อนของเด็กสาวตัวแสบเป็นอย่างดี
ครึ่งนาทีต่อมา..หลิงหยุนก็ผละออกจากริมฝีปากของเสี่ยวเม่ยหนิง เขาจ้องมองใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ และจงใจล้อเลียนเธอ
“อืมม..ชื่นใจที่สุด!”
“พี่หลิงหยุน..คนบ้า! คนเลว!”
เด็กสาวตัวแสบลืมตาขึ้นดวงตากลมโตนั้นจ้องมองหลิงหยุนนิ่ง แต่ก็ไม่มีทีท่าโมโหเหมือนก่อนหน้านี้ เวลานี้เธอไม่ต่างจากเด็กน้อยที่ได้รับของเล่นถูกใจ..
“อืมม..แค่นั้นเลวแล้วเหรอ!”
และเวลานี้ห้องทั้งห้องก็ได้เปลี่ยนจากสนามรบเป็นความสงบหวานชื่นแทน..
“พี่หลิงหยุน..ทำไมพี่ต้องแกะสลักรูปปั้นน้ำแข็งให้ซูหลิงเฟยด้วย ไม่เห็นพี่แกะสลักรูปปั้นให้ฉันเลย!”
หลังจากที่ถูกหลิงหยุนจูบไปเด็กสาวตัวแสบก็ไม่มีอารมณ์โกรธเกรี้ยวอีก แต่กลับถามออกมาด้วยความอิจฉา และหึงหวงแทน
เมื่อครู่หลิงหยุนตั้งใจเพียงแค่เล้าโลมเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ของเสี่ยวเม่ยหนิงเท่านั้นไม่เช่นนั้นแล้วคืนนี้เขาคงต้องกลืนกินเด็กสาวตัวแสบอย่างแน่นอน
แต่หากจะทำเช่นนั้นจริงหลิงหยุนคงต้องหาสถานที่ที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นแล้วเขามั่นใจอย่างยิ่งว่าจะต้องมีคนคอยแอบฟังแน่นอน โดยเฉพาะไป๋เซียนเอ๋อซึ่งมีสัญชาติญาณดีอย่างสุนัขจิ้งจอก..
จากนั้นหลิงหยุนก็ลุกขึ้นนั่งและไม่ลืมที่จะดึงชายเสื้อชุดนอนของเสี่ยวเม่ยหนิงลงมาปิดส่วนที่ดึงดูดสายตาไว้ แล้วจึงตอบกลับไปยิ้มๆ
“ที่ผมไปออกรายการทีวีจุดประสงค์ก็เพื่อจะประกาศให้ศัตรูรู้ว่าผมจะไปที่เทือกเขาเซียนเหยินหลิง..”
“แล้วที่ผมต้องแสดงความแข็งแกร่งของตนเองให้พวกมันเห็นก็เพื่อเป็นการบอกกับศัตรูทุกคนว่า ขอให้พวกมันประเมินฝีมือของตนเองให้ดี หากไม่แข็งแกร่งพอ ก็อย่าไปร่วมสนุก ไม่เช่นนั้นพวกมันจะต้องตายฟรี!”
และนี่คือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของหลิงหยุน!
เด็กสาวตัวแสบลุกขึ้นนั่งเช่นกันและรีบดึงแขนเสื้อที่หลุดลุ่ยจากไหล่ขึ้นมา และจัดการดึงเสื้อผ้าของตนเองให้เรียบร้อย..
เสี่ยวเม่ยนหนิงนั้นเป็นเด็กเฉลียวฉลาดและรู้ว่าหลิงหยุนจะต้องมาหาเธอที่ห้องนอนอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อกลับเข้ามาในห้อง เธอจึงตั้งใจเปลี่ยนเป็นชุดนอนที่เซ็กซี่เย้ายวนพร้อมกับฉีดน้ำหอมอีกด้วย
และที่เธอทำเช่นนี้ก็ไม่มีอะไรมาก..เธอเพียงแค่ไม่ต้องการให้หลิงหยุนเมินเฉยกับเธอเท่านั้นเอง!
รอบกายหลิงหยุนมีสาวงามมากมายเด็กสาวตัวแสบรู้ดีว่าเธอคงไม่สามารถห้ามปรามได้ และคงทำได้เพียงแค่ครอบครองพื้นที่ในหัวใจของหลิงหยุนให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง..
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เสี่ยวเม่ยหนิงคิดเท่านั้นสาวงามคนอื่นๆ รวมทั้งเกาเฉินเฉิน ทุกคนต่างก็คิดเช่นเดียวกัน!
“ถ้าอยากแสดงความแข็งแกร่ง..ทำไมพี่ถึงไม่ร่ายรำเพลงกระบี่แทนล่ะ!”
เด็กสาวตัวแสบยังคงโต้เถียงเพื่อปิดบังความเขินอายของตนเอง..
หลิงหยุนได้ฟังจึงยกมือขึ้นบีบจมูกเล็กๆของเสี่ยวเม่ยหนิงอย่างเอ็นดู จากนั้นจึงตอบกลับไปว่า
“นี่คุณจะให้ผมไปแสดงละครลิงออกทีวีหรือยังไงโชว์มายากลยังโอเค! แต่จะให้โชว์ร่ายรำเพลงกระบี่ออกทีวีนี่นะ?!”
เสี่ยวเม่ยหนิงถึงกับหัวเราะคิกคัก..
“พี่หลิงหยุน..คืนนี้พี่จะไปเซียนเหยินหลิงอีกมั๊ย”
หลิงหยุนส่ายหน้าไปมา“ไม่ไป! ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ! ไปนอนบนเขาที่มีแต่ป่าทึบ ไม่เห็นจะสบายตรงใหนเลย คืนนี้ศัตรูหน้าใหนอยากจะไปหาผมที่นั่น ก็เชิญปล่อยให้พวกมันหาผมไปทั้งคืนก็แล้วกัน ส่วนผม.. ก็จะกลับมาหาหนิงน้อยยังไงล่ะ!”
เสี่ยวเม่ยหนิงได้ฟังก็ดีอกดีใจจนลืมเรื่องรูปแกะสลักน้ำแข็งไปทันที..
“พี่หลิงหยุน..แล้วอยู่ที่เซียนเหยินหลิงพบเจออะไรบ้าง ศัตรูของพี่ตามไปที่นั่นรึเปล่า?”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นบนเทือกเขาเซียนเหยินหลิงให้เด็กสาวตัวแสบฟังและความจริงแล้วหลิงหยุนก็ตั้งใจที่เล่าให้เธอหวาดกลัวเท่านั้นเอง
ระหว่างที่เล่านั้นมือของหลิงหยุนก็ไม่อยู่เฉย เขาเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเด็กสาวตัวแสบ ทำให้เธอถึงกับบิดไปมา และสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
“หนิงน้อย…”หลิงหยุนเรียกชื่อนเสี่ยวเม่ยหนิงพร้อมกับจ้องหน้าเด็กสาวตัวแสบนิ่ง
“หืมมม!”novel-lucky
เด็กสาวตัวแสบกำลังเคลิบเคลิ้มและมีความสุขอยู่กับสัมผัสที่อ่อนโยนของหลิงหยุน แต่เมื่อได้ยินเสียงหลิงหยุนเรียกชื่อตนเอง ก็ตกใจจนต้องลืมตาขึ้นมองทันที..
หลิงหยุนยิ้มชั่วร้ายพร้อมกับพูดขึ้นว่า“หนิงน้อย.. ใหนๆ คืนนี้ผมก็อยู่กับคุณแล้ว จะให้ผมนั่งมองคุณนอนหลับเฉยๆหรือยังไง เดี๋ยวเรารอให้คนอื่นหลับกันหมดก่อน แล้วเราค่อย…”
เสี่ยวเม่ยหนิงได้ฟังถึงกับสั่นไปทั้งกายและใจแม้จะรู้สึกสับสนไปหมด แต่ก็รีบตอบกลับไปว่า “พี่หลิงหยุน.. นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ อย่านะ…”
“จะให้รอไปถึงเมื่อไหร่กัน”
“…ฉันต้องขอคิดดูก่อน!”เสี่ยวเม่ยหนิงตอบอายๆ
ความจริงแล้วหลิงหยุนก็ไม่ได้คิดที่จะทำเช่นนั้นจริงๆเขาเพียงแค่จงใจถาม และรู้คำตอบดีอยู่แล้ว เขาเพียงแค่ต้องการหาวิธีล่าถอยออกไปจากห้องของเสี่ยวเม่ยหนิงเท่านั้น
เพราะเวลานี้ยังมีเกาเฉินเฉินอยู่ใบบ้านอีกทั้งคน..
หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นยืนและพูดขึ้นว่า “หนิงน้อย.. รีบพักผ่อนได้แล้ว ผมจะไปฝึกวิชาต่อ!”
เด็กสาวตัวแสบรีบลุกขึ้นตามหลังจากจัดเสื้อผ้าของตนเองเรียร้อยแล้ว เธอก็เขย่งตัวขึ้นจูบหลิงหยุน แล้วพูดออกไปว่า..
“พี่หลิงหยุน..พี่ไปฝึกวิชาได้แล้ว ฉันหายโกรธพี่แล้วล่ะ! ฮ่า.. ฮ่า..”
และเวลานี้แม่สิงโตสาวก็ได้กลายเป็นลูกแมวเชื่องๆไปแล้ว..
แต่เมื่อหลิงหยุนเดินออกจาห้องไปรอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวเม่ยหนิงก็จางหายไปทันที ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นมึนตึงพร้อมกับพึมพำเบาๆ
“เชอะ..จะไปฝึกวิชางั้นเหรอ จะไปหาพี่เฉินเฉินน่ะสิ! คิดว่าฉันไม่รู้หรือยังไง?”
……….
แน่นอนว่าหลังจากที่ออกมาจากห้องของเด็กสาวตัวแสบหลิงหยุนก็รีบตรงไปที่ห้องของเกาเฉินเฉินทันที
หลิงหยุนไม่ได้เคาะประตูห้องของเกาเฉินเฉินแต่ได้ส่งกระแสจิตไปบอกเธอแทน –เฉินเฉิน.. หลังหรือยัง-
หลิงหยุนรู้ดีว่าหญิงสาวทั้งสองคนนั้นมีบุคลิกนิสัยที่แตกต่างกันเกาเฉินเฉินนั้นอ่อนโยน และไม่เอาแต่ใจเหมือนกับเสี่ยวเม่ยหนิง อีกทั้งเขาและเกาเฉินเฉินก็ผ่านอะไรด้วยกันมามากระหว่างที่อยู่ปักกิ่ง หลิงหยุนจึงเชื่อมั่นว่าเกาเฉินเฉินจะต้องเปิดประตูให้เขาอย่างแน่นอน..
และก็เป็นเช่นนั้นหลิงหยุนไม่ต้องคอยนานนัก ประตูห้องก็ค่อยๆ เปิดออกอย่างเงียบๆ เกาเฉินเฉินยิ้มกว้าง และเอื้อมมือไปดึงหลิงหยุนให้เข้ามาในห้อง พร้อมกับค่อยๆ ปิดประตูไม่ให้เสียงดัง
“หนิงน้อยอาละวาดนายหรือเปล่า”
ทันทีที่เข้าไปในห้องนอนของเกาเฉินเฉินได้แล้วเกาเฉินเฉินก็เอ่ยถามหลิงหยุนทันที
“เอ่อ..”
ประโยคคำถามของเกาเฉินเฉินนั้นทำให้หลิงหยุนถึงกับตอบไม่ถูกเพราะมันบ่งบอกว่าอีกฝ่ายนั้นรู้หมดทุกอย่างแล้ว..
“หลิงหยุน..นายเหนื่อยหรือเปล่า นั่งลงดื่มน้ำก่อนสิ! เดี๋ยวฉันจะนวดให้..”
เกาเฉินเฉินทั้งอ่อนโยนและใจเย็นเป็นสายน้ำ เธอแสดงเป็นห่วงเป็นใยหลิงหยุน พาเขาไปนั่ง และหาน้ำให้ดื่ม จากนั้นเกาเฉินเฉินก็ไปยืนอยู่ด้านหลังของหลิงหยุน และเริ่มนวดไหล่ทั้งสองข้างให้เขาอย่างนุ่มนวล
แต่ถึงกระนั้น..หลิงหยุนกลับรู้สึกว่ามันน่ากลัวกว่าการอาละวาดของเสี่ยวเม่ยหนิงเสียอีก หลิงหยุนนั่งไปด้วยหัวใจที่เต้นรัวราวกับกลอง และรู้สึกไม่สบายใจนัก จนต้องเป็นฝ่ายสารภาพความจริงออกมาเอง
“เฉินเฉิน..คือผม..”
แต่เกาเฉินเฉินกลับตอบมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน..
“นายไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น..ฉันรู้ว่านายเพิ่งผ่านการต่อสู้นองเลือดมา นายอยู่ที่นี่ทำตัวให้สบาย ไม่ต้องคิดอะไรมาก ฉันจะทำให้นายผ่อนคลาย จะได้กลับไปนอนหลับพักผ่อนให้สบาย!”
หลิงหยุนถึงกับเงยหน้าขึ้นมองเกาเฉินเฉินที่กำลังยิ้มอย่างอ่อนโยนและได้แต่คิดในใจว่า ความอ่อนโยนนับเป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพที่สุด!
จักรพรรดิเทพมังกร – บทที่ 924 : ให้รางวัล!
“เฉินเฉิน..คุณนวดเก่งมากเลย! ไปเรียนมาจากที่ใหน”
หลิงหยุนรู้สึกผ่อนคลายไปกับการนวดของเกาเฉินเฉินและกำลังคิดว่าเธอน่าจะรู้จุดฝังเข็มต่างๆเป็นอย่างดี จึงได้สามารถกดนวดได้ตรงจุดเช่นนี้ และวิธีการบีบนวดก็ดีกว่าเหยาลู่มากทีเดียว
เกาเฉินเฉินยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า“ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นกับที่บ้าน.. ฉันก็เคยนวดให้กับท่านปู่บ่อยๆ แล้วก็เคยเรียนจากครูสอนนวดที่มีชื่อเสียงด้วย..”
หลิงหยุนนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า“มิน่า.. เพียงแค่คุณกดนวดเบาๆ ผมก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก มันแตกต่างจากที่คนอื่นนวดให้..”
เกาเฉินเฉินชะงักไปทันที..เธอโน้มตัวไปด้านหน้าจ้องตาหลิงหยุนพร้อมกับร้องถามขึ้นมาว่า
“แตกต่างจากใครเหรอ”
หลิงหยุนรีบตอบกลับไปทันที“ก็.. เหยาลู่ไง! เธอก็ชอบนวดให้ผมบ่อยๆ แล้วก็เซียนเอ๋ออีกคน แต่ทั้งคู่ก็นวดไม่เก่งเท่าคุณ!”
เกาเฉินเฉินเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจ “กล้าพูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำ ไม่กลัวว่าฉันจะหึงบ้างหรือยังไง”
หลิงหยุนยังคงเพลิดเพลินกับการนวดของเกาเฉินเฉินเขาหลับตาลงด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย และหลังจากผ่านไปครู่ใหญ่หลิงหยุนจึงพูดขึ้นว่า
“เฉินเฉิน..คุณรู้มั๊ยว่าคืนนี้ผมสังหารใครไป”
เกาเฉินเฉินถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น“ใครเหรอ”
“เฉินไห่ซาน!ถ้าผมจำไม่ผิด.. เขามีศักดิ์เป็นลุงของคุณใช่มั๊ย”
“ห๊ะ!อะไรนะ?”
เกาเฉินเฉินร้องอุทานออกมาอย่างตกใจก่อนจะนิ่งอึ้งไปและเมื่อรู้สึกตัวเธอก็รีบวิ่งไปยืนตรงหน้าหลิงหยุนพร้อมกับร้องถามออกมาเสียงดัง
“เฉินไห่ซานตายแล้วงั้นเหรอ”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับพยักหน้าและตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ใช่แล้ว! เฉินไห่ซานกับซันเทียนปาต้องการจะจับตัวน้าหญิงไป ผมก็เลยสังหารพวกมันทั้งคู่ แล้วจับพวกมันโยนลงไปที่ก้นหลุมยักษ์ คาดว่าตอนนี้คงจะไปอยู่ในท้องของปลาเรียบร้อยแล้ว!”
“นายนี่เยี่ยมที่สุดเลย!คนตระกูลเฉินล้วนแต่ชั่วช้าสามานย์ทั้งนั้น!”
เกาเฉินเฉินนั้นเคียดแค้นคนตระกูลเฉินเข้ากระดูกดำเมื่อได้ยินว่าเฉินไห่ซานถูกหลิงหยุนสังหาร เธอก็แทบจะปรบมือให้ด้วยความดีอกดีใจ!
“หลิงหยุน..ขอบคุณนายมาก! ขอบคุณที่ช่วยล้างแค้นให้กับตระกูลเกาของเรา!”
เกาเฉินเฉินดีใจอย่างบอกไม่ถูกเธอพุ่งเข้าไปโอบกอดหลิงหยุนไว้พร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่
หลิงหยุนได้แต่ตะลึงและถามกลับไปว่า “แต่เขาเป็นลุงของคุณไม่ใช่รึ นี่คุณไม่ตำหนิผมหรอกรึ?”
“ลุงงั้นเหรออย่าได้นับมันเป็นญาติกับตระกูลเกาของเราอีก! เวลานี้ไม่ว่าฉัน ท่านปู่ หรือพี่ใหญ่ ทุกคนก็แทบอดใจรอที่จะไปถล่มคนตระกูลเฉินไม่ได้! ถ้าท่านปู่รู้ข่าวนี้คงจะต้องดีใจ และมีความสุขมากอย่างแน่นอน!”
เมื่อพูดถึงตระกูลเฉิน..เกาเฉินเฉินก็ถึงกับกัดฟันกรอด และความเกลียดชังเคียดแค้นก็ครุกรุ่นขึ้นมาในจิตใจ..
หากไม่ใช่เพราะหลิงหยุนบอกกับเธอว่าเฉินเซินกับเฉินเจี้ยนกุ่ยนั้นยังมีประโยชน์กับเขามากแล้วล่ะก็ เกาเฉินเฉินคงไม่รีรอที่จะตรงเข้าไปตัดหัวของพวกมันทั้งสองคนด้วยตัวเองแน่ เหตุใดยังต้องทนรอมาจนถึงป่านนี้
หลิงหยุนดึงร่างของเกาเฉินเฉินมานั่งบนตักและสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์ที่เกาเฉินเฉินมี เขาหันไปยิ้มและพูดกับเธอว่า
“เอาล่ะ..ไม่ต้องนวดแล้ว ผมผ่อนคลายมากแล้ว!”
เกาเฉินเฉินก้มหน้าลงกระซิบอย่างเอียงอาย“ฉันมีรางวัลจะให้นายด้วย!”
รางวัลงั้นรึรางวัลอะไรกัน? หลิงหยุนลุกพรวดขึ้นทันที และรีบโอบเอวของเกาเฉินเฉินไว้พร้อมกับกระซิบถามอย่างตื่นเต้น
“คุณจะให้อะไรผมเป็นรางวัล”
เกาเฉินเฉินไม่ตอบ..เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น และค่อยๆ ยกมือขึ้นแกะกระดุมเสื้อของหลิงหยุนด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ..
“นายไปอาบน้ำก่อน!”
“เอ่อ..ผมใช้ยันต์ธาราชำระร่างกายมาเรียบร้อยแล้ว!”
หลิงหยุนฝึกดาราคุ้มกายถึงระดับสูงสุดของขั้นที่สองแล้วเมื่อถึงขั้นนี้แม้แต่ฝุ่น และสิ่งสกปรกก็จะไม่จับต้องร่าง อีกทั้งยังใช้ยันต์ธาราล้างทำความสะอาดมาแล้ว และทำให้แห้งด้วยพลังหยาง..
เกาเฉินเฉินหน้าแดงพร้อมกับตอบเสียงเบา“ก็อาบอีกไม่ได้หรือไง”
หลิงหยุนไม่มีทางเลือกได้แต่ลุกขึ้นยืนแล้วตอบไปว่า “ได้สิ! อาบแล้วก็อาบอีกได้ คุณจะได้ไม่รังเกียจ!”
“ถ้างั้นฉันจะไปเตรียมน้ำอุ่นให้นายอาบนะ..!”
เกาเฉินเฉินเดินไปที่ห้องน้ำจากนั้นหลิงหยุนก็ได้ยินเสียงเปิดน้ำก๊อก ผ่านไปครู่ใหญ่เธอจึงเดินมากระซิบกับหลิงหยุนว่า
“เรียบร้อยแล้ว!”
“งั้นผมไปอาบเลยนะ!”
หลิงหยุนแทบรอคอยต่อไม่ไหวเขากระโดดไปโผล่ตรงหน้าเกาเฉินเฉินจนเธอเองถึงกับตกใจ และร้องอุทานออกมา
“ตกใจหมด!ห้องเล็กแค่นี้เดินสองก้าวก็ถึงแล้ว ไม่เห็นต้องใช้วิชาตัวเบาเลย..”
หลิงหยุนเข้าไปในห้องน้ำได้ก็จัดการถอดเสื้อผ้าออกจนหมด และรีบก้าวเท้าลงไปในอ่างน้ำสีขาวที่ผสมน้ำอุ่นรออยู่..
“เฮ้อ..ถึงอย่างไรอยู่บ้านก็สบายกว่าที่ใหนๆ”
เกาเฉินเฉินเตรียมน้ำอุ่นในอุณหภูมิที่พอดิบพอดีหลิงหยุนก้าวลงไปนอนในอ่างอย่างสบายอกสบายใจ..
หลังจากที่นอนแช่อยู่ราวสองสามนาทีหลิงหยุนก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก และตามมาด้วยเสียงร้องอุทานของเกาเฉินเฉิน
“ว้าย!ใครให้นายถอดเสื้อผ้าหมดแบบนี้..”
หลิงหยุนได้แต่นึกขันและตอบกลับไปว่า “คุณผู้หญิงครับ.. นี่ผมกำลังอาบน้ำนะครับ!”
เกาเฉินเฉินคว้าผ้าเช็ดตัวมาถือไว้เธอเม้มริมฝีปากยืนบิดไปบิดมาพร้อมกับพูดขึ้นด้วยความเขินอาย
“นาย..นายหลับตาก่อน อย่ามองล่ะ!”
“ห๊ะ!”
หลิงหยุนถึงกับร้องออกมาอย่างงุนงงและได้แต่คิดในใจว่า ‘น่าจะเป็นเจ้าที่ต้องหลับตาสิ!’ แต่เพื่อรางวัลที่จะได้รับ หลิงหยุนจึงรีบหลับตาลงอย่างว่าง่าย
“ห้ามแอบดูล่ะ!”
เกาเฉินเฉินย้ำอีกครั้งและเริ่มอาบน้ำขัดตัวให้กับหลิงหยุน..
หลิงหยุนแทบน้ำตาร่วงและได้แต่คิดในใจเงียบๆว่า.. ‘แม่นาง.. ข้าถอดเสื้อผ้าจนหมดไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว แต่รางวัลที่ข้าได้รับก็คือการอาบน้ำถูตัวให้แค่นี้น่ะรึ!”
เกาเฉินเฉินดูเหมือนจะรู้ว่าหลิงหยุนกำลังคิดอะไรอยู่เธอถึงกับหัวเราะคิกคัก จนหลิงหยุนต้องลืมตาขึ้นพร้อมกับพูดออกไปอย่างไม่พอใจ
“คุณหัวเราะอะไรมีอะไรน่าขำมากงั้นเหรอ? เดี๋ยวผมก็ฉุดลงอ่างด้วยกันเลยนี่!”
แต่เกาเฉินเฉินยังคงขัดถูหลังให้หลิงหยุนต่อไปพร้อมกับพูดอย่างไม่เกรงกลัว “ถ้านายดึงฉันลงไปในอ่าง ฉันก็จะไม่ให้รางวัลนาย!”
เมื่อได้ยินว่าการอาบน้ำขัดตัวนี้ยังไม่ใช่รางวัลหลิงหยุนก็ค่อยสบายใจขึ้นมา และรีบหลับตาต่อทันที..
ผ่านไปราวยี่สิบนาทีหลังจากขัดถูหลัง และแขนให้หลิงหยุนจนสะอาดแล้ว เกาเฉินเฉินก็สั่งให้หลิงหยุนอาบน้ำล้างฟองสบู่ออกให้หมดพร้อมกับส่งผ้าเช็ดตัวให้ และออกไปรอข้างนอก
หลังจากที่หลิงหยุนเดินออกมาเขาก็ร้องถามขึ้นทันที..
“นี่คุณกำลังจะทำอะไรกันแน่”
“ฉันจะไปอาบน้ำบ้างแล้วตัวฉันเองก็มีแต่เหงื่อ..”
“แล้วทำไมคุณเมื่อครู่ไม่เข้าไปอาบน้ำพร้อมกับผม”
เกาเฉินเฉินหัวเราะคิกคักและจัดการปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนออกพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนหลิงหยุนได้แต่ยืนอยู่ด้านนอกด้วยความรู้สึกผิดหวัง จากนั้นจึงเดินคอตกไปนั่งที่เตียงนอน..
ผ่านไปครู่ใหญ่..เกาเฉินเฉินก็เดินห่มผ้าเช็ดตัวสีขาวออกมาจากห้องน้ำ และเส้นผมยังคงเปียกชื้น..
หลิงหยุนอดใจรอต่อไปไม่ไหวเขาใช้มังกรพรางร่างตรงเข้าไปอุ้มร่างของเกาเฉินเฉินกลับมาที่เตียงนอนทันที
ครั้งนี้เกาเฉินเฉินไม่ปฏิเสธแก้มของเธอแดงเป็นลูกตำลึง “หลิงหยุน.. ครั้งก่อนตอนที่นายอยู่กับฉางหลิงในห้อง ฉันทั้งอิจฉาฉางหลิง แล้วก็หึงนาย!”
หลิงหยุนยิ้มมุมปากพร้อมกับตอบไปว่า“คุณไม่ต้องอิจฉาฉางหลิงอีกแล้ว!”
หลังจากนั้น..ภายในห้องนอนของเกาเฉินเฉินก็อบอวลไปด้วยความสุขไม่ต่างจากฤดูใบไม้ผลิ..
…..
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง..เกาเฉินเฉินจึงร้องถามหลิงหยุนด้วยความไม่พอใจ “หลิงหยุน! ทำไมนายถึงไม่ยอม…”
หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ“เฉินเฉิน.. ร่างกายของคุณเพิ่งจะฟื้นตัว หากคุณต้องการฝึกวรยุทธให้ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว คุณต้องอดทนรอไปอีกหน่อย..”
หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่า‘รอให้ข้าเข้าสู่ขั้นพลังชี่ก่อน ถึงตอนนั้นดูว่าข้าจะทำอย่างที่เจ้าต้องการหรือไม่!’
ทั้งคู่หยอกล้อกันอยู่นานหลิงหยุนจึงลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และปล่อยเกาเฉินเฉินไว้ในห้องนอนตามลำพัง
เมื่อกลับไปที่ห้องนอนของตนเองหลิงหยุนก็พบว่าถังเมิ่งกำลังครอบครองเตียงของตนเองอยู่ และดูเหมือนจะกำลังฝันหวานเสียด้วย หลิงหยุนจึงปล่อยให้ถังเมิ่งนอนพักผ่อนต่อไป ส่วนตัวเขาก็ไปนั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟา
ตั้งแต่ได้วิชาดูดลมปราณมาหลิงหยุนก็ได้ดูดเอาพลังชี่ของยอดฝีมือขั้นเซียงเทียนเข้าไปมากมาย และรู้สึกว่าตนเองใกล้จะเข้าสู่ขั้นพลังชี่มากแล้ว..