ตอนที่ 411

The Novel’s Extra

บทที่ 411 การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน (5)

 

แชนายอน คว้าหนังสือพิมพ์จากมือของ เฮย์เนค

 

[ผู้เป็นอมตะกำราบมาร]

 

ข่าวพาดหัวเกี่ยวกับปู่ของเธอที่ฆ่ามาร เนื่องจากแชนายอนอาศัยอยู่ในที่ที่ห่างจากอินเทอร์เน็ตซักพักเธอจึงเพิ่งรู้เรื่องนี้ดวงตาเธอเบิกกว้าง

 

[ปีศาจที่เรียกได้ว่าเป็นรากเหง้าแห่งความชั่วร้ายของเหล่าปีศาจ ‘มาร’ ได้สืบเชื้อสายบนโลกผ่านร่างกายของมนุษย์]

[แชจูชึล ได้ส่งเขาของ มาร เป็นหลักฐานแต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ไม่น้อย]

[สมาคมฮีโร่ออกมาลงโทษ Pandemonium และกลุ่มปีศาจต่าง ๆ ….]

 

มันเป็นข่าวที่ยากที่จะเชื่อ แชนายอน มองขึ้นไปที่ เฮย์เนค และจับหนังสือพิมพ์อย่างแน่นหนา

 

“… นี่-นี่มันหมายความว่ายังไง? มาร?”

 

“หืม? เธอไม่รู้หรอ”

 

เฮย์เนค พบว่าปฏิกิริยาของ แชนายอน แปลกออกไป

 

“ไม่เลย ฉันจะทำยังไงดี”

 

“…แล้วเธอคิดว่าเธอรู้อะไรบ้างตอนนี้”

 

“รู้สึก? อืม…ก็ปู่เก่งมากๆ? แล้วก็แปลกใจที่มีปีศาจแบบนี้อยู่”

 

“หืมม.”

 

เฮย์เนค ไขว้แขนแล้วลูบคาง จากนั้นเขากระซิบอย่างเงียบ ๆ

 

“เธอแกล้งโง่หรือโง่จริงๆ….”

 

“ตาแก่ ฉันได้ยินคุณพูดนะ”

 

แชนายอน มองไปที่ เฮย์เนค อย่างดุเดือด

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า อย่างน้อยหูของเธอก็ยังแหลมคม”

 

“…ฉันควรจะทำยังไงดี”

 

“ฉันไม่ได้บอกคุณมาก่อนเหรอ”

 

แชนายอน พักในโรงแรมของ เฮย์เนค เป็นเวลา 1 เดือน เธอบอกทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองออกมา ถึงแม้แชนายอนจะปฏิเสธอย่างรุนแรงแต่เธอก็ไม่ลืมที่จะพูดถึงทฤษฎีที่ว่าแชจินยูนอาจจะเป็นปีศาจ เพื่อการ

ค้นหา คิมจุงโฮ และเธอยังได้รับคำแนะนำจากเขาด้วย

 

“คุณหมายถึงอะไร คุณไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องมารเลยนะ”

 

แชนายอน ถามอย่างบริสุทธิ์ใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะเรียนรู้

 

“ฮา…”

 

เฮย์เนค พบว่ามันยากที่จะเชื่อว่า แชนายอน สมองเหมือนปลาทองแต่เขาจะปิดปากไม่พูดก็ไม่ได้

 

ทฤษฎีที่ว่า ‘แชจินยุนอาจเป็นปีศาจ’ ไม่มีอยู่ในหัวของเธอ มันไม่ใช่เรื่องของสติปัญญา เธอปฏิเสธความคิดนี้ไปเองโดยไม่รู้ตัว

 

“คิมจุงโฮ บอกว่าเขามีศพของมาร”

 

เพราะงั้น เฮย์เนค เลยต้องอธิบายให้ แชนายอน รับรู้อย่างจริงจัง

 

“ใช่แล้วปู่ของฉันฆ่ามารไปแล้ว”

 

“….”

 

แชนายอน พึมพำอย่างจริงจังราวกับว่าเธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ความคิดของเธอไม่ได้ไปไกลเกินกว่าเรื่องที่แชจูชึลทำ เธอปฏิเสธที่จะเชื่อมโยงจุดต่างๆระหว่างศพปีศาจของคิมจุงโฮ กับ แชจินยุน เฮย์เนค อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแย่

 

“…เธอคิดด้วยตัวเองเถอะ พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว เธอยังมีเวลาคิดอีกเยอะ”

 

“ฮะ? นั่นอะไรน่ะ?”

 

เฮย์เนค เทเบียร์ลงในถ้วย 1000cc จากนั้นเขามอบมันให้กับแชนายอน โดยหวังว่ามันจะเป็นเชื้อเพลิงสำหรับการคิด

 

“อ้า ขอบคุณ ฉันเริ่มกระหายน้ำพอดี”

 

“นอกจากนี้ พวกเราจะเปลี่ยนกฎ เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้”

 

ในขณะที่ แชนายอน จ้องเขม็งถ้วยเบียร์ เฮย์เนค ยกนิ้วของเขา

 

“โจมตีได้ดี 1 ครั้ง นั่นก็เพียงพอแล้ว”

 

จ้าวแห่งเหล็กไหล ไคร์เน่ เฮย์เนค เดินตามเส้นทางแห่งนักดาบเป็นเวลากว่า 60 ปี นั่นคือ 21,900 วันหรือ 525,600 ชั่วโมง 2 ชั่วอายุคนผ่านไปในช่วงเวลานี้มีประเทศเล็กๆในเอเชียตะวันออกขึ้นเป็นมหาอำนาจของโลก

 

แม้สภาพแวดล้อมของเขาจะเปลี่ยนไปแต่ เฮย์เนค ก็พ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวในชีวิตของเขา

 

เขาตั้งเงื่อนไขเงื่อนไขของชัยชนะของ แชนายอน…หมายความว่าเขา

อยากจะบอกเธอเกี่ยวกับที่อยู่ของ คิมจุงโฮ

 

อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า

 

นั่นเป็นหนึ่งในแง่มุมพื้นฐานของการเป็นผู้ดูแลโรงแรมและ เฮย์เนค ไม่ใช่ชอบทำลายกฏอะไรแต่…….

 

“ถ้าแค่นี้ก็คงจะไม่ได้ยากอะไรมาก”

 

แต่สถานการณ์เปลี่ยนไป ตอนนี้สิ่งมีชีวิตที่รู้จักกันในชื่อมารปรากฏตัวเขาก็ไม่สามารถทำตามคำพูดของ คิมจุงโฮ ได้แล้ว

 

“…อย่าเสียใจไปเลย”

 

แชนายอน จ้องที่ เฮย์เนค อย่างแรงและเอาบุหรี่ออกจากกระเป๋าของเธอ ตอนนี้การสูบบุหรี่เป็นนิสัยของ แชนายอน เฮย์เนค บอกเองว่า

ไม่ชอบสูบบุหรี่

 

“ห้ามสูบบุหรี่ภายในโรงแรม ไปทำข้างนอกถ้าเธอต้องการ”

 

“ตกลง. คุณก็รู้นี่คือวิธีที่ฉันเติมพลังเวทย์มนตร์ของฉัน”

 

“…อะไรนะ?”

 

แชนายอน หัวเราะและอธิบาย ‘นิสัย’ ที่เธอได้รับจาก Tower of Wish

[ยากที่จะฆ่า] มันมีความสามารถแปลกๆในการแปลงสารพิษให้เป็นพลังเวทย์

 

“Tower of Wish สินะ? ช่างเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ”

 

“ทำไมคุณไม่เข้าไปข้างในละ? ฉันแน่ใจว่าคุณจะกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงได้ในเวลาไม่นาน”

 

“ไม่ละ ฉันจะอายุ 90 แล้ว ถ้าแค่ฉันกระพริบตา 2-3 ครั้งก็ทำแบบนั้นได้แล้ว ทำไมฉันต้องเข้าไปในหอคอย”

 

“ไม่ใช่อย่างนั้น ดูสิฉันได้รับดาบยาวนี้มาจากหอคอย”

 

แชนายอน ภูมิใจแสดงให้ เฮย์เนค เห็น [ดาบยาวของ แจ็ค เชอร์ชิลล์ Lv.6] จากนั้นเธอก็จำได้ว่าเธอยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เธอได้มา

 

[จดหมายเชิญไปยังห้องรัก]

 

เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ทำมันหายเธอเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าที่เธอวางไว้อย่างระมัดระวัง โชคดีที่จดหมายยังอยู่ที่นั่น

 

“นั่นมันอะไรน่ะ?”

 

“อ้อ นี่น่ะเหรอ…?”

 

“ใช่.”

 

“อืม…ฉันจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงดี….”

 

เธอไปเจอมิตรภาพที่เริ่มต้นจากในเกม แม้ว่าเธอตอนนี้เธอจะออกจาก Tower of Wish โดยที่ไม่เคยเห็นเขา แต่เธอก็เชื่อว่าไม่นานจะได้เจอเขาอย่างแน่นอน

 

“มันเป็นเครื่องราง”

 

“เครื่องราง?”

 

“อืม.”

 

แชนายอน วางจดหมายพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

 

“มันจะปกป้องฉันจากความตายอย่างน้อย 1 ครั้ง”

 

*************************************************************************

 

[โซล, เกาหลี – คฤหาสน์ของ ยูยอนฮา]

 

หลังจากคำสารภาพที่เต็มไปด้วยน้ำตาของ ยูยอนฮา ยูจินวอง ก็บอกกับ ยูยอนฮา เกี่ยวกับเหตุการณ์กวางโอ้ ความจริงที่ ยูยอนฮา อยากหลีกเลี่ยงนั้นถูกเปิดเผยออกมาโดยผู้กระทำความผิดอย่างละเอียดและ ยูยอนฮา ก็หลับไปกว่า 2 วัน

 

เมื่อเธอตื่นขึ้นร่างกายของเธอที่อ่อนล้าจากความเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอ ตอนนี้กลับมาสู่สภาพที่ดีที่สุด เธอกลับบ้านพร้อมกับ

ยูจินวอน

 

“…พ่อขอโทษ ยอนฮา”

 

ในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์พ่อและลูกสาวนั่งหันหน้าเข้าหากัน

ยูจินวอง ขอโทษลูกสาวของเขาเป็นครั้งแรก การกระทำที่ผ่านมาของเขามาเหมือนคลื่นสะท้อนกลับและทำให้หัวใจลูกสาวของเขาเจ็บปวด

 

แต่สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดมากกว่านั้นก็คือว่าเขาไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้เลยไม่ว่า Essence of the Strait จะทรงพลังมากขึ้นแค่ไหน ก็ไม่สามารถต้านทาน แชจูชึล ได้เลย ยิ่งตอนนี้เขาเป็น ‘ผู้สังหารมาร’ อิทธิพลของ แชจูชึล นั้นไม่มีใครเทียบได้อีกแล้ว

 

ไม่มีใครกล้าที่จะขอให้เขาชดใช้บาปของเขาและใครก็ตามที่ทำเช่นนั้นจะต้องเผชิญกับผลที่ร้ายแรงไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีภูมิหลังแบบใดก็ตาม

 

“พ่อไม่ต้องขอโทษหนู หนูก็รู้เรื่องนี้เหมือนกับพ่อ”

 

ยูยอนฮา ยิ้มเล็กน้อย มันสายเกินไปแล้วที่จะหันหลังกลับ ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะยอมแพ้ เธอไม่ใช่คนประเภทที่จะทิ้งบางสิ่งบางอย่างเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ เธอวางแผนที่จะทำให้แชจูชึลจ่ายค่าตอบแทนออกมาไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม

 

“นี่.”

 

“…?”

 

เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ยูยอนฮา มอบ USB ขนาดเล็กให้กับพ่อของเธอ

ยูจินวอง เอียงศีรษะของเขาเมื่อเขาได้รับมา

 

“มันเป็นสิ่งที่คุณน้าค้นพบเกี่ยวกับการฆาตกรรมของ แชจินยุน”

 

USB ที่มีผลการสอบสวนของ ยูจินฮยอก มันมีความจริงที่ แชจูชึล ต้องการปิดบังเอาไว้

 

“น้า? ลูกหมายถึงน้ายูจินฮยอกเหรอ?”

 

ยูจินวอง ตกใจที่ได้ยินชื่อน้องชายของเขา

 

“ใช่.”

 

“ อืม…อ้อ พ่อก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน เขาบอกว่าเขาเห็น ‘รอยสัก’ ใช่ไหม?”

 

“ไม่”

 

ยูยอนฮา ส่ายหัวของเธอ ยูจินฮยอกได้ค้นพบรอยสักของคิมฮาจินด้วยเช่นกัน แต่นั่นเป็นเพียงปลายยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น

 

“น้าเจอเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก เขาไม่ได้พูดอะไรเลยเพราะเขากลัวว่าแชจูชึลจะฆ่าเขา”

 

ความจริงที่ว่าศพของ แชจินยุน นั้นถูกเปลี่ยนและร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยพลังปีศาจที่หนาแน่นกว่า พลังปีศาจ ใดๆที่ทั้งหมดนั้น แชฉินฮยอค สั่งให้ คิมจุงโฮ ซ่อนมันจาก แชนายอน

 

ยูจินฮยอก รู้ความลับมากมาย

 

“พ่อคะ แชจูชึล เปิดเผยว่าเขาฆ่ามาร หลังจากเห็นสิ่งนั้นหนูก็มั่นใจ”

 

ยูจินวอง เสียบ USB เข้ากับ smartwatch ของเขา หน้าต่างโฮโลแกรมโผล่ขึ้นมาและ ยูจินวอง ก็เริ่มอ่านมันอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง

 

“แชจินยูนเป็นร่างอวตารของมาร”

 

“….”

 

ยูจินวอง จ้องที่ ยูยอนฮา ด้วยสีหน้าตกใจ ถัดไป ยูยอนฮา บอกเขาอย่างที่ คิมฮาจิน บอกกับเธอในอดีต นั่นเป็นความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่รู้จักกันในนาม ‘เมล็ดพันธุ์ปีศาจ’ อยู่ในจิตใจของ แชจินยุน และไม่มีทางที่จะกำจัดมันออกจากร่างกายของเขาได้เลย

 

“แล้ว … .”

 

ยูจินวอง พึมพำอย่างงุนงง

 

“ใช่แล้วเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้และฆ่าแชจินยุนด้วยตัวเอง”

 

“….”

 

ในฐานะที่เป็นพ่อของ ยูยอนฮา และหัวหน้ากิลด์ Essence of the Strait ยูจินวอง เชื่อว่าเขาค่อนข้างแก่และมีประสบการณ์หลายอย่างในชีวิตของเขา เขาเชื่อว่าประสบการณ์ของเขาทำให้เขาฉลาดแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นอัจฉริยะก็ตาม

 

ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้ายอมรับสิ่งที่ลูกสาวของเขาบอก

 

“…แต่ ยอนฮา, แชจูชึล เองก็พึ่งได้เจอกับมารแต่ ชายคนนั้นยังเป็นเพียงนักเรียนนายร้อยในตอนนั้นเองนะ….”

 

“นั่นเป็นเพราะปีศาจภายในแชจินยูนไม่ได้ถูกปลุกให้ตื่น ยิ่งกว่านั้นเขานั้นแข็งแกร่งกว่าที่พ่อคิดมาก”

 

“… โฮ่”

 

ยูจินวอง บอกได้เลยว่าลูกสาวของเขาเชื่อมั่นในตัวชายคนนั้นเป็นอย่าง มากจริงๆ เธอบอกว่าเขา ‘มีค่า’ สำหรับเธอ เขารู้ว่า ยูยอนฮา ไม่เชื่อใจ ใครได้ง่ายๆ พวกเขามีความสัมพันธ์แบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ?

 

ในฐานะพ่อยูจินวองอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉานิดหน่อย แต่เขาก็ตะครุบตัวเองอย่างรวดเร็วและสะบัดความคิดนั้นออกไป จากนั้นเขาก็เปล่งเสียงคำถามที่เขามีออกมา

—————————2——————–