คุณเป็นผู้หญิงหรือเปล่า?
อวี๋เหวยหมินขอคุยกับเฉินเยี่ยนเป็นการส่วนตัว ถึงแม้ว่าเขาจะเกรงใจมาก เหมือนว่ากำลังขอความเห็นจากเฉินเยี่ยน แต่เฉินเยี่ยนกลับมองเห็นความแน่วแน่ในแววตาเขาออก เธอรู้ว่านี่เป็นจุดประสงค์ที่อวี๋เหวยหมินมาหาตัวเอง เขามีเรื่องจะพูดกับเธอ เขาอยากจะข่มขู่ให้ตัวเองตกลงอะไรกับเขา
แต่เขามีอะไรมาขู่ตัวเอง? บอกว่าเธอไม่ใช่เฉินเยี่ยนตัวจริง? แต่อวี๋เหวยหมินและเฉินเวยก็กลับชาติมาเกิดเหมือนตัวเอง บอกว่าเธอเหมือนพวกเขา พวกเขาไม่กล้าหรอก แล้วพวกเขามีอะไรมาขู่ตัวเองนะ? ตัวเธอไม่น่าจะมีอะไรเป็นจุดอ่อนอยู่ในเงื้อมมือเขาหรอก
สมองเฉินเยี่ยนหมุนไปมาอย่างรวดเร็ว
“เยี่ยนจื่อไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า เจ้ารีบไปเถอะ เห็นเจ้าแล้วฉันโมโห ถ้าไม่เป็นเพราะเจ้า เยี่ยนจื่อจะเป็นอย่างนี้หรือ? แล้วยังจะมาขอคุยส่วนตัวอีก จะคุยหาอะไร”
ฝั่งหวางนิวไม่เห็นด้วย พูดจาไม่เกรงใจกันแล้ว
“คุณป้าฟังน้องเฉินเยี่ยนว่ายังไงก่อนดีกว่า ว่าไหม น้องเยี่ยนจื่อ”
อวี๋เหวยหมินมองเฉินเยี่ยนแล้วยังยักคิ้วอีก ฉายแววประชด เฉินเยี่ยนรู้จักอวี๋เหวยหมินดี สีหน้าและการกระทำของอวี๋เหวยหมินแบบนี้แสดงออกว่าเธอเดาไม่ผิด อวี๋เหวยหมินจะต้องมีจุดอ่อนของตัวเองอยู่แน่นอน ไม่อย่างนั้นจะไม่สำราญใจแบบนี้ คืออะไรนะ?
ตัวเองจะไปคุยสองต่อสองกับอวี๋เหวยหมินดีไหมนะ? ตัวเธอไม่ได้กลัวเขา แต่คิดว่าถ้าวันนี้ตัวเองไม่ตอบตกลงเขา เขาก็จะต้องใช้วิธีอื่นอยู่ดี ก็ได้ ลองฟังว่าเขามีจุดประสงค์อะไร ยังไงตัวเธอก็มีจุดอ่อนอยู่ในกำมือเขาอยู่แล้ว
“คุณอยากจะคุยกับฉันเป็นการส่วนตัว?”
เฉินเยี่ยนมองอวี๋เหวยหมินอย่างเยือกเย็น ถึงแม้เธอจะตัดสินใจแล้ว แต่จะไม่ทำหน้าดีให้อวี๋เหวยหมินดู
อวี๋เหวยหมินพยักหน้า
“ได้”
เฉินเยี่ยนตอบตกลง สีหน้าอวี๋เหวยหมินฉายแววดีใจ เขารู้อยู่แล้วว่าเฉินเยี่ยนจะต้องตอบตกลง เฉินเยี่ยนหนีไม่รอดจากเงื้อมมือเขาหรอก
“เยี่ยนจื่อ”
หวางนิวร้อนรน เธอไม่รู้ว่าลูกสาวยังมีอะไรจะพูดกันอีก ถ้าอวี่เหวยหมินปลอบลูกสาวสำเร็จจะทำยังไง?
“แม่ เรื่องนี้แม่ไม่ต้องยุ่งก็ได้ค่ะ แม่ไปยุ่งในครัวต่อเถอะ”
เยี่ยนจื่อแสดงให้รู้ว่าตัวเองแยกแยะได้
“จวนเอ๋อร์ เธอไปห้องครัวกับแม่”
เฉินเยี่ยนพูดกับหวางจวน
หวางจวนไม่ได้พูดอะไร ไปประคองหวางนิว เธอเข้าใจความหมายของเฉินเยี่ยน คือให้เธอคอยดูหวางนิว
หวางนิวไม่อยากไปห้องครัว หวางจวนลากเธอไป ปากหวางนิวยังบ่นพึมพำอยู่ แล้วโดนหวางจวนลากไป
“ไปเถอะ พวกเราไปห้องคุณ”
อวี๋เหวยหมินหัวเราะอย่างพอใจ เฉินเยี่ยนก็ยังต้องฟังเขาอยู่ดี
อวี๋เหวยหมินกำลังจะขยับ เฉินเยี่ยนหัวเราะแล้วพูดขึ้นมา “ใครบอกว่าจะไปห้องฉัน? ฉันเป็นลูกสาวในบ้าน จะให้ผู้ชายเข้าห้องได้ยังไง คุณสำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่า? คุณกับฉันอยู่ในห้องเดียวกันตามลำพัง คุณไม่กลัวคนนินทา แต่ฉันขายหน้าคนอื่น”
คำพูดเฉินเยี่ยนทำให้อวี๋เหวยหมินชะงักไป เขาอึ้งแล้วพูด “ไม่ให้ไปห้องคุณแล้วไปคุยกันที่ไหน?”
เฉินเยี่ยนมองอวี๋เหวยหมินแล้วยิ้ม รอยยิ้มนี้เสมือนดอกไม้กำลังผลิบาน สะท้อนเข้ามาในตาอวี๋เหวยหมิน
“โน่น พวกเราไปคุยกันตรงนั้น”
นิ้วเรียวของเฉินเยี่ยนชี้ไปทางหนึ่ง
อวี๋เหวยหมินโดนรอยยิ้มของเฉินเยี่ยนจนจำทิศถูกผิดไปเลย เขามองตามนิ้วเฉินเยี่ยน มองจนลูกตาเขาแทบจะหลุดออกมา
ไม่แปลกที่อวี๋เหวยหมินเป็นแบบนี้ เพราะที่เฉินเยี่ยนชี้ไปไม่ได้สถานที่ แต่เป็นหลุมหนึ่งที่ทุกบ้านในหมู่บ้านต่างก็มีในสนาม
ทุกบ้านมีหลุม ข้างในมีทุกอย่าง เป็นที่หมักปุ๋ย เอาไว้ใส่ปุ๋ยสำหรับทำการเกษตร ถึงแม้จะมีเกลิ่น แต่การทำเกษตรก็ต้องใช้ ถือเป็นสมบัติของชาวไร่ชาวนาเลย ดังนั้นทุกบ้านจะมี อีกอย่างดมจนชินแล้ว ก็ไม่รู้สึกว่าเหม็นแล้ว แต่ธาตุแท้ของอวี๋เหวยหมินเป็นคนยุคปัจจุบัน ชาติที่แล้วไม่เคยเห็นการของพวกนี้ ตอนที่เพิ่งมาถึง เจอหลุมปุ๋ยพวกนี้เขาอ้วกไปตั้งหลายรอบ ถึงแม้ตอนนี้เห็นของพวกนี้ก็เหมือนไม่เห็นแล้ว แต่เขาไม่เคยไปข้างหลุมนั่นมาก่อนเลย จะตักปุ๋ยคอกขึ้นมาหรือบากปุ๋ยคอกไปเขาไม่ทำทั้งนั้น ตอนนี้เฉินเยี่ยนกลับจะไปยืนคุยกับเขาข้างหลุมนั่น ไม่ได้จะรมให้เขามึนเหรอ?
เฉินเยี่ยนนี่เธอเป็นผู้หญิงหรือเปล่า? เธอสกปรกขนาดนี้แม่เธอรู้ไหมเนี่ย?
เห็นสีหน้าอวี๋เหวยหมินเฉินเยี่ยนก็รู้แล้วว่าอวี๋เหวยหมินคิดอะไร อวี๋เหวยหมินคนนี้เป็นพวกบ้าความสะอาด แต่เขาก็ขี้เกียจ หลังแต่งงานเธอเป็นคนทำงานบ้านทั้งหมด แล้วยังต้องปรนนิบัติเขา แต่เขาก็มักจะไม่พอใจนี่ ไม่พอใจนั่น เหมือนว่าเฉินเยี่ยนเป็นคนไม่รักความสะอาด เฉินเยี่ยนอดทนมาตลอด เพราะเธอคิดว่าการเป็นสามีภรรยาเป็นเรื่องทั้งชีวิต คนสองคนก็จะมีข้อเสียแบบนั้น แบบนี้ ขอแค่มีใจเพื่อครอบครัว ก็สามารถอภัยให้กันและกันได้
แต่ตอนนี้อวี๋เหวยหมินไม่ใช่สามีของเธอแล้ว เขาอยากจะคุยกับตัวเอง งั้นก็ต้องฟังตัวเอง คุณบ้าความสะอาดไม่ใช่หรือ? คุณรักความสะอาดใช่ไหม? ได้ ตอนนี้ฉันจะให้คุณยืนอยู่ข้างหลุมปุ๋ยคอกคุยกับฉัน ฉันจะดูว่าคุณจะยังคุยหรือไม่คุย?
จะคุยไหม?
เฉินเยี่ยนมองอวี๋เหวยหมิน สีหน้าดูผ่อนคลายเป็นปกติ
“คุณมันไม่ใช่ผู้หญิง!”
อวี๋เหวยหมินกัดฟันพูด
“ขอบคุณที่ชม งั้นคุณก็คิดว่าฉันเป็นผู้ชายแล้วกัน”
เฉินเยี่ยนไม่สนใจ
อวี๋เหวยหมินเจ็บใจโกรธ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเฉินเยี่ยนจะเป็นผู้หญิงแบบนี้
“ดูเหมือนคุณไม่ได้อยากจะคุยมาก ไม่อย่างนั้นคุณกลับไปปรึกษากับเฉินเวย ปรึกษากันเสร็จค่อยมาใหม่ หรือเรียกเฉินเวยมาด้วยกันเลยก็ได้ พวกเราสามคนจะยืนคุยกันตรงนั้น
เฉินเยี่ยนพูดไป เธอต้องการให้อวี๋เหวยหมินรู้ว่าสิทธิ์ของคนเริ่มก่อนไม่ได้อยู่ในมือเขา ในเมื่อคุณอยากจะคุย ก็ต้องฟังฉัน
อวี๋เหวยหมินหน้าเปลี่ยน เฉินเวยก็รักสะอาดมาก ให้เฉินเวยมายืนคุยอยู่ข้างหลุมนั่น เฉินเวยรับได้หรือ
“คุณคิดว่าทุกคนจะเหมือนเธอหมดเหรอไง”
อวี๋เหวยหมินโกรธจัดมองเฉินเยี่ยน จากนั้นเดินทีละก้าวไปข้างหลุมปุ๋ยคอก เขาไม่สามารถให้เฉินเวยที่รักไปยืนข้างหลุมปุ๋ยคอกได้ ตัวเขาเลยไปแทน
“ตอนนี้พูดได้แล้วสินะ”
อวี๋เหวยหมินเห็นเฉินเยี่ยนก็เดินตามเข้ามา เขาแทบจะบีบจมูกพูด เขากลั้นหายใจ กลิ่นนี่ฉุนเข้าไปในจมูกเสียจริง
“ใครบอกว่าพูดได้แล้ว?”
เฉินเยี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง
“งั้นคุณจะเอายังไงอีก”
อวี๋เหวยหมินแทบกระโดดแล้ว ผู้หญิงตายด้านคนนี้ให้เขามายืนข้างหลุมปุ๋ยคอกแล้วยังไม่คุยอีก นี่จะทรมานตัวเองใช่ไหม?
“หลุมปุ๋ยคอกที่บ้านนี่ต้องพรวนแล้ว ที่จริงวันนี้พ่อฉันต้องทำ แต่เขาไปช่วยงานบ้านอวี๋แล้ว ตามหลักแล้วฉันต้องเป็นคนทำ แต่ตอนนี้คุณจะมาขอคุยกับฉัน ฉันทำไม่ได้แล้ว ถ้าคุณช่วยฉันทำ ฉันก็จะคุยกับคุณ ไม่อย่างนั้นก็ช่างเถอะ
เฉินเยี่ยนพูดแล้วหยิบคราดส่งให้อวี๋เหวยหมิน
อวี๋เหวยหมินอยากจะเอาคราดทิ่มเฉินเยี่ยนให้ตาย แต่เขาไม่กล้า ฆ่าคนตายผิดกฎหมาย อีกอย่างตอนนี้เขาอยู่บ้านเฉิน เขาไม่กล้าบ้าคลั่งขึ้นมา แต่อวี๋เหวยหมินคิดว่าสมองเฉินเยี่ยนต้องมีปัญหาแน่ๆ ให้ตัวเขาไปช่วยพรวนปุ๋ย ปุ๋ยนี่ไม่จำเป็นต้องพรวนอยู่แล้ว เธอคิดจะแกล้งตัวเอง
เห็นอวี๋เหวยหมินโมโหเหมือนกบพองตัวจะระเบิด เฉินเยี่ยนยักไหล่แล้วพูด “ถ้าคุณไม่อยากทำก็ช่างมันเถอะ ฉันก็ไม่อยากคุยเหมือนกัน รอเมื่อไรที่คุณอยากคุยค่อยมาหาฉันแล้วกัน สบายใจได้ งานนี้ฉันทิ้งไว้ให้คุณ ไม่ว่าคุณมาเมื่อไร ก็สามารถทำได้ตลอดเวลา ถ้าคุณไม่พอใจ คุณก็ให้เฉินเวยมาทำด้วยกัน ทำสองคนยังไงก็เร็วกว่าคนเดียวอยู่แล้ว อีกอย่างชายหญิงทำงานด้วยกันไม่เหนื่อยหรอก มีเธออยู่เป็นเพื่อนคุณ คิดอยากจะทำอะไรคุณก็ยอมทั้งนั้นใช่ไหม?
ที่จริงเฉินเยี่ยนไม่สนว่าอวี๋เหวยหมินจะทำหรือไม่ทำ เธอแค่อยากจะจัดการอวี๋เหวยหมิน ถ้าเขาอยากทำ ก็ทำ ถ้าไม่ทำ เธอก็ไม่มีอะไรเสียหาย
————