”วิวัฒนาการระยะ5 ทั้งหมด 14 คนและวิวัฒนาการระยะ 6 อีก 1 คน?!” จงคุยที่ตอนแรกผิดหวังก็ต้องกลายเป็นช็อคตาตั้งกับสิ่งที่ได้ยิน
ส่วนคนที่เหลือก็ทำหน้าตาไม่ถูกเลยทีเดียวความช็อคนั้นไม่ได้น้อยไปกว่าไฟไหม้ที่สถาบันวิจัยเลย ฉางกวนหลงที่ตอนแรกนิ่งๆก็ช็อคเช่นกัน
นักฆ่าวิวัฒนาการระยะ5 ทั้งทีม แถมยังมีวิวัฒนาการระยะ 6 เข้ามาอีก 1 คน?
สภาพแวดล้อมปัจจุบันของยุคโลกาวินาศตลอดสองปีที่ผ่าน90% ของมนุษย์ยังคงเป็นคนธรรมดา และคนส่วนใหญ่ที่ได้กลายเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ก็อยู่ในช่วงแค่ระยะ 1 2 และ 3 เท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นถึงระยะ 4 ก็จะถูกสักค่ายหนึ่งเชิญตัวให้ไปเข้าร่วมด้วยโดยมีผลตอบแทน
ไม่ต้องพูดเลยด้วยซ้ำว่าจำนวนของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ5 จากทั้งโลกนั้นมีปริมาณจำกัดมากขนาไหน ค่ายไหนๆต่างก็ต้องการตัวกันทั้งนั้น
ยิ่งระยะ6 นั้น…
ยิ่งหายากเข้าไปอีกมีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้นและยากที่ใครจะต่อกรได้เพราะฝีมือที่กล้าแกร่ง!
แต่กลุ่มคนระดับสูงที่หาตัวได้ยากมารวมตัวกันจำนวนถึง15 คนเพื่อฆ่าชูฮัน?
มันฟังไม่ขึ้นเลย!
”มั่นใจได้แค่ไหน?”เฉินยุนโหลวสงสัยทันทีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แถมยังตะคอกใส่มู๋หรงยู่เฉิงต่ออีก “อย่ามาเล่นตลก!”
”มั่นใจล้านเปอร์เซ็นครับ!”มู๋หรงยู่เฉิงแสดงความจริงใจออกมา หากเวลาเดียวกันก็เงยหน้าขึ้นมาฉางกวนหลงอย่างกังวลใจ “ท่านพลเอกครับ สถานการณ์มันตึงเครียดมาก กรุณาสั่งการด้วยครับ!”
ทีมลอบสังหารที่แข็งแกร่งที่สุด15 คนกำลังจะฆ่าชูฮัน ไม่ต้องพูดถึงตัวตนของชูฮันเลย แค่เรื่องราวมากมายที่ชูฮันเก็บไว้กับตัวมันก็มีค่านับไม่ถ้วนแล้ว ไหนจะเงื่อนไขในการได้คะแนนประเมิณ S+ ของเสาหินทุกครั้งอีก เพราะฉะนั้นการอยู่รอดของชูฮันจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
แต่สำหรับเรื่องที่หลายๆค่ายต่างตั้งแต่เป็นศัตรูกับชูฮันนั้นเพราะมันมีหลายเหตุผลบางค่ายก็อยากจะเอาชนะชูฮันเพื่อแสดงอำนาจของตัวเอง
ดังนั้นเมื่อรู้ว่าชูฮันถูกทีมนักฆ่าระดับสูงรุมลอบสังหาร จึงทำให้ข้อสงสัยที่ชูฮันจะเป็นคนร้ายที่วางแผนสร้างปัญหาในค่ายหนานตู้หายไปทันที และอีกเรื่องที่สำคัญตอนนี้คือ พวกเขาจะช่วยชีวิตชูฮันไว้ได้หรือไม่?
ถ้าช่วยใครจะเป็นคนที่รับมือกับกลุ่มนักฆ่าระดับสูงพวกนี้ แล้วไหนจะนักฆ่าวิวัฒนาการระยะ 6 ที่ทรงพลังอีก? หรือจะต้องใช้กองทัพของค่ายบุกฝ่าฝูงชนเข้าไป!
ถ้าช่วยไม่ทันมันจะอันตรายแค่ไหนที่ปล่อยให้ทีมสังหารแฝงตัวอยู่ในค่ายหนานตู้ต่อไป มันจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อค่ายหนานตู้?
พวกมันมาจากไหนพวกมันคือใคร?
ทำไมต้องคิดฆ่าชูฮัน? novel-lucky
ปัญหาเริ่มค่อยๆทยอยเพิ่มขึ้นมาทีละข้อๆสถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆจนทำให้ทุกคนในห้องไม่สามารถทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ ดังนั้นหลังจากที่มู๋หรงยู่เฉิงรายงานปัญหามา ฉางกวนหลงจึงไม่สามารถให้คำตอบได้
”ฉางกวนหลง”ในตอนนั้นเอง จู่ๆจงคุยก็เอ่ยขึ้นมา แววตามีประกายจ้า “คุณจะมานั่งสับสนในเวลาแบบนี้ไม่ได้”
ฉางกวนหลงเงยหน้าขึ้นทันทีทั้งสองพลเอกจ้องตากันและกัน ทันใดนั้นบรรยากาศภายในห้องประชุมก็ตกอยู่ในความเงียบทันที
นั่นมันหมายความว่าไม่ต้องช่วยชูฮันงั้นเหรอ?
”ทำไม?”เฉินยุนโหลวที่ทนไม่ไหวโพล่งถามออกมา
เขาไม่เข้าใจว่าในขณะที่พลเอกคนหนึ่งกำลังจะถูกฆ่าทำไมพลเอกจงคุยและพลเอกฉางกวนหลงถึงเลือกที่จะเงียบ ทั้งๆที่สถานการณ์ตอนนี้มันคืออาจจะส่งผลกระทบต่อทั้งจีน มีกองกำลังที่ไม่รู้จักข่มขู่เอาชีวิตภายในค่ายหลักของจีน ไหนจะทีมสังหารที่มีแต่ระดับสูงจำนวนถึง 15 คนอีก?
แต่ทำไมผู้มีอำนาจทั้งสองคนถึงเลือกจะทำเมินแทน!
ขณะสถานการณ์กำลังอึดอัดสุดๆและฉางกวนหลงที่นิ่วหน้าคิ้วขมวด จู่ๆ——-
ปัง!
ประตูห้องประชุมถูกผลักกระแทกเปิดออกพร้อมกับเสียงตะโกนที่ดังแทรกเข้ามา
”เข้าไปไม่ได้นะครับคุณหนูฉางกวน!”เสียงของทหารด้านหน้าที่พยายามกั้นไม่ให้ฉางกวนยวีซินเข้ามา
”หลบไป!”เสียงของฉางกวนยวีซินมีความโกรธอัดแน่นอย่างชัดเจน รูปร่างสมบูรณ์ที่สะกดทุกสายตา ท่วงท่าสง่างามของเธอทำให้เหล่าทหารไม่กล้าที่จะโดนตัวเธอ
”ยวีซิน!ลูกมาได้ยังไง?” ฉางกวนหลงรีบผุดลุกขึ้นยืนทันที สายตาเขาอัดแน่นไปด้วยความโกรธและตระหนก “กลับไปเดี๋ยวนี้ นี้ไม่ใช่ที่ที่ลูกจะเข้ามาได้!”
ตาของจงคุยเป็นประกายวาวกวาดตาสำรวจฉางกวนยวีซินทั่วทั้งตัว นี้สินะหญิงสาวที่ทำให้ค่ายน้อยใหญ่ทั้งหลายต่างหมายปองอย่างจะเกี่ยวดองด้วย นี้สินะหญิงสาวที่น่าดึงดูดที่สุดในโลกาวินาศ?
คนที่อื่นเองก็ประหลาดใจกับการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของฉางกวนยวีซินเช่นกันแม้ฉางกวนยวีซินจะจัดอยู่ในหมวดชนชั้นสูงที่ใครๆต่างก็เคารพในค่ายหนานตู้ แต่การประชุมครั้งนี้มันเกี่ยวโยงกับความลับของค่าย ฉางกวนยวีซินที่ไม่มียศตำแหน่งใดๆจึงไม่มีสิทธิเข้าร่วม
และการที่ตอนนี้เธอมาอยู่ณ ตรงนี้ มันจึงแหกกกฏอย่างสิ้นเชิง!
ฉางกวนยวีซินไม่สนใจคำพูดพ่อของเธอแถมยังเดินตรงเข้ามาหาฉางกวนหลงด้วยท่าทางโมโห จากนั้นก็ยื่นมือออกมา——
ตบลงโต๊ะอย่างแรง!
”ปัง!”
เสียงกระแทกดังลั่นไปทั่วห้องประชุมจนแก้วชาทั้งหลายบนโต๊ะสั่น
เงียบกริบ——
ทุกคนต่างตกใจกับการกระทำของฉางกวนยวีซินกันหมด
ทุกคนเข้าใจว่าที่ฉางกวนหลงยอมให้ฉางกวนยวีซินเพราะว่าเธอมีความสำคัญต่อการแต่งงานที่จะต้องเกิขึ้นเป็นตัวแทนของค่ายหนานตู้ในการเชื่อมสัมพันธ์กับค่ายอื่นเพื่อจะขยายค่ายต่อในอนาคต
แต่ที่ยิ่งทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจเข้าไปอีกคือประโยคหลังจากนี้…
”ฉางกวนหลงฉันบอกเลยนะ!” ฉางกวนหยวีซินนั้นเดือดเต้มที่ เธอกัดฟันพูดกับฉางกวนหลงด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ถ้าคุณไม่ช่วยชูฮัน ฉันจะไม่เป็นลูกสาวของคุณอีกต่อไป!”
หลังจากฉางกวนยวีซินประกร้าวออกมามันก็มีคลื่นมหาศาลก่อตัวขึ้นในห้องประชุมทันที!
”น้องฉางกวนยวีซินอย่าพึ่งใจร้อน”เฉินยุนโหลวช็อคและพยายามจะดึงสถานการณ์ให้ดีขึ้น “ท่านพลเอกฉางกวนหลงกำลังหาทางอยู่ เราต้องตัดสินใจให้รอบคอบ จะหุนหันพลันแล่นไม่ได้!”
”คุณออกไป!” ฉางกวนยวีซินระเบิดอารมณ์ออกมาสุดกำลัง ไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น เธอหันไปตะคอกใส่เฉินยุนโหลวด้วยความรำคาญ
ทันใดนั้นเฉินยุนโหลวก็รู้สึกอับอายขายขี้หน้าสุดๆทำได้แค่ยืนหลบข้างและไม่พูดอะไรอีก
ในตอนนั้นเองฉางกนหลงที่ถูกลูกสาวเรียกชื่อเต็มเสียงห้วนก็เอ่ยเสียงสั่นอย่างน้อยใจต่อลูกสาว “พ่อเลี้ยงดูลูกมาตั้งหลายปี แต่ลูกกลับหลงชูฮัน และเลือกเขามากกว่าพ่อ ลูกไม่สนใจพ่อเลยสักนิดเหรอ?”
เมื่อเห็นฉางกวนหลงพยายามกล่อมฉางกวนยวีซินเฉินยุนโหลวที่พยายามกู้หน้าตัวเองก็รีบเสนอหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เขาพยายามแนะนำฉางกวนยวีซิน “ท่านพลเอกฉางกวนหลงอย่าโกรธคุณยวีซินเลยครับ เธอยังเด็กและใจร้อนอาจจะเพราะกังวลมากไป เรารีบไปช่วยชูฮันกันก่อนมั้ยครับ?”
ทันทีที่ได้ยินว่าช่วยชูฮันฉางกวนหลงก็โมโหขึ้นมาทันทีและผลักเฉินยุนโหลวออกไป “ออกไป!”